เรื่อง: ในวันที่ฝนพร่างพราย
รักเขียน: ภาพิมล / พิมลภา
จำนวน (A5): 316 หน้า
—
‘ทุกชีวิตล้วนมีบาดแผล ต่างแต่ว่ามากน้อยแค่ไหน และบางครั้งเราก็พลั้งพลาดสร้างบาดแผลให้แก่ผู้อื่น’
✦ปลายฝน✦
—
ดีมากกกกก ครั้งแรกที่ได้อ่านงานของคุณภาพิมล เราไม่ติดอะไรเลย สำนวนอ่านง่ายมาก ด้วยการเลือกใช้ภาษาที่สละสลวย บางศัพท์เราไม่เคยเห็น แต่เข้าใจความหมาย สื่อสารได้เรียบง่ายและตรงประเด็นดีมาก ไหนจะเรื่องของการหยิบจับประเด็นในสังคมหลาย ๆ เรื่องมาตีแผ่ ผ่านนิยายเล่มนี้อีก
.
เป็นการเขียนเปิดเรื่องที่ดึงดูดความสนใจคนอ่านที่ใส่ใจ (ขี้เผือก) อย่างเรามาก ได้อ่านบทนำแล้วเราทั้งอยากรู้ว่าเขาจะตีแผ่ประเด็นต้นเรื่องไปในรูปแบบไหน อีกใจก็กลัวสิ่งที่คิดไว้ในต้นเรื่องจะเกิดกับตัวละครที่เราไม่อยากให้เขาเจ็บปวด แม้ว่าเรื่องนี้จะไม่สมควรเกิดขึ้นกับใครก็ตาม
.
‘ปลายฝน’ เข้ามาทำงานเป็นนักสังคมสงเคราะห์กับมูลนิธิแห่งหนึ่งหลังเรียนจบ หน้าที่การงาน และเพื่อนร่วมงาน ทำให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นเรื่อยมา กระทั่งทางมูลนิธิได้รับการขอความช่วยเหลือจากเด็กหนุ่มที่ได้รับความรุนแรงภายในครอบครัวที่มีพ่อขี้เหล้าอย่าง ‘มาวิน‘
.
การเข้าไปช่วยเหลือมาวิน ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ค่อย ๆ แปรเปลี่ยน และสร้างความแปรผันทางความรู้สึกของทั้งคู่เรื่อยมา กระทั่งปลายฝนตระหนักได้ถึงความไม่เหมาะสม และไม่ถูกต้อง อีกทั้งมาวินเพิ่งสูญเสียบุคคลในครอบครัว จึงไม่อาจปักใจเชื่อได้ว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นคือความรัก
.
เราชอบที่นักเขียนสร้างให้ตัวละครตระหนักรู้เรื่องราวต่าง ๆ จากคำพูดตักเตือนและการกระทำของอีกฝ่าย เห็นได้ชัดเลยว่ามาวินคอยผลักดันตัวเอง ไม่เคยทิ้งโอกาส ความฝัน และศรัทธาที่มี เพื่อให้ตัวเองมายืนอยู่ในจุดที่เหมาะสมจะยืนเคียงข้างผู้หญิงที่เขารักอยู่เสมอ
.
เมื่อวันหนึ่งเขาก็สามารถพิสูจน์ตัวเอง และพาตัวเองกลับเข้ามาในชีวิตของปลายฝนด้วยความภาคภูมิ และไม่ต้องกลัวว่าจะทำให้ผู้หญิงที่ตัวเองรักต้องตกอยู่ภายใต้คำครหาของสังคม มาวินกลับมาในชีวิตของปลายฝนครั้งนี้เพื่อช่วยส่งเสริมและเป็นกำลังใจให้ผู้หญิงที่ตัวเองรักอย่างเต็มกำลัง
.
ก่อนหน้านี้ตอนที่วินเข้ามาขอความช่วยเหลือมูลนิธิเราก็แอบหือกับความต่างของช่วงวัยพระ-นาง แต่พอพวกเขาก้าวผ่านมันมาได้ ตอนนี้แหละ คนที่ใช่ ในเวลาที่ถูกต้อง ความรักของพวกเขาช่วยส่งเสริมกันและกันเรื่อยมาเป็นอย่างดี ทั้งในส่วนของการใช้ชีวิต และซัปพอร์ตหน้าที่ทางการงาน
.
คู่รองก็ทำให้เราร่วมลุ้นไปกับ ‘บุรี’ และ ‘ณิชา’ ไรต์ใส่ปมของตัวละครและถ่ายทอดสิ่งที่ตัวละครต้องพบเจอหลังจากการตัดสินใจครั้งใหญ่ในชีวิตได้โคตรดี เขาทำให้เราคล้อยตามได้ว่าเออ จริง ๆ แล้วถ้าเกิดเราเลือกทางเดินนี้ เราก็คงอยากฝังอดีตให้มิดเหมือนที่พวกเขาเลือกปกป้องตัวเองจากความเจ็บปวดในอดีต
.
คู่หลักไม่หาย คู่รองไม่จม เลิฟไลน์มีช่วงที่หน่วง แต่เข้าใจได้ ส่วนของปม นักเขียนก็ไม่ได้ขยี้จนทำให้สัดส่วนของเนื้อหาหนักหน่วงเกินไป พล็อตยังอยู่ในสัดส่วนของนิยายรัก-ดรามา เป็นดรามาในสัดส่วนที่เรารับไหวแน่นอน อีกอย่างคือได้เห็นนักเขียนตีแผ่ประเด็นในสังคมหลาย ๆ เรื่อง ซึ่งเราชอบมาก แต่ละประเด็นเป็นมูฟเมนต์ที่ดีมาก ๆ
.
ไม่ว่าจะเป็นประเด็น Pedophobia (โรคใคร่เด็ก), Child grooming (ล่อลวงเด็ก), การยุติการตั้งครรภ์ (ทำแท้ง), ความรุนแรงภายในครอบครัว, ความเหลื่อมล้ำทางสังคม การมีอยู่ของประเด็นพวกนี้ ทำให้เราเข้าใกล้ และรู้สึกว่าเรื่องพวกนี้อยู่ใกล้ตัวเรา ควรตระหนักและใส่ใจให้มากขึ้นอีก
.
ส่วนตัวเราชอบทุกประเด็นที่นักเขียนบรรจงใส่ลงมา ทั้งเรื่องการตีแผ่ประเด็นใคร่เด็ก การล่อลวงเด็กที่นำไปสู่อาชกรรม ซึ่งตรงนี้เราไม่คิดด้วยซ้ำว่าจะนำมาเล่าผ่านตัวละครหลัก ซึ่งมันดีนะ เพราะในความจริงนั้น เราสามารถเป็นตัวเอกในชีวิตของคนคนหนึ่งได้ โดยที่เราไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบจริง ๆ
.
เรื่องการยุติการตั้งครรภ์ กรณีไม่พร้อม อันนี้เราโคตรเห็นด้วยเลย ถึงแม้จะได้รับการยอมรับทางการแพทย์และกฎหมาย แต่ก็ยังไม่แพร่หลายหากพูดไปถึงเรื่องศีลธรรม เราไม่เข้าใจว่าทำไมยังมีคนตราหน้าว่าคนที่เขาทำแท้งอยู่ ทั้ง ๆ ที่มันถูกต้องตามกฎหมาย และทุกคนมีสิทธิ์เลือกทางเดินชีวิตของตัวเอง
.
ทุกประเด็นเราสามารถเห็นและจับต้องได้หลาย ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นความเหลื่อมล้ำทางสังคม คนจนที่ต้องดิ้นรนเพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ไปวัน ๆ คนรวยก็รวยจนไม่สนกฎหมาย ไหนจะเรื่องของความรุนแรงในครอบครัว ที่คนนอกยังขาดความกล้าที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือเหยื่อ
.
เหมือนจะหมดแล้วแต่ยังนึกถึงเรื่องราวความประทับใจได้อีกเรื่อย ๆ เลย อีกหนึ่งประเด็นที่เราชอบมาก ๆ คือ การที่ปลายฝนเปิดรับดูแลเด็ก ๆ ในชุมชนแทนผู้ปกครองที่ไม่มีเวลา เดิมทีคิดว่าแค่เพราะเขาทำงานในมูลนิธิมานานเลยผูกพันกับเด็ก แต่แท้จริงแล้วมันมีอะไรที่มากกว่านั้น
.
เราเห็นหมดเลยว่าเขาเจาะตลาดผู้บริโภค เข้าหาผู้ปกครองยังไง ไหนจะต้องคอยพิสูจน์ตัวเองอยู่เสมอว่าสามารถดูแลลูกหลานเขาได้ คือเห็นได้ชัดว่าถ้าเด็ก ๆ ได้รับการปลูกฝังที่ถูกต้อง ดูแลและแก้ไขปัญหาได้ถูกจุด จะสามารถส่งเสริมให้พวกเขาเติบโตอย่างมีคุณภาพ และห่างไกลจากความบิดเบี้ยวของสังคมได้
.
เลิฟซีนน่ารักมากกก ทุก ๆ การเพิ่มระดับความใกล้ชิดของพระนางคือพอเหมาะพอดี จากการจ้องตา สู่การเกี่ยวก้อย จับมือ โอบกอด ฉากจูบที่มีความวาบหวาม และการแสดงออกทางความรู้สึกไปจนถึงเซ็กซ์ซีน เอ็นดูครั้งแรกของเจ้าหมาเด็กมาก กลมกล่อม และเพิ่มอรรถรสได้อย่างเหมาะสม คือมันถูกต้องไปหมด🤌🏻
.
ประทับใจไปหมดเลย คุณไรต์เรียบเรียงเนื้อหาออกมาได้ดีมาก ๆ ยิ่งรู้ว่าจะได้ทำละคร เราที่ดองจนละครจะมายิ่งต้องรีบอ่าน เพราะแคสติ้งนักแสดงได้ถูกต้องมาก พี่สาวคนสวยกับหมาเด็ก บทนี้นึกหน้าคนอื่นไม่ออกแล้วนอกจากพี่สาวแต้ว กับพี่โอ้ขวัญใจประชาชนของพวกเรา งานดรามาของพวกเขาตราตรึงเสมอ
.
มาอ่านกันเถอะ นาน ๆ จะได้เจองานเขียนที่หยิบจับประเด็นทางสังคมมาเล่าแบบนี้ อีกทั้งยังตีแผ่หลายมุมมองมาก ๆ เวลาเราเห็นคนติดอยู่ใน Toxic relationship และยังจมอยู่ในอดีตว่าทำไมเขาถึงไม่พาตัวเองออกมา หรือปล่อยวางจากเรื่องนั้น ๆ สักที เรื่องนี้ถ้าไม่ได้เจอกับตัวไม่มีวันเข้าใจจริง ๆ แหละ🥹
—
เครดิต จากเพจ อ่านจบแล้วจะเล่าให้ฟัง ค่ะ
อ่านรีวิวแล้ว ยังมีเรื่องราวอีกมากมายให้เราได้ตามต่อค่ะ โดยเฉพาะชีวิตของไม้ สู้นะไม้ พี่เป็นกำลังใจให้นะ
รีวิว ในวันที่ฝนพร่างพราย
รักเขียน: ภาพิมล / พิมลภา
จำนวน (A5): 316 หน้า
—
‘ทุกชีวิตล้วนมีบาดแผล ต่างแต่ว่ามากน้อยแค่ไหน และบางครั้งเราก็พลั้งพลาดสร้างบาดแผลให้แก่ผู้อื่น’
✦ปลายฝน✦
—
ดีมากกกกก ครั้งแรกที่ได้อ่านงานของคุณภาพิมล เราไม่ติดอะไรเลย สำนวนอ่านง่ายมาก ด้วยการเลือกใช้ภาษาที่สละสลวย บางศัพท์เราไม่เคยเห็น แต่เข้าใจความหมาย สื่อสารได้เรียบง่ายและตรงประเด็นดีมาก ไหนจะเรื่องของการหยิบจับประเด็นในสังคมหลาย ๆ เรื่องมาตีแผ่ ผ่านนิยายเล่มนี้อีก
.
เป็นการเขียนเปิดเรื่องที่ดึงดูดความสนใจคนอ่านที่ใส่ใจ (ขี้เผือก) อย่างเรามาก ได้อ่านบทนำแล้วเราทั้งอยากรู้ว่าเขาจะตีแผ่ประเด็นต้นเรื่องไปในรูปแบบไหน อีกใจก็กลัวสิ่งที่คิดไว้ในต้นเรื่องจะเกิดกับตัวละครที่เราไม่อยากให้เขาเจ็บปวด แม้ว่าเรื่องนี้จะไม่สมควรเกิดขึ้นกับใครก็ตาม
.
‘ปลายฝน’ เข้ามาทำงานเป็นนักสังคมสงเคราะห์กับมูลนิธิแห่งหนึ่งหลังเรียนจบ หน้าที่การงาน และเพื่อนร่วมงาน ทำให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นเรื่อยมา กระทั่งทางมูลนิธิได้รับการขอความช่วยเหลือจากเด็กหนุ่มที่ได้รับความรุนแรงภายในครอบครัวที่มีพ่อขี้เหล้าอย่าง ‘มาวิน‘
.
การเข้าไปช่วยเหลือมาวิน ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ค่อย ๆ แปรเปลี่ยน และสร้างความแปรผันทางความรู้สึกของทั้งคู่เรื่อยมา กระทั่งปลายฝนตระหนักได้ถึงความไม่เหมาะสม และไม่ถูกต้อง อีกทั้งมาวินเพิ่งสูญเสียบุคคลในครอบครัว จึงไม่อาจปักใจเชื่อได้ว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นคือความรัก
.
เราชอบที่นักเขียนสร้างให้ตัวละครตระหนักรู้เรื่องราวต่าง ๆ จากคำพูดตักเตือนและการกระทำของอีกฝ่าย เห็นได้ชัดเลยว่ามาวินคอยผลักดันตัวเอง ไม่เคยทิ้งโอกาส ความฝัน และศรัทธาที่มี เพื่อให้ตัวเองมายืนอยู่ในจุดที่เหมาะสมจะยืนเคียงข้างผู้หญิงที่เขารักอยู่เสมอ
.
เมื่อวันหนึ่งเขาก็สามารถพิสูจน์ตัวเอง และพาตัวเองกลับเข้ามาในชีวิตของปลายฝนด้วยความภาคภูมิ และไม่ต้องกลัวว่าจะทำให้ผู้หญิงที่ตัวเองรักต้องตกอยู่ภายใต้คำครหาของสังคม มาวินกลับมาในชีวิตของปลายฝนครั้งนี้เพื่อช่วยส่งเสริมและเป็นกำลังใจให้ผู้หญิงที่ตัวเองรักอย่างเต็มกำลัง
.
ก่อนหน้านี้ตอนที่วินเข้ามาขอความช่วยเหลือมูลนิธิเราก็แอบหือกับความต่างของช่วงวัยพระ-นาง แต่พอพวกเขาก้าวผ่านมันมาได้ ตอนนี้แหละ คนที่ใช่ ในเวลาที่ถูกต้อง ความรักของพวกเขาช่วยส่งเสริมกันและกันเรื่อยมาเป็นอย่างดี ทั้งในส่วนของการใช้ชีวิต และซัปพอร์ตหน้าที่ทางการงาน
.
คู่รองก็ทำให้เราร่วมลุ้นไปกับ ‘บุรี’ และ ‘ณิชา’ ไรต์ใส่ปมของตัวละครและถ่ายทอดสิ่งที่ตัวละครต้องพบเจอหลังจากการตัดสินใจครั้งใหญ่ในชีวิตได้โคตรดี เขาทำให้เราคล้อยตามได้ว่าเออ จริง ๆ แล้วถ้าเกิดเราเลือกทางเดินนี้ เราก็คงอยากฝังอดีตให้มิดเหมือนที่พวกเขาเลือกปกป้องตัวเองจากความเจ็บปวดในอดีต
.
คู่หลักไม่หาย คู่รองไม่จม เลิฟไลน์มีช่วงที่หน่วง แต่เข้าใจได้ ส่วนของปม นักเขียนก็ไม่ได้ขยี้จนทำให้สัดส่วนของเนื้อหาหนักหน่วงเกินไป พล็อตยังอยู่ในสัดส่วนของนิยายรัก-ดรามา เป็นดรามาในสัดส่วนที่เรารับไหวแน่นอน อีกอย่างคือได้เห็นนักเขียนตีแผ่ประเด็นในสังคมหลาย ๆ เรื่อง ซึ่งเราชอบมาก แต่ละประเด็นเป็นมูฟเมนต์ที่ดีมาก ๆ
.
ไม่ว่าจะเป็นประเด็น Pedophobia (โรคใคร่เด็ก), Child grooming (ล่อลวงเด็ก), การยุติการตั้งครรภ์ (ทำแท้ง), ความรุนแรงภายในครอบครัว, ความเหลื่อมล้ำทางสังคม การมีอยู่ของประเด็นพวกนี้ ทำให้เราเข้าใกล้ และรู้สึกว่าเรื่องพวกนี้อยู่ใกล้ตัวเรา ควรตระหนักและใส่ใจให้มากขึ้นอีก
.
ส่วนตัวเราชอบทุกประเด็นที่นักเขียนบรรจงใส่ลงมา ทั้งเรื่องการตีแผ่ประเด็นใคร่เด็ก การล่อลวงเด็กที่นำไปสู่อาชกรรม ซึ่งตรงนี้เราไม่คิดด้วยซ้ำว่าจะนำมาเล่าผ่านตัวละครหลัก ซึ่งมันดีนะ เพราะในความจริงนั้น เราสามารถเป็นตัวเอกในชีวิตของคนคนหนึ่งได้ โดยที่เราไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบจริง ๆ
.
เรื่องการยุติการตั้งครรภ์ กรณีไม่พร้อม อันนี้เราโคตรเห็นด้วยเลย ถึงแม้จะได้รับการยอมรับทางการแพทย์และกฎหมาย แต่ก็ยังไม่แพร่หลายหากพูดไปถึงเรื่องศีลธรรม เราไม่เข้าใจว่าทำไมยังมีคนตราหน้าว่าคนที่เขาทำแท้งอยู่ ทั้ง ๆ ที่มันถูกต้องตามกฎหมาย และทุกคนมีสิทธิ์เลือกทางเดินชีวิตของตัวเอง
.
ทุกประเด็นเราสามารถเห็นและจับต้องได้หลาย ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นความเหลื่อมล้ำทางสังคม คนจนที่ต้องดิ้นรนเพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ไปวัน ๆ คนรวยก็รวยจนไม่สนกฎหมาย ไหนจะเรื่องของความรุนแรงในครอบครัว ที่คนนอกยังขาดความกล้าที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือเหยื่อ
.
เหมือนจะหมดแล้วแต่ยังนึกถึงเรื่องราวความประทับใจได้อีกเรื่อย ๆ เลย อีกหนึ่งประเด็นที่เราชอบมาก ๆ คือ การที่ปลายฝนเปิดรับดูแลเด็ก ๆ ในชุมชนแทนผู้ปกครองที่ไม่มีเวลา เดิมทีคิดว่าแค่เพราะเขาทำงานในมูลนิธิมานานเลยผูกพันกับเด็ก แต่แท้จริงแล้วมันมีอะไรที่มากกว่านั้น
.
เราเห็นหมดเลยว่าเขาเจาะตลาดผู้บริโภค เข้าหาผู้ปกครองยังไง ไหนจะต้องคอยพิสูจน์ตัวเองอยู่เสมอว่าสามารถดูแลลูกหลานเขาได้ คือเห็นได้ชัดว่าถ้าเด็ก ๆ ได้รับการปลูกฝังที่ถูกต้อง ดูแลและแก้ไขปัญหาได้ถูกจุด จะสามารถส่งเสริมให้พวกเขาเติบโตอย่างมีคุณภาพ และห่างไกลจากความบิดเบี้ยวของสังคมได้
.
เลิฟซีนน่ารักมากกก ทุก ๆ การเพิ่มระดับความใกล้ชิดของพระนางคือพอเหมาะพอดี จากการจ้องตา สู่การเกี่ยวก้อย จับมือ โอบกอด ฉากจูบที่มีความวาบหวาม และการแสดงออกทางความรู้สึกไปจนถึงเซ็กซ์ซีน เอ็นดูครั้งแรกของเจ้าหมาเด็กมาก กลมกล่อม และเพิ่มอรรถรสได้อย่างเหมาะสม คือมันถูกต้องไปหมด🤌🏻
.
ประทับใจไปหมดเลย คุณไรต์เรียบเรียงเนื้อหาออกมาได้ดีมาก ๆ ยิ่งรู้ว่าจะได้ทำละคร เราที่ดองจนละครจะมายิ่งต้องรีบอ่าน เพราะแคสติ้งนักแสดงได้ถูกต้องมาก พี่สาวคนสวยกับหมาเด็ก บทนี้นึกหน้าคนอื่นไม่ออกแล้วนอกจากพี่สาวแต้ว กับพี่โอ้ขวัญใจประชาชนของพวกเรา งานดรามาของพวกเขาตราตรึงเสมอ
.
มาอ่านกันเถอะ นาน ๆ จะได้เจองานเขียนที่หยิบจับประเด็นทางสังคมมาเล่าแบบนี้ อีกทั้งยังตีแผ่หลายมุมมองมาก ๆ เวลาเราเห็นคนติดอยู่ใน Toxic relationship และยังจมอยู่ในอดีตว่าทำไมเขาถึงไม่พาตัวเองออกมา หรือปล่อยวางจากเรื่องนั้น ๆ สักที เรื่องนี้ถ้าไม่ได้เจอกับตัวไม่มีวันเข้าใจจริง ๆ แหละ🥹
—
เครดิต จากเพจ อ่านจบแล้วจะเล่าให้ฟัง ค่ะ
อ่านรีวิวแล้ว ยังมีเรื่องราวอีกมากมายให้เราได้ตามต่อค่ะ โดยเฉพาะชีวิตของไม้ สู้นะไม้ พี่เป็นกำลังใจให้นะ