ระบบเตือนภัยผ่านมือถือ เทคโนโลยีพร้อม อะไรไม่พร้อม

เป็นเวลากว่า 4 ปีแล้ว ที่เกิดการก่ออาชญากรรมกราดยิงที่โคราช ได้ทำให้สังคมพูดถึงระบบแจ้งการเตือนภัยเร่งด่วนผ่านโทรศัพท์มือถืออย่างกว้างขวาง สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) จึงบรรจุแผนงบประมาณเพื่อทำระบบ  Cell Broadcast Service (CBS) ไว้ แต่ยังไม่ทันเริ่มดำเนินงาน ก็ตามมาด้วยเหตุการณ์ที่สยามพารากอนปลายปี 2566 ประจวบเหมาะกับการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ซึ่งการทำระบบ CBS อยู่ในนโยบายเร่งด่วนที่จะต้องสำเร็จภายในหนึ่งปี
ในเชิงเทคโนโลยี ระบบ CBS เป็นระบบที่ใช้กันแพร่หลายทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศที่ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติบ่อยครั้งอย่างญี่ปุ่น หรือที่เผชิญความเสี่ยงกับสงครามอย่างเกาหลีใต้ หรือในยุโรป อเมริกา จึงไม่ใช่ของใหม่

สแกนระบบ CBS ประกอบด้วย 

1.Cell Broadcast Center (CBC) หรือโครงข่ายการกระจายสัญญาณเข้าแทรกแซงระบบมือถือทุกเครื่องที่อยู่ใต้ตัวรับส่ง หรือ Cell Site ในส่วนนี้ประเทศที่มีบริษัทโทรคมนาคมเป็นผู้ให้บริการจะต้องจัดการดูแล เพราะเสาสัญญาณเป็นของเอกชน ตั้งแต่การบริหารระบบ และการตั้งค่า  (System & Configuration), การส่งต่อข้อความสื่อสารที่ได้รับมาผ่านโครงข่าย (Message Deployment Function) และการบริหารโครงข่ายสื่อสาร (Network Management)

2.ระบบ Cell Broadcast Entities (CBE) หรือศูนย์สั่งการของภาครัฐ ที่จะเป็นตัวกำหนด ว่าอะไรคือ “ภัย” และเป็นภัยอะไร มีความเร่งด่วนและต้องให้ประชาชนทำอย่างไร เรียกว่า “อำนาจ” สั่งการอยู่ตรงนี้

เทคโนโลยีส่วนแรก คือ ระบบ CBC มีการสาธิตครั้งแรกในวันที่ 5 มี.ค. 2567 โดยค่ายมือถือ AIS ต่อมา บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ NT ได้สาธิตระบบ CBC บนเครือข่าย my by NT และ NT Mobile เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 2567

ล่าสุด ฝั่งทรู ได้ทดสอบการแจ้งเตือนในพื้นที่จริงที่ตึก ทรูทาวเวอร์ โดยส่งสัญญาณแจ้งเตือนไปยังมือถือแอนดรอยด์เครือข่าย True-Dtac แบบเรียลไทม์ทุกเครื่อง

ดังนั้น ในความพร้อมด้านเทคโนโลยีไม่ใช่ปัญหา แต่การใช้งานยังอยู่ในพื้นที่จำกัด ต้องมีการสเกลขนาดบริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งต้องลงทุนขยาย Cell Site ออกไป รวมถึงค่าบำรุงรักษาระบบ ซึ่งแต่ละค่ายมือถือประมาณการค่าใช้จ่ายไม่เท่ากัน อยู่ระหว่าง 200-400 ล้านบาทต่อปี

14 หน่วยงาน เอี่ยว CBE
อย่างไรก็ตาม การแจ้งเตือนภัยยังมีปัญหาเรื่องขอบเขตอำนาจการประกาศภัยเพราะภัยแต่ละประเภทต่างมีหน่วยงานที่ดูแลแยกกันข้ามกระทรวง เช่น การแจ้งเตือนพายุ อยู่ที่กรมอุตุนิยมวิทยา สังกัดดีอี, การเตือนเหตุอาชญากรรม อุบัติเหตุ เป็นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนภัยพิบัติตามเขตท้องที่อย่าง ไฟไหม้ ตึกถล่ม น้ำป่าไหลหลากท่วมบ้านเรือนในพื้นที่หนึ่ง ๆ เป็นอำนาจของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ส่วนภัยพิบัติขนาดใหญ่เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีที่มีอำนาจตั้ง ศูนย์จัดการภัยพิบัติแห่งชาติ (CBE) เป็นต้น

“ประเสริฐ จันทรรวงทอง” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า รัฐบาลเตรียมพูดคุยกันในเรื่องความซ้ำซ้อนของอำนาจในการจัดการภัยพิบัติ เพื่อให้มีคนที่มีบทบาทหลักในการประกาศแจ้งเตือนถึงมือถือประชาชน เนื่องจากมีรายละเอียดมาก ไม่ว่าจะเป็นข้อความ ภาษาที่ใช้ ความเร่งด่วนของเหตุการณ์ ล้วนเป็นหน้าที่ศูนย์ CBE ที่สั่งการระบบแจ้งเตือนภัยฉุกเฉินผ่านมือถือ

“ในเบื้องต้นมีหน่วยงาน 14 หน่วยงาน ที่มีอำนาจเกี่ยวกับระบบนี้ จึงต้องมีการหารือกัน เพราะไม่ใช่แค่อำนาจการสั่งการประกาศแจ้งเตือน แต่จะเกี่ยวกับการตั้งงบประมาณที่ซ้ำซ้อนด้วย จึงต้องมีการพิจารณาอีกที แต่การใช้งานระบบ Cell Broadcast นี้จะไม่ช้า เป็นนโยบายที่อยากให้สำเร็จใน 1 ปี อยากเห็นต้นปี 2568 ซึ่งผู้ให้บริการมือถือทุกรายน่าจะมีความพร้อมในเชิงเทคโนโลยีแล้ว”

ชงของบฯ 1.5 พันล้าน
“ประเสริฐ” กล่าวด้วยว่า เรื่องงบประมาณ ในเบื้องต้นได้คุยกับทาง ปภ. คาดว่าจะใช้ราว 400 ล้านบาท แต่อาจมีส่วนซ้ำซ้อนระหว่างกระทรวงดีอี และ ปภ. จึงต้องมีการหารือกันอีก แต่ในภาพรวมเงินตั้งต้นของโครงการแจ้งเตือนภัยฉุกเฉินผ่านมือถือ ในส่วนของ CBC ที่ค่ายมือถือแต่ละค่ายจะขอสนับสนุนงบประมาณสำหรับการขยายและการบำรุงรักษา คาดว่าใช้เงินราว 1,200 ล้านบาท และอีก 300 ล้านบาท ของ CBE ที่รัฐบาลต้องใช้ รวมแล้วจะอยู่ราว 1.2-1.5 พันล้านบาท

“ส่วนการใช้จ่ายเพื่อบำรุงรักษาระบบยังต้องพิจารณาอีกทีว่าจะใช้ปีละเท่าไหร่ แต่ส่วนที่ขาดเหลือจะประสานไปทาง กสทช.”

ด้าน ศ.คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า ระบบ Cell Broadcast เป็นบริการโทรคมนาคมสาธารณะเพื่อประชาชน สามารถดำเนินการได้ผ่านงบประมาณจากบัญชี USO (Universal Service Obligation) ด้านโทรคมนาคม ของกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) ซึ่งขั้นตอนจากนี้จะต้องนำเรื่องขอความเห็นชอบบอร์ด กสทช.

แหล่งข่าวจาก กสทช.เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในส่วนเงินสนับสนุนภาคเอกชนในการทำบริการสาธารณะ อย่าง CBC ค่ายมือถือแต่ละรายต้องจ่ายสมทบกองทุน กทปส.อยู่แล้ว จึงอาจให้มีการนำเงินที่ต้องจ่ายนี้ไปใช้สำหรับทำระบบ CBC ได้ก่อน ขึ้นอยู่กับบอร์ด กสทช

ระบบแจ้งเตือนฉุกเฉิน 5 ระดับ
อย่างไรก็ตาม การบริหารจัดการแจ้งเตือนประชาชน ในอดีตมีการแบ่งหน้าที่ให้หน่วยงานราชการตามขอบเขตอำนาจที่กล่าวข้างต้นว่า มีทั้ง ปภ. ตำรวจ กองทัพ และอื่น ๆ รวม 14 หน่วยงาน ในขณะที่ระบบ CBS หลายแห่งทั่วโลกเป็นการรวมศูนย์ แบ่งประเภทภัยพิบัติเป็น 5 ระดับ ประกอบด้วย

1.การแจ้งเตือนระดับชาติ (National Alert) : การแจ้งเตือนระดับสูงสุด ความสำคัญมากสุด และทุกคนในทุกพื้นที่เสาสัญญาณครอบคลุมจะทราบเหตุทันที

2.การแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉิน (Emergency Alert) : การแจ้งเตือนภัยพิบัติต่าง ๆ เช่น ภัยสึนามิ แผ่นดินไหว น้ำท่วมฉับพลัน หรือภัยจากคนร้าย เป็นต้น

3.การแจ้งเตือนคนหาย (Amber Alert) : ระบบแจ้งเตือนข้อมูลเมื่อมีเด็กหายหรือคนหาย รวมทั้งการลักพาตัว เพื่อให้ประชาชนทราบข่าว เฝ้าระวังและช่วยเจ้าหน้าที่ภาครัฐสังเกตการณ์ และรายงานถ้าพบคนหาย หรือคนร้าย

4.ความปลอดภัยสาธารณะ (Public Safety) : ระบบการแจ้งเตือนความปลอดภัยสาธารณะในพื้นที่หรือการเฝ้าระวังกรณีแจ้งคนที่อยู่อาศัย ชุมชน และผู้สัญจรผ่านพื้นที่นั้น

5.การแจ้งเตือนทดสอบ (Test Alert) : ระบบทดสอบการแจ้งเตือนตามวัตถุประสงค์เฉพาะกิจต่าง ๆ โดยสามารถใช้งานเพื่อทดสอบก่อนขยายผลสู่การเฝ้าระวังและแจ้งเตือนในระดับต่าง ๆ ต่อไป

ที่มา : https://www.prachachat.net/ict/news-1601231
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่