ตีแผ่สลากออมทรัพย์“ออมสิน-ธ.ก.ส.”รอบนี้แตกต่าง-คลังผุด“หวยเกษียณ”ร่วมวง

สลากไม่กินทุนมีให้เลือกทั้ง 1-2 ปีของออมสิน และ 3 ปีของ ธ.ก.ส. แถมกระทรวงการคลังเตรียมออก“หวยเกษียณ”มาเสนอขายอีก คอสลากออมทรัพย์แจงสลาก 1 ปีกับ 2 ปีของออมสินต่างที่รางวัลใหญ่และดอกเบี้ย ตั้งแต่รางวัลที่ 3-เลขท้าย 3 ตัวเหมือนกันหมด เลือกให้เหมาะกับตัวเอง ชี้สลากถุงเงินของ ธ.ก.ส.ตัวใหม่พลิกโฉมเงินรางวัล ตัวนี้ไม่มีเลขท้าย แต่เป็นการเอาเงินรางวัล 90 ล้านบาท มากระจายเป็น 1 แสนบาท หมุน 9 ครั้ง หรือ 900 รางวัล เพิ่มโอกาสคนได้รางวัลใหญ่

ในระยะนี้ในแวดวงการออมมีความคึกคักเป็นพิเศษ เนื่องจากเจ้าตลาดสลากออมทรัพย์ ไม่กินทุนอย่างธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) นำเสนอขายสลากออมทรัพย์ของแต่ละธนาคารในระยะเวลาใกล้เคียงกัน แถมกระทรวงการคลังยังจุดประกายส่งเสริมการออมด้วย “สลากเกษียณ” ที่น่าจะเริ่มได้ในช่วงงบประมาณปี 2568 ส่งผลให้

ตลาดเงินออมที่มีความเสียงต่ำในช่วงนี้คึกคักขึ้นมาเป็นพิเศษ
เริ่มกันที่ธนาคารออมสินมีสลากให้เลือกทั้งอายุ 1 ปี และอายุ 2 ปี แต่ค่ายออมสินให้ความสำคัญกับสลาก 1 ปีเป็นพิเศษ เห็นได้จากการอัดโปรโมชั่นใหญ่ถึง 2 ครั้งให้กับสลากรุ่นนี้ ส่วนสลากรุ่น 2 ปี ไม่มีกิจกรรมส่งเสริมการขายพิเศษใด ๆ

ช่วง 1 เมษายน-15 พฤษภาคม 2567 ธนาคารออมสินออกโปรแกรมส่งเสริมการตลาดให้สลาก 1 ปี ด้วยการเพิ่มรางวัลที่ 1 เป็น 111 ล้านบาท(ครั้งเดียว) ออกรางวัลไปเมื่อ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา
 
จาก 111 ล้าน-แจกทอง 10 กิโลฯ
นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า เสียงตอบรับล้นหลามแคมเปญสลากออมสินพิเศษ 1 ปี เงินรางวัลที่ 1 มูลค่าสูงเป็นประวัติศาสตร์ถึง 111 ล้านบาท ในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 111 ปี เพื่อเป็นการส่งเสริมการออม และกระตุ้นให้ประชาชนมีการออมเงินต่อเนื่องด้วยผลตอบแทนที่เหมาะสม
ธนาคารออมสิน ได้ออกแคมเปญใหม่ต่อทันทีกับสลากออมสินพิเศษ 1 ปี ทั้งแบบใบสลาก และสลากดิจิทัล ลุ้นรางวัลพิเศษทองคำแท่งหนัก 10 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 26.5 ล้านบาท อีกจำนวน 1 รางวัล เพื่อกระตุ้นการออมและสามารถลุ้นรางวัลพิเศษได้อีกด้วย
สลากออมสินพิเศษ 1 ปี แคมเปญลุ้นรางวัลพิเศษทองคำแท่งหนัก 10 กิโลกรัม สามารถฝากได้ตั้งแต่ 100 บาท (หน่วยละ 100 บาท) ไม่จำกัดวงเงินรับฝากสูงสุด เปิดรับฝากตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม-15 กรกฎาคม 2567 ซึ่งเมื่อฝากครบกำหนด 1 ปี จะได้รับเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยหน่วยละ 0.35 บาท และยังมีสิทธิลุ้นรางวัลที่ 1 มูลค่า 10 ล้านบาท และรางวัลอื่น ๆ ได้ทุกวันที่ 16 ของทุกเดือน รวม 12 ครั้ง
จุดต่างสลาก 1 ปีกับ 2 ปี
แหล่งข่าวจากวงการสลากออมทรัพย์กล่าวว่า ถ้าดูตลาดสลากออมทรัพย์ทั้งของออมสินและ ธ.ก.ส. ตอนนี้มี 1 ปี 2 ปี และ 3 ปีให้เลือก ของออมสินเป็น 1 ปีและ 2 ปี สลาก ธ.ก.ส. 3 ปี
ที่ไม่นับรวมสลาก ธอส.เป็นเพราะราคาต่อหน่วยสูงมาก ถูกที่สุดคือชุดนาคราช ยังหน่วยละ 1,000 บาท ส่วนสลากรุ่นอื่น ๆ ราคาก็สูงจนยากต่อการเข้าถึง แต่ของออมสินกับ ธ.ก.ส.ราคาต่อหน่วยไม่สูงเข้าถึงง่ายกว่า ก่อนหน้า ธ.ก.ส.เคยออกสลากชุดถุงทอง หน่วยละ 2,000 บาทใช้เวลาขายเป็นเดือนกว่าจะขายหมด แต่ถ้าขายที่ราคา 100 บาทมักจะขายหมดภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
สำหรับค่ายออมสินเป็นสลาก 1 ปีและ 2 ปี ถ้าพิจารณาลงไปในรายละเอียด มีความเหมือนและแตกต่างกันในบางรายการ หากเราศึกษาข้อมูลดี ๆ ก็จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจในการจัดสรรเงินออมที่มี
เริ่มที่ราคาต่อหน่วยเท่ากันคือ 100 บาท ดอกเบี้ยกรณีไม่ถูกรางวัลสลาก 1 ปีให้ 0.35% สลาก 2 ปีให้ 0.5% จำนวนครั้งในการออกรางวัลเท่ากันทั้งแต่รางวัลที่ 1-เลขท้าย 3 ตัว จุดต่างคือรางวัลที่ 1 สลาก 1 ปีให้ 10 ล้านบาทและรางวัลที่ 2 ให้ 1 แสนบาท ส่วนสลาก 2 ปีให้ 30 ล้านบาท รางวัลที่ 2 ให้ 1 ล้านบาท แต่ทั้งรางวัลที่ 1 และ 2 ของทั้ง 2 รุ่นจะสุ่มงวดและหมวดอักษร ตั้งแต่รางวัลที่ 3 จนมาถึงเลขท้าย 3 ตัวของทั้ง 2 รุ่น หมุนรางวัลเท่ากันและให้เงินรางวัลเท่ากัน
พูดง่าย ๆ ต่างที่ดอกบี้ยและรางวัลที่ 1 และ 2 เท่านั้น สลาก 1 ปีมีการอัดโปรโมชั่นใหญ่ให้รางวัลพิเศษมา 2 ครั้งติด ๆ กัน คราวนี้ต้องขึ้นอยู่กับคนมีเงินออมว่าตัวเองเหมาะกับสลาก 1 หรือ 2 ปี
ถ้าต้องการแค่ถูกรางวัลเลขท้าย 3 ตัวทุกเงิน กับการลงทุนด้วยเงินซื้อสลาก 1 แสนบาท จะซื้อรุ่น 1 ปีหรือ 2 ปีก็ได้รางวัลเท่ากับ แค่ได้ดอกเบี้ยต่างกันเท่านั้น หรือถ้าต้องการตื่นเต้นกับโปรโมชั่นลุ้นทองคำก็ต้องสลาก 1 ปี หรือต้องการออมสั้น ๆ เผื่อดอกเบี้ยปรับขึ้นเมื่อครบกำหนดแล้วค่อยต่ออายุหรือย้ายไปช่องทางอื่น ๆ เลือก 1 ปีก็เหมาะเช่นกัน
เรียกว่าแทบไม่ต่างกันระหว่างสลากออมสินรุ่น 1 ปีและรุ่น 2 ปี เรื่องของรางวัลใหญ่เชื่อว่าคนที่เป็นแฟนสลากออมทรัพย์ไม่ว่าจะค่ายไหนก็ยอมรับสภาพได้ว่าเป็นเรื่องยากถึงยากมาก โดยเฉพาะเงื่อนไขที่ต้องสุ่มงวดและหมวดอักษรของสลากออมสิน
 
สลาก ธ.ก.ส. ถุงเงิน
ขณะที่ค่าย ธ.ก.ส.เตรียมเปิดขายสลากถุงเงิน โดยนายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. เปิดรับฝาก “สลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุดถุงเงิน” จำหน่ายในราคาหน่วยละ 100 บาท จำนวน 1,000 ล้านหน่วย แบ่งเป็น 100 หมวด หมวดละ 10 ล้านหน่วย วงเงินรวม 100,000 ล้านบาท อายุการรับฝาก 3 ปี เมื่อฝากครบกำหนด จะได้รับดอกเบี้ยหน่วยละ 1.90 บาท คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.633 ต่อปี
พร้อมลุ้นรางวัลมูลค่า 100,000 บาท จำนวน 900 รางวัลทุกเดือน จำนวน 36 ครั้ง เมื่อรับฝากสลากเต็มวงเงิน และยังมีสิทธิลุ้นรางวัลพิเศษ มูลค่ารางวัลละ 1,000,000 บาท ปีละ 1 ครั้ง ในเดือนพฤศจิกายน รวมทั้งหมด 3 ครั้ง รวมมูลค่ารางวัลทั้งสิ้น 3,243 ล้านบาท จับรางวัลทุกวันที่ 16 ของเดือน ยกเว้นเดือนมกราคม ออกรางวัลในวันที่ 17 มกราคม
เปิดรับฝากสลากผ่านแอปพลิเคชัน BAAC Mobile ตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายนนี้ และเปิดรับฝากผ่านเคาน์เตอร์ ธ.ก.ส.ทุกสาขาทั่วประเทศวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นไป และออกรางวัลครั้งแรกวันที่ 16 กรกฎาคมนี้
 
“ถุงเงิน”กล้ากระจายรางวัล
แฟนคลับสลากออมทรัพย์รายหนึ่งกล่าวว่า เท่าที่ติดตามข้อมูลมาอย่างต่อเนื่อง ถ้าดูให้ดีจะพบว่าเรื่องของรางวัลสลากออมทรัพย์ เริ่มมีแนวคิดที่เปลี่ยนไปจากเดิมสำหรับสลากบางรุ่นของบางธนาคารรัฐ เพียงแต่ไม่เป็นที่พูดถึงกันมากนัก แต่นี่คือความเปลี่ยนแปลง
ถ้าจำไม่ผิดสลากน้องใหม่ค่ายธนาคารอาคารสงเคราะห์ เป็นเจ้าแรกเริ่มเปลี่ยนแปลงก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการหาช่องว่างทางการตลาดหรือเป็นการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าก็ตาม แต่หลายคนไม่พูดถึงเพราะสลาก ธอส.แพงมาก เดิมถูกสุดเกล็ดดาวหน่วยละ 5 พันบาท ต่อมาออกรุ่นนาคราช หน่วยละ 1 พันบาท การตอบรับจึงมีจำกัดไม่เหมาะกับคนทั่วไป
วันนี้อดีตผู้บริหาร ธอส. มานั่งเป็นผู้บริหารที่ ธ.ก.ส. แนวสลาก ธอส.เริ่มเห็นในสลาก ธ.ก.ส. เช่น สลากถุงทองหน่วยละ 2 พันบาท ที่จำหน่ายไปเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2566 ต่างจากสลาก ธ.ก.ส.เดิมที่เคยขายกันมา ทำให้ต้องการใช้ขายราว 2 เดือนกว่าจะปิดโครงการได้ ล่าสุดสลากถุงเงินกลับมาขายที่ราคาหน่วยละ 100 บาท อายุการรับฝาก 3 ปี ครบกำหนด จะได้รับดอกเบี้ยหน่วยละ 1.90 บาท คิดเป็นอัตราดอกเบี้ย 0.633% ต่อปี
รางวัลมูลค่า 100,000 บาท จำนวน 900 รางวัลทุกเดือน จำนวน 36 ครั้ง เมื่อรับฝากสลากเต็มวงเงิน และยังมีสิทธิลุ้นรางวัลพิเศษ มูลค่ารางวัลละ 1,000,000 บาท ปีละ 1 ครั้ง ในเดือนพฤศจิกายน รวมทั้งหมด 3 ครั้ง
ดังนั้นคนที่จะซื้อสลาก ธ.ก.ส.ถุงเงิน ควรต้องศึกษาในรายละเอียดตรงนี้ก่อน เพราะไม่ใช่รางวัลแบบเดิม ที่รางวัลที่ 1 ได้เงินหลักล้าน จนถึงรางวัลเล็กสุดอย่างเลขท้าย 3 ตัว เพราะครั้งนี้ทาง ธ.ก.ส.ให้รางวัลใหญ่สุดคือ 1 แสนบาท แต่หมุนถึง 9 ครั้งหรือ 900 รางวัล เป็นเงิน 90 ล้านบาท
การจัดสรรเงินรางวัลแบบนี้ไม่เน้นที่รางวัลใหญ่ต้องได้เงินมากสุด แต่เป็นการเกลี่ยเงินรางวัลออกไป เพื่อเพิ่มโอกาสให้คนซื้อมีโอกาสถูกรางวัลมากกว่าเดิม อย่างสลากถุงเงินคนมีโอกาสได้เงินแสนมีถึง 900 รางวัล หรือถ้ากำหนดให้เงินรางวัลอยู่ที่ 1 หมื่นบาท โอกาสที่จะได้เงิน 1 หมื่นบาทย่อมเพิ่มเป็น 9,000 รางวัล
อีกทั้งยังมีรางวัลพิเศษ(เสี่ยงหมวด) ปีละ 1 ครั้ง รางวัลละ 1 ล้านบาท เพิ่มเข้ามาอีก
แนวคิดในการจัดสรรเงินรางวัลแบบนี้บางค่ายไม่กล้าใช้ เพราะเกรงว่าจะไม่ดึงดูดเหมือนรูปแบบเดิม จึงไม่ออกรางวัลลักษณะนี้ แต่ในทางปฏิบัติแล้ว ถือว่าเป็นแนวทางหนึ่งที่ลูกค้าจำนวนหนึ่งอาจไม่หวังเรื่องเลขท้าย 3 ตัว แต่หวังรางวัลที่สูงขึ้นการนำเงินรางวัลมาเกลี่ยลักษณะนี้เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง
ที่จริงผู้ออกสลากสามารถที่จะออกแบบเงินรางวัลได้หลากหลายมาก ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละธนาคาร เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าได้ถูกรางวัลได้ง่ายขึ้น
 
หวยเกษียณจ่อคิวออก
นอกจากนี้กระทรวงการคลังกำลังมีการพิจารณานโยบายสลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ (สลากเกษียณ) หรือเรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า "หวยเกษียณ" ซึ่งเป็นนวัตกรรมเชิงนโยบายที่รวมเอาลักษณะการชอบเสี่ยงดวงของคนไทยมาเป็นแรงจูงใจในการเก็บออม ที่สามารถถอนเงินที่ซื้อสลากทั้งหมดออกมาได้ตอนอายุ 60 ปี
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยเมื่อ 6 มิถุนายน 2567 ว่า หวยเกษียณมีลักษณะคล้ายสลากออมทรัพย์ แต่ไม่เหมือน เพราะเป็นระบบแรงจูงใจรูปแบบใหม่ เป็นการซื้อสลากที่เงินไม่หาย กลายเป็นเงินออมยามเกษียณ และยิ่งซื้อมากยิ่งได้ลุ้นมาก และได้เก็บเป็นเงินออมมากขึ้น
สลากเกษียณดำเนินการผ่านกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ในการออกสลากขูดแบบดิจิทัล ใบละ 50 บาท เพื่อขายให้สมาชิก กอช. ผู้ประกันตน มาตรา 40 และแรงงานนอกระบบ ซึ่งมีเป้าหมายราว 16-17 ล้านราย ซื้อได้ไม่เกิน 3,000 บาทต่อเดือน และสามารถซื้อสลากได้ทุกวัน แต่ออกรางวัลทุกวันศุกร์ เวลา 17.00 น.
ผู้ถูกรางวัลจะได้เงินรางวัลทันที โดยที่เงินค่าซื้อสลากถูกเก็บเป็นเงินออม แม้ว่าจะถูกรางวัลหรือไม่ก็ตาม โดยเงินรางวัลแบ่งเป็น รางวัลที่ 1 มูลค่า 1 ล้านบาท จำนวน 5 รางวัล และรางวัลที่ 2 มูลค่า 1,000 บาท จำนวน 10,000 รางวัล โดยเงินรางวัลอาจปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม และเงินค่าซื้อสลากทั้งหมดจะเป็นเงินออมของผู้ซื้อสลาก (เงินสะสม) ซึ่งจะนำเงินส่งเข้าบัญชีเงินออมรายบุคคลกับ กอช. โดย กอช.จะเป็นผู้บริหารจัดการเงินจำนวนดังกล่าว   และเมื่อผู้ซื้อสลากอายุครบ 60 ปี จะสามารถถอนเงินทั้งหมดที่ซื้อสลากมาทั้งชีวิตออกมาได้
เงินรางวัลนั้น จะมาจากงบประมาณ โดยเฉลี่ยสัปดาห์ละ 15 ล้านบาท เดือนละ 60 ล้านบาท และปีละกว่า 700 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับนโยบายเบี้ยคนชราที่ใช้งบประมาณปีละ 4-5 แสนล้านบาท

ลูกผสมสลากออมทรัพย์
แหล่งข่าวกล่าวว่า หวยเกษียณถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการแก้ปัญหาเรื่องกองทุนการออมแห่งชาติที่ดูเหมือนจะไม่ได้รับความนิยมจากภาคแรงงานนอกระบบ จึงต้องแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้คนมีเงินออม ขณะนี้ยังเป็นเรื่องที่อยู่ระหว่างการเตรียมการ ยังมีความไม่แน่นอนในเรื่องรายละเอียด
ที่จริงก็มาลักษณะเดียวกับสลากถุงเงินของ ธ.ก.ส. แต่หวยเกษียณมีรางวัลใหญ่ 1 ล้านบาท 5 รางวัล ให้สังเกตุรางวัลที่ 2 แม้จะได้แค่ 1 พันบาท แต่มี 1 หมื่นรางวัล เพิ่มโอกาสผลตอบแทนของผู้ซื้อได้ดี ที่จริงคนซื้อไม่ได้ไม่หวังรางวัลใหญ่ แต่ถ้าได้มาสัก 1 พันบาทบ้างก็เป็นเรื่องที่ดี

Cr. https://mgronline.com/specialscoop/detail/9670000051336

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่