ถ้าพูดถึงร้านบุฟเฟ่ต์แนวที่มีเปิดมากที่สุดในประเทศไทยเรา ก็คงจะเป็น หม้อต้มชาบู อย่างเเน่แท้ ซึ่งแต่ละร้านถ้าอยากได้ลูกค้าเข้ามากๆ
ก็ต้องมีกลยุทธ์กันหน่อย ไม่ว่าจะเป็น เมนูแปลกๆ ราคา ไปจนถึงธีมของร้าน ซึ่งข้อหลังนี้ มีร้านชาบูอยู่เจ้าหนึ่งที่แปลกแหวกร้านอื่นๆอย่างเด่นชัด
นั่นคือ Shabu Lab เป็นอีกหนึ่งร้านที่ผมได้แต่เฉียดไปเฉี่ยวมา ทั้งที่เล็งไว้แสนนาน มาวันนี้ ถึงความเก็บตกร้านที่อยู่ในลิสต์เสียที

Shabu Lab สาขาที่ผมมาโดนวันนี้คือ สาขาม.เกษตรครับ ตั้งอยู่ในซอยบนเส้นพหลโยธิน จากกรมพัฒนาที่ดินเลยมา 2 ซอย ก็จะถึง
ร้านจะเปิดอยู่สุดซอยที่เต็มไปด้วยตึกห้องเช่าเก่าแก่รอบบริเวณ

ที่พูดว่าแหวกแนวนั้นก็คือแบบนี้ไงครับ ธีมร้านจะมาเป็นแนวห้องแลปวิทยาศาสตร์ ตามสมัยที่เราเรียน Lab เคมีไรพวกนี้เลย
ทั้งบรรยากาศห้อง โต๊ะ เก้าอี้ ทางเดิน ที่ดูดควัน รวมไปถึง แก้วน้ำที่เป็นบีกเกอร์ เรียกได้ว่าย้อนวัยสมัยเรียนกันเลย

บุฟเฟ่ต์ที่ร้านจะมีราคาเดียว นั่นคือ 379 บาท ราคานี้รวมทั้งน้ำดื่ม และเวลากินีท่ไม่จำกัดเข้าไปเเล้ว และ ดูเหมือนร้านจะไม่เน้นความหลากหลาย
ของอาหารมาก แต่จะเน้นความหลากหลายทางซุปและน้ำจิ้มให้ลูกค้ามาเลือกสรรเติมแต่งกันเอาเอง โดยพวกซุป เครื่องปรุงต่างๆ รวมไปถึงน้ำจิ้ม
จะมีให้บริการแบบจุใจบนบาร์ด้านหน้าร้าน

โดยซุปหลักๆจะมี 6 รสชาติ คือ ชีส กิมจิ หมาล่า ต้มยำ พริกเผา และ ต้มแจ่ว ซึ่งจะมีหัวน้ำซุปในขวดฟาสก์กับเครื่องปรุงไว้ผสมน้ำซุปในกระปุก
แยกแต่ละชนิดของซุป ซึ้งนี่แหละคือจุดเด่น เราสามารถเลือกน้ำซุปได้มากกว่า 1 อย่าง ละผสมลงในหม้อเรา รังสรรค์รสชาติให้หม้อต้มของเรา
ได้ตามใจชอบ

พวกผักและน้ำก็เติมเอาที่สเตชั่นด้านหลังครับ

น้ำดื่มจะมีทั้งน้ำอัดลมขวด แล้วก็อัญชัญกับเก็กฮวยแบบกด เติมใส่บีกเกอร์แล้วกินทั้งยังงี้เลย

ผมลองเอาซุปแบบเบสิคๆมาก่อนครับ นั่นก็คือ น้ำดำ

อาหารกับหม้อน้อยๆพร้อมแล้ว เริ่มลงมือกินได้

แฮม เป็นแฮมไก่ เนื้อแฮมค่อนข้างกระด้างและแห้ง ไม่มักเท่าไหร่เลย
หมึกบั้ง เด้งๆกรุบๆรสชาติยังกะลูกชิ้นปลาผสมกับแมงกะพรุน รสชาติก็พอใช้ได้ แข็งคอไปหน่อย ตอนกลืน

หมูสามชั้น มันหอม และเนื้อเด้ง นุ่มลื่นลิ้นเป็นทื่สุด
สันคอหมู หอมมันหมูละมุนกว่าสามชั้น แต่น่าเสียดายที่ล็อตหลังๆมันไม่มีเลย ความอร่อยเลยดรอปลงไปมาก

ถึงคราวของเนื้อวัวครับ ส่วนโหนก นุ่มเปื่อยอร่อย แต่รสคาววัวค่อนข้างมาก
เนื้อท้องวัว รสหวานกลิ่นมันแอบแรงไปนิด

สามชั้นชิ้นบางพอเหมาะพอเจาะต่อการแกว่งในน้ำซุปเดือดๆ ห้าหกจ๋อมก็คีบเข้าปากได้แล้ว

เนื้อวัวนี่ยิ่งลวกนานยิ่งคาว แปลกแต่จริง เพราะงั้นต้องลวกแบบสุกพอประมาณ แล้วไปจุ่มไข่ แก้คาวได้เยอะ


ของกินเล่นเป็น ชีสบอลทอด ไปตักได้ข้างๆจุดตักน้ำน่ะแหละครับ ไส้ผสมมันฝรั่ง รสค่อนข้างหวานร่วน ไส้ชีสแน่น แต่ไม่ค่อยมันเท่าไหร่
ออกเเข็งเป็นก้อนๆคล้ายโมจิ

ลองน้ำจิ้มมาสามสูตร คือ น้ำจิ้มพอนสึ นี่รสมะนาวจ๋าเลย ส่วนงา มันถั่ว แอบขมๆ ส่วนสุกี้กวางตุ้ง เปรี้ยวหวานพอใช้

สั่งรอบสอง สามชั้นดูดีขึ้น ส่วนสันคอชีช้ำมากเลยฮะ

ลองเปลี่ยนซุปใหม่ดู คราวนี้ขอแบบชีส เอาลงไปผสมกับน้ำดำที่เหลือๆนั่นแหละ

มันก้นหม้อเยอะมากๆ ทั้งมันหมู แล้วยังมีกระเทียมเจียวที่โรยเข้าไปอีก(แถมมาให้กับซุปชีส)

ถ้าอยากเจือจาง ก็เอาน้ำซุปเปล่าเติมลงไปได้

อันนี้ คือ ออเดอร์หลงมาครับ หมูนุ่ม สั่งไว้ตั้งแต่เริ่ม เพิ่งจะมา รสชาติไปทางหมูเด้งในชามร้านก๋วยเตี๋ยวทั่วไป


ด้วยความซน เลยผสมซุปแบบเกาหลีลงไปด้วย ได้รสชาติเผ็ดๆตามแบบพวกโคชูจัง ที่เห็นมันลอยย่องแบบนั้นคือ ผมผสมไปสามรอบนะ
ถ้าใครไม่อยากกินรสเข้มจัดก็ให้น้องเขาเปลี่ยนหม้อได้เลยครับ
ตัดเกรด
รสชาติอาหาร : ****
พวกเนื้อที่นี่อยู่ในเกรดปกติทั่วไป เนื้อหมูมีมันเยอะมันน้อยแล้วแต่ดวง รสชาติก็ถือว่าดี นุ่มนวลเบาบาง แล่มาได้บางสมส่วนเหมาะต่อการต้มชาบู
เป็นที่สุด เนื้อวัวจัดว่ากลิ่นแรงเอาการเลย ต้องดับด้วยพวกน้ำจิ้มซะเยอะ หมึกบั้งแทบไร้รสชาติ แต่อย่างน้อยๆก็มีเนื้อสัมผัสกรุบกรอบ
ให้อารมณ์เหมือนกินแมงกะพรุนได้บาง และให้ดีกว่าแฮมไก่ที่ ไม่มีอะไรเลย น้ำซุปกับน้ำจิ้มรสจัดครับ ร้านเขาคงให้เน้นผสมกันล่ะมั้ง
ถ้ากินเพียวๆก็แสบลิ้นอยู่นะ
อร่อยมากสุด : หมูสามชั้นสไลด์
อร่อยน้อยสุด : แฮมไก่
บรรยากาศในร้าน : ****
ตกแต่งได้แปลกตา เป็นแนวห้องทดลองแบบสมัยเรียน อันนี้คือดี แต่พื้นที่จัดว่าคับแคบมาก ที่นั่งเป็นเก้าอี้กับโต๊ะเป็นเหล็กทั้งดุ้น นั่งไม่สบายเท่าไรนัก
การบริการ : ****
น้องๆดูไม่พร้อมบริการเท่าไหร่ตอนที่ผมเข้าร้านไป ยังง่วนแต่ในครัว การรับออเดอร์และจุดขายของร้านอย่างการผสมซุป ก็ไม่แนะนำอะไรเลย
ความหลากหลาย : ***
เมนูไม่มีอะไรเลย นั่นคือเนื้อทั้งหมดของร้านที่ผมสั่งมาแล้ว เน้นน้ำซุปหลายรสชาตินั่นแหละ
ราคา : ****
สำหรับชาบูที่ไม่มีออฟชั่นเสริมใดๆในเมนู ผมว่าแรงเอาการ แต่ที่แพงกว่าเจ้าอื่นๆก็ตีว่าเป็นค่าเปลี่ยนน้ำซุปก็ละกัน
การเข้าถึง : ****1/2
ร้านอยู่สุดซอยพหลโยธิน เส้นขาเข้า ม.เกษตรครับ ตัวร้านใหญ่สะดุดตา เส้นนั้นรถติดอย่างหนัก แถมหน้าซอยนี้ก็ไม่มีเลขซอยบอกอย่างชัดเจนด้วย
จำง่ายๆว่าเลยกรมที่ดินมาครับ แล้วคอยมองซ้ายเจอซอยที่สองด้านหน้าก็เตรียมเลี้ยวเลย
ความคุ้มค่า : ****
สำหรับผมให้กลางๆครับ เนื้อหมูสไลด์มาดี คุ้มตรงที่กินได้เรื่อยๆไม่จำกัดเวลา ได้สนุกกับการปรุงแต่งน้ำซุปและน้ำจิ้มอันหลากหลาย
แต่ถึงจะบอกว่าไม่จำกัดเวลา บรรยากาศร้านคงไม่เหมาะต่อการนั่งแช่นานๆแน่ เพราะร้านแคบ ที่นั่งเเข็ง และคนเยอะจัดถ้าไม่อยากจริงๆหรือเน้นไปกินเพื่อเปิดประสบการณ์หรือเอาคอนเท็นท์ ผมว่าเลี่ยงไปกินร้านชาบูร้านอื่นจะดีกว่า
ภาพรวม : ****
[CR] BufFeast Review : "Shabu Lab" บุฟเฟ่ต์หม้อต้มธีมห้องแลปและซุปอันหลากหลาย @ซอยพหลโยธิน ติดม.เกษตรฯ
ก็ต้องมีกลยุทธ์กันหน่อย ไม่ว่าจะเป็น เมนูแปลกๆ ราคา ไปจนถึงธีมของร้าน ซึ่งข้อหลังนี้ มีร้านชาบูอยู่เจ้าหนึ่งที่แปลกแหวกร้านอื่นๆอย่างเด่นชัด
นั่นคือ Shabu Lab เป็นอีกหนึ่งร้านที่ผมได้แต่เฉียดไปเฉี่ยวมา ทั้งที่เล็งไว้แสนนาน มาวันนี้ ถึงความเก็บตกร้านที่อยู่ในลิสต์เสียที
Shabu Lab สาขาที่ผมมาโดนวันนี้คือ สาขาม.เกษตรครับ ตั้งอยู่ในซอยบนเส้นพหลโยธิน จากกรมพัฒนาที่ดินเลยมา 2 ซอย ก็จะถึง
ร้านจะเปิดอยู่สุดซอยที่เต็มไปด้วยตึกห้องเช่าเก่าแก่รอบบริเวณ
ที่พูดว่าแหวกแนวนั้นก็คือแบบนี้ไงครับ ธีมร้านจะมาเป็นแนวห้องแลปวิทยาศาสตร์ ตามสมัยที่เราเรียน Lab เคมีไรพวกนี้เลย
ทั้งบรรยากาศห้อง โต๊ะ เก้าอี้ ทางเดิน ที่ดูดควัน รวมไปถึง แก้วน้ำที่เป็นบีกเกอร์ เรียกได้ว่าย้อนวัยสมัยเรียนกันเลย
บุฟเฟ่ต์ที่ร้านจะมีราคาเดียว นั่นคือ 379 บาท ราคานี้รวมทั้งน้ำดื่ม และเวลากินีท่ไม่จำกัดเข้าไปเเล้ว และ ดูเหมือนร้านจะไม่เน้นความหลากหลาย
ของอาหารมาก แต่จะเน้นความหลากหลายทางซุปและน้ำจิ้มให้ลูกค้ามาเลือกสรรเติมแต่งกันเอาเอง โดยพวกซุป เครื่องปรุงต่างๆ รวมไปถึงน้ำจิ้ม
จะมีให้บริการแบบจุใจบนบาร์ด้านหน้าร้าน
โดยซุปหลักๆจะมี 6 รสชาติ คือ ชีส กิมจิ หมาล่า ต้มยำ พริกเผา และ ต้มแจ่ว ซึ่งจะมีหัวน้ำซุปในขวดฟาสก์กับเครื่องปรุงไว้ผสมน้ำซุปในกระปุก
แยกแต่ละชนิดของซุป ซึ้งนี่แหละคือจุดเด่น เราสามารถเลือกน้ำซุปได้มากกว่า 1 อย่าง ละผสมลงในหม้อเรา รังสรรค์รสชาติให้หม้อต้มของเรา
ได้ตามใจชอบ
พวกผักและน้ำก็เติมเอาที่สเตชั่นด้านหลังครับ
น้ำดื่มจะมีทั้งน้ำอัดลมขวด แล้วก็อัญชัญกับเก็กฮวยแบบกด เติมใส่บีกเกอร์แล้วกินทั้งยังงี้เลย
ผมลองเอาซุปแบบเบสิคๆมาก่อนครับ นั่นก็คือ น้ำดำ
อาหารกับหม้อน้อยๆพร้อมแล้ว เริ่มลงมือกินได้
แฮม เป็นแฮมไก่ เนื้อแฮมค่อนข้างกระด้างและแห้ง ไม่มักเท่าไหร่เลย
หมึกบั้ง เด้งๆกรุบๆรสชาติยังกะลูกชิ้นปลาผสมกับแมงกะพรุน รสชาติก็พอใช้ได้ แข็งคอไปหน่อย ตอนกลืน
หมูสามชั้น มันหอม และเนื้อเด้ง นุ่มลื่นลิ้นเป็นทื่สุด
สันคอหมู หอมมันหมูละมุนกว่าสามชั้น แต่น่าเสียดายที่ล็อตหลังๆมันไม่มีเลย ความอร่อยเลยดรอปลงไปมาก
ถึงคราวของเนื้อวัวครับ ส่วนโหนก นุ่มเปื่อยอร่อย แต่รสคาววัวค่อนข้างมาก
เนื้อท้องวัว รสหวานกลิ่นมันแอบแรงไปนิด
สามชั้นชิ้นบางพอเหมาะพอเจาะต่อการแกว่งในน้ำซุปเดือดๆ ห้าหกจ๋อมก็คีบเข้าปากได้แล้ว
เนื้อวัวนี่ยิ่งลวกนานยิ่งคาว แปลกแต่จริง เพราะงั้นต้องลวกแบบสุกพอประมาณ แล้วไปจุ่มไข่ แก้คาวได้เยอะ
ของกินเล่นเป็น ชีสบอลทอด ไปตักได้ข้างๆจุดตักน้ำน่ะแหละครับ ไส้ผสมมันฝรั่ง รสค่อนข้างหวานร่วน ไส้ชีสแน่น แต่ไม่ค่อยมันเท่าไหร่
ออกเเข็งเป็นก้อนๆคล้ายโมจิ
ลองน้ำจิ้มมาสามสูตร คือ น้ำจิ้มพอนสึ นี่รสมะนาวจ๋าเลย ส่วนงา มันถั่ว แอบขมๆ ส่วนสุกี้กวางตุ้ง เปรี้ยวหวานพอใช้
สั่งรอบสอง สามชั้นดูดีขึ้น ส่วนสันคอชีช้ำมากเลยฮะ
ลองเปลี่ยนซุปใหม่ดู คราวนี้ขอแบบชีส เอาลงไปผสมกับน้ำดำที่เหลือๆนั่นแหละ
มันก้นหม้อเยอะมากๆ ทั้งมันหมู แล้วยังมีกระเทียมเจียวที่โรยเข้าไปอีก(แถมมาให้กับซุปชีส)
ถ้าอยากเจือจาง ก็เอาน้ำซุปเปล่าเติมลงไปได้
อันนี้ คือ ออเดอร์หลงมาครับ หมูนุ่ม สั่งไว้ตั้งแต่เริ่ม เพิ่งจะมา รสชาติไปทางหมูเด้งในชามร้านก๋วยเตี๋ยวทั่วไป
ด้วยความซน เลยผสมซุปแบบเกาหลีลงไปด้วย ได้รสชาติเผ็ดๆตามแบบพวกโคชูจัง ที่เห็นมันลอยย่องแบบนั้นคือ ผมผสมไปสามรอบนะ
ถ้าใครไม่อยากกินรสเข้มจัดก็ให้น้องเขาเปลี่ยนหม้อได้เลยครับ
ตัดเกรด
รสชาติอาหาร : ****
พวกเนื้อที่นี่อยู่ในเกรดปกติทั่วไป เนื้อหมูมีมันเยอะมันน้อยแล้วแต่ดวง รสชาติก็ถือว่าดี นุ่มนวลเบาบาง แล่มาได้บางสมส่วนเหมาะต่อการต้มชาบู
เป็นที่สุด เนื้อวัวจัดว่ากลิ่นแรงเอาการเลย ต้องดับด้วยพวกน้ำจิ้มซะเยอะ หมึกบั้งแทบไร้รสชาติ แต่อย่างน้อยๆก็มีเนื้อสัมผัสกรุบกรอบ
ให้อารมณ์เหมือนกินแมงกะพรุนได้บาง และให้ดีกว่าแฮมไก่ที่ ไม่มีอะไรเลย น้ำซุปกับน้ำจิ้มรสจัดครับ ร้านเขาคงให้เน้นผสมกันล่ะมั้ง
ถ้ากินเพียวๆก็แสบลิ้นอยู่นะ
อร่อยมากสุด : หมูสามชั้นสไลด์
อร่อยน้อยสุด : แฮมไก่
บรรยากาศในร้าน : ****
ตกแต่งได้แปลกตา เป็นแนวห้องทดลองแบบสมัยเรียน อันนี้คือดี แต่พื้นที่จัดว่าคับแคบมาก ที่นั่งเป็นเก้าอี้กับโต๊ะเป็นเหล็กทั้งดุ้น นั่งไม่สบายเท่าไรนัก
การบริการ : ****
น้องๆดูไม่พร้อมบริการเท่าไหร่ตอนที่ผมเข้าร้านไป ยังง่วนแต่ในครัว การรับออเดอร์และจุดขายของร้านอย่างการผสมซุป ก็ไม่แนะนำอะไรเลย
ความหลากหลาย : ***
เมนูไม่มีอะไรเลย นั่นคือเนื้อทั้งหมดของร้านที่ผมสั่งมาแล้ว เน้นน้ำซุปหลายรสชาตินั่นแหละ
ราคา : ****
สำหรับชาบูที่ไม่มีออฟชั่นเสริมใดๆในเมนู ผมว่าแรงเอาการ แต่ที่แพงกว่าเจ้าอื่นๆก็ตีว่าเป็นค่าเปลี่ยนน้ำซุปก็ละกัน
การเข้าถึง : ****1/2
ร้านอยู่สุดซอยพหลโยธิน เส้นขาเข้า ม.เกษตรครับ ตัวร้านใหญ่สะดุดตา เส้นนั้นรถติดอย่างหนัก แถมหน้าซอยนี้ก็ไม่มีเลขซอยบอกอย่างชัดเจนด้วย
จำง่ายๆว่าเลยกรมที่ดินมาครับ แล้วคอยมองซ้ายเจอซอยที่สองด้านหน้าก็เตรียมเลี้ยวเลย
ความคุ้มค่า : ****
สำหรับผมให้กลางๆครับ เนื้อหมูสไลด์มาดี คุ้มตรงที่กินได้เรื่อยๆไม่จำกัดเวลา ได้สนุกกับการปรุงแต่งน้ำซุปและน้ำจิ้มอันหลากหลาย
แต่ถึงจะบอกว่าไม่จำกัดเวลา บรรยากาศร้านคงไม่เหมาะต่อการนั่งแช่นานๆแน่ เพราะร้านแคบ ที่นั่งเเข็ง และคนเยอะจัดถ้าไม่อยากจริงๆหรือเน้นไปกินเพื่อเปิดประสบการณ์หรือเอาคอนเท็นท์ ผมว่าเลี่ยงไปกินร้านชาบูร้านอื่นจะดีกว่า
ภาพรวม : ****
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น