คุณไสยฯ ทุกครั้งที่ช่วยตัวเอง คนที่เป็นเป้าหมายจะเจ็บป่วย หมอง โทรม

กระทู้คำถาม
มันมีเรื่องนึงในอดีตของเรา คนที่เรียนมหาลัยด้วยกัน เขาเหมือนจะเล่นของ

เขาจะมองหาคนในสังคมเดียวกัน เช่น เรียนวิชานี้ด้วยกัน แต่ไม่รู้จักกัน ไม่ได้นั่งเรียนติดกัน เขาจะหาทางแสดงตัว เพื่อหาจังหวะสัมผัสบุคคลเป้าหมาย เขาเคยเผยสารบางอย่างในตลับ มองตลับปุ๊บก็รู้ปั๊บ มันคือของที่ไปเอามาจากหมอผี

พวกเรามาจากบ้านนอก เรื่องพวกนี้มันมีอยู่แล้วล่ะ เราไม่เอาทางนี้ เพราะเป็นคนที่ทำศีลขาดบ่อย ใครมันอวดว่ามีกล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซล มือถือถ่ายรูปเล่นเน็ตได้ มีโน๊ตบุคไว้โอ่เครื่องเป็นแสน ขับแฟเลดี้ คอมเพรสเซอร์ เชอร์โรกี มาเรียน หวังสาวจะหลงมา แล้วไง ไสยศาสตร์มันไม่ใช่วัตถุนิยม ไม่ศรัทธาก็คือมองไม่เห็น ไม่มีค่า เรียนจบต้องมีปัญญาน่ะใช่ มันต้องไปเจอคนมากมาย พลังไม่พอจะทำของใส่ จึงต้องใช้ทางปกติวิถีคนทั่วไป แต่ถ้าจะเล่นใครสักคน เรามีพลังพอ โอกาสสำเร็จก็มีสูง

แล้วสิ่งนั้นมันทำให้เกิดอะไร หลังจากที่ได้ประขิดตัว สัมผัสบุคคลเป้าหมาย จากนั้นมันก็จะนึกถึงบุคคลเป้าหมายเวลาช่วยตัวเอง แล้วมันบอกให้เราสังเกตคนคนนั้น เราก็เห็นล่ะ ว่า จากที่เคยสดใส หวานฉ่ำ ก็เริ่มมีข่าวระหองระแหง เลิกแฟน โทรม แล้วมันก็เริ่มเข้าไปสนิทในจังหวะนี้

คนที่เหมือนดวงตก พอเจอใครที่เป็นที่พอจะพยุงชีพได้ ก็จะปล่อยการ์ดที่หวงตัวสุดชีวิต พรหมจรรย์ ชื่อเสียง ทรัพย์สิน ไหลออกแบบไม่รู้ตัว มันได้มีโมเมนต์กับบุคลเป้าหมาย ชนิดที่เรียกว่า ได้หมด แค่เอ่ยปาก แต่มันไม่สานสัมพันธ์ไปสู่การมีเซกส์ มันบอกว่า ถ้าผิดลูกผิดเมีย ของจะเสื่อม อีกอย่างนึง มันก็จะมีภาพของคนใจหล่อ ไม่ฉวยโอกาส เป็นที่ลือเล่าในกลุ่มสาวๆ แบบออแกนิก

แล้วตลอดชีวิตมหาลัยของเรากับมัน มันก็ทำให้เห็นหลายครั้ง ว่ามันได้สัมผัสสาวๆ ในลักษณะลึกซึ้งหลายคน ไม่หล่อ แต่รถไฟชนกันประจำ หึงหวงแย่งกันใหญ่ การรถไฟฯ น่าจะท้อเลยล่ะ แต่บางครั้งมันก็เฟล มันบอกว่าเหมือนคนอื่นที่เล่นของได้ทำของจองไว้แล้ว หรือคนๆ นั้นสายแข็ง ของใช้งานไม่ได้

เรียกได้ว่า พอเจอแบบนี้ เราไม่กล้าเปิดใจรับเป็นแฟนใครเลยล่ะ เพราะถ้าแฟนเราเสร็จคนอย่างมัน ซึ่ง มันมีคนแบบมันอยู่ในสังคมนี้มากมาย เราจะเสียใจมาก

ทุกวันนี้สังคมดูเหมือนจะไฮเทค แต่ความเชื่อ ความศรัทธา ที่ความไฮเทคไม่มีทางล้ำหน้าตามทัน มันยังคงมี แต่ที่ออกสื่อ ทีวีเอามาล้อ หาเรื่องหาราว ของปลอมทั้งนั้น

ในทางศาสนา การทำอะไรตามศักยภาพที่เรามี และพัฒนาให้ดีขึ้นได้ มันดีอยู่แล้ว ใช้ได้ดีกับคน 99% ในการบรรลุเป้าหมายชีวิต แต่มันไม่ใช่เหตุผลที่จะสามารถเปิดประตูบานไหนก็ได้ มันสงวนไว้สำหรับคนที่ไม่ใช่คุณ พวก 1% มันอาจเป็นคนที่คุณมองว่าบ้าบอนี่ล่ะ แต่เขาเปิดเข้าไปสู่ความสำเร็จได้อย่างง่ายดาย และอาจไม่ต้องพยายามเลย

พวก 99% แย่งเรียนทำเกรด ทำงานแทบตาย ผ่อนบ้านผ่อนรถหน้ามืด กองทุนเจ๊ง แชร์ล้ม โดนเป็นแพะ หมูบูชายันต์ในที่ทำงาน เมียลูกก็ขี่คอซ้ำ โหแทบบ้า มาบ่นในเว็บบอร์ด เจอคอมเมนต์บ้าๆ แถมแปะ adsense เยาะเย้ย

ส่วนพวก 1% ใช้ชีวิตชิวๆ โซเชียลไม่เล่น ทำงานก้อกๆ แก้กๆ ชีวิตใสๆ เบลอๆ ไม่มีบารมี สาวไม่มอง กู้เช่าซื้ออะไรไม่ได้ เครดิตไม่พอเป็นหนี้ใคร อยู่ๆ ถูกหวย 5 ใบ มาเพิ่มทุนชีวิตเฉยเลย

คนเรามันไม่เหมือนกันจริงๆ นั่นล่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่