คนๆนี้ไม่สมควรได้อยู่นอกคุก

กระทู้สนทนา
ใช้ความเป็นสื่อบิดเบือนสร้างเรื่องใส่ร้ายบุคคลอื่นเป็นประจำเหมือนมีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง
อย่างเรื่องบิ๊กโจ๊ก ก็ออกสื่อบิดเบือนหลอกลวงประชาชนอย่างเคย

นาทีที่ 15.35
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

สนธิพูดเหมือนว่า  มาตรา 131 ที่ให้บิ๊กโจ๊กออกจากราชการเป็นเรื่องคดีอาญา
ส่วนมาตรา 120 (ที่คำสั่งให้ออกจากราชการขัดกับมาตรานี้) เป็นเรื่องทางวินัย  ไม่เกี่ยวข้องกัน
ทั้งที่ความจริงแล้ว  ทั้งมาตรา 120 และมาตรา 131 เป็นเรื่องเดียวกัน เกี่ยวข้องกัน มีผลต่อกันและกัน
เพราะอยู่ใน พรบ.ตำรวจ หมวด 7 การดำเนินการทางวินัย ด้วยกัน
มาตรา 120  มาตรา 131  เป็นเรื่องวินัยเหมือนกัน  แต่สนธิพูดบิดว่า 131 เป็นเรื่องคดีอาญา  120 เป็นเรื่องวินัย
ปัญหาที่เกิดคือ  รักษาการ ผบ.ตร. สั่งให้บิ๊กโจ๊กออกจากราชการขัดต่อมาตรา 120
เพราะมาตรา 120 กำหนดให้ผู้สั่งต้องดำเนินการตามคำแนะนำของคณะกรรมการสอบสวน
ไม่สามารถสั่งให้ผู้ถูกสอบสวนออกจากราชการได้โดยอาศัยแค่มาตรา 131 เพียงลำพัง
เมื่อรักษาการ ผบ.ตร.สั่งให้บิ๊กโจ๊กออกจากราชการโดยไม่มีคำแนะนำของคณะกรรมการสอบสวน
ปัญหาจึงเกิดว่าเป็นคำสั่งโดยชอบตามกฎหมายหรือไม่
(ซึ่ง กต.ตร.ที่มีนายกฯเป็นประธานมีมติว่าชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งเป็นมติที่ไม่มีผลทางกฎหมาย เหมือนฮายีน่ารุมบิ๊กโจ๊ก)

ใครจะถูกใครจะผิด ต้องควรเป็นไปตามกฎหมาย ตามหลักนิติรัฐ ไม่ใช่การใช้อำนาจผิดๆอาศัยพวกพ้อง

ความจริงเรื่องนี้  นายเศรษฐา  ทวีสิน  ควรตั้งคณะทำงานสอบสวนทั้งบิ๊กต่อและบิ๊กโจ๊ก
พร้อมขยายผลไปถึงตำรวจคนอื่นๆทั้ง สตช. ว่าใครรับส่วยบ่อนออนไลน์บ้าง จัดการให้สิ้นซาก
แต่สิ่งที่นายเศรษฐาที่เป็นผู้บังคับบัญชา สตช.ทำคือ ลอยตัว ไม่มีความตั้งใจจริงที่จะกำจัดคนโกงและการโกง

ไม่รู้มาเป็นนายกฯทำไม  วันๆเอาแต่ลอยชายไปโน่นมานี่  ลอยตัวไปทุกเรื่อง
เหมือนมาเป็นนายกฯเพื่อเอาหน้าเอายศเอาศักดิ์ให้ตัวเองเท่านั้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่