เรื่องคดีการตามเรื่องของตำรวจ

มีวันนึงเราซ้อนท้ายมอไซค์กับแฟน เราออกมาจากซอยจะไปเกาะกลางแต่เราหยุดดูรถตรงหน้าซอยแล้ว เห็นรถที่มาทางตรงอยู่ตรงเรนกลางเห็นรถมันมาช้าอยู่เลยขับออกไปจากซอยเพื่อไปเรนกลาง แต่ขณะที่ออกมาจากซอยย ได้มีรถที่อยู่ข้างหลังรถที่มาจากทางตรงได้เปลี่ยนเรนพอดีกับที่เราออกมาจากซอยรถได้เปลี่ยนไปอยู่เรนที่ต้องยูเทริน เราไม่เห็นที่มาจากเรนนั้นมีรถมาเลยชนกัน ทางรถคันเปลี่ยนเรนมาก็บอกว่าเห็นเราอยู่ตรงหน้าซอยแล้วแต่ไม่ว่าออกมาจากซอยเลยชนกัน
เรามาทางรอง เขามาทางหลัก แต่ทางนั้นเป็นทางกลับรถยูเทริน
เราเลยไม่รู้ว่าใครผิด หรือจะเป็นประมาทรวม 
รถเราเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่ออกมาจากซอย ส่วน รถที่เปลี่ยนเรนเป็นรถยนต์ไฟฟ้า
ทางตำรวจว่าต้องรอเรียก จึงกว่าจะหาย
เเต่แฟนเราพอเดินได้แล้ว แต่เรายังเดินไม่ได้ แต่เเฟนเราสามารถไปให้ปากคำได้เเล้ว โทรไปบอกตำรวจแล้วตำรวจบอกรอเรียก
แต่ตอนนี้เราก็ไม่สามารถทำงานได้ไม่มีเงินค่าห้องก็ต้องจ่าย เงินก็ไม่มีกิน
ตอนที่โดนชนเป็นตอนที่เราออกจากงานพอดีแล้วกำลังหางานใหม่ แฟนเราก็พึ่งได้งานส่งอาหารแพนด้า พึ่งสมัครได้ทำได้แค่5วันก่อนรถชนกัน
ทุกคนคิดว่าคดีนี้เป็นไงค่ะ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ฝ่ายมอเตอร์ไซค์เสียเปรียบครับ มีโอกาสสูงที่ต้องเจ็บเองจ่ายเองแล้วจ่ายรอบวงด้วย
ถ้าฟลุ๊คก็อาจเป็นต่างฝ่ายต่างประมาทซึ่งโอกาสน้อยมาก แต่ก็ต้องรับผิดชอบตัวเองอยู่ดี
ดีกว่าหน่อยตรงที่ไม่ต้งจ่ายค่าซ่อมให้คู่กรณีครับ

ออกจากซอย ถ้าไม่มีหลักฐานว่ารถทางเอกถนนเคลียร์จริงๆแล้วคู่กรณีวาร์ปมาชนเรา
โอกาสคดีพลิกแทบไม่มี กฎหมายเขาตีความตามเจตนารมย์ไว้ชัดเจนว่า ถ้าทางโทจะออก
ถนนทางเอกต้องว่างนั่นคือคุณต้องไม่เห็นรถแม้แต่คันเดียวเห็นแต่พื้นคอนกรีต ถึงจะออกได้
แม้ชีวิตจริงจะไม่มีใครทำก็เถอะ แต่กฎหมายต้งชัดเจนเวลาเกิดอุบัติเหตุมันต้องตัดสินได้
เขาถึงเขียนไว้แบบนี้ไม่งั้นวุ่นวาย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่