สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
คุณต้องไปค้นประวัติศาสตร์ ใครเริ่มเรื่องรถไฟฟ้า ก่อน bev จีนจะมา พวกสแกนฯให้อินเทนซีฟคนและธุรกิจทั่หันมาใช้รถบนต์ไฟฟ้ามากแค่ไหน (เรื่องมันนานจัดจำรายละเอียดไม่ได้แล้ว)
หันไปดูจีน ทำไมรถไฟฟ้ามันถึงเฟื่อฟูนักหนา ลองคิดย้อนไปหรือไปค้นรูปปักกิ่งเมื่อสามสี่สิบปีก่อนดู ทั้งหมอกทั้งควันิเปิดประเทศมาโดนก่นด่าว่าสกปรก เอาที่ปักกิ่งเป็นหลักนะ มันห้ามมอเตอร์ไซค์ปีไหน ต่อมาด้วยห้ามากูตเตอร์ นักธุรกิจนักอุตสาหกรมันถึงเปลี่ยนมาสร้างมาขายสกูตเตอร์ไฟฟ้า แล้วมันลามมารถยนตร์ อุตสาหกรรมแบตเตอรี่มันถึงเฟื่องฟู เมื่อตอนเริ่มรถยนต์ไฟฟ้ารัฐให้การสนับสนุนรายคัน ท้องถิ่นให้อินเทซีฟต่างๆมากมาย (อันนี้น่าจะแปดเก้าปีก่อนนะ อาจไม่ถึงจำไม่ได้แน่นอน) ทำไมรัฐมันต้องให้รายคัน โรงงานพวกนี้มันเพิ่งตั้งไข่สายการผลิตต่างจากรถยนค์สันดาปภายในซึ่งเข้มแข็งอยู่ตัวแล้ว(หนึ่ง) เลยต้องให้เพื่อเปลีายนผ่านไปสู่พลังงานใหม่(new energy) (สองล่ะ) มันทำขายของมันจนตอนนี้หากจำไม่ผิดรัฐทยอยลดความช่วยเหลือไปเมื่อสักสองสามปีที่แล้ว (ลดนะ ไม่ใช่เลิก) พอยอดขายในจีนมันเริ่มชลอพวกนี้มันถึงไปมองตลาดต่างประเทศ
ข้อสรุปของผมคือ รัฐบาลจีนมันก็ทำตามแผนพลังงานของมัน อุตสาหกรรมใดๆที่เกี่ยวข้องหากเข้ากับแผนพลังงานก็ได้รับความช่วยเหลือ ได้เงินทุนวิจัย ฯลฯ (ตอนนี้พวกที่รับเนื้อๆคือพลังพลังงานไฮโดรเจนทั้งกรีน บูล เกรย์)
ลองเทียบรูปเมืองปักกิ่งสมัยสี่สิบปีที่แล้วกับปีนี้ดู
รัฐบาลกลางและเมืองปักกิ่งมันแก้ไขปัญหาสำเร็จไปหลายปี ไอ้รถไฟฟ้าน่ะมันแค่ส่วนนึงของแผน ตอนนี้มันไปกันพายุทรายเข้าปักกิ่งต่อล่ะ
ดูแค่อุตสาหกรรมเดียวมันก็ งงๆ แบบนี้แหละ
มาต่ออีกหน่อยส่วนของไทย
อุตสาหกรรมรถยนต์ในไทยมันคือการรับจ้างประกอบ ไม่ได้ทำทั้งอุตสาหกรรมรถยนต์ งานวิจัยหากจะมีก็แค่ส่วนลดต้นทุน เพิ่มประสิทธภาพ"สายพาน"ประกอบรถแค่นั้น แล้วสายพาน สายการผลิตรถแบบสันดาปภายในมันค่อนข้างแตกต่างจากสายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่เยอะ หากจะอยู่ให้รอดก็ต้องหาทางปรับตัวเอา ยี่ห้อนี้เลิกจ้างหายี่ห้ออื่นมาแทนได้ไหม ส่วนการเตรียมอนาคตก็ต้องมองไปที่ range extender (มันคือเครื่องยนต์สำหรับปั่นไฟให้รถไฟฟ้านั่นแหละ หาศัพท์มาเรียกเพื่อเลี่ยงคำครหาเรื่องสันดาปภายใน) ปัจจุบันมีเครื่องยนต์ชนิดนี้ออกมาเยอะ หลายรูปแบบ เครื่องขนาดเล็ก เบา ใช้เชื้อเพลิงได้หลากหลายทั้งแก็ซ ทั้งเชื้อเหลว ประสิทธิภาพสูง กลุ่มอุตสาหกรรมต้องศึกษาเครื่องยนต์กลุ่มนี้ ว่าสามารถนำมาปรับใช้กับสายการผลิตปัจจุบันได้มากน้อยขนาดไหน หากไม่ปรับตัว หรือปรับตัวไม่ได้ก็ช่วยไม่ได้
เอาคลิปเครื่องปั่นไฟมาฝาก



โทษทีแก้ไขเยอะไปหน่อย ทะยอยเอาคลิปเครื่องยนต์แบบใหม่ๆมาลง
เครื่องพวกนี้จะไม่ได้ใช้แค่ในรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น พวกอากาศยานไฟฟ้าก็น่าจะได้ประโยชน์ด้วย
มีอีกแบบนึงโดน DoD (Department of Defance) ยึดไปล่ะ คงไม่ได้ขายนอกจาก dod จะเปลี่ยนใจ น่าจะเอาไปใส่โดรน
เจอล่ะ ลิควิด พิสตอน เห็นว่า dod จับเซ็นต์สัญญาพัฒนาให้ dod เลย คลิปนี้ยาวหน่อย
หันไปดูจีน ทำไมรถไฟฟ้ามันถึงเฟื่อฟูนักหนา ลองคิดย้อนไปหรือไปค้นรูปปักกิ่งเมื่อสามสี่สิบปีก่อนดู ทั้งหมอกทั้งควันิเปิดประเทศมาโดนก่นด่าว่าสกปรก เอาที่ปักกิ่งเป็นหลักนะ มันห้ามมอเตอร์ไซค์ปีไหน ต่อมาด้วยห้ามากูตเตอร์ นักธุรกิจนักอุตสาหกรมันถึงเปลี่ยนมาสร้างมาขายสกูตเตอร์ไฟฟ้า แล้วมันลามมารถยนตร์ อุตสาหกรรมแบตเตอรี่มันถึงเฟื่องฟู เมื่อตอนเริ่มรถยนต์ไฟฟ้ารัฐให้การสนับสนุนรายคัน ท้องถิ่นให้อินเทซีฟต่างๆมากมาย (อันนี้น่าจะแปดเก้าปีก่อนนะ อาจไม่ถึงจำไม่ได้แน่นอน) ทำไมรัฐมันต้องให้รายคัน โรงงานพวกนี้มันเพิ่งตั้งไข่สายการผลิตต่างจากรถยนค์สันดาปภายในซึ่งเข้มแข็งอยู่ตัวแล้ว(หนึ่ง) เลยต้องให้เพื่อเปลีายนผ่านไปสู่พลังงานใหม่(new energy) (สองล่ะ) มันทำขายของมันจนตอนนี้หากจำไม่ผิดรัฐทยอยลดความช่วยเหลือไปเมื่อสักสองสามปีที่แล้ว (ลดนะ ไม่ใช่เลิก) พอยอดขายในจีนมันเริ่มชลอพวกนี้มันถึงไปมองตลาดต่างประเทศ
ข้อสรุปของผมคือ รัฐบาลจีนมันก็ทำตามแผนพลังงานของมัน อุตสาหกรรมใดๆที่เกี่ยวข้องหากเข้ากับแผนพลังงานก็ได้รับความช่วยเหลือ ได้เงินทุนวิจัย ฯลฯ (ตอนนี้พวกที่รับเนื้อๆคือพลังพลังงานไฮโดรเจนทั้งกรีน บูล เกรย์)
ลองเทียบรูปเมืองปักกิ่งสมัยสี่สิบปีที่แล้วกับปีนี้ดู
รัฐบาลกลางและเมืองปักกิ่งมันแก้ไขปัญหาสำเร็จไปหลายปี ไอ้รถไฟฟ้าน่ะมันแค่ส่วนนึงของแผน ตอนนี้มันไปกันพายุทรายเข้าปักกิ่งต่อล่ะ
ดูแค่อุตสาหกรรมเดียวมันก็ งงๆ แบบนี้แหละ
มาต่ออีกหน่อยส่วนของไทย
อุตสาหกรรมรถยนต์ในไทยมันคือการรับจ้างประกอบ ไม่ได้ทำทั้งอุตสาหกรรมรถยนต์ งานวิจัยหากจะมีก็แค่ส่วนลดต้นทุน เพิ่มประสิทธภาพ"สายพาน"ประกอบรถแค่นั้น แล้วสายพาน สายการผลิตรถแบบสันดาปภายในมันค่อนข้างแตกต่างจากสายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่เยอะ หากจะอยู่ให้รอดก็ต้องหาทางปรับตัวเอา ยี่ห้อนี้เลิกจ้างหายี่ห้ออื่นมาแทนได้ไหม ส่วนการเตรียมอนาคตก็ต้องมองไปที่ range extender (มันคือเครื่องยนต์สำหรับปั่นไฟให้รถไฟฟ้านั่นแหละ หาศัพท์มาเรียกเพื่อเลี่ยงคำครหาเรื่องสันดาปภายใน) ปัจจุบันมีเครื่องยนต์ชนิดนี้ออกมาเยอะ หลายรูปแบบ เครื่องขนาดเล็ก เบา ใช้เชื้อเพลิงได้หลากหลายทั้งแก็ซ ทั้งเชื้อเหลว ประสิทธิภาพสูง กลุ่มอุตสาหกรรมต้องศึกษาเครื่องยนต์กลุ่มนี้ ว่าสามารถนำมาปรับใช้กับสายการผลิตปัจจุบันได้มากน้อยขนาดไหน หากไม่ปรับตัว หรือปรับตัวไม่ได้ก็ช่วยไม่ได้
เอาคลิปเครื่องปั่นไฟมาฝาก



โทษทีแก้ไขเยอะไปหน่อย ทะยอยเอาคลิปเครื่องยนต์แบบใหม่ๆมาลง
เครื่องพวกนี้จะไม่ได้ใช้แค่ในรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น พวกอากาศยานไฟฟ้าก็น่าจะได้ประโยชน์ด้วย
มีอีกแบบนึงโดน DoD (Department of Defance) ยึดไปล่ะ คงไม่ได้ขายนอกจาก dod จะเปลี่ยนใจ น่าจะเอาไปใส่โดรน
เจอล่ะ ลิควิด พิสตอน เห็นว่า dod จับเซ็นต์สัญญาพัฒนาให้ dod เลย คลิปนี้ยาวหน่อย
ความคิดเห็นที่ 13
-ให้มันเจ้งไปเลย ตอนขายได้กำไรเยอะ โบนัส8-10 เดือน เงียบกริ้ป
-พอขายไม่ได้ ทำบ่น ทำโวยวาย กระทบนู่นกระทบนี่
-อุตสาหกรรมยานยนตร์ไทย มันไทยตรงไหน 30 ปีที่ผ่าน? ของญี่ปุ่นล้วนๆ เราอะลูกจ้างเค้า
-คนเค้าอยากไป ev กันหมดแล้ว น้ำมันมันแพงเติมไม่ไหว กับ เอาควันพิษออกไปจากจมูกลูกหลาน
-ผมทำฟาร์มเลี้ยงสัตว์น้ำ โลกร้อนผมได้รับผลกระทบ ผมยังไม่โวยวายรถสันดาปเลย อาศัยเราปรับตัวเอา
โชคดีครับ
-พอขายไม่ได้ ทำบ่น ทำโวยวาย กระทบนู่นกระทบนี่
-อุตสาหกรรมยานยนตร์ไทย มันไทยตรงไหน 30 ปีที่ผ่าน? ของญี่ปุ่นล้วนๆ เราอะลูกจ้างเค้า
-คนเค้าอยากไป ev กันหมดแล้ว น้ำมันมันแพงเติมไม่ไหว กับ เอาควันพิษออกไปจากจมูกลูกหลาน
-ผมทำฟาร์มเลี้ยงสัตว์น้ำ โลกร้อนผมได้รับผลกระทบ ผมยังไม่โวยวายรถสันดาปเลย อาศัยเราปรับตัวเอา
โชคดีครับ
แสดงความคิดเห็น
โลกยังไม่พร้อมเปลี่ยนไปใช้EV กระแสนี้มีแต่จีนที่ได้ประโยชน์ และอุตสาหกรรมไทยส่อพังพินาศหรือเปล่าครับ?
- การปิดสายการผลิตในไทยของ "ค่ายดาวลูกไก่" และล่าสุดคือ "ค่ายคนบ้า" ถูกมองว่าเป็น "สัญญาณอันตราย" ของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ( และต่ออุตสาหกรรมไทยในภาพรวมด้วย เพราะยานยนต์คือยืนหนึ่งใน GDP ภาคนี้มาหลายสิบปี )
- การปิดสายการผลิตของค่ายรถยนต์ ไม่ได้กระทบแต่คนงานในโรงงานรถยนต์ แต่รวมถึงโรงงานที่เป็น Supplier ผลิตอะไหล่มาป้อนโรงงานรถยนต์ ดังนั้นจะมีคนตกงานจำนวนมากแน่นอน ( สมัยก่อนมีเรื่อง Joke ว่าสหภาพแรงงานภาคอื่น เขาประท้วงเลิกจ้างไม่เป็นธรรม แต่สหภาพภาคยานยนต์ ประท้วงโบนัสน้อยผิดปกติ สะท้อนความอู้ฟู่และมั่นคงของ Sector นี้ได้ดี แต่ตอนนี้อาจไม่ใช่อีกแล้ว )
- เริ่มมีการโทษรัฐบาล ไล่ตั้งแต่ลุงตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ไปออกกฎหมายเอื้อ EV แบบสุดซอย รถ EV แทบจะปลอดภาษี ทำให้ EV จีน ตีตลาดในไทยกระจุย จนค่ายรถญี่ปุ่นเริ่มอยู่กันไม่ไหว ( แต่ก่อนค่ายทางเลือกอาจอยู่แบบพอมีพอกิน ยอดไม่มากแบบเจ้าตลาดก็พอไหว แต่เจอ EV ตีตลาด แย่งฐานลูกค้าน้อยนิดไปอีก ก็ต้องโบกมือลา ) ตามด้วยลุงนิด-เศรษฐา ทวีสิน ที่มาจากภาคเอกชนแท้ๆ แต่ยังไม่ขยับตัวทำอะไรเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยที่เสี่ยงพังพินาศ ( จริงๆ มีโทษไปยันพรรคส้มด้วยนะ เพราะอดีตหัวหน้าพรรคส้มรุ่นแรกก็โตมาจากอุตสาหกรรมยานยนต์ แต่กลับปล่อยเบลอไม่ออกมาcall out เรื่องนี้ )
- ที่ใช้คำว่าพังพินาศ เพราะมีหลายคนให้ข้อมูลว่า EV จีน พวกนำเข้ามาขายทั้งคัน หรือแม้จะเปิดโรงงาน แต่การจ้างงานก็ไม่มากเท่าค่ายรถญี่ปุ่น มีเสียงร่ำลือไปอีกว่า คนงานไม่น้อยเป็นต่างชาติทั้งจีนและไม่จีน เท่ากับคนไทยแทบไม่ได้ประโยชน์เมื่อเทียบกับโรงงานญี่ปุ่น ( มีคนเทียบกับทัวร์ 0 เหรียญ อันนี้โรงงาน 0 เหรียญ จีนกินรวบต้นน้ำยันปลายน้ำ )
- มีคำถามว่าทำไมญี่ปุ่นไม่ทำ EV มาแข่งบ้างล่ะ ก็มีคนมาอธิบายว่า ญี่ปุ่นคงรู้ละว่าเทคโนโลยียังไม่เสถียร โดยเฉพาะ "แบตเตอรี่" ยังเป็นข้อจำกัดสำคัญ ทำให้ปัจจุบันญี่ปุ่นยังคงเน้นรถน้ำมันต่อไป หรืออย่างมากก็ทำรถไฮบริด แต่ไม่เอา BEV เพราะไม่คุ้ม ( ว่ากันว่าค่ายญี่ปุ่นมองข้ามไปลุยเรื่องไฮโดรเจน )
- มีเสียงทักท้วงว่า EV มันมาพร้อมกับกระแส "รักษ์โลก" นะ โลกที่ 1 ฝั่งตะวันตกเขามี Road Map เลิกใช้รถน้ำมันกันด้วยซ้ำ แต่ล่าสุดก็เริ่มมีข้อสังเกตแล้วว่า "หรือจริงๆ แม้แต่ตะวันตกที่ว่าเจริญๆ ก็ยังไม่พร้อม" เพราะหลังจากรัสเซียบุกยูเครนในปี 2022 ก็ได้เผยให้เห็นปัญหาของ EU ที่ชอบเที่ยวไปสอนคนในภูมิภาคอื่นๆ ให้ลด-ละ-เลิกพลังงานฟอสซิล ทั้งที่ภายในตัวเองนั้นกลวงเปล่า ความ Go Green ที่อวดอ้างนั้น เบื้องหลังอยู่ที่การซื้อน้ำมันและก๊าซจากรัสเซีย ดังนั้นเมื่อ EU แบนรัสเซีย รัสเซียก็ลดการส่งก๊าซ-น้ำมันให้ EU เลยเจอวิกฤติพลังงานโดยเฉพาะไฟฟ้า (Road Map เลิกใช้รถน้ำมัน ก็ต้องเลื่อนออกไป )
- ในขณะที่ตะวันตกฝั่งสหรัฐอเมริกา เจอปัญหาที่แตกต่างออกไป นั่นคือราคา EV ค่ายตัวเอง ไม่สามารถทำให้ราคาถูกแบบค่ายจีนได้ และที่สำคัญกว่านั้น แหล่งแร่ผลิตแบตเตอรี่ หากไม่อยู่ในจีนก็อยู่ในประเทศที่จีนเข้าไปมีอิทธิพล ( ถึงตรงนี้มีการพูดกันด้วยว่า หากปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป จีนจะครองโลกด้วยการใช้พลังการ Dump ราคา ทำลายอุตสาหกรรมของชาติอื่นจนเกลี้ยง )
คิดว่าที่เขาคุยๆ กัน แล้วผมสรุปมานี่เป็นไปได้แค่ไหนครับ?
TonyMao_NK51 ( ใช้แทนอมยิ้มที่ถูกแบน )