สวัสดีค่ะ อยากจะมาสอบถามความเห็นของเพื่อนๆชาวพันทิป
เรากับแฟนคบกันมาได้ 4 ปี ปีหน้าจะแต่งงานแต่ยังลังเลอยู่ค่ะ เพราะว่ามีปัญหาเรื่องเงินกัน ช่วง 2 ปีแรกที่คบกัน เราออกเงินค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ แฟนเงินเดือนหมื่นนิดๆ เป็นเงินจากงานประจำ ที่บ้านเขาทำร้านอาหารซึ่งขายดี แต่ตอนแรกเขาไม่ได้ช่วยที่บ้าน เขาทำงานประจำได้เงินจากงานประจำที่เดียวแต่เขาให้เราหมด ขอใช้แค่วันละร้อยบาทค่ะ แต่เราเงินเดือน 50k+ เท่ากับว่าเราแบกรับภาระทุกอย่างในบ้าน ทั้งค่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ค่ากินค่าอยู่ต่างๆ ตอนนั้นรักค่ะเลยยอม ทีนี้มาปีที่ 3 เขาบอกจะขอเก็บเงินสินสอดแต่งงานก็ให้เงินเดือนประจำเหมือนเดิม และเขาไปช่วยที่บ้านทำร้านก็ได้เงินเพิ่มมา เขาก็เก็บเงินส่วนนั้นเป็นเงินสินสอดหมด เวลามีของอะไรเราก็ซื้อให้เขาตลอด เราก็ช่วยเขาเก็บเงินสินสอดด้วยค่ะ แบ่งกันเก็บคนละครึ่ง ผ่านไป 1 ปีค่าสินสอดก็ครบ พอค่าสินสอดครบเงินเขาก็เหลือ เขาก็ไม่คิดจะให้เงินเราเพิ่มก็เก็บเงินที่เหลือนั้นเป็นเงินเก็บตัวเองหมด เราก็เริ่มไม่ไหวที่ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายคนเดียวเลยบอกเค้าว่าจะทำเงินกองกลางไว้ใช้จ่ายค่าใช้จ่ายส่วนกลางเช่น ค่าผ่อนบ้าน ค่ากินค่าอยู่ต่างๆ เพราะจ่ายคนเดียวไม่ไหว แต่ค่าผ่อนรถอันนี้รถเราเลยผ่อนเอง(แต่ก็กึ่งๆเป็นรถส่วนกลาง เพราะถ้าไปไหนด้วยกันก็ใช้รถเราตลอด) เงินกองกลางเรายอมออกเยอะกว่าเพราะเงินเดือนเยอะกว่า แล้วเขาบอกว่าอยากได้รถใหม่(เขามีรถตัวเองแต่อายุ 8 ปีแล้ว) เค้าจะเก็บเงินดาวน์รถตัวเองและมาขอให้เราช่วยผ่อนคันนี้ด้วยอีก ซึ่งตัวเค้าเองไม่เคยช่วยผ่อนรถเราซักบาท ค่าน้ำมันก็ไม่เคยจ่าย แถมยังขับรถเราไปชนไปเฉี่ยวตลอด เราเคยบอกว่าให้จ่ายค่าเบี้ยประกันที่ขึ้นมาจากการเคลมรถที่ตัวเองเอาไปขับชนด้วย เขาก็รับปากว่าจะจ่าย แต่สุดท้ายก็ไม่ยอมจ่ายเงียบหาย และล่าสุดเอารถเราไปขับเฉี่ยวอีกแล้วเราโกรธมากเพราะรักรถมากเลยทวงค่าเบี้ยประกันที่ไม่ยอมจ่าย เขาบอกเดี๋ยวรอเงินคืนจากบริษัทรถที่เขาไปจองไว้ก่อน(เขาไปจองรถไว้แต่เปลี่ยนใจไม่เอาเลยขอคืนเงิน) เราเลยถามว่าทำไมต้องให้เรารอ เงินก็มีอยู่ทำไมไม่รีบจ่ายซักที เขาบอกไม่อยากเอาเงินเก็บออกมาใช้ เราก็แบบรู้สึกว่าใจดีด้วยมาตลอดแล้วเอาเปรียบเราตลอด เราเอาเงินไปซัพพอตเขาตลอดที่ผ่านมา เงินเก็บเราแทบไม่เหลือ แต่พอเขามีก็ไม่เคยหันกลับมาช่วยเราเลย พอจะให้ช่วยชอบพูดว่าไม่มี จะเก็บไว้ใช้อันนี้ๆๆๆ
ทีนี้เราไม่ไหวแล้วเลยทะเลาะกัน เราบอกจะไม่ซัพพอตอะไรแล้วเราเหนื่อย เราอยากมีเงินเก็บเยอะๆมั่ง อยากเอาเงินมาปิดรถของเราบ้าง เราจะลดเงินกองกลางให้เท่ากับที่เขาจ่าย จ่ายอะไรก็เท่าๆกัน ทีนี้ถ้าเราลดเงินกองกลางส่วนตัวเองให้เท่ากับเขา เงินเก็บส่วนกลางจะแทบไม่เหลือเลยต่อเดือน หรือเหลือน้อยมาก เราเลยถามว่าละถ้าเดือนไหนเงินส่วนกลางไม่พอจะทำยังไง เค้าก็บอกถ้าเดือนไหนขายของได้เยอะขึ้นก็จะเอามาช่วย เราเลยถามว่าแล้วถ้าไม่มีเดือนไหนขายได้เยอะขึ้นเลยละเราก็ต้องออกเงินเราใส่ไปอีกแล้วหรอ เทอไม่คิดจะเอาเงินตัวเองมาใส่หรอ ทำไมถึงงกจังอะ คือเขาเป็นคนที่ต้องเก็บเงินส่วนตัวของตัวเองแต่ละเดือนให้ได้ก่อนถ้าเหลือค่อยเอามาจ่ายอย่างอื่นได้ ซึ่งถ้าเดือนไหนไม่มีเหลือ ถ้ามีรายจ่ายเพิ่มเติมเราก็ต้องเอาเงินของตัวเองออก ซึ่งเรารู้สึกไม่แฟร์เลย เขาก็ยังยืนยันว่าจะทำแบบนี้ เราเลยรู้สึกไม่อยากแต่งงานด้วยแล้ว ไม่งั้นเราเองก็ต้องเหนื่อยหาเงินเอามาจ่ายเองตลอด แต่เขาเป็นคนไม่เจ้าชู้ ทำงานบ้านได้ พาไปนู่นนี่ตลอด ติดแค่เรื่องเงินที่พอมีแล้วงกไปเลย เราเลยไม่รู้จะไปทางไหนดี จะแต่งดีมั้ยหรือไม่แต่งดีคะ
มีปัญหากับแฟนเรื่องเงิน ควรไปต่อหรือหยุดดี
เรากับแฟนคบกันมาได้ 4 ปี ปีหน้าจะแต่งงานแต่ยังลังเลอยู่ค่ะ เพราะว่ามีปัญหาเรื่องเงินกัน ช่วง 2 ปีแรกที่คบกัน เราออกเงินค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ แฟนเงินเดือนหมื่นนิดๆ เป็นเงินจากงานประจำ ที่บ้านเขาทำร้านอาหารซึ่งขายดี แต่ตอนแรกเขาไม่ได้ช่วยที่บ้าน เขาทำงานประจำได้เงินจากงานประจำที่เดียวแต่เขาให้เราหมด ขอใช้แค่วันละร้อยบาทค่ะ แต่เราเงินเดือน 50k+ เท่ากับว่าเราแบกรับภาระทุกอย่างในบ้าน ทั้งค่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ค่ากินค่าอยู่ต่างๆ ตอนนั้นรักค่ะเลยยอม ทีนี้มาปีที่ 3 เขาบอกจะขอเก็บเงินสินสอดแต่งงานก็ให้เงินเดือนประจำเหมือนเดิม และเขาไปช่วยที่บ้านทำร้านก็ได้เงินเพิ่มมา เขาก็เก็บเงินส่วนนั้นเป็นเงินสินสอดหมด เวลามีของอะไรเราก็ซื้อให้เขาตลอด เราก็ช่วยเขาเก็บเงินสินสอดด้วยค่ะ แบ่งกันเก็บคนละครึ่ง ผ่านไป 1 ปีค่าสินสอดก็ครบ พอค่าสินสอดครบเงินเขาก็เหลือ เขาก็ไม่คิดจะให้เงินเราเพิ่มก็เก็บเงินที่เหลือนั้นเป็นเงินเก็บตัวเองหมด เราก็เริ่มไม่ไหวที่ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายคนเดียวเลยบอกเค้าว่าจะทำเงินกองกลางไว้ใช้จ่ายค่าใช้จ่ายส่วนกลางเช่น ค่าผ่อนบ้าน ค่ากินค่าอยู่ต่างๆ เพราะจ่ายคนเดียวไม่ไหว แต่ค่าผ่อนรถอันนี้รถเราเลยผ่อนเอง(แต่ก็กึ่งๆเป็นรถส่วนกลาง เพราะถ้าไปไหนด้วยกันก็ใช้รถเราตลอด) เงินกองกลางเรายอมออกเยอะกว่าเพราะเงินเดือนเยอะกว่า แล้วเขาบอกว่าอยากได้รถใหม่(เขามีรถตัวเองแต่อายุ 8 ปีแล้ว) เค้าจะเก็บเงินดาวน์รถตัวเองและมาขอให้เราช่วยผ่อนคันนี้ด้วยอีก ซึ่งตัวเค้าเองไม่เคยช่วยผ่อนรถเราซักบาท ค่าน้ำมันก็ไม่เคยจ่าย แถมยังขับรถเราไปชนไปเฉี่ยวตลอด เราเคยบอกว่าให้จ่ายค่าเบี้ยประกันที่ขึ้นมาจากการเคลมรถที่ตัวเองเอาไปขับชนด้วย เขาก็รับปากว่าจะจ่าย แต่สุดท้ายก็ไม่ยอมจ่ายเงียบหาย และล่าสุดเอารถเราไปขับเฉี่ยวอีกแล้วเราโกรธมากเพราะรักรถมากเลยทวงค่าเบี้ยประกันที่ไม่ยอมจ่าย เขาบอกเดี๋ยวรอเงินคืนจากบริษัทรถที่เขาไปจองไว้ก่อน(เขาไปจองรถไว้แต่เปลี่ยนใจไม่เอาเลยขอคืนเงิน) เราเลยถามว่าทำไมต้องให้เรารอ เงินก็มีอยู่ทำไมไม่รีบจ่ายซักที เขาบอกไม่อยากเอาเงินเก็บออกมาใช้ เราก็แบบรู้สึกว่าใจดีด้วยมาตลอดแล้วเอาเปรียบเราตลอด เราเอาเงินไปซัพพอตเขาตลอดที่ผ่านมา เงินเก็บเราแทบไม่เหลือ แต่พอเขามีก็ไม่เคยหันกลับมาช่วยเราเลย พอจะให้ช่วยชอบพูดว่าไม่มี จะเก็บไว้ใช้อันนี้ๆๆๆ
ทีนี้เราไม่ไหวแล้วเลยทะเลาะกัน เราบอกจะไม่ซัพพอตอะไรแล้วเราเหนื่อย เราอยากมีเงินเก็บเยอะๆมั่ง อยากเอาเงินมาปิดรถของเราบ้าง เราจะลดเงินกองกลางให้เท่ากับที่เขาจ่าย จ่ายอะไรก็เท่าๆกัน ทีนี้ถ้าเราลดเงินกองกลางส่วนตัวเองให้เท่ากับเขา เงินเก็บส่วนกลางจะแทบไม่เหลือเลยต่อเดือน หรือเหลือน้อยมาก เราเลยถามว่าละถ้าเดือนไหนเงินส่วนกลางไม่พอจะทำยังไง เค้าก็บอกถ้าเดือนไหนขายของได้เยอะขึ้นก็จะเอามาช่วย เราเลยถามว่าแล้วถ้าไม่มีเดือนไหนขายได้เยอะขึ้นเลยละเราก็ต้องออกเงินเราใส่ไปอีกแล้วหรอ เทอไม่คิดจะเอาเงินตัวเองมาใส่หรอ ทำไมถึงงกจังอะ คือเขาเป็นคนที่ต้องเก็บเงินส่วนตัวของตัวเองแต่ละเดือนให้ได้ก่อนถ้าเหลือค่อยเอามาจ่ายอย่างอื่นได้ ซึ่งถ้าเดือนไหนไม่มีเหลือ ถ้ามีรายจ่ายเพิ่มเติมเราก็ต้องเอาเงินของตัวเองออก ซึ่งเรารู้สึกไม่แฟร์เลย เขาก็ยังยืนยันว่าจะทำแบบนี้ เราเลยรู้สึกไม่อยากแต่งงานด้วยแล้ว ไม่งั้นเราเองก็ต้องเหนื่อยหาเงินเอามาจ่ายเองตลอด แต่เขาเป็นคนไม่เจ้าชู้ ทำงานบ้านได้ พาไปนู่นนี่ตลอด ติดแค่เรื่องเงินที่พอมีแล้วงกไปเลย เราเลยไม่รู้จะไปทางไหนดี จะแต่งดีมั้ยหรือไม่แต่งดีคะ