ศาลรัฐธรรมนูญเริ่มแล้ว ประชุม 3 คดีสำคัญ วันนี้รู้กัน เปิดไต่สวนยุบ ‘ก้าวไกล’ หรือไม่.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4660874
เ
ริ่มแล้ว! ศาล รธน.ประชุมถก 3 คดี ลุ้นไต่สวนปมยุบ ‘ก้าวไกล’ หรือไม่ พิจารณารับ-ไม่รับตีความ MOU 2544ไทย-กัมพูชา ขัด รธน.-ลงมติ พ.ร.บ.เช็ค
เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นัดประจำประจำสัปดาห์ตามปกติ โดยเริ่มประชุมเวลา 09.30 น. มีวาระการพิจารณาคดีที่สำคัญ 3 คดี คือ กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยนายทะเบียนพรรคการเมือง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกล และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของบุคคลผู้เป็นคณะกรรมการบริหารพรรคและห้ามมิให้ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งคณะกรรมการบริหารพรรคและถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งไปจดทะเบียนพรรคการเมืองขึ้นใหม่หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองหรือมีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ภายในกำหนด 10 ปีนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งตาม พ.ร.ป ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 92 วรรคสอง และมาตรา 94 วรรคสอง เนื่องจากมีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเข้าลักษณะกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งข้อเท็จจริงปรากฏตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/2567
โดยคดีนี้เป็นการพิจารณาหลังจากเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ศาลได้มีคำสั่งให้นำพยานเอกสารในสำนวนการไต่สวนคดีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/2567 มารวมไว้ในสำนวนคดีนี้ และได้แจ้งให้หัวหน้าพรรคก้าวไกลและเลขาธิการ กกต.เสนอบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริง หรือความเห็นล่วงหน้าตามประเด็นที่ศาลกำหนดกลับมายังศาลภายใน 7 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือเพื่อประกอบการพิจารณาวินิจฉัยคดี รวมถึงกำหนดให้คู่กรณีเข้าตรวจพยานหลักฐานในวันอังคารที่ 9 กรกฎาคม
ดังนั้น การพิจารณาในวันนี้จึงต้องลุ้นว่าศาลจะมีคำสั่งเกี่ยวกับกระบวนวิธีพิจารณาคดีนี้อย่างไรต่อไป ข้อเท็จจริงที่ได้เพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยแล้วหรือยัง จะมีการจะมีการเปิดไต่สวนตามที่พรรคก้าวไกลร้องขอหรือไม่
นอกจากนี้ ยังมีการพิจารณาว่า จะรับหรือไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยในคำร้องที่ นาย
ไพบูลย์ นิติตะวัน ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยว่าบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน หรือ MOU 2544 ซึ่งจัดทำขึ้นโดยไม่ได้ขอความเห็นชอบจากรัฐสภาเป็นบทบัญญัติที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ และการที่กรมสนธิสัญญาและกฎหมายกระทรวงการต่างประเทศนำ MOU 2544 มาใช้เป็นเครื่องมือดำเนินการแบ่งเขตอธิปไตยของไทยทางทะเลอ่าวไทยและแบ่งผลประโยชน์ทรัพยากรพลังงานธรรมชาติทางทะเลของไทยให้แก่กัมพูชา เป็นการกระทำที่ละเมิดสิทธิของตนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 3 หมวด 3 สิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย มาตรา 25 และมาตรา 43 (2) หรือไม่
รวมถึงจะมี การแถลงด้วยวาจาปรึกษาหารือและลงมติในคดีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 ส่งคำโต้แย้งเพิ่มเติมของนาย
วิชา เบ้าพิมพา จำเลยที่ 1 น.ส.อนา วงสิงห์ จำเลยที่ 2 ในคดีหมายเลขแดงที่ อ.1571/2566 ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 212 ว่าการที่ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ 2534 มาตรา 4 วรรคสอง เฉพาะในส่วนโทษทางอาญา ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 26 หรือไม่ด้วย
ส่วนคดีประธานวุฒิสภาส่งความเห็นของสมาชิกวุฒิสภา 40 คน ขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่าความเป็นรัฐมนตรีของ นาย
เศรษฐา ทวีสิน สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160(4) และ (5) หรือไม่ จากเหตุนำความกราบบังคมทูลเพื่อโปรดเกล้าแต่งตั้ง นาย
พิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งที่รู้ว่านาย
พิชิตขาดคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญนั้น เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ศาลได้มีคำสั่งให้หน่วยงานหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องจัดทำความเห็นและส่งสำเนาเอกสารหลักฐานตามประเด็นที่ศาลกำหนดยื่นต่อศาลภายใน 15 วันนับแต่วันได้รับหนังสือ เพื่อประกอบการพิจารณาวินิจฉัยและได้กำหนดที่จะพิจารณาคดีนี้ต่อในวันที่ 10 กรกฎาคม
บิ๊กแจ๊สตอกกลับแรงเพื่อไทยไม่รู้หรือไง ชาญมีชนักปักหลัง เล่นเกมเสี่ยง นายใหญ่แพ้ไม่ได้
https://www.matichon.co.th/matichon-tv/news_4660536
The Politics ข่าวบ้าน การเมือง X ใบตองแห้ง อธึกกิต แสวงสุข สัมภาษณ์พิเศษ บิ๊กแจ๊ส พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง เผยรู้อยู่แล้วว่า ชาญ พวงเพ็ชร์ มีคดีทุจริตอยู่ในศาล และมีหลายคดีด้วย ไม่ใช่แค่คดีถุงยังชีพ แต่ยังมีคดีเครื่องออกกำลังกาย พรรคเพื่อไทยเอา ชาญ พวงเพ็ชร์ มาสมัครได้อย่างไร ทำไมไม่สกรีนคน ไม่เข้าใจนโยบายพรรคเพื่อไทย เลือกคนที่มีคดีมารับใช้พี่น้องชาวปทุมฯ ผมแพ้ก็คือแพ้ ผมไม่ได้ขุดคุ้ย เรื่องนี้ต้องว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม กฏหมายต้องเป็นกฏหมาย อย่าไปตะแบง ย้ำไม่ได้ฮั้วกัน ผมสู้เต็มที่ เกมนี้รู้ว่า ชาญ พวงเพ็ชร์ แพ้ไม่ได้ คะแนนไม่สำคัญ แพ้ก็คือแพ้ คนทั้งประเทศไม่จำเป็นต้องรู้ แต่พี่น้องชาวปทุมฯ รู้ดี.
“อังคณา” จี้กกต.รับรองสว.ก่อนค่อยสอยที่หลัง
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_740554/
กกต. ถกคำร้องเลือก สว. ยังไม่มีสัญญาณรับรองวันไหน ด้าน “อังคณา” จี้ ควรรับรองก่อน ค่อยสอยที่หลัง ชี้ ตราบใดที่กติกาเป็นเช่นนี้ เลือกกี่ครั้งยังเหมือนเดิม
ครบกำหนดไทมไลน์ที่ กกต.วางไว้ ในการประกาศผู้สมัครที่ผ่านการเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา แต่ขณะเดียวกัน คณะกรรมการการเลือกตั้ง นัดประชุมในวันนี้ เพื่อวินิจฉัยคำร้องต่างๆโดยเฉพาะเรื่องของคุณสมบัติ ของผู้ได้รับเลือก และกระบวนการเลือกที่ไม่เป็นไปตามกฏหมายกว่าพันเรื่อง โดยมี นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. เป็นประธานการประชุม โดยเฉพาะกรณีการเลือกไขว้ ที่มีลักษณะลงคะแนนเป็นชุดๆ โดยใบลงคะแนนหมายเลขเหมือนๆกัน
ด้าน นาง
อังคณา นีละไพจิตร ว่าที่สว. กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณใดๆ จาก กกต. ว่าจะรับรองผู้ที่ได้รับเลือกเป็นสว. ซึ่งความจริงแล้ว กฎหมายระบุว่า ให้รับรองหลังจากเลือกไปแล้ว 5 วันคือหลังจากวันที่ 3 กค ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่า แม้จะมีเรื่องร้องเรียนจำนวนมาก แต่เห็นว่าควรจะรับรองไปก่อน แล้วถ้าใครขาดคุณสมบัติสามารถมาสอยทีหลัง และในช่วงนี้
สามารถตรวจสอบคุณสมบัติแบบคร่าวๆได้ก่อน เพราะตอนที่ไปสมัคร สว. ไม่ได้มีการตรวจสอบรายละเอียดคุณสมบัติใดๆ ใช้เพียงบัตรประชาชน ให้ผู้สมัครกรอกรายละเอียดและดูเพียงใบรับรอง ดังนั้น การจะตรวจสอบว่า เป็นผู้เชี่ยวชาญมีประสบการณ์ในด้านนั้นๆ สามารถตรวจสอบได้แบบเร็วๆ ส่วนคุณสมบัติอย่างอื่น คิดว่าน่าจะรับรองไปก่อน และค่อยมาตรวจสอบในรายละเอียด เนื่องจากแต่ละกลุ่ม มีสำรองอยู่แล้ว
ส่วนที่มีการร้อง เรื่องคะแนน ว่า ส่อฮั้ว หรือสมยอม เพราะมีการลงคะแนนเหมือนกันเป็นชุดหลายคน นางอังคณา กล่าวว่า ตราบใดที่ยังเป็นกติกานี้ เลือกกี่รอบก็ยังเป็นเช่นนี้ เพราะกฎหมายออกมาแบบนี้ ดังนั้น ต่อให้คนที่ไม่รู้จักกันเลยก็ต้องไปขอคะแนนกัน จึงคิดว่าไม่มีทางที่จะแก้อะไรได้ เพราะกฎหมายระบุมาเช่นนี้ ส่วนตัวมองว่า ต้องแก้รัฐธรรมนูญ และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ โดยเมื่อรับรองชุดนี้ไปแล้ว ให้รีบแก้ไข ซึ่งตนพร้อมที่จะให้ สว.ชุดนี้ หมดวาระไปตามรัฐธรรมนูญใหม่ และค่อยเลือกกลับเข้ามาใหม่ ไม่เช่นนั้น เชื่อว่าจะไม่สามารถแก้ไขได้
JJNY : ศาลรธน.เริ่มแล้ว วันนี้รู้กัน│บิ๊กแจ๊สตอกกลับแรงเพื่อไทย│“อังคณา”จี้รับก่อนค่อยสอยที่หลัง│จาเมกาขอปชช.หาที่หลบภัย
https://www.matichon.co.th/politics/news_4660874
เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นัดประจำประจำสัปดาห์ตามปกติ โดยเริ่มประชุมเวลา 09.30 น. มีวาระการพิจารณาคดีที่สำคัญ 3 คดี คือ กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยนายทะเบียนพรรคการเมือง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกล และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของบุคคลผู้เป็นคณะกรรมการบริหารพรรคและห้ามมิให้ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งคณะกรรมการบริหารพรรคและถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งไปจดทะเบียนพรรคการเมืองขึ้นใหม่หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองหรือมีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ภายในกำหนด 10 ปีนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งตาม พ.ร.ป ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 92 วรรคสอง และมาตรา 94 วรรคสอง เนื่องจากมีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเข้าลักษณะกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งข้อเท็จจริงปรากฏตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/2567
โดยคดีนี้เป็นการพิจารณาหลังจากเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ศาลได้มีคำสั่งให้นำพยานเอกสารในสำนวนการไต่สวนคดีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/2567 มารวมไว้ในสำนวนคดีนี้ และได้แจ้งให้หัวหน้าพรรคก้าวไกลและเลขาธิการ กกต.เสนอบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริง หรือความเห็นล่วงหน้าตามประเด็นที่ศาลกำหนดกลับมายังศาลภายใน 7 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือเพื่อประกอบการพิจารณาวินิจฉัยคดี รวมถึงกำหนดให้คู่กรณีเข้าตรวจพยานหลักฐานในวันอังคารที่ 9 กรกฎาคม
ดังนั้น การพิจารณาในวันนี้จึงต้องลุ้นว่าศาลจะมีคำสั่งเกี่ยวกับกระบวนวิธีพิจารณาคดีนี้อย่างไรต่อไป ข้อเท็จจริงที่ได้เพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยแล้วหรือยัง จะมีการจะมีการเปิดไต่สวนตามที่พรรคก้าวไกลร้องขอหรือไม่
นอกจากนี้ ยังมีการพิจารณาว่า จะรับหรือไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยในคำร้องที่ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยว่าบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน หรือ MOU 2544 ซึ่งจัดทำขึ้นโดยไม่ได้ขอความเห็นชอบจากรัฐสภาเป็นบทบัญญัติที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ และการที่กรมสนธิสัญญาและกฎหมายกระทรวงการต่างประเทศนำ MOU 2544 มาใช้เป็นเครื่องมือดำเนินการแบ่งเขตอธิปไตยของไทยทางทะเลอ่าวไทยและแบ่งผลประโยชน์ทรัพยากรพลังงานธรรมชาติทางทะเลของไทยให้แก่กัมพูชา เป็นการกระทำที่ละเมิดสิทธิของตนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 3 หมวด 3 สิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย มาตรา 25 และมาตรา 43 (2) หรือไม่
รวมถึงจะมี การแถลงด้วยวาจาปรึกษาหารือและลงมติในคดีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 ส่งคำโต้แย้งเพิ่มเติมของนายวิชา เบ้าพิมพา จำเลยที่ 1 น.ส.อนา วงสิงห์ จำเลยที่ 2 ในคดีหมายเลขแดงที่ อ.1571/2566 ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 212 ว่าการที่ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ 2534 มาตรา 4 วรรคสอง เฉพาะในส่วนโทษทางอาญา ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 26 หรือไม่ด้วย
ส่วนคดีประธานวุฒิสภาส่งความเห็นของสมาชิกวุฒิสภา 40 คน ขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่าความเป็นรัฐมนตรีของ นายเศรษฐา ทวีสิน สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160(4) และ (5) หรือไม่ จากเหตุนำความกราบบังคมทูลเพื่อโปรดเกล้าแต่งตั้ง นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งที่รู้ว่านายพิชิตขาดคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญนั้น เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ศาลได้มีคำสั่งให้หน่วยงานหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องจัดทำความเห็นและส่งสำเนาเอกสารหลักฐานตามประเด็นที่ศาลกำหนดยื่นต่อศาลภายใน 15 วันนับแต่วันได้รับหนังสือ เพื่อประกอบการพิจารณาวินิจฉัยและได้กำหนดที่จะพิจารณาคดีนี้ต่อในวันที่ 10 กรกฎาคม
บิ๊กแจ๊สตอกกลับแรงเพื่อไทยไม่รู้หรือไง ชาญมีชนักปักหลัง เล่นเกมเสี่ยง นายใหญ่แพ้ไม่ได้
https://www.matichon.co.th/matichon-tv/news_4660536
The Politics ข่าวบ้าน การเมือง X ใบตองแห้ง อธึกกิต แสวงสุข สัมภาษณ์พิเศษ บิ๊กแจ๊ส พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง เผยรู้อยู่แล้วว่า ชาญ พวงเพ็ชร์ มีคดีทุจริตอยู่ในศาล และมีหลายคดีด้วย ไม่ใช่แค่คดีถุงยังชีพ แต่ยังมีคดีเครื่องออกกำลังกาย พรรคเพื่อไทยเอา ชาญ พวงเพ็ชร์ มาสมัครได้อย่างไร ทำไมไม่สกรีนคน ไม่เข้าใจนโยบายพรรคเพื่อไทย เลือกคนที่มีคดีมารับใช้พี่น้องชาวปทุมฯ ผมแพ้ก็คือแพ้ ผมไม่ได้ขุดคุ้ย เรื่องนี้ต้องว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม กฏหมายต้องเป็นกฏหมาย อย่าไปตะแบง ย้ำไม่ได้ฮั้วกัน ผมสู้เต็มที่ เกมนี้รู้ว่า ชาญ พวงเพ็ชร์ แพ้ไม่ได้ คะแนนไม่สำคัญ แพ้ก็คือแพ้ คนทั้งประเทศไม่จำเป็นต้องรู้ แต่พี่น้องชาวปทุมฯ รู้ดี.
“อังคณา” จี้กกต.รับรองสว.ก่อนค่อยสอยที่หลัง
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_740554/
กกต. ถกคำร้องเลือก สว. ยังไม่มีสัญญาณรับรองวันไหน ด้าน “อังคณา” จี้ ควรรับรองก่อน ค่อยสอยที่หลัง ชี้ ตราบใดที่กติกาเป็นเช่นนี้ เลือกกี่ครั้งยังเหมือนเดิม
ครบกำหนดไทมไลน์ที่ กกต.วางไว้ ในการประกาศผู้สมัครที่ผ่านการเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา แต่ขณะเดียวกัน คณะกรรมการการเลือกตั้ง นัดประชุมในวันนี้ เพื่อวินิจฉัยคำร้องต่างๆโดยเฉพาะเรื่องของคุณสมบัติ ของผู้ได้รับเลือก และกระบวนการเลือกที่ไม่เป็นไปตามกฏหมายกว่าพันเรื่อง โดยมี นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. เป็นประธานการประชุม โดยเฉพาะกรณีการเลือกไขว้ ที่มีลักษณะลงคะแนนเป็นชุดๆ โดยใบลงคะแนนหมายเลขเหมือนๆกัน
ด้าน นางอังคณา นีละไพจิตร ว่าที่สว. กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณใดๆ จาก กกต. ว่าจะรับรองผู้ที่ได้รับเลือกเป็นสว. ซึ่งความจริงแล้ว กฎหมายระบุว่า ให้รับรองหลังจากเลือกไปแล้ว 5 วันคือหลังจากวันที่ 3 กค ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่า แม้จะมีเรื่องร้องเรียนจำนวนมาก แต่เห็นว่าควรจะรับรองไปก่อน แล้วถ้าใครขาดคุณสมบัติสามารถมาสอยทีหลัง และในช่วงนี้
สามารถตรวจสอบคุณสมบัติแบบคร่าวๆได้ก่อน เพราะตอนที่ไปสมัคร สว. ไม่ได้มีการตรวจสอบรายละเอียดคุณสมบัติใดๆ ใช้เพียงบัตรประชาชน ให้ผู้สมัครกรอกรายละเอียดและดูเพียงใบรับรอง ดังนั้น การจะตรวจสอบว่า เป็นผู้เชี่ยวชาญมีประสบการณ์ในด้านนั้นๆ สามารถตรวจสอบได้แบบเร็วๆ ส่วนคุณสมบัติอย่างอื่น คิดว่าน่าจะรับรองไปก่อน และค่อยมาตรวจสอบในรายละเอียด เนื่องจากแต่ละกลุ่ม มีสำรองอยู่แล้ว
ส่วนที่มีการร้อง เรื่องคะแนน ว่า ส่อฮั้ว หรือสมยอม เพราะมีการลงคะแนนเหมือนกันเป็นชุดหลายคน นางอังคณา กล่าวว่า ตราบใดที่ยังเป็นกติกานี้ เลือกกี่รอบก็ยังเป็นเช่นนี้ เพราะกฎหมายออกมาแบบนี้ ดังนั้น ต่อให้คนที่ไม่รู้จักกันเลยก็ต้องไปขอคะแนนกัน จึงคิดว่าไม่มีทางที่จะแก้อะไรได้ เพราะกฎหมายระบุมาเช่นนี้ ส่วนตัวมองว่า ต้องแก้รัฐธรรมนูญ และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ โดยเมื่อรับรองชุดนี้ไปแล้ว ให้รีบแก้ไข ซึ่งตนพร้อมที่จะให้ สว.ชุดนี้ หมดวาระไปตามรัฐธรรมนูญใหม่ และค่อยเลือกกลับเข้ามาใหม่ ไม่เช่นนั้น เชื่อว่าจะไม่สามารถแก้ไขได้