[CR] 7 วัน 6 คืน วัยรุ่นพาตะลุยโกเบ เกียวโต โอซาก้า กับสารพัด pass

ครั้งนี้เป็นการไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นด้วยตนเองครั้งแรกของเราและครอบครัวค่ะ และเป็นรีวิวท่องเที่ยวแรกของเราด้วย ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่าทริปนี้เน้นวัยรุ่นเป็นหลักค่ะ มีพ่อ แม่ ลูก 15 และ 12 ปี รวม 4 คน เด็กๆเคยไปญี่ปุ่นกับทัวร์มาครั้งหนึ่งค่ะแต่ครั้งนั้นเน้นพาคุณแม่เราและแฟนเที่ยว ถึงไปโตเกียวแต่ก็ไม่ได้ไปสวนสนุกเลย เป็นห่วงคุณแม่จะเดินเยอะ รอบนี้เลยจัดหลังจากที่เด็กๆสอบเสร็จได้ที่เรียนต่อกันแล้วค่ะ สรุปได้ไปที่ไหนบ้างดูตามนี้เลยจ้า

Day 1 Nagai botanical garden, museum of natural history Osaka, namba park
Day 2 Kobe arima onsen
Day 3 วัดฮิกาชิ ฮงกันจิ,Kyoto railway museum, TOEI Kyoto Studio Park , Kyoto aquarium
Day 4 Kaiyukan aquarium, Umeda sky building, HEP FIVE Ferris Wheel, NINJA Trick House (EDION namba), Tsutenkaku Tower slider
Day 5 ศาลเจ้านัมบะ ยาซากะ, Osaka Museum of Housing and Living, Captain line, Santa maria cruise, Legoland discovery center, Glion museum
Day 6 USJ
Day 7 Osaka castle, Kuromon market, Tennoji zoo

เราเดินทางช่วงต้นพฤษภาค่ะ  ติดปลาย golden week 2-3 วัน อย่างเลี่ยงได้ยาก เนื่องจากลูกๆ ติดเรียนปรับพื้น  ทริปนี้ Pass ที่เราใช้มีดังนี้
·         JR kansai mini pass เราใช้บัตรนี้ขึ้น JR ใน kansai ฟรี 3 วันแรกค่ะ 
·         Osaka e- pass 2 day บัตรนี้จะคล้าย osaka amazing pass แต่จะเข้าสถานที่ได้น้อยกว่าและไม่ฟรีค่าเดินทางค่ะ
·         Have fun in Kansai pass ( แถมมาจาก USJ pass) เที่ยวได้ 3 ที่ ใน 7 วัน ในทริปเราใช้เข้า  Kyoto raiway museum, Toei Kyoto Studio Park ฟรี และแลกคูปองอาหาร 1300 Yen/ใบ 
·         Osaka metro pass 1 day
สำหรับค่าใช้จ่ายเราจะสรุปให้ท้ายรีวิวนะคะ 

Day 0 เริ่มทริปก็มีเรื่องให้ลุ้นค่ะตอนไปสนามบินก็เจอทางด่วนปิดอยู่หลายเส้นเลยมีลุ้นหน่อย ถึงสนามบินแฟนเกิดอาการท้องเสีย พอขึ้นเครื่องแล้ว แฟนเราอาเจียนและไข้ขึ้น แม้ว่าก่อนมาทั้งหาหมอและเตรียมยามาแทบทุกอาการไว้แล้ว ตอนที่อยู่บนเครื่องเราเลยแอบลุ้นว่าจะไหวไหมนะ
Day 1 ถึงสนามบิน KIX ตอน ประมาณ 8 โมงเช้าค่ะ ใช้ JR kansai mini pass เข้าเมืองแวะทานราเม็งที่ shin imamiya station ร้านข้างสถานีเลยค่ะ ปริมาณเยอะรสชาติดีค่ะ แล้วไปฝากกระเป๋าที่  Hotel Relief Namba Daikokuchou ที่พักคืนแรก ไปเที่ยวต่อที่ Nagai botanical garden และ museum of natural history osaka พิพิธภัณฑ์อยู่ค่อนข้างไกลจากสถานี Nagai Station ค่ะ วันนี้คนค่อนข้างเยอะ ต้องรอคิวอยู่แต่ไม่นานนัก 


สวนพฤกษศาสตร์ใหญ่อยู่ค่ะ แต่เราแทบไม่ได้เดินเท่าไหร่ เพราะยังเพลียกันอยู่ค่ะ เลยตัดสินใจกลับเข้าที่พัก วันนี้ไม่ไปไหนเยอะ  ตอนค่ำค่อยออกมาทานข้าวที่ namba park เป็นห้างใหญ่ไม่ไกลจากที่พักเดินได้สบายๆเลยค่ะ

           สำหรับโรงแรมคืนนี้ถ้าไม่ใช่ golden week ราคาดีมากทีเดียวไม่มีอาหารเช้าแบบจริงจังแต่มีขนมปังอบใหม่ วาฟเฟิลทำเอง ตอนเช้า และ ไอศกรีมกับ เครื่องดื่มที่กินได้ทั้งวันค่ะ ไม่ได้ถ่ายรูปภายในห้องไว้มีแค่ภาพวิวจากห้องที่เราพักค่ะ
Day 2 วันนี้ที่ญี่ปุ่นเป็นวันเด็กผู้ชายค่ะ เราฝากกระเป๋าใบใหญ่ไว้กับโรงแรม แล้วใช้ JR mini pass ไปเที่ยวกันที่ โกเบ ตาม แพลนตั้งใจไป Arima onsen กับ nunobiki herb garden แล้วค่อยไปค้างที่เกียวโต 1 คืน ช่วง golden week คนเยอะมากร้านอาหารต่อคิวกันอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง แต่หลังแช่ออนเซ็นบ่อทอง (น้ำจะเป็นสีน้ำตาลเพราะมีธาตุเหล็กเยอะ) แฟนที่ไม่ค่อยสบายอยู่ก่อนเลยปล่อยให้เรากับลูกไปแช่บ่อเงิน(น้ำใส)ต่อ (ซื้อตั๋วแบบรวม 2 บ่อไปแล้วค่ะ) ส่วนใหญ่ที่ไปเจอแต่คนญี่ปุ่นไม่ได้ยินเสียงคนไทยเลย เมืองนี้จะมีลำธารและน้ำตกเล็กๆไหลผ่าน น้ำเย็นมากค่ะ

ตอนแรกตั้งใจใช้บัตร Have fun in Kansai pass ไปนั่งกระเช้าขึ้น nunobiki herb garden ชมสวนสมุนไพรฟรี แต่แฟนคงอยากพักเลยตัดสินใจนั่ง  JR ไปต่อที่เกียวโตค่ะ และแล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ปรากฏว่า JR แถบนั้นมีปัญหาค่ะ หยุดกันทุกขบวนเลย จอดเป็นชั่วโมงเลยจ้า สอบถามพนักงานได้ข้อมูลว่า รถไฟขัดข้องทั้งระบบ อุตส่าห์รีบกลับเจอแบบนี้ก็แอบเซ็ง  เดินทางเกือบ 3 ชั่วโมง จากปกติที่ใช้เวลาแค่ชั่วโมงนิดๆ ค่ำนี้เลยทานข้าวที่ Isetan ติดสถานีเกียวโต แล้วพักกันที่  Kyoto tower annex มองเห็นวิว Kyoto tower จากห้องเราเลยค่ะ ที่พักนี้ห้องแคบแต่เตียงนอนนุ่มสบาย มีหมอนให้เลือกหลายแบบ มีที่ mask หน้า และ lotion บำรุงผิวให้ด้วยค่ะ มี Discount voucher สำหรับขึ้น Kyoto tower ด้วย แต่เราไม่ได้ใช้ เพลียกับรถไฟวันนี้มากจ้า

มาต่อจ้า
Day 3 ในที่สุดวันของเราก็มาถึงวันนี้เที่ยวเกียวโตเต็มวันจ้าแฟนหายแล้ว เย้ เย้ วันนี้ยังถือเป็นวันหยุดชดเชยของวันเด็กผู้ชายอยู่ แต่เราไม่ได้เลือกสถานที่ที่ทัวร์ชอบไปค่ะ วันนี้เราเดินจากโรงแรมไปวัด วัดฮิกาชิ ฮงกันจิ ประมาณ 200 เมตร วัดนี้เค้าเปิดให้เข้าฟรีค่ะ วัดสวยและสงบมาก 

หลังจากนั้นก็นั่ง JR ไปที่ Kyoto raiway museum, TOEI Kyoto Studio Park (2 ที่นี้ Have fun in Kansai pass เข้าฟรี) , Kyoto aquarium แล้วก็กลับไปพักที่ Osaka ที่เดียวกับคืนแรกค่ะ การเดินทางในวันนี้เราใช้ JR mini pass ทั้งวัน มีขึ้น taxi เล็กน้อยตอนไป TOEI studio

วันนี้ฝนตกปรอยๆ ฟ้าครึ้มทั้งวันค่ะ ภาพอาจหม่นๆ หน่อย ด้านล่างเป็นภาพวิวจากชั้น 3 ของ museum ค่ะ จะเห็นชินคันเซ็นกำลังวิ่งมาพอดี

Kyoto raiway museum เด็กๆ ชอบมากค่ะ ใช้เวลาครึ่งวันกับที่นี่ มีอะไรให้ทดลองและเรียนรู้เยอะมากทีเดียวค่ะ ทั้งตัวรถไฟ  เครื่องอ่านตั๋ว ราง อุปกรณ์ ห้องคนขับและ ทุกอย่างที่เกี่ยวกับรถไฟเลยทีเดียว มีนั่งรถจักรไอน้ำ  (จ่ายเพิ่ม 300 เยน) ด้วย แนะนำสำหรับสาย museum ค่ะ กิจกรรมแน่นมาก มีให้ทดลองควบคุมการเดินรถไฟ  ลองปั่นจักรยานบนรางสำหรับงานซ่อมบำรุง ฯลฯ เด็กญี่ปุ่นมาเที่ยวกันเยอะค่ะ
แต่ขอแอบบอกว่าอาหารที่นี่หน้าตาน่ารักแต่ไม่ค่อยถูกปากเราสักเท่าไหร่ค่ะ แนะนำทานข้างนอกค่ะ

TOEI Kyoto Studio Park เป็นสวนสนุกที่ใช้สำหรับถ่ายทำหนังญี่ปุ่นโบราณแนวหมู่บ้านนินจา มีกิจกรรมให้ทำหลายอย่างค่ะ แต่ต้องเสียเงินเพิ่มเป็นส่วนใหญ่ ที่นี่เราได้ดูการแสดงฟรีแนว action เขาทำได้ดีค่ะ แม้ว่าเรื่องจะเป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมดแต่เราก็เข้าใจนะคะ สนุกดี ทั้ง effect แสงสีและ การแสดงก็ดีค่ะ  กิจกรรมที่เด็กชอบก็จะเป็นการเข้า Ninja 3d maze (500 Yen) วัยรุ่นอย่างเราก็ได้เข้าด้วยค่ะ ลักษณะเป็นเขาวงกตที่มีโครงสร้างไม้แบบโปร่งให้เราเข้าไปหาจุดประทับตรา แล้วตีกลองตอนจบ สนุกดีค่ะ

Kyoto aquarium ที่เที่ยวที่สุดท้ายสำหรับวันนี้  จริงๆแล้วอยู่ติดกับ Kyoto raiway museum แต่เนื่องจากวันนี้ aquarium ปิดช้าเราเลยเลือกที่จะกลับมาเที่ยวภายหลัง มาไม่ทันดูโชว์โลมา  ที่นี่ไฮไลท์ของเขาเป็นซาลาแมนเดอร์ยักษ์ค่ะ แต่ส่วนตัวเราชอบจุดแสดงแมวน้ำมากกว่า จะสามารถมองเห็นได้ทั้งจากด้านบนและส่วนที่อยู่ใต้น้ำเลย

ส่วนจัดแสดงแมงกะพรุนก็ทำได้ดีนะคะ แสดงอายุในแต่ละช่วงวัยด้วย


ทริปตามใจวัยรุ่นของเราก็จะประมาณนี้จ้า วันนี้เที่ยวจบแล้วก็กลับไปทานอาหารแถวสถานีเกียวโตรับกระเป๋า แล้วนั่ง JR กลับไปนอนที่โรงแรมเดิมในโอซาก้าค่ะ