ผมควรเลือกช้อยส์ไหนดีกับการดูแลแม่ ผมรู้สึกเครียดมากๆ

ขอเกริ่นก่อนนิดหน่อยครับ โดยนิสัยแม่เป็นคนที่อยู่กับน้องชาย ไม่ชอบอยู่กับคนเยอะ และแม่เป็นคนเจ้าระเบียบ ปากค่อนข้างไว ใครทำอะไรไม่ถูกใจแกก็จะ พูดจะต่อว่าเลย แต่มา 2 ปีหลัง น้องชายกับน้องสะใภ้ถูกศาลสั่งจำคุกคนละ 10 ปี แถมทาวน์เฮ้าส์ชื่อของแม่ ๆ ก็แอบเอาไปจำนองค้ำประกันให้น้องชายเพื่อเอาเงินมาหมุนบริษัทสุดท้ายก็เจ๊งโดนยึด โดยที่ไม่ปรึกษาหรือให้ผมรู้เลย ส่วนบ้านเดี่ยวของน้องชายที่แม่เคยอยู่ก็โดนธนาคารยึดเหมือนกัน ผมเลยต้องหาที่อยู่ให้กับแม่เลยให้แม่ไปอยู่ที่มูลนิธิบ้านพักผู้สูงอายุ ที่ ตจว. ซึ่งเป็นของคริสต์จักร แต่ด้วยที่แม่เคยชินกับการอยู่คนเดียวและไม่ปรับตัว อีกทั้งในนั้นมีกฎระเบียบมีกิจกรรม ซึ่งผมก็เข้าใจการจัดการของเค้า แม่มักทะเลาะกับคนดูแลอะไรไม่ถูกใจก็จะโวยวายด่า จนล่าสุดทาง จนท.มูลนิธิเรียกผมไปคุยบอกว่าผมต้องหาที่อยู่ใหม่ให้แม่เพราะเค้ารับมือไม่ไหว ซึ่งผมไม่เคยโกรธหรือไม่พอใจทางมูลนิธิเค้าเลย เพราะรู้ว่าแม่ผมเป็นคนยังไง ซึ่งตอนนี้ผมกำลังหาทางออกซึ่งมี 3 ทางคือ

       ทางเลือกที่ 1. หาศูนย์ดูแลผู้สูงอายุแถวบ้าน ซึ่งผมพอหาได้ในราคา 16,000 - 17,000 นั้นทำให้ผมมีค่าใช้จ่ายต่อเดือนเพิ่มจากเดิม 10,000 บาท ผมให้ทางมูลนิธิทุกวันนี้เดือนละ 6 พัน ซึ่งผมก็คงต้องกัดฟันยอมจ่ายไปเพื่อแม่
       ทางเลือกที่ 2. ภรรยาผมบอกว่าให้เอาแม่มาอยู่ทาวน์โฮม 3 ชั้น ของภรรยาที่กำลังจะว่างลงในเดือน สค. นี้เพราะคนเช่าปัจจุบันจะหมดสัญญา แฟนคิดค่าเช่า 10,000 บาท แต่ผมกังวลว่าถ้าวันที่น้องชายออกมาจากเรือนจำแล้วไม่มีที่อยู่ แม่จะต้องให้น้องชายมาอยู่ ซึ่งผมไม่ OK กับน้องชายเพราะหลาย ๆ เรื่องที่น้องชายก่อไว้ ทุกวันนี้ที่แม่ไม่มีที่อยู่ เงินทองไม่เหลือก็เพราะน้องชาย น้องชายกับน้องสะใภ้ยังโกงเงินผมไป 130,000 บาท แถมแม่ก็ยังเคยแอบมาหาแม่ยายผมเพื่อมาขอเงินไปช่วยน้องเรื่องคดีความ หนี้สินที่น้องชายกับน้องสะใภ้ทำไว้
       ทางเลือกที่ 3. ด้วยที่แม่เคยบอกว่าอยากให้ผมไปหาห้องเช่นไม่แพง ซึ่งผมหาได้ 1 ที่ ราคา 4พัน  / เดือน ให้เค้าเพราะเค้าชอบที่จะอยู่คนเดียวแต่เป็นตัวเลือกสุดท้ายที่ผมไม่อยากเลือกทางนี้ เพราะคนอายุ 80 กว่าไม่อยากให้อยู่คนเดียว ผมเป็นห่วงแม่ 

              บางคนอาจจะมีคำถามว่าทำไมผมไม่เอาแม่มาอยู่กับครอบครัวผม เนื่องจากทุกวันนี้ผมอยู่บ้านภรรยาที่พ่อตามเค้าสร้างให้ลูกสาวเค้า และผมไม่อยากเอาแม่ผมมาอยู่ใกล้กับครอบครัวฝั่งภรรยา เพราะรู้นิสัยของแม่ดีว่าถ้ามาแล้วคงจะมารบกวน และอาจมาวุ่นวายทางครอบครัวภรรยา ช่วงก่อนที่น้องชายจะเข้าเรือนจำ แม่ผมมาหาแม่ยายผมไม่ต่ำกว่า 2 รอบ เพื่อมาหาเงินไปช่วยน้องชาย ผมต้องหาเงินสดไปคืนแม่ยายผม 9 พัน เพราะไม่อยากให้ผิดใจกันเรื่องเงิน ทั้งที่แม่ยายบอกว่าผมทะยอยคืนก็ได้ แต่ผมถือเป็นความรับผิดชอบที่แม่ผมมารบกวนเค้า วันดีคืนดีแม่มาไล่เคาะประตูทาวน์โฮมที่พี่น้องภรรยาปล่อยเช่าทุกห้อง เพื่อมาขอเงินแลกกับเช๊คไปช่วยน้อง ซึ่งหลายๆ สิ่งที่แม่ทำ แม่ไม่เคยรับรู้เลยว่าผมจะรู้สึกยังไง คิดแต่เพียงขอให้ได้ช่วยลูกคนเล็ก

            ทุกวันนี้ในชีวิตผม ๆ เครียดเรื่องที่บ้านผมที่สุด เรื่องานหรือเรื่องอื่นๆ ไม่มีปัญหา บางครั้งตอนผมขับรถเพลิน ๆ ผมเคยแอบคิดอยากจะขับรถให้เร็ว ๆ แล้วพุ่งชนเสาไฟฟ้าให้มันตายๆ ไปซะ จะได้จบไม่ต้องมารับรู้หรือมารับผิดชอบปัญหาที่ผมไม่ได้เป็นคนก่อ เพราะก่อนจะมาถึงวันนี้ผมผ่านความเครียด ความกดดัน หลายๆ อย่างทั้งจากแม่และน้องชาย ใจหนึ่งก็สงสารแม่ สงสารน้องชาย แต่อีกใจก็แอบน้อยใจ เสียใจว่าทำไมครอบครัวผมถึงได้เละเทะได้ขนาดนี้ เรื่องทาวน์เฮาส์ของแม่ทั้งผม ทั้งญาติเคยเตือนแม่แล้วหลายครั้งแกก็ไม่ฟัง บางเรื่องผมก็ไม่รู้จะเล่าหรือระบายให้กับภรรยาหรือคนรอบข้างฟังได้ มันอึดอัดในใจมาตลอด ผมต้องขออภัยล่วงหน้าทุกคนที่เข้ามาอ่านในสิ่งที่ผมมาบ่นให้ฟังครับ ใครจะด่าหรือว่าผมก็ได้ครับ ผมยินดีเพราะปัญหาที่ผมเจอผมน่าจะโพสหลายรอบแล้ว แต่ให้ผมหักดิบให้แม่ไปนอนข้างถนนผมก็ทำไม่ลงครับ ซึ่งแม่ก็บอกผมว่าถ้าผมไม่ดูแลเค้า ๆ จะขอไปนอนขอทานข้างถนน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่