..ตลาดหุ้นในสายตาของอาแปะแล้วก็คือระบบนิเวศน์ของป่าใหญ่แห่งหนึ่ง(ไม่ใช่ป่าทับลานนะ)..
ที่มีทั้งผู้ล่า,ผู้ถูกล่า, ผู้ย่อย, ผู้อาศัย...ฯลฯ บลาๆๆ.. และในตลาดหุ้นเรามักจะเห็นภาพลวงตาบ่อยๆ ซึ่งภาพลวงตานั้นบางทีก็เกิดจากการสร้างขึ้นของผู้ล่า และบางทีก็เกิดจากเราคิดไปเอง...
ภาพลวงตาที่สร้างจากผู้ล่า... มีช่องทางสื่อสารกับนักลงทุนด้วยกราฟนะครับ ผู้ล่ามักสร้างกราฟลวงตานักลงทุนเสมอๆ ดังจะเห็นได้จากนักเดากราฟบางคนเดากราฟผิดพลาดบ่อยๆ ละก็ต้องออกมาแถแก้ตัวร่ำไป....กลายเป็นนักเดากราฟเล่นลิเกไปเลย..
...อาแปะแค่อยากบอกว่า วิชากราฟนั้นดีนะครับ แต่ไม่ใช่ยาครอบจักรวาลที่จะใช้ได้กับหุ้นทุกบริษัท เนื่องด้วยขนาดของบริษัทนั้นๆนั่นเอง เป็นตัวกำหนดความแม่นยำของวิชากราฟ การนำวิชากราฟมาใช้จึงควรดูขนาดของบริษัทมหาชนประกอบด้วยนะครับ...อย่าใช้มั่ว มิฉะนั้นจะถูกภาพลวงตาหลอกเอาได้..
ภาพลวงตาที่เกิดจากเราคิดไปเอง... กรณีอย่างนี้คือใจเราถูกความโลภและความกลัวครอบงำชักจูงให้เห็นภาพบิดเบือนไปจากความเป็นจริง เช่นหุ้นกำลังจะลงแต่ใจเราถูกความโลภครอบงำชักจูงหลอกให้เห็นว่าหุ้นจะขึ้น หรือหุ้นกำลังจะขึ้นแต่ใจเราถูกความกลัวครอบงำหลอกว่าหุ้นกำลังจะลง...
...อย่างนี้คือการหลงมายาภาพเพราะใจเราคิดปรุงแต่งไปเอง มองไม่เห็นภาพตามที่เป็นจริงนะครับ..
...
แล้วทำอย่างไรเราจะเห็นภาพตามที่เป็นจริง..?
..ก็ตอบยากนะครับ แต่เทคนิคของอาแปะคือใช้การดูพื้นฐานหุ้นประกอบ ดูทิศทางการเมืองประกอบ ดูเศรษฐกิจมหภาคประกอบ คือดูหลายๆอย่างมากๆ สุดท้ายก็ดูกราฟราคาประกอบ ก็พอจะเห็นภาพได้ใกล้เคียงที่สุด..นะครับ
...ที่สำคัญคือ อาแปะไม่กำหนดจุดแพ้-ชนะ หุ้นขึ้นก็แบ่งขายไปบ้าง หุ้นลงก็ทยอยซื้อ ตราบใดที่เงินเรายังมีหมุนเวียนในพอร์ต ลืมเรื่องแพ้-ชนะไปเลยครับ อย่าไปคิดเรื่องแพ้-ชนะ..
....
การคิดว่าแพ้-ชนะ และการกำหนดจุดแพ้-ชนะ มันเป็นเรื่องของการเปิดถ้วยไฮโลนะครับ ไม่ใช่การลงทุนในตลาดหุ้น..
อาแปะเห็นนักเดากราฟบางคนพากย์กราฟว่ามีจุดแพ้-จุดชนะ ....อ่านแล้วก็ขำดี...น๊ออออ..
อมิตพุทธ..
อรุณสวัสดิเช้าวันพุธสุดสดใส ..
ปล.เมื่อวานหลังจากขายหุ้น ก็เข้าไปสำรวจป่าสักหน่อย สายตาก็เหลือบไปเห็นอะไรห้อยโตงแตง ทีแรกก็นึกว่างูเหลือมห้อยกับกิ่งไม้ พอเข้าไปดูใกล้ๆกลายเป็นต้นกระไดลิง....ป๊าดดดดโถ่ เจ้าต้นกระไดลิงนี่ก็ทำเอาตกใจเพราะคิดไปเองเหมือนกัน...เกือบจะซิ่งรถไถหนีอยู่แล้นนนน..
อาแปะว่า ในตลาดหุ้นล้วนเต็มไปด้วยภาพลวงตานะครับ..
ที่มีทั้งผู้ล่า,ผู้ถูกล่า, ผู้ย่อย, ผู้อาศัย...ฯลฯ บลาๆๆ.. และในตลาดหุ้นเรามักจะเห็นภาพลวงตาบ่อยๆ ซึ่งภาพลวงตานั้นบางทีก็เกิดจากการสร้างขึ้นของผู้ล่า และบางทีก็เกิดจากเราคิดไปเอง...
ภาพลวงตาที่สร้างจากผู้ล่า... มีช่องทางสื่อสารกับนักลงทุนด้วยกราฟนะครับ ผู้ล่ามักสร้างกราฟลวงตานักลงทุนเสมอๆ ดังจะเห็นได้จากนักเดากราฟบางคนเดากราฟผิดพลาดบ่อยๆ ละก็ต้องออกมาแถแก้ตัวร่ำไป....กลายเป็นนักเดากราฟเล่นลิเกไปเลย..
...อาแปะแค่อยากบอกว่า วิชากราฟนั้นดีนะครับ แต่ไม่ใช่ยาครอบจักรวาลที่จะใช้ได้กับหุ้นทุกบริษัท เนื่องด้วยขนาดของบริษัทนั้นๆนั่นเอง เป็นตัวกำหนดความแม่นยำของวิชากราฟ การนำวิชากราฟมาใช้จึงควรดูขนาดของบริษัทมหาชนประกอบด้วยนะครับ...อย่าใช้มั่ว มิฉะนั้นจะถูกภาพลวงตาหลอกเอาได้..
ภาพลวงตาที่เกิดจากเราคิดไปเอง... กรณีอย่างนี้คือใจเราถูกความโลภและความกลัวครอบงำชักจูงให้เห็นภาพบิดเบือนไปจากความเป็นจริง เช่นหุ้นกำลังจะลงแต่ใจเราถูกความโลภครอบงำชักจูงหลอกให้เห็นว่าหุ้นจะขึ้น หรือหุ้นกำลังจะขึ้นแต่ใจเราถูกความกลัวครอบงำหลอกว่าหุ้นกำลังจะลง...
...อย่างนี้คือการหลงมายาภาพเพราะใจเราคิดปรุงแต่งไปเอง มองไม่เห็นภาพตามที่เป็นจริงนะครับ..
...แล้วทำอย่างไรเราจะเห็นภาพตามที่เป็นจริง..?
..ก็ตอบยากนะครับ แต่เทคนิคของอาแปะคือใช้การดูพื้นฐานหุ้นประกอบ ดูทิศทางการเมืองประกอบ ดูเศรษฐกิจมหภาคประกอบ คือดูหลายๆอย่างมากๆ สุดท้ายก็ดูกราฟราคาประกอบ ก็พอจะเห็นภาพได้ใกล้เคียงที่สุด..นะครับ
...ที่สำคัญคือ อาแปะไม่กำหนดจุดแพ้-ชนะ หุ้นขึ้นก็แบ่งขายไปบ้าง หุ้นลงก็ทยอยซื้อ ตราบใดที่เงินเรายังมีหมุนเวียนในพอร์ต ลืมเรื่องแพ้-ชนะไปเลยครับ อย่าไปคิดเรื่องแพ้-ชนะ..
....การคิดว่าแพ้-ชนะ และการกำหนดจุดแพ้-ชนะ มันเป็นเรื่องของการเปิดถ้วยไฮโลนะครับ ไม่ใช่การลงทุนในตลาดหุ้น..
อาแปะเห็นนักเดากราฟบางคนพากย์กราฟว่ามีจุดแพ้-จุดชนะ ....อ่านแล้วก็ขำดี...น๊ออออ..
อมิตพุทธ..
อรุณสวัสดิเช้าวันพุธสุดสดใส ..
ปล.เมื่อวานหลังจากขายหุ้น ก็เข้าไปสำรวจป่าสักหน่อย สายตาก็เหลือบไปเห็นอะไรห้อยโตงแตง ทีแรกก็นึกว่างูเหลือมห้อยกับกิ่งไม้ พอเข้าไปดูใกล้ๆกลายเป็นต้นกระไดลิง....ป๊าดดดดโถ่ เจ้าต้นกระไดลิงนี่ก็ทำเอาตกใจเพราะคิดไปเองเหมือนกัน...เกือบจะซิ่งรถไถหนีอยู่แล้นนนน..