สมัยเรียนหนังสืออยู่ปี 1 อาจารย์เคยเอาเรื่องสั้นภาษาอังกฤษให้อ่านเรื่องนึง ชื่อเรื่องว่า Little Things Mean a Lot.
ดิฉันจำรายละเอียดในเนื้อเรื่องไม่ได้เป๊ะ ๆ แต่จำได้ราง ๆ ว่า เป็นเรื่องเกี่ยวกับหญิงชราคนหนึ่งที่ฐานะกลาง ๆ ค่อนไปทางไม่ร่ำรวย ใช้ชีวิตตามลำพัง และมีความสุขกับการทำสิ่งดี ๆ เล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิต เช่น แบ่งขนมให้กับเด็ก พูดจาให้กำลังใจคนที่กำลังมีทุกข์
ที่ใจกระหวัดถึงเรื่องสั้นเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะเมื่อวานได้มีโอกาสไปทำบุญกับเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ที่สนิทใจกันมาก สามีก็ไปด้วย รู้สึกมีความสุข อมยิ้มในใจอยู่ตลอดเวลา ก็เลยย้อนมาถามตัวเองว่า ในวัยขนาดนี้ ความสุขของตัวเองอยู่ที่ไหน ? รู้สึกขอบคุณอะไร ? ทำไมถึงมีสุขรื่น ๆ ในใจแบบเย็น ๆ นักเมื่อได้มาอยู่ในวงล้อมของเพื่อนฝูงบางกลุ่ม ก็ได้คำตอบกับตัวเองว่า สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สามี ลูก คนในครอบครัว เพื่อนฝูง พี่ ๆ น้อง ๆ ทำให้ มันเป็นสิ่งที่อาจจะไม่ได้มีมูลค่าสูงในเชิงเศรษฐกิจเลย แต่เป็นความใส่ใจที่ไม่มี "ราคา" เป็นเงินนี่แหละ ที่มีมูลค่าในจิตใจสูงนัก
เลยอยากชวนมาแชร์ค่ะว่า แต่ละคน มีเรื่อง "เล็กน้อย" (ที่ไม่ได้ใช้เงินซื้อ หรือใช้ก็น้อยมาก) อะไรบ้าง ที่คนอื่นทำให้ แต่มันสัมผัสได้ถึงความจริงใจ ความไม่มีอะไรแอบแฝงนอกจากความปรารถนาดี แล้วมันทำให้ใจฟูมาก หรือมันมีความหมายใหญ่โตต่อคุณมาก จนทำให้คุณจำได้จนตอนนี้ และเป็นแหล่งกำเนิดความสุขของคุณทุกครั้งที่นึกถึง ?
นี่ของเรานะคะ จริง ๆ ก็มีหลายเรื่องมาก ๆ สำหรับแต่ละคนนะคะ ยกตัวอย่างพอมาเป็นน้ำจิ้มแล้วกันค่ะ
พ่อแม่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จริง ๆ สิ่งที่ปะป๊ากับหม่าม้าเราทำให้ทุกอย่าง ไม่เคยเป็นของเล็กน้อยเลยนะคะ แต่ยิ่งใหญ่เสมอในความรู้สึก แต่เอาที่นึกได้แบบเร็ว ๆ เราจะจำได้ว่า สมัยมัธยมเราย้ายไปอยู่กับอาม่าที่ต่างจังหวัด แต่เวลากลับมากรุงเทพทีไร ปะป๊าจะผสมซันควิกของชอบไว้ในตู้เย็นให้ตลอด รู้สึกดีมาก
ครู
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ในชีวิตมีครูดี ๆ หลายคนมากที่บุญคุณท่วมหัวเหมือนพ่อแม่ แต่ที่ประทับใจมากเป็นพิเศษคือครูไต้หวันคนนึงที่เป็น advisor เราตอนอยู่โรงเรียนประจำที่เมกา เราเรียนอ่อน พื้นฐานน้อย ภาษาก็ไม่ดี ครูสอนพิเศษให้เราตลอดแบบไม่คิดเงินและทุ่มเทมาก ๆ ยิ่งเราตั้งใจ ครูยิ่งให้ จริง ๆ ความรู้ Ph.D. ของครูมันเกินเบอร์ที่จะต้องลงมาสอนอะไรเบสิคมาก ๆ ให้เราด้วยตัวเองแล้ว แต่ครูก็ลงมือสอนเองให้ทุกอย่าง มีอยู่วันนึง ครูบอกว่า จะลงมาทำงานตั้งแต่ 6 โมงที่ออฟฟิศ มันเป็นห้องกระจกเปิดโล่งเห็นทั่วทิศจากข้างนอกข้างใน ถ้าไม่เข้าใจตรงไหนให้ลงมา จะสอนเพิ่มให้ เราตื่นฝ่าลมหนาวลงไปจริง ๆ ครูยิ้มและบอกว่า "ไม่คิดว่ายูจะตื่นมานะ" แล้วครูก็สอนให้ ติวให้เพิ่มเพื่อให้เราตามทันคนอื่น นี่เป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจที่เราก็ส่งต่อมรดกนี้เวลาที่เราได้มีโอกาสสอนใครบ้าง
สามี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้มีหลายเรื่องมาก
แต่เอาเรื่องนี้ละกัน
สามีเป็นคนลงทุนน้อยแต่ได้ผลมาก
แปลไทยเป็นไทยได้ว่าไม่ค่อยได้ควักตังค์ในการเอาใจเท่าไร (เพราะตังค์อยู่ที่เรา ฮ่า ฮ่า ฮ่า แต่เราไม่ได้ขอเก็บตังค์นะ อยู่ ๆ กันไป สามีก็เอาเรื่องเงินมาให้เราดูแลทั้งหมดซะงั้น) ก็เลยไม่มีอะไรโรแมนติคหรือเซอร์ไพรส์เท่าไร
แต่มีอยู่เรื่องที่ประทับใจเราจนทุกวันนี้ คือ เราชอบดอกพุดซ้อนหรือเก็ดถะหวามาก สมัยก่อนสามีจะแอบตื่นก่อน ไปเด็ดดอกพุดซ้อนที่น้ำค้างเกาะตอนเช้า มาวางไว้ให้ข้าง ๆ หมอนเรา ความรู้สึกที่ตื่นมาแล้วเจอดอกไม้หอมน้ำค้างพราว วางอยู่ข้างหมอนนี่ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ชาตินี้ ก่อนตาย หนึ่งในความทรงจำที่จะ flashback ก็น่าจะต้องมีเรื่องนี้ด้วย คือ ไม่ต้องควักเงินซื้ออะไรให้เราเลย แต่ได้ใจไปเต็ม ๆ
ลูก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตอนเด็ก ๆ ลูกจะวาดการ์ตูน เขียนว่า รักพ่อ รักแม่ ลงบนกระดาษ (A4 ใช้แล้วอีกต่างหาก) แล้วตัดออกมา เอาสก็อตต์เทปแปะให้ในตู้เสื้อผ้า ทั้งฝีมือตัด ฝีมือวาด และลายมือ คงออกแขกไม่ได้ แต่แม่ประทับใจมาก โต ๆ มา ตอนพวกเธอหุ้นกันซื้อ Diptyque ให้แม่ ยังไม่ปลื้มใจเท่าสิ่งเล็ก ๆ ที่ลูกทำตอนเด็ก ๆ แบบนี้เลย
เพื่อน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตอนอยู่โรงเรียนประจำที่เมกา เคยรู้สึกเหมือนป่วยแบบงอม ๆ งานก็เยอะ คิดถึงบ้านด้วย เรียนก็เครียด โฮ้ยยย หลายเรื่อง ระหว่างที่ซม ๆ ครึ่งนั่งครึ่งนอนอยู่บนเตียง เพื่อนรุ่นน้องฟิลิปปินส์ก็แวะมาหา เธอมักจะเรียกเราว่า อาเต้ แปลว่า พี่สาว ถึงแม้เราจะเป็นคนปากกรรไกร แต่โดยรวม เราถูกคอกันมาก วันนั้น คุยกันนิดหน่อย เธอเห็นเราท่าไม่ค่อยดี เราไม่ไหวแล้ว อยากจะเลื่อนตัวลงนอน เธอก็ขอตัว ก่อนออกไป เธอถามเราว่า May I give you a goodnight kiss ? นี่ฟังแล้วก็งง ๆ นิดหน่อย
เธอจุ๊บหน้าผากเราเบา ๆ เหมือนที่แม่ทำให้ ห่มผ้า ปิดไฟให้ แล้วเดินออกจากห้องไป
รุ่นพี่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สมัยอยู่มัธยมปลาย เราไม่อยากเป็นกองเชียร์ ขี้เกียจไปตากแดดหัวแดงขึ้นแสตนด์แหกปากร้องเพลงเชียร์ นี่ก็ต้องขวนขวายหาทางไปเป็นนักกรีฑาให้ได้ ก็ไม่รู้จะเล่นอะไร ทักษะกีฬาทุกอย่างต่ำเตี้ยเรี่ยดินมาก เหลืออยู่อย่างเดียวที่พอมีที่ว่าง แล้วเราตะเกียกตะกายไปขอลงคือ "พุ่งแหลน" (นี่นึกแล้วยังขำตัวเอง) ก็พุ่งไม่เป็นอีก คือ เอาไงดีฟะ ... ก็มีรุ่นพี่คนหนึ่ง อาสามาสอนให้แบบทุ่มเทมากตลอดครึ่งบ่าย แต่ฝีมือเล่นกีฬาเราดูมืดมนหม่นแสงมากเลย ผลที่ได้คือ มี 12 คน เราได้ที่ 12 พอเจอพี่อีกที พี่ถามผล เราบอกได้ที่ 12 แกเข่าทรุดลงไปยิ้มขำเลย ที่ประทับใจ เพราะเราไม่ได้สนิทกันเลย แทบไม่รู้จักด้วย แต่พี่ยังอุตส่าห์มาสอน อ้อ... แล้วเค้าไม่ได้จีบด้วยนะ เป็นเจตนาที่บริสุทธิ์อย่างแท้จริง ทุกวันนี้ เรายังจำรอยยิ้มเค้าได้อยู่เลย
รุ่นน้อง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ชีวิตนี้เจอรุ่นน้องอยู่สองประเภท คือ น่ารักมาก กับน่ารักที่สุด ทุกเพศเลย รุ่นน้องผู้ชายที่บ้านเค้ามีสวนนี่ ส่งทุกอย่างที่ปลูกมาให้ได้ชิมได้กินหมด ทุกอย่างปลอดสารพิษ ออแกนิคร้อยเปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่ข้าวสาร มะยงชิดลูกเท่าไข่เป็ด มะม่วงสารพัดพันธุ์ รุ่นน้องผู้หญิงที่รู้จักกันในคลาสสัมมนาแล้วกลายเป็นเพื่อนที่ดีกันมากนี่ เมื่อวานเพิ่งเจอกันตอนทำบุญ จำได้ว่า ตอนเราไปต่างจังหวัดด้วยกันครั้งหนึ่ง น้องเตรียมพวงมาลัยดอกเข็มสีแดงสวยมากกกกพวงโตแล้วยกให้เราเป็นคนถวาย พวงมาลัยงามจนพระอาจารย์วัดพระธาตุผาซ่อนแก้วเอ่ยปากชมว่างาม แล้วให้พรพวกเราทุกคนว่า ขอให้มีสติปัญญาเฉียบคมดุจพระสารีบุตร ที่เราประทับใจมาก เพราะพวงมาลัยดอกเข็มต้องสั่งทำนาน น้องตั้งใจเตรียมไปให้ แล้วบอกเราว่า "เห็นวันนั้น ได้ยินพี่บอกว่าอยากถวายพวงมาลัยดอกเข็ม หนูเลยเตรียมให้" โอ๊ย... พี่แค่บ่นเบา ๆ อุตส่าห์จำได้ คือ กับน้องคนนี้เราคุ้นเคยทั้งตัวน้องและสามีน้องเลยนะคะ เมื่อวานตอนเจอกัน น้องไม่เห็นว่าสามีน้องทักเราแล้ว น้องหันมาสวัสดีเรา แล้วหันไปบอกสามีว่า "สวัสดีพี่เค้ารึยัง ?" ^^
รุ่นน้องอีกคนก็เหมือนกัน ปกติ เราจะไม่ค่อยชอบพวงมาลัยที่ผสมดอกรักพลาสติก เพราะถือคติว่า ถวายแต่รักแท้เท่านั้น 
วันนั้น น้องเตรียมพวงมาลัยให้กลุ่มไปถวายพวงเล็ก ๆ หลายพวง แล้วบอกให้แต่ละคนไปหยิบเอา เราเหลือบไปเห็นพวงที่มีดอกรักพลาสติกแล้วก็ลังเลนิดนึง แต่ก็กำลังจะหยิบพอดีเพราะน้องอุตส่าห์เตรียมให้ น้องรีบไปหยิบอีกพวงมาให้ แล้วบอกว่า "อุ้ย...ของพี่ต้องพวงนี้ค่ะ หนูรู้ว่า พี่ชอบถวายมะลิ" โอ๊ยยยย นี่ชั้นทำบุญด้วยอะไรนี่ เจอแต่น้องน่ารัก ?
แฟนเก่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ถึงจะเลิกรากันไป แต่เรายังจำเรื่องดี ๆ ของแฟนเก่าที่ดี ๆ บางคนได้เสมอ นึกแล้วก็อมยิ้ม เราจำได้ว่า ตอนเราจบใหม่ ๆ เราเคยต้องไปทำงานในที่ไกลจากที่เราอยู่มาก ตอนเช้านี่ ต้องนั่งสองแถวไปลงท่าน้ำแถวสาทร ข้ามฟากไปฝั่งธน นั่งรถเมล์ไปจนสุดสาย ข้ามแพไปถึงตลาด แล้วนั่งมอไซค์รับจ้างอีกต่อถึงจะถึงที่ทำงาน ไกลและหลายต่อมาก นั่งรถก็เหนื่อยแล้ว แต่แฟนเก่าเราคนนี้ที่นิสัยสุภาพบุรุษจุฑาเทพเป็นที่สุด ตอนนั้นเค้าไม่มีรถ เค้านั่งรถเมล์กับเรา แล้วก็เดินไปส่งเราทุกวัน ซึ่งเดินไกลมาก (ตอนกลับขี้เกียจนั่งมอไซค์รับจ้างแล้ว นั่งทั้งไปทั้งกลับ เปลือง !!!) แล้วเค้าค่อยนั่งรถเมล์ย้อนกลับบ้าน มันเลยทำให้เราได้บทเรียนที่สำคัญอย่างหนึ่งว่า ถ้าคนที่แคร์เราจริง ๆ ให้ไม่สะดวก ถ้าเค้าอยากไปส่ง เค้าก็ไปส่งเราได้ แต่ถ้าเค้าไม่ได้แคร์อะไร ต่อให้มีรถ ก็ไม่ไป (โว้ย) เพราะมันคนละทาง
ลูกน้อง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เคยเจอลูกน้องแทงข้างหลังเหมือนกันจ้ะ แต่เราจะเลือกจำเฉพาะลูกน้องดี ๆ เด็ก ๆ ดีกับเรามาก วันเกิดเรา อุตส่าห์ไปเลือกเทียนลายนี้มาให้
เราประทับใจจนต้องเก็บไว้เลย บางที กระทั่งแม่บ้านเค้าก็มีน้ำใจอะไรให้เราตลอด รู้ว่าชอบดอกไม้ ก็จะเด็ดดอกไม้เล็ก ๆ มาจัดให้แบบงู ๆ ปลา ๆ วันดี คืนดี หักหน่อไม้อ่อนมาให้เราด้วย บอกหน่อไม้มันขึ้นน่ากิน
เจ้านาย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เจ้าของบริษัทเก่าที่เคยเคยทำงานด้วยคนนึง สปอร์ตกับเรามาก มีรถส่วนกลางของบริษัทอยู่คัน (จริง ๆ ก็ของลูกพี่นั่นแหละ เพราะเป็นกิจการส่วนตัว) ที่เพิ่งถอยออกมาใช้เป็นรถกองกลางป้ายแดงใหม่เอี่ยม นายเอ่ยปากให้เราเอาไปขับ เพราะบ้านเราอยู่ไกล และเราก็เกรงใจมาก เพราะเราเพิ่งหัดขับ ไม่มั่นใจ ฝีมือไม่ดีด้วย นายบอกเราว่า "ไม่ต้องกลัว ขับไป จะชนอะไร ก็ชน mang เลย เรามีประกัน กลัวอะไร เอ้า ... เอาไปใช้" เราก็ฉลองศรัทธาจ้ะ ชนตั้งแต่อาทิตย์แรก ๆ ที่ขับเลย นายขำชอบใจ ไม่ดุอะไรสักคำ บอก เออ ขับ ๆ ชน ๆ ไปเหอะ
คือ มันอาจจะเป็นเรื่องที่นายคงไม่คิดอะไร แต่เราประทับใจมาก และเราตอบแทนภายหลัง ด้วยตอนที่เราออกจากบริษัทแล้ว ตอนภรรยานายขอให้เราช่วยไปติวลูก ๆ ที่เรียนโรงเรียนนานาชาติ แวะรับและขับส่งกลับคฤหาสน์ ขากลับ เด็ก ๆ ขอแวะแมคโดนัลด์ เราจ่ายเงินเลี้ยงทุกมื้อโดยไม่เคยเบิกและไม่เคยบอกนายเลย จนเด็ก ๆ ไปบอกคุณแม่เค้า เค้าก็จะจ่ายเงินคืนให้เรา แต่เราไม่รับค่ะ ถือว่าตอบแทนที่เคยสปอร์ตกับเรา
Little things mean a lot. สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มีความหมายยิ่งใหญ่ ของแต่ละคนมีอะไรบ้างคะ ?
ดิฉันจำรายละเอียดในเนื้อเรื่องไม่ได้เป๊ะ ๆ แต่จำได้ราง ๆ ว่า เป็นเรื่องเกี่ยวกับหญิงชราคนหนึ่งที่ฐานะกลาง ๆ ค่อนไปทางไม่ร่ำรวย ใช้ชีวิตตามลำพัง และมีความสุขกับการทำสิ่งดี ๆ เล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิต เช่น แบ่งขนมให้กับเด็ก พูดจาให้กำลังใจคนที่กำลังมีทุกข์
ที่ใจกระหวัดถึงเรื่องสั้นเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะเมื่อวานได้มีโอกาสไปทำบุญกับเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ที่สนิทใจกันมาก สามีก็ไปด้วย รู้สึกมีความสุข อมยิ้มในใจอยู่ตลอดเวลา ก็เลยย้อนมาถามตัวเองว่า ในวัยขนาดนี้ ความสุขของตัวเองอยู่ที่ไหน ? รู้สึกขอบคุณอะไร ? ทำไมถึงมีสุขรื่น ๆ ในใจแบบเย็น ๆ นักเมื่อได้มาอยู่ในวงล้อมของเพื่อนฝูงบางกลุ่ม ก็ได้คำตอบกับตัวเองว่า สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สามี ลูก คนในครอบครัว เพื่อนฝูง พี่ ๆ น้อง ๆ ทำให้ มันเป็นสิ่งที่อาจจะไม่ได้มีมูลค่าสูงในเชิงเศรษฐกิจเลย แต่เป็นความใส่ใจที่ไม่มี "ราคา" เป็นเงินนี่แหละ ที่มีมูลค่าในจิตใจสูงนัก
เลยอยากชวนมาแชร์ค่ะว่า แต่ละคน มีเรื่อง "เล็กน้อย" (ที่ไม่ได้ใช้เงินซื้อ หรือใช้ก็น้อยมาก) อะไรบ้าง ที่คนอื่นทำให้ แต่มันสัมผัสได้ถึงความจริงใจ ความไม่มีอะไรแอบแฝงนอกจากความปรารถนาดี แล้วมันทำให้ใจฟูมาก หรือมันมีความหมายใหญ่โตต่อคุณมาก จนทำให้คุณจำได้จนตอนนี้ และเป็นแหล่งกำเนิดความสุขของคุณทุกครั้งที่นึกถึง ?
นี่ของเรานะคะ จริง ๆ ก็มีหลายเรื่องมาก ๆ สำหรับแต่ละคนนะคะ ยกตัวอย่างพอมาเป็นน้ำจิ้มแล้วกันค่ะ
พ่อแม่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ครู
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สามี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ลูก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เพื่อน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รุ่นพี่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รุ่นน้อง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แฟนเก่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ลูกน้อง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เจ้านาย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้