กลุ่ม 24 มิถุนาปชต. ร้องชัยธวัช ขอนิรโทษกรรมรวม112 มองเป็นประโยชน์ ก้าวข้ามความขัดแย้ง
https://www.matichon.co.th/politics/news_4651002
24 มิถุนาประชาธิปไตย ร้อง “ชัยธวัช” ขอนิรโทษกรรมรวม 112 มองเป็นประโยชน์เดินหน้าก้าวข้ามความขัดแย้ง ด้านเจ้าตัว ชี้กำลังพิจารณาในเรื่องของอำนาจหน้าที่ หากมีการโต้แย้งกันสูงอาจกำหนดเงื่อนไขและกระบวนการเพื่อนิรโทษกรรมคดีนั้นๆ เป็นพิเศษ
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 27 มิ.ย.2567 ที่รัฐสภา กลุ่ม Peace and Harmony Organization และกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสภาผู้แทนราษฎร โดยมี นาย
ชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมการและที่ปรึษากรรมาธิการฯ เพื่อขอให้นิรโทษคดีการเมืองทุกคดี รวมถึงความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
โดยนาย
เกียรติชัย ตั้งภรณ์พรรณ แกนนำกลุ่มกล่าวว่า เราเสนอให้มีการนิรโทษกรรมคดีทางการเมืองทุกคดี ไม่มียกเว้นมาตรา 112 ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดของความขัดแย้งของชาติในปัจจุบัน การดำเนินคดีด้วยกฎหมายอาญามาตรา 112 คือการกลั่นแกล้งทางการเมือง ซึ่งถือได้ว่าเป็นคดีการเมือง จำนวนคดีที่พุ่งสูงขึ้นมักจะสอดคล้องกับเหตุการณ์ทางการเมืองเสมอเพื่อปิดกั้นการแสดงความเห็นต่างต่อคณะรัฐประหารโดยการนำสถาบันกษัตริย์เป็นข้ออ้าง
สำคัญที่สุดสิทธิในการประกันตัว ตั้งแต่ต้นยันปลายกระบวนการ ตั้งแต่คดีอยู่ในมือตำรวจก็มีการออกหมายจับ ทั้งที่ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ในชั้นอัยการในระยะแรก ก็มีผู้ถูกละเมิดสิทธิประกันตัว จนมาถึงในระยะหลังที่คดีเริ่มมีการตัดสินไปบ้างแล้ว แต่ละคนก็ได้สิทธิประกันตัวไม่เท่ากัน บางคนได้ประกันตัวแต่บางคนไม่ได้ ทั้งที่ระยะเวลาห่างกันไม่มาก และที่สำคัญที่สุดหลายคนที่ไม่ได้ประกันตัวมักจะถูกอ้างว่าเกรงว่าจะหลบหนี แม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยผิดเงื่อนไขประกันตัว
จึงมีความชัดเจนว่าคดีมาตรา 112 เข้าเกณฑ์การกระทำที่มีแรงจูงใจทางการเมือง การเมืองเป็นไปตามนิยามของ กมธ. ศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม “
การกระทำที่มีพื้นฐานมาจากความคิดที่เกี่ยวเนื่องกับเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง หรือต้องการบรรลุเป้าหมายทางการเมืองอย่างใดอย่างหนึ่ง ในช่วงเวลาที่มีความขัดแย้งหรือเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง”
เพราะบุคคลที่ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 มักจะเป็นผู้ที่มีความเห็นต่างทางการเมืองกับคณะรัฐประหาร และพวกเขาวิจารณ์การอ้างสถาบันกษัตริย์ของคณะรัฐประหารเพื่อให้การปกครองแบบเผด็จการ
ด้านนาย
ชัยธวัชกล่าวว่า หากจะใช้กลไกการนิรโทษกรรมผ่านสภานั้น แน่นอนว่ามี กมธ.บางคนแสดงความคิดเห็นส่วนตัวเรื่องเกี่ยวกับการนิรโทษกรรมมาตรา 112 แต่รายงานของ กมธ.ก็มีการรวบรวมเกี่ยวกับความผิดในมาตรานี้ และจะเห็นได้ชัดว่าคดีเกี่ยวกับมาตรา 112 เกิดขึ้นมาก และเห็นได้ชัดหลังการรัฐประหารปี 2549 และการรัฐประหารทุกครั้งมักจะมีการอ้างอิงเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์เพื่อสร้างความชอบธรรม
มีการใช้ความจงรักภักดีในการชอบธรรมให้ตนเอง ทำให้สถิติความผิดเกี่ยวกับมาตรา 112 มีมากขึ้นในช่วงนั้นๆ แต่ย้ำว่า กมธ.ยังไม่ได้มีข้อสรุป รวมถึงยังไม่ได้มีการพิจารณาใน กมธ. ขณะนี้เรากำลังพิจารณาในเรื่องของอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการนิรโทษกรรม ซึ่งมีข้อเสนอด้วยว่าหากมีการโต้แย้งกันสูงอาจจะให้คณะกรรมการนิรโทษกรรมกำหนดเงื่อนไขและกระบวนการเพื่อนิรโทษกรรมคดีนั้นๆ เป็นพิเศษก็ได้
‘ชัยธวัช’ อึ้งหน้าตาสว.ชุดใหม่ไม่ตรงปก หลายคนดูท่าฝากผีฝากไข้ไม่ได้ ถามอนาคตเราควรจะมีหรือไม่
https://www.matichon.co.th/politics/news_4651233
‘ชัยธวัช’ อึ้งหน้าตาสว.ชุดใหม่ไม่ตรงปก หลายคนดูท่าฝากผีฝากไข้ไม่ได้ ถามอนาคตเราควรจะมีหรือไม่
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 27 มิถุนายน ที่รัฐสภา นาย
ชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงรายชื่อ 200 ส.ว. หลังจากการเลือกระดับประเทศวานนี้ (26 มิ.ย.) ว่า จากที่ติดตามมีข้อสังเกตว่า ส.ว.ส่วนใหญ่อาจจะเข้าไปเชื่อมโยงกับนักการเมืองบางกลุ่ม และ ส.ว.หลายท่านที่เข้ามาด้วยระบบแบบนี้ก็ถูกตั้งคำถามเรื่องคุณสมบัติว่าเป็นไปตามเจตนารมณ์ของกลุ่มอาชีพจริงหรือไม่ แต่เมื่อหน้าตาของ ส.ว.ชุดใหม่เป็นแบบนี้ ตนคิดว่าคงทำให้มีคำถามมากขึ้นว่าในอนาคตเราควรจะมี ส.ว.อยู่หรือไม่ เพื่ออะไร
และสำหรับคนที่ไม่พอใจหรือผิดหวังกับหน้าตา ส.ว.ชุดใหม่นี้ ไม่อยากให้คิดเพียงประเด็นเฉพาะหน้า แต่ทั้งนี้ต้องไปสืบสวนว่ามีการใช้เงิน ทอง ในการได้มาซึ่ง ส.ว.ตามที่มีการกล่าวหากันหรือไม่ เรื่องนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องทำงานหนัก และเราคิดว่าถ้า กกต.ไม่มีผลงานในขณะที่ผู้สมัครหลายท่านยืนยันตรงกันว่ามีการเสนอทรัพย์สิน เงินทอง ในการให้ไปเข้ากลุ่มเพื่อเลือก ส.ว.กัน และทาง กกต.ก็อาจจะมีปัญหาในการได้รับความไว้วางใจกับประชาชน
“
ผมคิดว่าอยากให้สนใจมากกว่าประเด็นเฉพาะหน้าคือถึงเวลาที่ตั้งคำถามตัวโตๆ ว่าในเมื่อเราพยายามออกแบบ ส.ว.และหน้าตาออกมาแบบนี้สุดท้ายต้องกลับมาว่าเราจะมีวุฒิสภาไว้ทำอะไร ถ้าตอบไม่ได้ก็ไม่ต้องมี ดีกว่าตอบไม่ได้และก็ต้องพยายามมาออกแบบกระบวนการได้มาซึ่ง ส.ว.พิสดารแบบนี้ ดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์ต่อสาธารณะเลย แต่ถ้าตอบได้ว่ามีความจำเป็นอยู่ในแง่ของสถาบันทางการเมือง ก็ต้องออกแบบการได้มาซึ่ง ส.ว.ให้สอดคล้องกับเป้าหมาย และวันนี้เห็นแล้วว่าความพยายามที่จะหาข้ออ้างว่าต้องมี ส.ว.เพื่อเป็นตัวแทนของกลุ่มอาชีพ ไม่เป็นจริง จะออกแบบมาอย่างไรก็ไม่เป็นจริง” นาย
ชัยธวัชกล่าว
เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรที่ ส.ว.จากฝ่ายประชาธิปไตย ผ่านเข้ารอบมา 20 เปอร์เซ็นต์ นาย
ชัยธวัชกล่าวว่า เยอะถึงขนาดนั้นเลยหรือ แต่อย่างไรก็ตาม ตนไม่แน่ชัดว่าคนไหนจะถือเป็น ส.ว.ฝ่ายประชาธิปไตยบ้าง แต่มีความยินดีกับ ส.ว.ที่มาด้วยความมุ่งมั่น และไม่ได้ใช้วิธีการใช้เงิน เพื่อได้มาซึ่งคะแนนเสียง ที่สามารถหลุดรอดมาจากระบบเช่นนี้ได้ แม้ว่าจำนวนอาจจะไม่ได้มากนัก แต่เชื่อว่าก็อาจจะสามารถทำหน้าที่ได้อย่างโดดเด่น
เมื่อถามว่าการเลือก ส.ว.มีข้อร้องเรียนเยอะ มองว่าจะส่งผลให้ ส.ว.ชุดเก่า ปฏิบัติหน้าที่ต่อหรือไม่ นาย
ชัยธวัชกล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่แน่ใจว่า กกต.จะใช้วิธีการรับรองไปก่อน และไปสอยทีหลังหรือไม่ หากเป็นเช่นนี้ ก็คงไม่กระทบ แต่ถ้ามีเรื่องร้องเรียน และ กกต.จะตรวจสอบทีเดียวก่อนรับรองทั้งหมดนั้น จะนานแน่นอน แต่มองว่า ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะกฎหมายได้ระบุระยะเวลาไว้ชัดเจนว่า ต้องประกาศรับรองภายในเมื่อไหร่ และต้องรับรองพร้อมกันทั้งหมด แต่คาดหวังว่า กกต.จะรับรองไปก่อน ทั้งนี้ เมื่อดูรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือก ส.ว.แล้ว ยอมรับว่ามี ส.ว.หลายคนที่น่าจะทำหน้าที่ได้ดีแต่ก็ไม่ได้เยอะมาก แต่ในทางกลับกันก็ดูเหมือนว่า อาจจะทำให้หลายๆ คนยิ่งกังวลมากขึ้นอีกว่า จะสามารถฝากผีฝากไข้ได้หรือไม่
ชาวเลย ผิดหวังตัวแทนส.ว.บางคน ไม่สมเป็นผู้กลั่นกรองกม. เขียนประวัติยังไม่ถึงบรรทัด
https://www.matichon.co.th/politics/thai-senate-2024/news_4651138
ชาวเลย ผิดหวังตัวแทน ส.ว.บางคน ไม่สมเป็นผู้กลั่นกรอง กม. เขียนประสบการณ์ยังไม่ถึงบรรทัด คาดมีหน้าที่ ยกมือ ตามคำสั่งผู้อยู่เบื้องหลัง
เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน หลังการเลือก ส.ว.ระดับประเทศ และได้ว่าที่ ส.ว.ทั้งหมด 200 คน โดย กกต.ยังมีสำรองไว้อีก 100 คน ผลปรากฏว่า ตัวแทนกลุ่มอาชีพที่สมัคร ส.ว.จากจังหวัดเลย ได้เข้าเป็นว่าที่ถึง 5 คน ทำให้มีกระแสวิจารณ์ว่า ว่าที่ ส.ว.บางคนไม่สมกับตำแหน่ง ซึ่งเป็นสภาสูงมีหน้าที่สำคัญในการพิจารณาตัวบทกฎหมาย การพัฒนาของประเทศไทย
นาย
สุรพงษ์ (สงวนนามสกุล) เผยว่า หลังจากที่ กกต.ได้ประกาศรายชื่อว่าที่ ส.ว.ออกมา ปรากฏว่าจังหวัดเลย ได้มีตัวแทนเข้าไปถึง 5 คน ต้องยอมรับ บางคนมีความเหมาะสมดี แต่ก็มีหลายคนที่ไม่มีความเหมาะสมเลย ชาวบ้านชาวเมืองเลย ต่างรู้ดีว่าผู้สมัครที่ได้รับการคัดเลือกส่วนใหญ่มาจากสังกัดที่ไหน เด็กของใครในจังหวัดเลย อย่างบางคนการศึกษาจบ ป.4 เขียนประสบการณ์ยังไม่ถึงบรรทัด หรือเป็นเด็กพนักงานในบริษัท ในสำนักงานของนักการเมืองอะไรอย่างนี้ ความสง่างาม ความสามารถ และผู้ที่เลือกลงคะแนนให้เขาเอาอะไรมาตัดสิน
เสียดายผู้สมัครบางคนที่ไม่ผ่านเข้าไป คุณสมบัติดี ความรู้ดี แต่ก็ไม่ผ่านเข้าไประดับประเทศ แบบนี้สภา ส.ว.จะมีความสง่างามตรงไหน คาดว่าผู้ที่เข้าไปมีหน้าที่ฟังและยกมือ เมื่อผู้อยู่เบื้องหลังสั่งการ หน้าที่หลักคงเท่านี้ กับ ส.ว.2567
เครือสหพัฒน์ เผย เศรษฐกิจไทยครึ่งปีแรก เงียบมาก เเนะรัฐออกมาตรการกระตุ้น
https://ch3plus.com/news/economy/ruangden/406058
ผู้บริหารเครือสหพัฒน์ ระบุ เศรษฐกิจไทยในครึ่งปีแรก ถือว่าเงียบมาก เเนะรัฐออกมาตรการกระตุ้น
นาย
ธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการและประธานกรรมการบริหาร ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีแรก ถือว่าเงียบมาก สะท้อนจากยอดขายที่ไตรมาสแรก ถือว่าดีอยู่ แต่ในไตรมาส 2 เงียบมาก โดยเฉพาะกลุ่มเสื้อผ้าและแฟชั่น ที่ยอดตกลงไปมากกว่า 30% เนื่องจากประชาชนไม่กล้าใช้จ่าย ขณะที่ผลกระทบจากต้นทุนทั้งด้านขนส่งที่ปรับขึ้นอีก 9% ยอมรับกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้า แต่จะยังไม่มีการขึ้นราคาสินค้าในขณะนี้ โดยเฉพาะกลุ่มบะหมี่สำเร็จรูป เพราะเป็นสินค้าจำเป็นสำหรับประชาชน โดยจะใช้วิธีปรับประสิทธิภาพการทำงาน เพื่อชดเชยต้นทุนที่สูงขึ้นแทน และเห็นว่าในครึ่งหลังของปี รัฐาลต้องมีมาตรการช่วยลดภาระให้ประชาชน เช่น ค่าน้ำ-ค่าไฟ เป็นต้น รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น
ขณะที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา เดินหน้าขยายช่องทางการตลาดให้กับสินค้า GI จัด GI Market สัญจร ประเดิมที่แรก ที่จังหวัดอุดรธานี นำสินค้า GI จากทั่วประเทศ เช่น ทุเรียนภูเขาไฟ ศรีสะเกษ , ส้มโอทับทิมสยาม ปากพนัง , มะขามหวาน เพชรบูรณ์ ไปเปิดตลาดในภาคอีสาน เพื่อช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับผู้ผลิตและผู้ประกอบการ GI ในชุมชน โดยปัจจุบันสินค้า GI เป็น Soft Power ที่สำคัญ ที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าชุมชน ซึ่งปัจจุบันมีสินค้าที่ขึ้นทะเบียน GI ในประเทศแล้ว 205 รายการ และในต่างประเทศ 8 รายการ สร้างมูลค่าการตลาดรวมกว่า 71,000 ล้านบาท
JJNY : 5in1 ร้องชัยธวัช ขอนิรโทษกรรม│‘ชัยธวัช’อึ้งหน้าตาสว.│ชาวเลยผิดหวังส.ว.│ศก.ครึ่งปีแรก เงียบมาก│รถไฟตกรางในรัสเซีย
https://www.matichon.co.th/politics/news_4651002
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 27 มิ.ย.2567 ที่รัฐสภา กลุ่ม Peace and Harmony Organization และกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสภาผู้แทนราษฎร โดยมี นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมการและที่ปรึษากรรมาธิการฯ เพื่อขอให้นิรโทษคดีการเมืองทุกคดี รวมถึงความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
โดยนายเกียรติชัย ตั้งภรณ์พรรณ แกนนำกลุ่มกล่าวว่า เราเสนอให้มีการนิรโทษกรรมคดีทางการเมืองทุกคดี ไม่มียกเว้นมาตรา 112 ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดของความขัดแย้งของชาติในปัจจุบัน การดำเนินคดีด้วยกฎหมายอาญามาตรา 112 คือการกลั่นแกล้งทางการเมือง ซึ่งถือได้ว่าเป็นคดีการเมือง จำนวนคดีที่พุ่งสูงขึ้นมักจะสอดคล้องกับเหตุการณ์ทางการเมืองเสมอเพื่อปิดกั้นการแสดงความเห็นต่างต่อคณะรัฐประหารโดยการนำสถาบันกษัตริย์เป็นข้ออ้าง
สำคัญที่สุดสิทธิในการประกันตัว ตั้งแต่ต้นยันปลายกระบวนการ ตั้งแต่คดีอยู่ในมือตำรวจก็มีการออกหมายจับ ทั้งที่ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ในชั้นอัยการในระยะแรก ก็มีผู้ถูกละเมิดสิทธิประกันตัว จนมาถึงในระยะหลังที่คดีเริ่มมีการตัดสินไปบ้างแล้ว แต่ละคนก็ได้สิทธิประกันตัวไม่เท่ากัน บางคนได้ประกันตัวแต่บางคนไม่ได้ ทั้งที่ระยะเวลาห่างกันไม่มาก และที่สำคัญที่สุดหลายคนที่ไม่ได้ประกันตัวมักจะถูกอ้างว่าเกรงว่าจะหลบหนี แม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยผิดเงื่อนไขประกันตัว
จึงมีความชัดเจนว่าคดีมาตรา 112 เข้าเกณฑ์การกระทำที่มีแรงจูงใจทางการเมือง การเมืองเป็นไปตามนิยามของ กมธ. ศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม “การกระทำที่มีพื้นฐานมาจากความคิดที่เกี่ยวเนื่องกับเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง หรือต้องการบรรลุเป้าหมายทางการเมืองอย่างใดอย่างหนึ่ง ในช่วงเวลาที่มีความขัดแย้งหรือเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง”
เพราะบุคคลที่ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 มักจะเป็นผู้ที่มีความเห็นต่างทางการเมืองกับคณะรัฐประหาร และพวกเขาวิจารณ์การอ้างสถาบันกษัตริย์ของคณะรัฐประหารเพื่อให้การปกครองแบบเผด็จการ
ด้านนายชัยธวัชกล่าวว่า หากจะใช้กลไกการนิรโทษกรรมผ่านสภานั้น แน่นอนว่ามี กมธ.บางคนแสดงความคิดเห็นส่วนตัวเรื่องเกี่ยวกับการนิรโทษกรรมมาตรา 112 แต่รายงานของ กมธ.ก็มีการรวบรวมเกี่ยวกับความผิดในมาตรานี้ และจะเห็นได้ชัดว่าคดีเกี่ยวกับมาตรา 112 เกิดขึ้นมาก และเห็นได้ชัดหลังการรัฐประหารปี 2549 และการรัฐประหารทุกครั้งมักจะมีการอ้างอิงเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์เพื่อสร้างความชอบธรรม
มีการใช้ความจงรักภักดีในการชอบธรรมให้ตนเอง ทำให้สถิติความผิดเกี่ยวกับมาตรา 112 มีมากขึ้นในช่วงนั้นๆ แต่ย้ำว่า กมธ.ยังไม่ได้มีข้อสรุป รวมถึงยังไม่ได้มีการพิจารณาใน กมธ. ขณะนี้เรากำลังพิจารณาในเรื่องของอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการนิรโทษกรรม ซึ่งมีข้อเสนอด้วยว่าหากมีการโต้แย้งกันสูงอาจจะให้คณะกรรมการนิรโทษกรรมกำหนดเงื่อนไขและกระบวนการเพื่อนิรโทษกรรมคดีนั้นๆ เป็นพิเศษก็ได้
‘ชัยธวัช’ อึ้งหน้าตาสว.ชุดใหม่ไม่ตรงปก หลายคนดูท่าฝากผีฝากไข้ไม่ได้ ถามอนาคตเราควรจะมีหรือไม่
https://www.matichon.co.th/politics/news_4651233
‘ชัยธวัช’ อึ้งหน้าตาสว.ชุดใหม่ไม่ตรงปก หลายคนดูท่าฝากผีฝากไข้ไม่ได้ ถามอนาคตเราควรจะมีหรือไม่
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 27 มิถุนายน ที่รัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงรายชื่อ 200 ส.ว. หลังจากการเลือกระดับประเทศวานนี้ (26 มิ.ย.) ว่า จากที่ติดตามมีข้อสังเกตว่า ส.ว.ส่วนใหญ่อาจจะเข้าไปเชื่อมโยงกับนักการเมืองบางกลุ่ม และ ส.ว.หลายท่านที่เข้ามาด้วยระบบแบบนี้ก็ถูกตั้งคำถามเรื่องคุณสมบัติว่าเป็นไปตามเจตนารมณ์ของกลุ่มอาชีพจริงหรือไม่ แต่เมื่อหน้าตาของ ส.ว.ชุดใหม่เป็นแบบนี้ ตนคิดว่าคงทำให้มีคำถามมากขึ้นว่าในอนาคตเราควรจะมี ส.ว.อยู่หรือไม่ เพื่ออะไร
และสำหรับคนที่ไม่พอใจหรือผิดหวังกับหน้าตา ส.ว.ชุดใหม่นี้ ไม่อยากให้คิดเพียงประเด็นเฉพาะหน้า แต่ทั้งนี้ต้องไปสืบสวนว่ามีการใช้เงิน ทอง ในการได้มาซึ่ง ส.ว.ตามที่มีการกล่าวหากันหรือไม่ เรื่องนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องทำงานหนัก และเราคิดว่าถ้า กกต.ไม่มีผลงานในขณะที่ผู้สมัครหลายท่านยืนยันตรงกันว่ามีการเสนอทรัพย์สิน เงินทอง ในการให้ไปเข้ากลุ่มเพื่อเลือก ส.ว.กัน และทาง กกต.ก็อาจจะมีปัญหาในการได้รับความไว้วางใจกับประชาชน
“ผมคิดว่าอยากให้สนใจมากกว่าประเด็นเฉพาะหน้าคือถึงเวลาที่ตั้งคำถามตัวโตๆ ว่าในเมื่อเราพยายามออกแบบ ส.ว.และหน้าตาออกมาแบบนี้สุดท้ายต้องกลับมาว่าเราจะมีวุฒิสภาไว้ทำอะไร ถ้าตอบไม่ได้ก็ไม่ต้องมี ดีกว่าตอบไม่ได้และก็ต้องพยายามมาออกแบบกระบวนการได้มาซึ่ง ส.ว.พิสดารแบบนี้ ดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์ต่อสาธารณะเลย แต่ถ้าตอบได้ว่ามีความจำเป็นอยู่ในแง่ของสถาบันทางการเมือง ก็ต้องออกแบบการได้มาซึ่ง ส.ว.ให้สอดคล้องกับเป้าหมาย และวันนี้เห็นแล้วว่าความพยายามที่จะหาข้ออ้างว่าต้องมี ส.ว.เพื่อเป็นตัวแทนของกลุ่มอาชีพ ไม่เป็นจริง จะออกแบบมาอย่างไรก็ไม่เป็นจริง” นายชัยธวัชกล่าว
เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรที่ ส.ว.จากฝ่ายประชาธิปไตย ผ่านเข้ารอบมา 20 เปอร์เซ็นต์ นายชัยธวัชกล่าวว่า เยอะถึงขนาดนั้นเลยหรือ แต่อย่างไรก็ตาม ตนไม่แน่ชัดว่าคนไหนจะถือเป็น ส.ว.ฝ่ายประชาธิปไตยบ้าง แต่มีความยินดีกับ ส.ว.ที่มาด้วยความมุ่งมั่น และไม่ได้ใช้วิธีการใช้เงิน เพื่อได้มาซึ่งคะแนนเสียง ที่สามารถหลุดรอดมาจากระบบเช่นนี้ได้ แม้ว่าจำนวนอาจจะไม่ได้มากนัก แต่เชื่อว่าก็อาจจะสามารถทำหน้าที่ได้อย่างโดดเด่น
เมื่อถามว่าการเลือก ส.ว.มีข้อร้องเรียนเยอะ มองว่าจะส่งผลให้ ส.ว.ชุดเก่า ปฏิบัติหน้าที่ต่อหรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่แน่ใจว่า กกต.จะใช้วิธีการรับรองไปก่อน และไปสอยทีหลังหรือไม่ หากเป็นเช่นนี้ ก็คงไม่กระทบ แต่ถ้ามีเรื่องร้องเรียน และ กกต.จะตรวจสอบทีเดียวก่อนรับรองทั้งหมดนั้น จะนานแน่นอน แต่มองว่า ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะกฎหมายได้ระบุระยะเวลาไว้ชัดเจนว่า ต้องประกาศรับรองภายในเมื่อไหร่ และต้องรับรองพร้อมกันทั้งหมด แต่คาดหวังว่า กกต.จะรับรองไปก่อน ทั้งนี้ เมื่อดูรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือก ส.ว.แล้ว ยอมรับว่ามี ส.ว.หลายคนที่น่าจะทำหน้าที่ได้ดีแต่ก็ไม่ได้เยอะมาก แต่ในทางกลับกันก็ดูเหมือนว่า อาจจะทำให้หลายๆ คนยิ่งกังวลมากขึ้นอีกว่า จะสามารถฝากผีฝากไข้ได้หรือไม่
ชาวเลย ผิดหวังตัวแทนส.ว.บางคน ไม่สมเป็นผู้กลั่นกรองกม. เขียนประวัติยังไม่ถึงบรรทัด
https://www.matichon.co.th/politics/thai-senate-2024/news_4651138
ชาวเลย ผิดหวังตัวแทน ส.ว.บางคน ไม่สมเป็นผู้กลั่นกรอง กม. เขียนประสบการณ์ยังไม่ถึงบรรทัด คาดมีหน้าที่ ยกมือ ตามคำสั่งผู้อยู่เบื้องหลัง
เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน หลังการเลือก ส.ว.ระดับประเทศ และได้ว่าที่ ส.ว.ทั้งหมด 200 คน โดย กกต.ยังมีสำรองไว้อีก 100 คน ผลปรากฏว่า ตัวแทนกลุ่มอาชีพที่สมัคร ส.ว.จากจังหวัดเลย ได้เข้าเป็นว่าที่ถึง 5 คน ทำให้มีกระแสวิจารณ์ว่า ว่าที่ ส.ว.บางคนไม่สมกับตำแหน่ง ซึ่งเป็นสภาสูงมีหน้าที่สำคัญในการพิจารณาตัวบทกฎหมาย การพัฒนาของประเทศไทย
นายสุรพงษ์ (สงวนนามสกุล) เผยว่า หลังจากที่ กกต.ได้ประกาศรายชื่อว่าที่ ส.ว.ออกมา ปรากฏว่าจังหวัดเลย ได้มีตัวแทนเข้าไปถึง 5 คน ต้องยอมรับ บางคนมีความเหมาะสมดี แต่ก็มีหลายคนที่ไม่มีความเหมาะสมเลย ชาวบ้านชาวเมืองเลย ต่างรู้ดีว่าผู้สมัครที่ได้รับการคัดเลือกส่วนใหญ่มาจากสังกัดที่ไหน เด็กของใครในจังหวัดเลย อย่างบางคนการศึกษาจบ ป.4 เขียนประสบการณ์ยังไม่ถึงบรรทัด หรือเป็นเด็กพนักงานในบริษัท ในสำนักงานของนักการเมืองอะไรอย่างนี้ ความสง่างาม ความสามารถ และผู้ที่เลือกลงคะแนนให้เขาเอาอะไรมาตัดสิน
เสียดายผู้สมัครบางคนที่ไม่ผ่านเข้าไป คุณสมบัติดี ความรู้ดี แต่ก็ไม่ผ่านเข้าไประดับประเทศ แบบนี้สภา ส.ว.จะมีความสง่างามตรงไหน คาดว่าผู้ที่เข้าไปมีหน้าที่ฟังและยกมือ เมื่อผู้อยู่เบื้องหลังสั่งการ หน้าที่หลักคงเท่านี้ กับ ส.ว.2567
เครือสหพัฒน์ เผย เศรษฐกิจไทยครึ่งปีแรก เงียบมาก เเนะรัฐออกมาตรการกระตุ้น
https://ch3plus.com/news/economy/ruangden/406058
ผู้บริหารเครือสหพัฒน์ ระบุ เศรษฐกิจไทยในครึ่งปีแรก ถือว่าเงียบมาก เเนะรัฐออกมาตรการกระตุ้น
นายธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการและประธานกรรมการบริหาร ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีแรก ถือว่าเงียบมาก สะท้อนจากยอดขายที่ไตรมาสแรก ถือว่าดีอยู่ แต่ในไตรมาส 2 เงียบมาก โดยเฉพาะกลุ่มเสื้อผ้าและแฟชั่น ที่ยอดตกลงไปมากกว่า 30% เนื่องจากประชาชนไม่กล้าใช้จ่าย ขณะที่ผลกระทบจากต้นทุนทั้งด้านขนส่งที่ปรับขึ้นอีก 9% ยอมรับกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้า แต่จะยังไม่มีการขึ้นราคาสินค้าในขณะนี้ โดยเฉพาะกลุ่มบะหมี่สำเร็จรูป เพราะเป็นสินค้าจำเป็นสำหรับประชาชน โดยจะใช้วิธีปรับประสิทธิภาพการทำงาน เพื่อชดเชยต้นทุนที่สูงขึ้นแทน และเห็นว่าในครึ่งหลังของปี รัฐาลต้องมีมาตรการช่วยลดภาระให้ประชาชน เช่น ค่าน้ำ-ค่าไฟ เป็นต้น รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น
ขณะที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา เดินหน้าขยายช่องทางการตลาดให้กับสินค้า GI จัด GI Market สัญจร ประเดิมที่แรก ที่จังหวัดอุดรธานี นำสินค้า GI จากทั่วประเทศ เช่น ทุเรียนภูเขาไฟ ศรีสะเกษ , ส้มโอทับทิมสยาม ปากพนัง , มะขามหวาน เพชรบูรณ์ ไปเปิดตลาดในภาคอีสาน เพื่อช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับผู้ผลิตและผู้ประกอบการ GI ในชุมชน โดยปัจจุบันสินค้า GI เป็น Soft Power ที่สำคัญ ที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าชุมชน ซึ่งปัจจุบันมีสินค้าที่ขึ้นทะเบียน GI ในประเทศแล้ว 205 รายการ และในต่างประเทศ 8 รายการ สร้างมูลค่าการตลาดรวมกว่า 71,000 ล้านบาท