เข้าสู่วันที่ 2 เสียงระฆังดังกังวานปลุกเด็กขี้เซาให้ตื่น เน็ตตื่นมาสักพักแล้ว โลกแห่งเด็ก ทำเอาเน็ตเกือบไม่มีเวลาได้นอน
วันนี้เด็กมากมายปรากฏขึ้นในสวนสนุก สิ่งนี้เนี่ยแหละที่ทำให้เน็ตรู้สึกว่าตัวเขาไม่ได้เล่นอยู่คนเดียว
อหิงสาตัวตลกเดินมามอบลูกโป่งให้กับเน็ตที่ปรากฏขึ้นมา เขารับมา แต่มีเด็กคนหนึ่งใช้มือตบลูกโป่งจนเน็ตตกใจ
“ไม่ดีนะครับ” อหิงสาตัวตลกเอ่ย
“ก็แค่ลูกโป่ง อยู่มือของคุณก็มีตั้งเยอะ”
อหิงสาเข้าใจความคิดของเด็กไม่รู้ความ เขาเลยไปจับไหล่ของเด็กคนนั้น แล้วส่งขึ้นไปบนฟ้าด้วยลูกโป่ง
“ทำอะไร ปล่อยฉันนะ” เด็กดื้อโวยวายแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลย
เน็ตเริ่มรู้สึกกลัวอหิงสา ในระหว่างนั้นอหิงสามีปีกก็ถือภารกิจประจำวันบนกระจกสะท้อนให้เน็ตดู
“เล่นเครื่องเล่น 3 อย่าง รางวัล 1 เหรียญ” เน็ตอ่านตามที่เห็น
“ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องอันธพาล เพราะพวกผมจะปกป้องผู้เล่นเสมอ” อหิงสาปลอบใจเน็ตก่อนจะหยิบลูกโป่งให้เน็ตอีกครั้ง
“เอาไว้ทำอะไรล่ะ”
“แน่ะ รู้ได้ไง ทุกอย่างที่ทำส่งผลต่อรางวัลที่จะได้ตอนจาก”
เน็ตไม่ค่อยชอบการเสี่ยงโชคแต่ก็เคยเล่นมาก่อน
“หากเดินไปทางร้านไอศรีมแล้วเลี้ยวซ้าย ตรงนั้นจะมีภารกิจให้ทำ”
ไม่มีอะไรต้องเสีย เน็ตเดินถือลูกโป่งไปแล้วเลี้ยวซ้าย เส้นทางนั้นมีการแข่งดึงชักเย่ออยู่ พอคนอื่นที่จะเล่นเห็นเน็ตเข้า เขาก็รีบชวน
“เหลือคนเดียว นายน่ะมาดึงให้หน่อย”
เน็ตมัดลูกโป่งที่ข้อมมือด้านขวา ชักเย่อฝั่งละห้า อหิงสารูปร่างใหญ่โตยืนสองขาและมีใบหน้าเหมือนคนเหยียบเชือกและกล่าว
“นับหนึ่งสองสามและดึงเลยนะ”
อีกฝ่ายของดึงเชืกคือผู้หญิงทั้งหมด แต่ร่างกายของผู้หญิงวัยนี้จะเจริญเติบโตได้ไวกว่าผู้ชาย เมื่อนับถึงสาม การดึงเชือกก็เริ่ม
แค่พริบตา ขาที่ยั้งไว้ก็ไถลไปกับพื้น ฝั่งชนะไม่ใช่ของเน็ต เน็ตตกใจแบบสุด ๆ ฝั่งตนเหมือนได้เปรียบของรูปร่าง ทำไมถึงแพ้ได้
“ฝั่งชนะจะได้เหรียญในวันพรุ่งนี้ สวนฝ่ายแพ้ไม่ได้”
การที่เน็ตแพ้หมดรูป ทำให้ได้เห็นว่าทุกอย่างไม่ได้เป็นไปตามที่คิด แถมตอนนี้เด็กทุกคนที่รู้ก็เล่นเครื่องเล่นที่ง่ายกว่าการแข่งขันเพื่อทำภารกิจให้สำเร็จ เน็ตเลยมานั่งกินไอศรีมรสมะพร้าวอยู่หน้าร้านใกล้ ๆ
“อ้าวมานั่งทำอะไรอยู่ที่นี่ครับเนี่ย” บล็อกบินลงมา ชุดประจำสีเหลืองทำให้โดดเด่นกว่าใครเพื่อน
“คุณบล็อก”
“ถ้าผมทำภารกิจลับสำเร็จผมจะพาไปเล่นในที่ที่สนุกนะครับ” พูดจบก็บินออกไป
ไอศรีมที่เน็ตกินไปหมดพอดิบพอดีกับอหิงสามีปีกนำเหรียญด้านหนึ่งเป็นพระอาทิตย์กับอีกด้านเป็นพระจันทร์
ขณะเดียวกันรถมอเตอร์ไซค์สามคันก็แล่นผ่านหน้าเน็ตไป เน็ตมองตาและตะลึงว่าในพื้นสีขาวจะมีรถให้ขี่ด้วย
แดดเริ่มร้อนขึ้น รู้สึกได้เลยขณะอยู่ที่ร่ม ถึงพระอาทิตย์จะไม่ขยับไปไหนอยู่ตรงหัวทุกครั้ง สิ่งนี้เลยบ่งบอกว่าดินแดนที่เน็ตอยู่ไม่ใช่โลกมนุษย์
อหิงสา เน็ตเริ่มอยากรู้เรื่องพวกเขาในขณะที่ภารกิจยังไม่เสร็จ เห็นตัวไหนมาเขาก็ถาม
“คุณอหิงสาครับ คุณทำหน้าที่อะไรครับ” ทุกคำตอบก็มักจะเป็นแนวเดียวกัน
“ทำตามคำสั่งครับ”
“ใครสั่ง”
“ถ้าอยากเจอจริง ๆ แค่คุณทำตามภารกิจประจำวันที่ที่นี่ให้ครบ” นี่เป็นคำตอบที่แตกต่างจากตัวอื่น ๆ
คิดว่าเน็ตอยากออกจากที่นี่เหรอ ผมอยากอยู่อาศัยไปพักใหญ่ แต่ระหว่างนั้นก็มีบทสนทนาของคนที่ดูมาที่นี่นานพูดว่า
“ถ้าอยู่ที่นี่เกินกำหนด ทุกคนจะกลายเป็นคนแก่ และถูกขังไว้”
เน็ตได้ยินจึงเชื่อ เพราะเขาสงสัยเรื่องนี้ตอนที่เข้ามาในสวนสนุกแล้ว เขาทำไมถูกย้อนกลับเป็นเด็ก
แต่แทนที่เน็ตจะทำภารกิจในช่วงเช้า เขากลับนึกขึ้นได้ว่าเวลาของกลางวันและกลางคืนเท่ากัน กลางคืนถึงจะหนาวอยู่เล็กน้อยแต่ยอดคนไปเล่น เป็นไปได้ว่าจะน้อยกว่าตอนกลางวัน
เน็ตเดินหาอสิงหาเพื่อถาม
“คุณอหิงสาครับ มีวิธีที่จะเดินทางไปสวนสนุกตอนกลางคืนไหมครับ”
อสิงหาตอบกลับ “มี แต่ทำไมต้องไปด้วยครับ ที่นี่มีเครื่องเล่นเยอะกว่าดินแดนนั้นอีกนะ”
“มันต้องต่อคิวน่ะครับ มันจะนานเกินไป ผมยังไม่ผ่านภารกิจประจำวันสักอย่างอยู่เลย นี่ก็น่าจะครึ่งวันแล้ว”
อหิงสาได้ยินอย่างนั้นก็บอกด้วยความไม่เต็มใจ
“ไปที่ตู้โทรศัพท์และกดหมายเลข 007”
เน็ตเริ่มมองหาทันที เขาพบมันอย่างเร็ว
“ขอบคุณมากครับ”
“ถ้ามีปัญหาอะไร ทางด้านนั้นก็ช่วยคุณได้นะ แต่สภาพแวดล้อมอาจจะไม่ได้ดีมากนะ ระวังตัวด้วย”
อหิงสาเตือน เน็ตเดินไปที่ตู้โทรศัพท์ในทันที กดหมายเลขตามที่อหิงสาบอก แต่ตู้ไม่ทำงาน ในมือของเขามีเหรียญอยู่ 1 เหรียญ ตู้โทรศัพท์นี้เป็นไปได้ว่าต้องหยอดเหรียญก่อน และมันก็ทำงาน
เน็ตถึงที่หมาย มองสันทยาตัวเขียวเดินผ่านเยอะแยะมากกว่าเด็ก
ถึงจะมองขึ้นฟ้าอันมืดมิด แต่ก็ได้แสงดวงดาวทำให้บรรยากาศดูเงียบสงบ
“คุณสันทยาครับ มีที่ไหนพอจะทำภารกิจประจำวันเสร็จภายใน 3 เครื่องเล่นไหมครับ”
“ทำไมถึงต้อง 3 เครื่องเล่น”
“อหิงสาบอกอย่างนั้น”
“ทางดินแดนพระจันทร์ คุณสามารถเลือกภารกิจประจำวันได้เอง เหรียญจะขึ้นอยู่กับความยาก ยิ่งเครื่องเล่นหวาดเสียว หรือยากเกินปรกติแต่เล่นจนเสร็จ คุณก็จะได้เหรียญมากกว่าหนึ่งในการเล่นครั้งเดียว”
เน็ตค่อนข้างตกใจ แต่ก็ต้องทำเวลากับหนึ่งวันกับภารกิจประจำวันที่จะจบอีกแค่ชั่วโมง
“ผมขอคุณสันทยาสักอย่างได้ไหมครับ”
“ได้ ถามมาเลย”
“มีเครื่องเล่นไหนที่คนเล่นน้อยครับ”
“ตามผมมาหรือจะขี่ผมก็ได้”
“เอาเดินตามดีกว่าครับ” เน็ตเกรงใจ แม้จะรู้แม้กระทั่งสามารถกินพวกเขาได้ แต่แบบนัเนมันแย่ยิ่งกว่าแย่
สุดท้ายก็มาถึงเครื่องเล่นอย่างว่า มีคนเล่นอยู่นิดหน่อย เน็ตเห็นและรู้ว่านี่คือเครื่องเล่นที่เมื่อขี่ จะต้องจับที่จับเพื่อไม่ให้ผู้เล่นตก ยิ่งขี่อยู่นานจะมีรางวัลให้ตามนาที
เน็ตมองคนเล่นตกลงหัวขมำบนพื้นนุ่มนิ่ม
“มีใครเล่นต่อไหมครับ” สันทนาถาม
“ไม่มี…” เธอหยุดคำพูดตนเองไว้ “จะเล่นม้าโยกกี่ครั้งคะ เพราะมีคนที่อยากทำรายสถิติเครื่องเล่นนี้อยู่”
“เล่นเอาภารกิจประจำวันครับ” เน็ตตอบแทนขึ้นมา
“ต้องเล่นให้ถึง 30 วินาทีค่ะ” ในหมู่เพื่อนหญิงบอก
“งั้นผมจะเล่นเลยนะครับ” เน็ตเดินขึ้นไปนั่งบนม้าโยกจับแท่งที่อยู่อยู่ด้านหน้า
ม้าโยกเริ่มขยับไปด้านหน้าทีด้านหลังที วินาที 32 เขาก็ตกลง
“32 วิ” หญิงที่จะทำลายสถิติบอกแก่เน็ต
“แปลว่าผมผ่านแล้ว”
“ใช่ค่ะ”
“สันทยา มีที่อื่นที่คนน้อย ๆ เล่นกันหรือเปล่า”
“มีอยู่ ชิงช้าสวรรค์ ไม่ค่อยมีใครขึ้นเล่นตอนกลางคืนสักเท่าไหร่”
“พาไปเลยครับ”
ชิงช้าสวรรค์เสร็จ ไปต่อที่รถไฟเหาะ เล่นตอนกลางคืนดูแปลก ๆ ยังไงไม่รู้ แต่สุดท้ายเน็ตก็ผ่านภารกิจประจำวันไปได้
อากาศหนาวค่อย ๆ จางลง การที่มีผู้ช่วยแบบอหิงสา ทำให้การเล่นของเขาผ่านไปอย่างรวดเดียวและมั่งคง
เน็ตอยากกลับบ้าน เขาเลยถามสันทยาที่เดินมา
“คุณสันทยาครับ จะกลับดินแดนพระอาทิตย์ได้ยังไงครับ”
“คุณมีเหรียญหรือเปล่า”
“ไม่มีเลยครับ”
“ทำไมคุณไม่เข้าไปที่เล่นที่หอคอยร้อยชั้นล่ะ”
อย่างกับเกม “ในนั้นมีอะไรครับ”
“แก้ปริศนา ถ้าผ่านชั้นต่าง ๆ ได้ จะได้รางวัลด้วยนะ แต่แค่ครั้งเดียว”
เน็ตชอบเล่นเกมนะ สิ่งนี้เลยเป็นสิ่งท้าทายเขาว่าต้องลอง แต่เกมที่เล่นก็เป็นแค่เกมตู้
ด้านหน้ามีเด็กหลายคนทั้งนั่งและยืนต้องการจะท้าทายความสามารถ แต่เมื่อคนที่เข้าไปและเดินออกมาจากหอคอย หลายคนเลยเลือกที่จะสนับสนุนหรือไม่ก็เลิก
มุมหนึ่งด้านหน้ามีคนตะโกนเรียกคนเข้าไปเป็นกลุ่ม แค่ชั้นแรกเคลียร์ก็จะออกมา
Morning Star 2 Ver.1.2 เล่นเครื่องเล่นให้สนุก
วันนี้เด็กมากมายปรากฏขึ้นในสวนสนุก สิ่งนี้เนี่ยแหละที่ทำให้เน็ตรู้สึกว่าตัวเขาไม่ได้เล่นอยู่คนเดียว
อหิงสาตัวตลกเดินมามอบลูกโป่งให้กับเน็ตที่ปรากฏขึ้นมา เขารับมา แต่มีเด็กคนหนึ่งใช้มือตบลูกโป่งจนเน็ตตกใจ
“ไม่ดีนะครับ” อหิงสาตัวตลกเอ่ย
“ก็แค่ลูกโป่ง อยู่มือของคุณก็มีตั้งเยอะ”
อหิงสาเข้าใจความคิดของเด็กไม่รู้ความ เขาเลยไปจับไหล่ของเด็กคนนั้น แล้วส่งขึ้นไปบนฟ้าด้วยลูกโป่ง
“ทำอะไร ปล่อยฉันนะ” เด็กดื้อโวยวายแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลย
เน็ตเริ่มรู้สึกกลัวอหิงสา ในระหว่างนั้นอหิงสามีปีกก็ถือภารกิจประจำวันบนกระจกสะท้อนให้เน็ตดู
“เล่นเครื่องเล่น 3 อย่าง รางวัล 1 เหรียญ” เน็ตอ่านตามที่เห็น
“ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องอันธพาล เพราะพวกผมจะปกป้องผู้เล่นเสมอ” อหิงสาปลอบใจเน็ตก่อนจะหยิบลูกโป่งให้เน็ตอีกครั้ง
“เอาไว้ทำอะไรล่ะ”
“แน่ะ รู้ได้ไง ทุกอย่างที่ทำส่งผลต่อรางวัลที่จะได้ตอนจาก”
เน็ตไม่ค่อยชอบการเสี่ยงโชคแต่ก็เคยเล่นมาก่อน
“หากเดินไปทางร้านไอศรีมแล้วเลี้ยวซ้าย ตรงนั้นจะมีภารกิจให้ทำ”
ไม่มีอะไรต้องเสีย เน็ตเดินถือลูกโป่งไปแล้วเลี้ยวซ้าย เส้นทางนั้นมีการแข่งดึงชักเย่ออยู่ พอคนอื่นที่จะเล่นเห็นเน็ตเข้า เขาก็รีบชวน
“เหลือคนเดียว นายน่ะมาดึงให้หน่อย”
เน็ตมัดลูกโป่งที่ข้อมมือด้านขวา ชักเย่อฝั่งละห้า อหิงสารูปร่างใหญ่โตยืนสองขาและมีใบหน้าเหมือนคนเหยียบเชือกและกล่าว
“นับหนึ่งสองสามและดึงเลยนะ”
อีกฝ่ายของดึงเชืกคือผู้หญิงทั้งหมด แต่ร่างกายของผู้หญิงวัยนี้จะเจริญเติบโตได้ไวกว่าผู้ชาย เมื่อนับถึงสาม การดึงเชือกก็เริ่ม
แค่พริบตา ขาที่ยั้งไว้ก็ไถลไปกับพื้น ฝั่งชนะไม่ใช่ของเน็ต เน็ตตกใจแบบสุด ๆ ฝั่งตนเหมือนได้เปรียบของรูปร่าง ทำไมถึงแพ้ได้
“ฝั่งชนะจะได้เหรียญในวันพรุ่งนี้ สวนฝ่ายแพ้ไม่ได้”
การที่เน็ตแพ้หมดรูป ทำให้ได้เห็นว่าทุกอย่างไม่ได้เป็นไปตามที่คิด แถมตอนนี้เด็กทุกคนที่รู้ก็เล่นเครื่องเล่นที่ง่ายกว่าการแข่งขันเพื่อทำภารกิจให้สำเร็จ เน็ตเลยมานั่งกินไอศรีมรสมะพร้าวอยู่หน้าร้านใกล้ ๆ
“อ้าวมานั่งทำอะไรอยู่ที่นี่ครับเนี่ย” บล็อกบินลงมา ชุดประจำสีเหลืองทำให้โดดเด่นกว่าใครเพื่อน
“คุณบล็อก”
“ถ้าผมทำภารกิจลับสำเร็จผมจะพาไปเล่นในที่ที่สนุกนะครับ” พูดจบก็บินออกไป
ไอศรีมที่เน็ตกินไปหมดพอดิบพอดีกับอหิงสามีปีกนำเหรียญด้านหนึ่งเป็นพระอาทิตย์กับอีกด้านเป็นพระจันทร์
ขณะเดียวกันรถมอเตอร์ไซค์สามคันก็แล่นผ่านหน้าเน็ตไป เน็ตมองตาและตะลึงว่าในพื้นสีขาวจะมีรถให้ขี่ด้วย
แดดเริ่มร้อนขึ้น รู้สึกได้เลยขณะอยู่ที่ร่ม ถึงพระอาทิตย์จะไม่ขยับไปไหนอยู่ตรงหัวทุกครั้ง สิ่งนี้เลยบ่งบอกว่าดินแดนที่เน็ตอยู่ไม่ใช่โลกมนุษย์
อหิงสา เน็ตเริ่มอยากรู้เรื่องพวกเขาในขณะที่ภารกิจยังไม่เสร็จ เห็นตัวไหนมาเขาก็ถาม
“คุณอหิงสาครับ คุณทำหน้าที่อะไรครับ” ทุกคำตอบก็มักจะเป็นแนวเดียวกัน
“ทำตามคำสั่งครับ”
“ใครสั่ง”
“ถ้าอยากเจอจริง ๆ แค่คุณทำตามภารกิจประจำวันที่ที่นี่ให้ครบ” นี่เป็นคำตอบที่แตกต่างจากตัวอื่น ๆ
คิดว่าเน็ตอยากออกจากที่นี่เหรอ ผมอยากอยู่อาศัยไปพักใหญ่ แต่ระหว่างนั้นก็มีบทสนทนาของคนที่ดูมาที่นี่นานพูดว่า
“ถ้าอยู่ที่นี่เกินกำหนด ทุกคนจะกลายเป็นคนแก่ และถูกขังไว้”
เน็ตได้ยินจึงเชื่อ เพราะเขาสงสัยเรื่องนี้ตอนที่เข้ามาในสวนสนุกแล้ว เขาทำไมถูกย้อนกลับเป็นเด็ก
แต่แทนที่เน็ตจะทำภารกิจในช่วงเช้า เขากลับนึกขึ้นได้ว่าเวลาของกลางวันและกลางคืนเท่ากัน กลางคืนถึงจะหนาวอยู่เล็กน้อยแต่ยอดคนไปเล่น เป็นไปได้ว่าจะน้อยกว่าตอนกลางวัน
เน็ตเดินหาอสิงหาเพื่อถาม
“คุณอหิงสาครับ มีวิธีที่จะเดินทางไปสวนสนุกตอนกลางคืนไหมครับ”
อสิงหาตอบกลับ “มี แต่ทำไมต้องไปด้วยครับ ที่นี่มีเครื่องเล่นเยอะกว่าดินแดนนั้นอีกนะ”
“มันต้องต่อคิวน่ะครับ มันจะนานเกินไป ผมยังไม่ผ่านภารกิจประจำวันสักอย่างอยู่เลย นี่ก็น่าจะครึ่งวันแล้ว”
อหิงสาได้ยินอย่างนั้นก็บอกด้วยความไม่เต็มใจ
“ไปที่ตู้โทรศัพท์และกดหมายเลข 007”
เน็ตเริ่มมองหาทันที เขาพบมันอย่างเร็ว
“ขอบคุณมากครับ”
“ถ้ามีปัญหาอะไร ทางด้านนั้นก็ช่วยคุณได้นะ แต่สภาพแวดล้อมอาจจะไม่ได้ดีมากนะ ระวังตัวด้วย”
อหิงสาเตือน เน็ตเดินไปที่ตู้โทรศัพท์ในทันที กดหมายเลขตามที่อหิงสาบอก แต่ตู้ไม่ทำงาน ในมือของเขามีเหรียญอยู่ 1 เหรียญ ตู้โทรศัพท์นี้เป็นไปได้ว่าต้องหยอดเหรียญก่อน และมันก็ทำงาน
เน็ตถึงที่หมาย มองสันทยาตัวเขียวเดินผ่านเยอะแยะมากกว่าเด็ก
ถึงจะมองขึ้นฟ้าอันมืดมิด แต่ก็ได้แสงดวงดาวทำให้บรรยากาศดูเงียบสงบ
“คุณสันทยาครับ มีที่ไหนพอจะทำภารกิจประจำวันเสร็จภายใน 3 เครื่องเล่นไหมครับ”
“ทำไมถึงต้อง 3 เครื่องเล่น”
“อหิงสาบอกอย่างนั้น”
“ทางดินแดนพระจันทร์ คุณสามารถเลือกภารกิจประจำวันได้เอง เหรียญจะขึ้นอยู่กับความยาก ยิ่งเครื่องเล่นหวาดเสียว หรือยากเกินปรกติแต่เล่นจนเสร็จ คุณก็จะได้เหรียญมากกว่าหนึ่งในการเล่นครั้งเดียว”
เน็ตค่อนข้างตกใจ แต่ก็ต้องทำเวลากับหนึ่งวันกับภารกิจประจำวันที่จะจบอีกแค่ชั่วโมง
“ผมขอคุณสันทยาสักอย่างได้ไหมครับ”
“ได้ ถามมาเลย”
“มีเครื่องเล่นไหนที่คนเล่นน้อยครับ”
“ตามผมมาหรือจะขี่ผมก็ได้”
“เอาเดินตามดีกว่าครับ” เน็ตเกรงใจ แม้จะรู้แม้กระทั่งสามารถกินพวกเขาได้ แต่แบบนัเนมันแย่ยิ่งกว่าแย่
สุดท้ายก็มาถึงเครื่องเล่นอย่างว่า มีคนเล่นอยู่นิดหน่อย เน็ตเห็นและรู้ว่านี่คือเครื่องเล่นที่เมื่อขี่ จะต้องจับที่จับเพื่อไม่ให้ผู้เล่นตก ยิ่งขี่อยู่นานจะมีรางวัลให้ตามนาที
เน็ตมองคนเล่นตกลงหัวขมำบนพื้นนุ่มนิ่ม
“มีใครเล่นต่อไหมครับ” สันทนาถาม
“ไม่มี…” เธอหยุดคำพูดตนเองไว้ “จะเล่นม้าโยกกี่ครั้งคะ เพราะมีคนที่อยากทำรายสถิติเครื่องเล่นนี้อยู่”
“เล่นเอาภารกิจประจำวันครับ” เน็ตตอบแทนขึ้นมา
“ต้องเล่นให้ถึง 30 วินาทีค่ะ” ในหมู่เพื่อนหญิงบอก
“งั้นผมจะเล่นเลยนะครับ” เน็ตเดินขึ้นไปนั่งบนม้าโยกจับแท่งที่อยู่อยู่ด้านหน้า
ม้าโยกเริ่มขยับไปด้านหน้าทีด้านหลังที วินาที 32 เขาก็ตกลง
“32 วิ” หญิงที่จะทำลายสถิติบอกแก่เน็ต
“แปลว่าผมผ่านแล้ว”
“ใช่ค่ะ”
“สันทยา มีที่อื่นที่คนน้อย ๆ เล่นกันหรือเปล่า”
“มีอยู่ ชิงช้าสวรรค์ ไม่ค่อยมีใครขึ้นเล่นตอนกลางคืนสักเท่าไหร่”
“พาไปเลยครับ”
ชิงช้าสวรรค์เสร็จ ไปต่อที่รถไฟเหาะ เล่นตอนกลางคืนดูแปลก ๆ ยังไงไม่รู้ แต่สุดท้ายเน็ตก็ผ่านภารกิจประจำวันไปได้
อากาศหนาวค่อย ๆ จางลง การที่มีผู้ช่วยแบบอหิงสา ทำให้การเล่นของเขาผ่านไปอย่างรวดเดียวและมั่งคง
เน็ตอยากกลับบ้าน เขาเลยถามสันทยาที่เดินมา
“คุณสันทยาครับ จะกลับดินแดนพระอาทิตย์ได้ยังไงครับ”
“คุณมีเหรียญหรือเปล่า”
“ไม่มีเลยครับ”
“ทำไมคุณไม่เข้าไปที่เล่นที่หอคอยร้อยชั้นล่ะ”
อย่างกับเกม “ในนั้นมีอะไรครับ”
“แก้ปริศนา ถ้าผ่านชั้นต่าง ๆ ได้ จะได้รางวัลด้วยนะ แต่แค่ครั้งเดียว”
เน็ตชอบเล่นเกมนะ สิ่งนี้เลยเป็นสิ่งท้าทายเขาว่าต้องลอง แต่เกมที่เล่นก็เป็นแค่เกมตู้
ด้านหน้ามีเด็กหลายคนทั้งนั่งและยืนต้องการจะท้าทายความสามารถ แต่เมื่อคนที่เข้าไปและเดินออกมาจากหอคอย หลายคนเลยเลือกที่จะสนับสนุนหรือไม่ก็เลิก
มุมหนึ่งด้านหน้ามีคนตะโกนเรียกคนเข้าไปเป็นกลุ่ม แค่ชั้นแรกเคลียร์ก็จะออกมา