บทความแปลจาก
ถ้าจิตวิญญาณของ Glastonbury ถูกกลั่นออกมาเป็นสิ่งเดียว มันก็คือจิตวิญญาณของความสุขร่วมกัน ไม่ว่าภาษาจะต่างกัน เชื้อชาติหรือวัฒนธรรมจะต่างกันแค่ไหน ที่เวที Pyramid ในช่วงบ่ายของวันศุกร์ (28 มิถุนายน) บรรยากาศนั้นมีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยความสนุกสนาน เมื่อ SEVENTEEN สร้างประวัติศาสตร์เป็นวง K-pop แรกที่แสดงที่เทศกาลอันเป็นสัญลักษณ์ของอังกฤษนี้ สิ่งที่เริ่มต้นจากการแนะนำวงที่ส่วนใหญ่ยังไม่คุ้นเคยกับผู้ชมจบลงด้วยความยินดีแบบบ้าคลั่ง ผู้ชมที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนก็ได้รับความสนุกสนานจากพลังที่ไม่มีที่สิ้นสุดที่หลั่งไหลออกมาจากเวที
ตลอดการแสดง วงบอยแบนด์ 13 คนนี้ได้เน้นย้ำถึงจุดแข็งและพรสวรรค์ของพวกเขาอย่างละเอียดแต่ชัดเจน เมื่อการแสดงเริ่มต้นขึ้น กล้องจะพาไปที่คีย์บอร์ดด้านหลังเวที ซึ่งนักร้องและโปรดิวเซอร์ Woozi ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญเบื้องหลังดนตรีของ SEVENTEEN ยืนตำแหน่งเพื่อบรรเลงทำนองเปิดของ 'Maestro' กับวงดนตรีสด ไม่นานหลังจากนั้น เขาเข้าร่วมกับสมาชิกคนอื่น ๆ เพื่อแสดงท่าเต้นที่ไร้ที่ติ แต่จุดประสงค์ชัดเจน: SEVENTEEN มาเพื่อท้าทายความคิดที่มีอยู่เดิมในวิธีที่ดีที่สุด โดยแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีความสามารถอะไรบ้าง
เครดิต: Samir Hussein/WireImage
การแสดงส่วนใหญ่ถูกปรับแต่งอย่างชาญฉลาดให้เข้ากับประสบการณ์ของเทศกาล โดยเน้นไปที่เพลงร็อคที่มีจังหวะและเพลงแอนเธ็มที่มีชีวิตชีวา ‘SOS’ ซึ่งเป็นหนึ่งในสองเพลงภาษาอังกฤษที่แสดงในวันนี้ เปิดโอกาสให้วงได้ปลดปล่อยอย่างเต็มที่ ปลุกกระแสคนดูให้ตื่นเต้นขณะที่พวกเขากระโดดไปตามทางเดิน
เพลง ‘Clap’ ที่มีริฟฟ์หนักแน่นและเพลง ‘Hot’ ที่ร้อนแรงยิ่งสร้างความสนุกสนานให้กับผู้ชม โดย Hoshi นำให้คนดูร้องตามในตอนท้าย เพลงบัลลาดที่อารมณ์อ่อนไหวอย่าง ‘Headliner’ จาก EP ที่มีธีมเทศกาล ‘Seventeenth Heaven’ ทำให้คนดูทุกคนยกแขนโบกขึ้นไปในอากาศ สร้างทะเลที่สวยงามของการเคลื่อนไหวหน้าพีระมิด
ในช่วงกลางของการแสดง SEVENTEEN ได้เปลี่ยนแนวเพลงและแสดงให้เห็นถึงความสามารถที่หลากหลายที่พวกเขามีในวง “สมาชิกเยอะใช่ไหม?!” Hoshi พูดหลังเพลง ‘Rock With You’ Vernon รับช่วงต่อและอธิบายส่วนถัดไปของการแสดง: “ตอนนี้ เราจะแยกทีมกันเพื่อให้พวกเขาได้พัก” ขณะที่สมาชิกคนอื่น ๆ ออกจากเวที เขาและ Joshua ก็เข้ารับแสงสปอตไลท์สำหรับเพลง ‘2 Minus 1’ ที่มีแนวป๊อปพังก์ ก่อนจะส่งต่อให้กับทีมการแสดง ซึ่งประกอบด้วย Hoshi, The8, Jun และ Dino สำหรับเพลง ‘I Don’t Understand But I Love You’ ที่เน้นการเต้นและมีเสน่ห์ Seungkwan, Joshua, DK, Jeonghan และ Woozi ซึ่งเป็นทีมร้อง นำบรรยากาศกลับมาด้วยเพลง ‘Cheers To Youth’ ที่ให้ความรู้สึกยกระดับ ขณะที่ทีมฮิปฮอป S.Coups, Mingyu, Wonwoo และ Vernon ยกระดับความตื่นเต้นด้วยเพลง ‘LALALI’ ที่ระเบิดความมัน
ก่อนที่ SEVENTEEN จะปรากฏตัวที่ Glastonbury ซึ่งเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ มีข้อสงสัยบางประการในหมู่ผู้ชมเทศกาลเกี่ยวกับว่าพวกเขาจะเข้ากับงานนี้ได้หรือไม่ หรือแม้กระทั่งว่าพวกเขาสมควรได้ที่นี่หรือไม่ แต่เมื่อถึงสองเพลงสุดท้าย ความสงสัยเหล่านั้นควรถูกขจัดออกไปจากใจผู้เข้าชมทุกคน
Credit: Samir Hussein/WireImage
เมื่อตอนบ่ายก่อนหน้านี้ ขณะที่ Glastonbury กำลังเริ่มทำความรู้จักกับ SEVENTEEN, Joshua กล่าวถึงจุดสำคัญที่ชาญฉลาด “ภาษาไม่ใช่อุปสรรค” เขาบอกกับผู้ชม “เราสามารถเชื่อมต่อกันผ่านบทเพลง” นั่นเป็นสิ่งที่กลุ่มแสดงให้เห็นตลอดเวลาที่พวกเขาอยู่บนเวที Pyramid แต่บางทีอาจจะไม่มีครั้งไหนชัดเจนเท่ากับในสองเพลงสุดท้าย ‘God Of Music’ ทำให้ผู้ชมร้องตามท่อนฮุค แสดงออกถึงความสุขที่หลั่งไหลผ่านเพลง
ในขณะเดียวกัน ‘Very Nice’ ก็นำความสนุกสนานและความร่าเริงอย่างเต็มที่มาสู่การแสดง วงบอยแบนด์นำธรรมเนียมของพวกเขาในการทำให้ผู้ชมร้องท่อนคอรัสซ้ำด้วยพลังงานที่กระตุ้นขึ้นเรื่อยๆ เพื่อปลุกกระแสผู้ชมเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อ SEVENTEEN กล่าวขอบคุณทั้งภาษาเกาหลีและภาษาอังกฤษ พวกเขาเริ่มร้องท่อนสุดท้ายของท่อนที่ติดหู ทำให้การแสดงของพวกเขามีความหมายมากในหนึ่งในเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดในโลก
SEVENTEEN Glastonbury's Setlist
‘Maestro’
‘Ready To Love’
‘SOS’
‘Rock With You’
‘2 Minus 1’
‘I Don’t Understand But I Love You’
‘Cheers To Youth’
‘LALALI’
‘Clap’
‘Hot’
‘Headliner’
‘God Of Music’
‘Very Nice’
[SEVENTEEN] NME รีวิวให้ห้าดาวสำหรับการแสดงของ SEVENTEEN ในงานเฟสติวัลระดับโลก Glastonbury ⭐⭐⭐⭐⭐
‘Ready To Love’
‘SOS’
‘Rock With You’
‘2 Minus 1’
‘I Don’t Understand But I Love You’
‘Cheers To Youth’
‘LALALI’
‘Clap’
‘Hot’
‘Headliner’
‘God Of Music’
‘Very Nice’