เตรียมอย่างไรถ้าไปอีกที...ABC TREKKING @ เนปาล

ช่วง14-27 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมาได้มีโอกาส ไปเดินtrekking ที่ ABC CIRCUIT VIA POONHILL ได้มีประสบการณ์กับขุนเขาเพิ่มขึ้นมาอีกที่ มีข้อเสนอแนะเพื่อการเตรียมการไป trekking ที่ Anapurna base campมาเล่าสู่กันฟังครับ


    1.การเตรียมร่างกาย...อันนี้ไม่ต้องกังวลมากครับ เตรียมยังไงก็ได้ให้มั่นใจว่าสามารถเดินวันละประมาณ 5-7 กิโลเมตรขึ้นๆลงๆได้ประมาณ 9 วันติดต่อกันโดยไม่มีปัญหาเรื่องข้อเข่า ก็ ok ครับ...มีคนมาเลเซีย คนอินเดียที่ไปเดินบางคนดูอ้วน แต่ก็ไปเดินได้ตลอดรอดฝั่ง อันนี้ยืนยันครับ
ส่วนเรื่อง Attitude sickness หรือ acute mountain sickness ไม่น่าต้องกิน diamox ในการเตรียมตัวครับ จะได้ลดความเสื่ยงเรื่องอาการข้างเคียงจากยา เราค่อยๆไต่ความสูงขึ้นร่างกายได้ปรับตัวโอกาสเป็นน้อยครับ ที่สำคัญคือต้องทานน้ำเยอะๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ ยานอนหลับอ่อนๆอาจต้องเตรียมไว้เพื่อจะได้หลับได้เพียงพอเพราะบางครั้งเราเปลี่ยนที่หรือตื่นเต้นก็จะทำให้นอนไม่หลับได้ ยาพาราเซตามอล ยานวดแก้เคร็ด ยาอักเสบข้อเอ็นกระดูก ผ้าพันเคร็ด อันนี้ต้องเอาไปครับ ในทีมผม 4 คนเป็นผู้สูงวัย กัน 3 คน กินยานอนหลับและยา (betahistine)เพิ่มการไหลเวียนไปเลี้ยงหูชั้นในในคืนที่ขึ้นสูงกว่า3000 เมตร ไม่มีใครมีอาการของ acute mountain sickness ครับ มีคนปวดหัวนิดหน่อยหัวนิดหน่อยไม่แน่ใจว่าจากอะไรกินพารา 2 เม็ดพร้อมยานอนหลับและยาเพิ่มการไหลเวียนเลือดในหูชั้นใน ตื่นมาก็ลุยได้เรียบร้อยดีครับ



   2.ช่วงเวลาที่เลือกไป ผมว่าไปช่วงเมษายน น่าจะดีครับ ไปตอนพฤษภาคม ดอกกุหลาบพันปีเริ่มร่วงไปบ้างแล้ว ในป่ากุหลาบพันปีจึงเห็นแดงไปทั้งพื้น แต่บนต้นมีดอกให้ดูแต่ไม่ถึงกับหนาแน่น อากาศในเดือนพฤษภาคมอุณหภูมิต่ำสุดที่ไปเจอตรง ABC คือ 2 C สำหรับคนชอบหนาวอย่างผมรู้สึกว่าไม่สะใจ เมษายนน่าจะหนาวกว่านี้
อย่างไรก็ตามช่วงพฤศจิกายนธันวาคมก็จะเป็นช่วงที่ให้บรรยากาศความสวบงามแตกต่างกัน  ที่ต้องห้ามคือการไปในช่วงมรสุม (มิถุนายน-ต้นกันยายน)อันนี้คือเป็นช่วงที่ฝนตกอากาศแปรปรวนควรหลีกเลี่ยงครับ ไปทีละหลายวันสำหรับคนทำงานซึ่งลากันยากผมว่าหยุดยาวสงกรานต์นั่นแหละน่าจะเหมาะครับ โดยเฉพาะถ้าอยากเห็นดงกุหลาบพันปี
    3.การจัดการเรื่องทัวร์ อันนี้แนะนำให้ใช้ทัวร์เนปาลนะครับ ราคาจะถูกกว่าการจัดไปจากไทย
มีให้เลือกหลายเจ้าลอง Google กันดูนะครับ เอาโปรแกรมที่บริษัทเขาให้ลองเปรียบเทียบราคากันดูครับ  ผมว่าคุณภาพบริการน่าจะคล้ายๆกัน อาหารการกิน ห้องพัก
ก็จะเป็นแนวเดียวกัน เวลาเปรียบเทียบโปรแกรมดูให้ดีนะครับว่าเป็น ABC TREKKING (trekking  ไปเฉพาะ ABC) หรือ ABC TREKKING via poonhill   อันที่จริงแล้ว ABC TREKKING เป็นการ trekking ที่ทางพื้นที่เขาอนุญาตให้เราขึ้นโดยไม่จำเป็นจะต้องมีguideก็ได้ครับ แต่สำหรับลูกหาบผมว่ายังจำเป็นอยู่ จะได้ไปแบบ สบายๆครับ แบกเฉพาะของกินของใช้ประจำวันพอ 55
อีกประการหนึ่งก็คือ ค่าทัวร์จะรวมการเดินทาง Kathmandu ไปกลับ Pokhara ไว้ด้วยซึ่งถ้าเป็น standard ก็จะเป็นการเดินทางโดยรถทัวร์ทั้งไปทั้งกลับ(เดินทางประมาณ 10 ชั่วโมงต่อเที่ยว)เราอาจจะขอปรับเปลี่ยนเป็นเครื่องบินได้ครับ สำหรับพวกผมเปลี่ยนขากลับจากรถทัวร์มาเป็นเครื่องบิน เพียงขาเดียว เพื่อจะได้เห็นบรรยากาศทั้ง 2 แบบ อันนี้ก็ทำได้ครับ

    4.อุปกรณ์เดินเขา เริ่มจากเป้นะครับที่ต้องมีแน่ๆคือ
     เป้ day bag เอาใบเล็กๆที่ใส่ของใช้ประจำวันของใช้ส่วนตัว ของกินเสื้ออุปกรณ์กันหนาว เสื้อกันฝน และที่ต้องใส่แน่ๆคือกระป๋องน้ำครับ ถ้า day bag รวมกันแล้วหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัมก็น่าจะเดินสบายๆครับ ควรจะมีผ้าคลุมกันน้ำสำหรับเป้ด้วยนะครับ ฝนอาจจะตกลงมาโดยไม่ต้องเตือนครับ

        เสื้อกันฝนควรจะเลือกแบบที่ใส่ถอดเข้าออกง่ายๆ ที่สะดวกก็คือการใส่แบบคลุมนั่นแหละครับ

        trekking poles อันนี้แล้วแต่ชอบ แล้วแต่สกิลเลยครับบางคนก็ใช้ข้างเดียว บางคนใช้ 2 ข้าง สำหรับผมถนัดที่จะเดินโดยไม่ใช้ trekking pole ครับ
        เสื้อผ้าที่จะเอาไป เหงื่อออกง่ายแต่แห้งเร็วครับกางเกงตัวนึงใช้ได้ประมาณ 3 วัน เสื้อก็ 2-3 วันครับ เลือกเอาตัวที่เบาแห้งง่าย
สำหรับชุดนอน ผมแยกเอาไว้เลยครับชุดเดียวตลอดทริป ไว้ใส่นอนอย่างเดียว กางเกงขาสั้นก็นับว่ามีประโยชน์ครับตอนไหนที่รู้สึกอยากสบายๆก็ใส่ขาสั้นได้ครับเพราะอากาศกลางวันก็ยังมีแดดนะครับหมวกมีปีกกันแดดจึงต้องมี กางเกงว่ายน้ำก็ควรจะเอาไปนะครับ ถ้ามีโอกาสมีน้ำพุร้อนตรง Jhinu ให้เล่นด้วย ส่วนเสื้อผ้ากันหนาวก็เตรียมกันให้เพียงพอตอนเดินครับ หมวกอุ่น พวกหมวกไหมพรม  ถุงมือกันหนาว  ในที่พักทุกที่มีผ้านวมหนาๆให้เราห่ม เอาอยู่ครับ ในทริปนี้ผมไม่มีโอกาสได้ใช้ถุงนอนเลย

     5.กองทัพต้องเดินด้วยท้องครับเรื่องอาหารหนึ่งนับว่าเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าไปอีกครั้งแน่ๆคือผมต้องเตรียม อาหารสำเร็จรูปที่เป็นเนื้อ เป็นปลา เป็นไก่ ที่กินง่ายๆ จำพวกเนื้อสวรรค์อะไรแบบนี้ก็ได้ครับ แต่อาจจะต้องอยู่ในprepackให้เรียบร้อย เผื่อศุลกากรขอตรวจ  มาม่าก็ช่วยได้
แต่ก็ต้องซื้อน้ำมาต้มซึ่งในที่สูงๆน้ำก็ราคาแพงครับ  ผมว่าพวกที่แกะกินได้เลยและเป็นเนื้อๆนี่แหละครับน่าจะเวิร์คกว่า เมื่อเข้าในtrekk โปรตีนที่ได้มาจากแหล่งเดียวเลยครับคือไข่  ในรายการอาหารอาจจะมีเนื้อไก่ เนื้อควาย
แต่เอาเข้าจริงไม่ค่อยมีครับ หรือถ้ามีไกด์ก็แนะนำให้ไม่กิน กลัวเรื่องการเก็บมานานและอาจจะทำให้ท้องเสีย น้ำพริกเครื่องปรุงอะไรต่างๆถ้ามีที่สำเร็จรูปไปด้วยก็ดีครับอาหารแต่ละฐานจะซ้ำๆ อาหารและขนมระหว่างเดินทางที่พกประจำตัวสำหรับเราใช้กล้วยตากและลูกอินทผาลัม ก็เวิร์คครับ  แล้วก็มาถึงเรื่องใหญ่คือเรื่องน้ำ
ในพื้นที่ต่ำกว่า 2,000 เมตร จะยังมีน้ำmineral waterขายอยู่  ราคา 150 รูเปียเนปาล ต่อ 1 ลิตร แต่พอสูงขึ้นไป ก็จะไม่มีขายเราต้องซื้อเป็น purified boiled water ลิตรละประมาณ150-300 รูเปียเนปาล แล้วแต่ความสูงของสถานที่ ดังนั้นเราต้องเตรียมกระป๋องใส่น้ำไว้นะครับ(ใช้ขวดลิตรที่ใส่mineral water ก็เบาและสะดวกดีครับ ที่สำคัญไม่ต้องเตรียมไปด้วย) เขาไม่มีกระป๋องให้
แล้วถ้าใครชอบกินน้ำร้อน ก็ต้องเตรียมกระป๋องเก็บน้ำร้อนเพิ่มไว้อีกกระป๋อง   คิดว่าการกินน้ำแบบนี้จะสะดวกและปลอดภัยที่สุดไม่จำเป็นต้องเอาเครื่องกรองหรือเม็ดคลอรีน เพื่อไปเตรียมน้ำเองครับ
       6.ที่พักในแต่ละจุดจะมีwifi ซึ่งจะเก็บค่าบรืการ เราอาจจะใช้สัก 1 คนแล้วแชร์ hotspot กัน ส่วนในร้านอาหารเวลาทานกลางวันมี WiFi แจกขอได้ครับส่วนใหญ่จะไม่คิดเงิน การโรมมิ่งไปไม่มีประโยชน์เมื่อขึ้นเขาแล้วไม่มีสัญญาณไม่ค่อยคุ้ม
แต่มีประโยชน์ตอนอยู่ที่ Kathmandu และ Pokhara ครับ
        7.การประกันหลักการเดินทางประกันการเดินทางของแบงค์หรือบริษัทประกันทั่วไป ครอบคลุมความสูงที่ไม่เกิน 1,500 เมตร ดังนั้นเราต้องซื้อประกันเพิ่มในช่วงที่เดินขึ้นเขา
ผมใช้ของ worldtrip สะดวกดีครับซื้อออนไลน์ได้เลยเหมือนกัน
กรุ๊ปละ 4 คนเขาคงคิดความเสี่ยงตามอายุด้วยร่วมแล้วจ่ายค่าเสียหายไป 6,000 กว่าบาท ต่อ 4 คน
ไม่มีใครเป็นอะไรไม่ได้เคลม แต่ก็ยินดีจ่ายครับ 55 55

    คิดว่าข้อมูลนี้คงมีประโยชน์และทำให้คลายความหนักใจให้คนที่กำลังจะเตรียมตัวไปนะครับ!! ทริปนี้ขอเอารูปบรรยากาศการเดินทางมาฝากตามลิงค์ YouTube ข้างล่างครับ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอคลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่