สวัสดีครับ เมื่อวานเป็นวันอาทิตย์ที่แถวๆบ้านอากาศอึมครึมแต่เช้า บรรยากาศน่านอนมากๆครับ
กะว่าจะตื่นซักเที่ยงๆ แต่ก็ต้องรีบเด้งตัวตื่นก่อน เพราะเพื่อนจะมารับออกไปหาอะไรกินตอนสายๆครับ
จะว่าสายก็ไม่ใช่ เพราะเพื่อนมารับตอน11โมงกว่าๆ เพื่อนบอกว่าอยากไปทำบุญ
ก็เลยได้กระทู้ In A Day ในวันนี้เป็น มินิรีวิวชีวิตในหนึ่งวันแบบสั้นๆครับ
ออกจากหมู่บ้าน ขับรถไปตามถนนซอยลาดกระบัง54 ประมาณ5นาทีก็ถึงจุดหมายของเรา
วัดหัวคู้ นั่นเองครับ ที่วัดนี้มีหลวงพ่อเขียว ซึ่งเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ให้กราบไหว้ อธิษฐาน
ขอพรกันด้วยครับ ป่ะเราออกเดินทางกัน
จากถนนลาดกระบัง54 ขับเข้าซอยแยกมาไม่ไกลก็จะเจอซุ้มประตูเข้าเขตวัดครับ
จอดรถเสร็จเรียบร้อยก็เดินไปไหว้พระครับ
ระหว่างทางก็จะมีซุ้มขายของ ที่ชาวบ้านนำของมาวางขายครับ
มีทั้งผลไม้ ขนม และงานฝีมือ อย่างตะกร้าถักหลากหลายสี
เดินเลี้ยวเข้าไปก็จะเป็นเขตวิหารที่ประดิษฐานองค์หลวงพ่อเขียว
พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่เป็นที่เคารพของชาวบ้านแถวนี้ครับ
ทางเข้าประดับธงสวยงามมากๆครับ
ถึงแล้วครับเราไปซื้อดอกไม้ ธูปเทียน แผ่นทอง ไปไหว้หลวงพ่อเขียวกัน อธิษฐานขอพร
เผื่อทุกๆคนให้มีชีวิตร่มเย็นเป็นสุขครับ ^^
ใต้วิหารที่ประดิษฐานองค์หลวงพ่อเขียว มีชั้นใต้ดิน
ให้ลงไปเยี่ยมชมด้วยครับ แต่วันนี้ผมไม่ได้ลงไป ไว้คราวหน้าจะลงไปถ่ายรูปมาให้ชมกันครับ
ประวัติหลวงพ่อเขียว
หลวงพ่อเขียวสุโขพุทโธภควา มีประวัติความเป็นมาว่า ในสมัยที่ประเจ้าตากสิน ได้เข้ามาช่วยสงครามในการรบกับพม่า และตีฝ่าวงล้อมของพม่าออกไปทางทิศตะวันออก และตลอดระยะทางมีผู้คนรี้พลเข้าร่วมมากจึงเป็นกองทัพ และเดินทัพผ่านทุ่งสีกัน (ดอนเมืองปัจจุบัน) และผ่านหมู่บ้านหัวคู้ พระองค์ทรงเล็งเห็นว่ามีทำเลเหมาะที่จะพักทัพ เพราะมีแม่น้ำลำคลองล้อมรอบ ยากที่ข้าศึกจะเข้าโจมตีได้
ในระหว่างพักทัพนั้น พระองค์ได้สะสมเสบียงอาหารและรวบรมไพร่พลเพิ่มขึ้น จนพระองค์ทรงเห็นว่าเป็นเวลาสมควรแล้ว จึงยกทัพไปเมืองจันทบุรี ก่อนจะเคลื่อนทัพ พระองค์เล็งเห็นความสำคัญของสถานที่บ้านหัวคู้ว่าพื้นที่แห่งนี้จะมีคุณประโยชน์ยิ่งใหญ่ในภายภาคหน้า พระองค์จึงตั้งจิตอธิฐานว่า ในภายภาคหน้าขอให้สถานที่นี้เป็นวัดในอนาคต และพระองค์ทรงมอบพระพุทธรูปโลหะ ๑ องค์ ไว้เป็นที่ระลึก ชาวบ้านหัวคู้เล็งเห็นว่าพระพุทธรูปโลหะนี้มีค่ายิ่งนัก จึงได้สร้างพระพุทธรูปปั้นครอบองค์โลหะไว้เพื่อกันขโมยลัก ประดิษฐานไว้ ณ บ้านหัวคู้ ชื่อว่าหลวงพ่อเขียว เพราะพระเจ้าตากสินได้ให้ทหารชื่อว่านายเขียวเป็นผู้ดูแลทรัพย์สินต่างๆ ที่ฝังไว้
ต่อมาภายหลังหลวงพ่อบุญปลูกมาเป็นเจ้าอาวาสจึงได้บูรณะปฏิสังขรณ์ ในปี พ.ศ.๒๕๒๐ และถวายพระนามว่า "หลวงพ่อเขียวสุโขพุทโธภควา" ปัจจุบันองค์หลวงพ่อได้ประดิษฐานไว้ในวิหาร ณ วัดหัวคู้
**ขอบคุณข้อมูลจาก srisajorrakhenoi.go.th ครับ**
แผ่นทองที่ได้มา ผมชอบเอามาปิดทองตรงนิ้วมือของหลวงพ่อครับ
ขอให้มือนี้ทำงานสุจริต อ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่ มีกินมีใช้ เงินทองไม่ขาดมือ หยิบจับอะไรก็เจริญงอกงาม
เป็นเงินเป็นทอง ชี้นิ้วสั่งใครก็ให้มีคนเกรงขาม เคารพเกรงใจ
ไหว้หลวงพ่อเขียว แปะทอง เซี่ยงเซียมซีเสร็จ ก็ออกมาด้านนอก
กะว่าจะมาถวายสังฆทานกันต่อ แต่ว่าพระท่านไปฉันเพลกันพอดี
มีหนังสือสวดมนต์ หนังสือธรรมะแจกฟรีด้วยนะครับ
ไม่ได้รอทำสังฆานเพราะท้องเริ่มหิว
แต่มองไปเห็นจุดทำบุญถวายเทียนพรรษาตามปีเกิด
ก็จัดไปครับ มาหล่อเทียนพรรษาด้วยกันครับ
ทำบุญเสร็จอิ่มอก อิ่มใจ แต่ยังไม่อิ่มท้อง 55+
เดินออกไปหน้าวัด จะมีร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่ครับ
เจ้านี้เด็ดที่เย็นตาโฟร์ อร่อยมากกกกก
อร่อยแบบไม่ต้องปรุงเพิ่มเลยครับ
มีน้ำแข็งไสขายด้วย คลายร้อน
มีโซนแพ ให้นั่งในคลองหัวตะเข้ด้วยครับ
ชมวิวเพลินๆ อากาศดีครับวันนี้
มาแล้วครับเย็นตาโฟร์ น่ากินมั้ยครับ
เห็นหน้าตาธรรมดาๆแบบนี้ รสชาติเข้มข้นมาก
ไม่ต้องปรุงเพิ่มเลยครับ
(คุณลุงคนทำย้ำว่า ชิมก่อนนะไอ้หนู ค่อยคิดว่าจะปรุงเพิ่มมั้ย ^^)
เกลี้ยงชามครับ คอมพลีทมากๆ วันนี้ ^^
จบแล้วครับ In A Day กับเซเว่นหน้าหอใน
วันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน 2567
ไว้พบกันใหม่ครับ
ขอบคุณที่มาให้ยั่วๆ เย็นตาโฟร์ ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมกันนะครับ ^^
@@ In A Day กับเซเว่นหน้าหอใน : ทำบุญ ไหว้พระและกินก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟร์สุดอร่อย ที่วัดหัวคู้ ^^ @@
ในระหว่างพักทัพนั้น พระองค์ได้สะสมเสบียงอาหารและรวบรมไพร่พลเพิ่มขึ้น จนพระองค์ทรงเห็นว่าเป็นเวลาสมควรแล้ว จึงยกทัพไปเมืองจันทบุรี ก่อนจะเคลื่อนทัพ พระองค์เล็งเห็นความสำคัญของสถานที่บ้านหัวคู้ว่าพื้นที่แห่งนี้จะมีคุณประโยชน์ยิ่งใหญ่ในภายภาคหน้า พระองค์จึงตั้งจิตอธิฐานว่า ในภายภาคหน้าขอให้สถานที่นี้เป็นวัดในอนาคต และพระองค์ทรงมอบพระพุทธรูปโลหะ ๑ องค์ ไว้เป็นที่ระลึก ชาวบ้านหัวคู้เล็งเห็นว่าพระพุทธรูปโลหะนี้มีค่ายิ่งนัก จึงได้สร้างพระพุทธรูปปั้นครอบองค์โลหะไว้เพื่อกันขโมยลัก ประดิษฐานไว้ ณ บ้านหัวคู้ ชื่อว่าหลวงพ่อเขียว เพราะพระเจ้าตากสินได้ให้ทหารชื่อว่านายเขียวเป็นผู้ดูแลทรัพย์สินต่างๆ ที่ฝังไว้
ต่อมาภายหลังหลวงพ่อบุญปลูกมาเป็นเจ้าอาวาสจึงได้บูรณะปฏิสังขรณ์ ในปี พ.ศ.๒๕๒๐ และถวายพระนามว่า "หลวงพ่อเขียวสุโขพุทโธภควา" ปัจจุบันองค์หลวงพ่อได้ประดิษฐานไว้ในวิหาร ณ วัดหัวคู้
**ขอบคุณข้อมูลจาก srisajorrakhenoi.go.th ครับ**