ทำรถแฟนเลอะต้องโกรธและด่าขนาดนี้เลยเหรอ

กระทู้คำถาม
คือทำน้ำจิ้มเลอะเบาะรถด้านหลังเป็นหนังพอดีคืนนั้นจะไปตัดแว่นแล้วเผลอหยิบกระเป๋าแล้วทำน้ำจิ้มหกค่ะ เค้ากำลังจอดรถพอดีเราก็ร้องตกใจเค้าก็ถามทำไรหกเราก็บอกว่าน้ำจิ้ม เราก็เลยรีบลงจากรถพร้อมทิชชู ก็รีบเช็ดๆๆ ทิชชู่หมดเราก็รีบวิ่งเข้าในห้องน้ำห้างเพื่อเอาทิชชูและกดสบู่ใส่ทิชชูมาด้วยรีบวิ่งมาเช็ดต่อ พอมาถึงเห็นเค้าลงมายืนแล้วเอาโทรศัพท์ส่องแล้ว พูดว่าโยิ้มโคตรเยอะเลย ฝายิ้มก็ปิดไม่สนิทดี ทำไรว่ะ โหยิ้ม เราก็รีบเช็ดๆๆ แต่ไม่ได้ขอโทษนะตั้งใจจะทำให้เสร็จเรียบร้ยแล้วค่อยขอโทษ คิดแบบนั้นจริงๆ แต่ก็ยังโมโหเลือกขึ้นฟน้าและด่าไม่หยุดแต่ละคำโคตรเจ็บ คนเดินผ่านไปมาที่จอดรถหันมามองกันเต็มเราโคตรอาย คือที่มีแฟนมากก็ไม่เคยเจอแบบนี้ เราก็ตั้งหน้าตั้งตาเช็ดเค้าบอกยิ้มไม่ระวังเลย คือคำด่าทั้งนั้นบางคำหยาบไม่อยากพิมพ์ค่ะ เราก็บอกเอานั่นอะดิไม่ระวังเลยไม่คิดว่ามันจะหก ทีนี้แว่นไม่ตัดแล้วเราบอกงั้นไปหาร้านล้างรถเค้าบอกป่านนี้จะไปหาที่ไหน แล้วมันก็ไม่เอาเบาะออกมาเช็ดให้หรอกเราก็บอกว่าก็ถ้าจ่ายเพิ่มเค้าคงถอดให้มั้ง เค้าด่าๆๆเสีนงดังมากน้ำจิ้มยิ้มเอามาอยากกินแล้วยิ้มไม่ดูให้ดีๆทำไมไม่แขวนวะ โหยิ้ม ทีนี้เราเริ่มไม่ไหวแล้วเลยได้เถียงกันเลยอารมณ์เราก็มาเต็มเหมือนกันคือไม่โต้ตอบแต่ยังด่าไม่หยุด คือในใจตอนแรกที่ไม่ขอโทษเพราะอยากรีบๆทำให้ดีแต่ขอโทษในใจนะว่าฉันขอโทษแต่อีกอย่างที่ไม่พูดออกมาเพราะว่าเค้าด่าไม่หยุดจะดูว่าจะหยุดด่าเมื่อไหร่ คือเราไม่ชอบทะเลาะเสียงดังและไม่ชอบให้คนอื่นเห็นอายคน แต่ผู้ชายคนนี้ไม่สนเลยไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนใส่หมด เราก็เลยถามว่านี่ต้องโมโหขนาดนี้เลยเหรอ มันต้องขนาดนี้เลย ฉันไม่ได้อยู่เฉยๆก็รีบทำความสะอาดให้เค้าบอกนี่กูไม่มีสิทธิ์โกรธรึโมโหเลย เราก็บอกอย่าขึ้นกูไม่ชอบเค้าบอกแล้วใคาพูดก่อนเราบอกไม่ได้พูดซักคำ เธอมีสิทธิ์แต่มันต้องขนาดนี้เลยถ้าฉันทำแล้วไม่รับผิดชอบเออเธอด่าแบบนี้ได้เลย เค้าบอกโห้ะยิ้มขอโทษสักคำยิ้มยังไม่มีเลย คือเค้าพูดและใส่อารมณ์เหมือนผู้หญิงเลย หาร้านล้างรถไม่ได้ปิดหมดแล้วพอถึงบ้านเราก็รีบเอาที่เป่าลม ทิชชู น้ำยาล้างจาน แหนบ สำลีมารีบทำความสะอาด ก็นั่งทำไปเค้าก็พูดไม่หมดหรอกเราก็บอกให้ถอดเบาะเค้าบอกมันยาก เราก็บอกงั้นก็ดูคลิปสอนถอดเดี๋ยวเราถอดเองเค้าบอกมันไม่ง่าย พอเค้าบอกพอแล้ว สักพักเค้าดูคลิปสอนถอดแล้วบอกว่าเอ้ายิ้มง่ายนิดเดียวแค่ตัวเกี่ยว ก็ถามเราว่าถอดเลยมั้ย เราก็บอกก็ลงไปถอดเลย เราก็เอาของลงไปทำความสะอาดอีกรอบ เลยได้เห็นว่าน้ำจิ้มที่หกเยอะมันหกบนเบาะเยอะจริงแต่มันไหลลงใต้เบาะน้อยมากแต่ที่ยากตอนทำความสะอาดก็คือมันหกลงในช่องที่เสียบเข็มขัดนิรภัย เรื่องผ่านมา 2 วันจนตอนนี้ยังไม่คุยกันเลยค่ะ อยากรู้ว่าผู้ชายทุกคนห่วงรถ รักรถมากเบอร์นี้เลยเหรอคะ แต่เราก็เข้าใจนะคือเวลาเค้าดื่มเมาขับรถชน เฉี่ยวโน่นนีมันก็คงแค่ภายนอกเพราะประกันเครมได้และเค้าทำเอง แต่นี่เราเป็นคนทำรถเค้าเค้าเลยด่าเรา ขนาดตอนนั้นเราเปิดประตูม้วนเค้าขับเข้ามาจอดพอลงมาเค้าอารมณ์ขึ้นเลยบอกเอ้าเธอเปิดแค่นี้เองเหรอรถข้างบนยิ้มเป็นรอยหมดแล้วมั้งเราก็บอกไม่เป็นไม่โดนเค้าบอกทำไมจะไม่โดนตอนขับเข้ามายังรู้สึกเลย เราก็บอกก็เห็นอยู่ เราเลยรีบเดินไปเอาเก้าอี้มาปีนและทิชชูเปียกกับแห้งมาเช็ดแล้วบอกให้เค้าดู บอกนี่ไงมาดูซิมันมีที่ไหน ไม่มีสักรอย เค้าไม่ดูแต่ก็ยังพูดว่าเธอมองไม่เห็นหรอก เอ้าก็นี่ไงงั้นเธอขึ้นมาดูเอง เค้าก็ไม่ดูเราเลยเอาเก้าอี้ไปเก็บแต่ทุกวันนี้ก็ยังนึกนะว่าไม่เห็นแต่ใส่อารมณ์โทษเราแบบเต็มเหนี่ยว แล้วเรื่องถอดเบาะอีกบอกยากแต่ไม่ยากเลยเราก็ไม่เอามาพูดนะชั่งมัน

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
เลิกครับ

สิ่งของ ไม่ใช่สิ่งที่อยู่กับเราตลอดไป ถ้าไม่รักษาน้ำใจคนที่เรารัก มันจะมีประโยชน์อะไรที่จะอยู่ร่วมกัน

ส่วนตัว ลูก-ภรรยา สำคัญ กว่าสิ่งของ เพราะ สิ่งของ พังก็หาใหม่ได้ หรือแม้แต่ไม่พัง จำเป็นก็ขายได้ เพื่อให้ลูก-ภรรยา ไม่ลำบาก
ความคิดเห็นที่ 36
แยกประเด็นก่อน

- คนที่รักรถมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก แบบนี้มีจริง บางนคนห้ามเอาของกินขึ้นรถด้วยซ้ำ ใส่รองเท้าเปียกน้ำมาห้ามขึ้น

- แต่โกรธแล้ว ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ คนละเรื่องกับรักรถ บางคนจัดการความโกรธได้ดีครับ แต่แฟนคุณดูไม่น่าจะใช่

ปัญหาของแฟนคุณไม่ใช่เรื่องรักรถ แต่เป็นเรื่องจัดการอารมณ์

ผู้ชายรักรถ ก็ไม่ต่างกับ ผู้หญิงรักของแบรนเนม ถ้ามีคนทำน้ำจิ้มหกใส่ LV, Chanel ก็คงจะโกรธเหมือนกันแหละ

แต่การจัดการความโกรธ คือสิ่งที่สำคัญกว่า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่