ชีวิตก็มีความสุขดี ไม่ได้มีเรื่องทุกข์ใจอะไร แต่ทำไมชอบฟังเพลงเศร้า

ไม่รู้ว่าเพื่อน ๆ เป็นเหมือนกันไหม คือชีวิตของเราก็ปกตินะ มีความสุขดี ไม่ได้มีเรื่องทุกข์ใจอะไร แต่ไม่รู้เป็นอะไรถึงชอบฟังแต่เพลงเศร้า ๆ เพลงอกหัก อะไรทำนองเนี้ยะ จนเพื่อน ๆ มาเห็นเพลย์ลิสต์ต้องถามว่า ช่วงนี้ชีวิตแย่เหรอ?

เพลงเศร้า ยิ่งฟัง ยิ่งช้ำ ยิ่งน้ำตาไหล แต่เพลย์ลิสต์โปรดกลับเต็มไปด้วยเพลงเศร้า เพลงช้า เพลงอกหัก แทนที่จะเป็นเพลงจังหวะสนุกสนาน โจ๊ะๆ ตึงๆ เนื้อหาสดใส

ก็เป็นเรื่องที่น่าสงสัยว่าทำไมเพลงเศร้าหรือหนังเศร้าถึงทำให้คนเราอินได้ ทั้งๆ ที่ไม่ต้องมีประสบการณ์ร่วมใดๆ เลย จึงได้ไปทำความเข้าใจกับ ‘ฟังก์ชัน’ ของเพลงและหนังเหล่านี้ แล้วก็พบว่ามันมีข้อดีต่อการจัดการอารมณ์และการรับรู้ของมนุษย์ได้ดีทีเดียวเลยล่ะ
เราเรียกปรากฏการณ์ที่น่าประหลาดใจนี้ว่า Sadness Paradox หรือ ‘ความเศร้าที่ย้อนแย้ง’ โดยในทางจิตวิทยาอธิบายไว้ว่า เป็นปรากฏการณ์ที่เพลงเศร้าทำให้เรารู้สึกเพลิดเพลิน โดยการสร้างภาพลวงตาของอารมณ์เชิงลบนั้นขึ้นมา กล่าวคือ แม้เราจะไม่ได้เศร้า แต่เราก็สนุกไปกับการฟังเพลงเศร้า หรือหนังเศร้าได้

อันนี้เป็นข้อมูลจากงานวิจัยทางด้านจิตวิทยา ที่ตีพิมพ์ลงในวารสาร Frontiers in Psychology ที่เป็นแหล่งรวบรวมงานวิจัย หรือข้อมูลเกี่ยวกับทางด้านจิตวิทยาโดยเฉพาะ

ในงานวิจัยให้ข้อมูลที่น่าสนใจเอาไว้ว่าดังนี้ครับ

- ช่วยย้อนความหลังเก่าๆ หากพูดถึงเครื่องกระตุ้นความทรงจำ นอกจากรูป รส กลิ่น ก็ยังมี ‘เสียง’ ที่ช่วยให้เราหวนนึกถึงช่วงเวลาที่ผ่านมาได้อีกด้วย ท่วงทำนอง ดนตรี หรือเนื้อหา ทั้งหมดนี้ล้วนสามารถดึงเรากลับไปยืนยังช่วงเวลาและสถานที่เก่าๆ ที่จากมานานแสนนาน อย่างช่วงเวลาสมัยมัธยม มหาวิทยาลัย หรือสมัยเด็ก โดยเฉพาะเพลงเศร้าก็มักจะฝังเรื่องราวความรักความสัมพันธ์เอาไว้ในนั้น ทำให้เราเพลิดเพลินไปกับความหอมหวานของความทรงจำนั้น หรืออาจจะรู้สึกเหงาๆ เศร้าๆ จากการคิดถึงผู้คนในนั้นไปพร้อมกัน

-ช่วยระบายอารมณ์ เพลงเศร้าหรือหนังเศร้าช่วยทำให้ผู้ฟังเกิดอารมณ์ร่วม โดยไม่มีผลกระทบในชีวิตจริง หรือคนนั้นไม่จำเป็นจะต้องประสบกับความเศร้าในชีวิตจริงมาก่อนก็ได้ แต่เมื่อบางคนได้ฟังเพลงเศร้า เขาจะเหมือนได้ระบายความขุ่นมัวหรืออารมณ์เชิงลบในจิตใจออกมา บางครั้งก็ร้องไห้ น้ำตาไหล แม้ไม่รู้ว่าจะมาจากไหนก็ตาม เพราะในทางชีวภาพ เพลงเศร้าจะเชื่อมโยงกับฮอร์โมนโปรแลคติน (Prolactin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนเกี่ยวกับการร้องไห้และระงับความเศร้า โดยเพลงเศร้าจะหลอกให้สมองมีส่วนร่วมในการตอบสนองตาม และปล่อยโปรแลคตินออกมา และหลังจากนั้นเขาจะเกิดความสงบ โล่งใจ เพราะปราศจากความรู้สึกเชิงลบแล้ว- เพลงเศร้าจะมีรูปแบบเพลงที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเอกลักษณ์เฉพาะตัวนั้นจะเข้าไปช่วยขยาย หรือซึมลึกเข้าไปกระตุ้นความรู้สึกเศร้าเสียใจจากเรื่องร้าย ๆ หรือความสูญเสีย ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน หรือในอดีตที่ผ่านมานานมาก ๆ แล้ว

- ซึ่งความรู้สึกที่ว่านั้น มันไม่จำเป็นต้องเกิดกับตัวเองก็ได้ อาจจะเกิดขึ้นกับคนรอบตัว คนรู้จัก หรือ ไปได้ยินจากคนอื่นมา

- ทำให้เห็นอกเห็นใจผู้อื่นมากขึ้น เป็นอีกข้อดีของการฟังเพลงเศร้าที่น่าสนใจ นักจิตวิทยาหลายคนที่ศึกษาเกี่ยวกับการทำงานของเพลง ให้ความเห็นในทางเดียวกันว่า คนที่ชอบฟังเพลงเศร้า หรืออินกับเพลงเศร้า จะเป็นคนที่มีความเห็นอกเห็นใจต่อผู้อื่นสูง เพราะเพลงเศร้ามักจะแฝงเหตุการณ์ที่น่าเศร้าเสียใจเอาไว้ และเมื่อเราได้ฟัง จึงเกิดเป็นกระบวนการที่เราพยายามเข้าใจและรู้สึกถึงความรู้สึกที่อีกคนกำลังประสบอยู่ ผ่านเรื่องราวในเนื้อเพลงนั้นๆ หลังจากได้รู้ว่าคนๆ นั้นเศร้าโศกยังไง ต้องผ่านอะไรมาบ้าง มันจึงกระตุ้นระดับความเห็นอกเห็นใจในจิตใจของเรา ทำให้เราอยากที่จะช่วยเหลือผู้อื่นมากขึ้น

- ในงานวิจัยนี้ เค้าบอกว่ามันจะเกิดขึ้นกับคนที่มีลักษณะนิสัยอยู่อย่างนึง คือเขาใช้คำว่า Being Moved คือเค้าไม่ได้บอกนะว่าเป็นคนจำพวกแบบไหน เพราะมันหาคำอธิบายได้ยากมาก

- แต่ก็พอจะสรุป ๆ ได้ว่า คนจำพวก Being Moved เนี่ย จะเป็นคนที่มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นสูงกว่าปกติทั่วไป (คงจะแนว ๆ ว่าอ่อนไหวง่ายละมั้ง) ซึ่งคนจำพวกนี้จะเป็นคนที่อินกับฟังเพลงเศร้าเป็นพิเศษครับ

- ส่วนสาเหตุที่ว่าทำไมเพลงเศร้า มันถึงทำให้คนที่มีลักษณะ Being Moved มีความสุขเนี่ย เค้าไม่ได้บอกไว้นะ เพราะนี่คืองานวิจัยที่เกี่ยวกับจิตวิทยา

- แต่ก็มีการตั้งข้อสันนิษฐานเอาไว้ว่ามันเกิดจากปฏิกิริยาทางชีวเคมีในร่างกายของเรานี่แหละ คล้าย ๆ แบบเดียวกันกับการร้องไห้ ทำให้เรารู้สึกดีขึ้น จากการหลั่งฮอร์โมน หรือสารเคมีบางอย่างออกมา และร่างกายก็มีการตอบสนอง

ก็หวังว่าเพื่อน ๆ คงจะได้รับประโยชน์จากบทความนี้ไปไม่มากก็น้อยนะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่