ตลอดชีวิตที่ผ่านมา เราคือผู้ไม่เคยคาดหวัง การทำงาน "ที่ดี" ของหน่วยงานราชการใดในประเทศไทยเลย
คือ ชินกับความบกพร่อง และการปล่อยปละละเลยของเจ้าพนักงาน
จนสามารถทำใจปล่อยวางได้
กระทั่งต้นเดือนพฤษภาคม เกิดเหตุกับบ้านอีกหลังของเรา (โฉนดและเอกสารราชการ ล้วนเป็นชื่อเราคนเดียว)
...
นั่นคือ เดินไปพบ "หมายศาล" แปะที่รั้วบ้าน
พร้อมเอกสารจากศาลจังหวัดสงขลา หนาเป็นปึก เสียบอยู่ในระหว่างซี่รั้วบ้าน
เพราะหนาจนใส่กล่องรับจดหมายไม่ได้
...
เราดูแค่แผ่นแปะ "หมายศาล" งงมาก ...ตกใจว่า เอ๊ะ เราไปทำอะไรไว้หว่า...
อ่านไปจนบรรทัดสุดท้าย ถ้าไม่สังเกตจะไม่เห็นเลยว่า อ้าวววว เอกสารไม่ผ่านการพิสูจน์อักษรแน่ ๆ
นั่นคือ บ้านเลขที่ (สมมติว่า) 222 คือ เป็นเลขที่ของบ้านเราเลย
แต่ชื่อเจ้าของบ้าน ไม่ใช่ชื่อเรา เป็นชื่อที่เราไม่รู้จัก
มองไปมองมา พลิกไปพลิกมา เอ๊ะ มันคือ หมายศาลของบ้านเลขที่ 2222 ต่างหาก
คือ มันมีรายละเอียดว่า คนชื่อนี้ตกเป็นจำเลย จะต้องไปขึ้นศาลภายในวันนั้นวันนี้
หากไม่ไป จะยึดบ้านแล้ว
โดยโจทก์ คือ เหล่าธนาคารและสถาบันการเงิน รวม 4 องค์กร
แม่เราวัย 83 ตกใจมาก คิดไปนั่นนี่นู่น
เช่น "ทำไมเขาจะมายึดบ้าน แม่ซื้อมา 10 ปีแล้ว 3 ล้านจ่ายสดเลย โฉนดก็อยู่กับเรา"
คือ คนแก่อะเนอะ
เราบอกแม่ ไม่ต้องตกใจ แค่เจ้าหน้าที่ใส่บ้านเลขที่ผิด ไม่ใช่บ้านเราแน่นอน
เราก็ขำ ๆ แหละ แต่ก็หงุดหงิดนิดหน่อยว่า งานระดับนี้ ทำไมไม่ตรวจทานให้ดี
ไม่โทษเจ้าหน้าที่ที่มาแปะหมายศาลผิดบ้านนะคะ เพราะเขาทำตามข้อมูลดังที่ปรากฏในเอกสารราชการ
ทว่า ความกังวลของแม่ ทำให้เราไม่อยาก ...ช่างมัน
บวกกับไม่ชอบอะไรผิด ๆ ด้วยแหละ เกิดปล่อยไปแล้วมันยืดเยื้อภายหลัง
จะแก้ไขยาก
เพราะเรารู้ชัดแล้วว่า คนที่ต้องคดีในหมายศาลนี้ หนีไปอยู่ที่อื่นนานหลายปีแล้ว
และบ้านหลังนั้นร้างมา 4 ปีแล้ว
เราเลยโทรไปถามคนรู้จักที่เป็น "ผู้จัดการธนาคารสาขา" ซึ่งธนาคารนี้ คือโจทก์หลักในหมายศาล
เพื่อนบอก โทรเข้าศูนย์ แจ้งว่าลงข้อมูลผิดบ้าน แล้วเดี๋ยวเจ้าหน้าที่จะจัดการแก้เอง
เราก็ได้ งั้นโทรไปเลย
ปรากฏว่า ลองโทรไป ...ทั้งธนาคาร ทั้งสถาบันที่มีชื่อเป็นโจทก์ ครบทุกแห่ง
บ้างไม่รับสาย บ้างโอนสายไปจนสายตัด
ส่วนเบอร์ธนาคารหลัก ให้ถือสายรอ 30 นาที ...เกินขีดความอดทนรอ เลยวางสาย
ที่สุด เราถามเพื่อนที่เป็นทนายความ
เพื่อนบอก เออ เข้าใจ แต่ช่างมันเถอะ เดี๋ยว "เค้า" ก็ตรวจเจอเองว่า มันผิด
อย่าไปเสียเวลาเลย
เราก็ หืมมมมม ? ....
ที่สุด เราตัดสินใจเองว่า เราควรจะ "แจ้งเพื่อทราบ"
จึงส่งอีเมล 1 ฉบับ เขียนถึง ศาลประจำจังหวัดสงขลา และ CC ให้ธนาคาร + สถาบันการเงินตามชื่อโจทก์ร่วม
(หาอีเมลทั้งหมด จาก google) ระบุเนื้อหาในอีเมล "ร้องเรียน" ว่า
ในหมายศาลเลขที่.... ลงข้อมูลผิดบ้านเลขที่ เลขที่บ้านหลังที่ต้องคดี ตกหล่นไป 1 ตัวเลข
พร้อมถ่ายภาพหมายศาลที่แปะหน้าบ้านเรา และเลขที่บ้านเราแบบปรากฏชัดเจน
และอธิบายว่า ที่ปิดหมายศาลผิดบ้าน เพราะข้อมูลในหมายศาล ผิดมาตั้งแต่ต้น
ดังไฟล์แนบนะคะ
...
ความประทับใจบังเกิด ...หลังส่งอีเมลผ่านไป 3 วัน
สำนักอำนวยการประจำศาลจังหวัดสงขลา ส่งไฟล์ตอบกลับมา
ว่า ตรวจสอบแล้ว พบว่า เจ้าหน้าที่ทำผิดพลาดจริง ไม่ได้มีการตรวจทานข้อมูลให้ถี่ถ้วน
มีการระบุว่า ตามกฎข้อนี้ข้อนั้น มาตรานั้น วรรคนี้ ได้ว่ากล่าวตักเตือนเจ้าหน้าที่แล้ว
บลา บลา ...
แค่นั้นก็ประทับใจแล้วค่ะ
ถึงกับเอาไปบอกเล่าเพื่อนทนาย ...เพื่อนบอก สุดยอด นี่แหละที่องค์กรควรทำ
เรานึกในใจ แหมมมมมม ... เธอบอกเราเองว่า อย่าไปสนใจ...นะจ๊ะ
ผ่านมาอีก 5 วัน เราได้รับจดหมายลงทะเบียนจากศาลสงขลา
เนื้อความตามปรากฏในอีเมลที่ตอบมาก่อนแล้ว
เรานึกทึ่ง นึกชื่นชม และรู้สึกมีความหวัง
ที่มีเจ้าหน้าที่ศาลเช่นนี้ คุ้มครองสิทธิ์ชาวบ้านอย่างเรา ที่ไม่ได้รู้อิโหน่อิเหน่อะไร
แต่ทำให้คนแก่ในบ้านเรา หัวใจเต้นตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ ในเรื่องที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับบ้านเราเลย
ตอนอ่านจดหมายก็ยิ้ม ๆ นะคะ ประทับใจมากในความใส่ใจจากศาล
ขณะที่ ธนาคารของรัฐ (เอ๊ะ หรือของกองทัพน้ออออออ) และสถาบันการเงินต่าง ๆ ไม่หืออือ
ไม่แม้จะตอบ "รับทราบ" จากอีเมล "ร้องเรียน" ที่เราส่งไปเลย สักคำเดียว
ทว่า ความพีค ... ไม่ได้หยุดแค่ 2 ความประทับใจติดค่ะ
ความพีคที่ทำให้ต้องลงกระทู้ชื่นชม เป็นลายลักษณ์อักษร คือ ...
วันอาทิตย์ค่ะ วันอาทิตย์ สาย ๆ เจ้าหน้าที่ศาลประจำจังหวัดสงขลา
ยกคณะทำงาน ไปเยือนเราถึงบ้านค่ะ
แว่วว่า ไปหาเราที่บ้านตามปรากฏในหมายศาล "ผิดบ้าน"
แล้วข้างบ้านคงจะบอกว่า ปกติบ้านนี้ไม่มีคนอยู่ เจ้าของบ้านอยู่บ้านหลังริมคลอง
ซึ่งห่างไป 100 เมตร
... เสียงกดออดดัง
แม่วัยชราของเรา ออกไปรับ
เจ้าหน้าที่ศาลลงรถมาทั้งหมด และกล่าว "ขอโทษ" ค่ะคุณขา
ว้าววววววววววว พูดไม่ออก ไม่คาดคิด
สุดยอดเลยค่ะ
เสียดาย เราไม่อยู่บ้าน (แต่เปิดกล้องวงจรปิดดูจนจบครบ 15 นาทีแล้วค่ะ)
ปรบมือรัว ๆ เลย ...และขอบคุณมา ณ ที่นี้นะคะ
แค่อีเมลฉบับเดียวที่ตอบมา ก็ดีใจมากแล้วค่ะ ที่พวกคุณใส่ใจ
ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องเดินทางมาจากจังหวัดสงขลา ขับรถมาถึงหาดใหญ่
มันไม่ใช่ใกล้ และยังเลือกมาวันหยุด ...อีก
ขอบคุณมากค่ะที่ทำให้เราประทับใจขั้นสุด เช่นนี้.
ป.ล. ถึงกับอยากสั่งเงือกเขียว ส่งไปแทนความประทับใจที่ได้รับเลยค่ะ
แต่กลัวจะไม่สมควร เพราะเกี่ยวกับศาล ศาล ...
ทว่า ...ประทับใจจริง ๆ นะคะ ยืนยัน
ชื่นชม "ศาลสงขลา"
คือ ชินกับความบกพร่อง และการปล่อยปละละเลยของเจ้าพนักงาน
จนสามารถทำใจปล่อยวางได้
กระทั่งต้นเดือนพฤษภาคม เกิดเหตุกับบ้านอีกหลังของเรา (โฉนดและเอกสารราชการ ล้วนเป็นชื่อเราคนเดียว)
...
นั่นคือ เดินไปพบ "หมายศาล" แปะที่รั้วบ้าน
พร้อมเอกสารจากศาลจังหวัดสงขลา หนาเป็นปึก เสียบอยู่ในระหว่างซี่รั้วบ้าน
เพราะหนาจนใส่กล่องรับจดหมายไม่ได้
...
เราดูแค่แผ่นแปะ "หมายศาล" งงมาก ...ตกใจว่า เอ๊ะ เราไปทำอะไรไว้หว่า...
อ่านไปจนบรรทัดสุดท้าย ถ้าไม่สังเกตจะไม่เห็นเลยว่า อ้าวววว เอกสารไม่ผ่านการพิสูจน์อักษรแน่ ๆ
นั่นคือ บ้านเลขที่ (สมมติว่า) 222 คือ เป็นเลขที่ของบ้านเราเลย
แต่ชื่อเจ้าของบ้าน ไม่ใช่ชื่อเรา เป็นชื่อที่เราไม่รู้จัก
มองไปมองมา พลิกไปพลิกมา เอ๊ะ มันคือ หมายศาลของบ้านเลขที่ 2222 ต่างหาก
คือ มันมีรายละเอียดว่า คนชื่อนี้ตกเป็นจำเลย จะต้องไปขึ้นศาลภายในวันนั้นวันนี้
หากไม่ไป จะยึดบ้านแล้ว
โดยโจทก์ คือ เหล่าธนาคารและสถาบันการเงิน รวม 4 องค์กร
แม่เราวัย 83 ตกใจมาก คิดไปนั่นนี่นู่น
เช่น "ทำไมเขาจะมายึดบ้าน แม่ซื้อมา 10 ปีแล้ว 3 ล้านจ่ายสดเลย โฉนดก็อยู่กับเรา"
คือ คนแก่อะเนอะ
เราบอกแม่ ไม่ต้องตกใจ แค่เจ้าหน้าที่ใส่บ้านเลขที่ผิด ไม่ใช่บ้านเราแน่นอน
เราก็ขำ ๆ แหละ แต่ก็หงุดหงิดนิดหน่อยว่า งานระดับนี้ ทำไมไม่ตรวจทานให้ดี
ไม่โทษเจ้าหน้าที่ที่มาแปะหมายศาลผิดบ้านนะคะ เพราะเขาทำตามข้อมูลดังที่ปรากฏในเอกสารราชการ
ทว่า ความกังวลของแม่ ทำให้เราไม่อยาก ...ช่างมัน
บวกกับไม่ชอบอะไรผิด ๆ ด้วยแหละ เกิดปล่อยไปแล้วมันยืดเยื้อภายหลัง
จะแก้ไขยาก
เพราะเรารู้ชัดแล้วว่า คนที่ต้องคดีในหมายศาลนี้ หนีไปอยู่ที่อื่นนานหลายปีแล้ว
และบ้านหลังนั้นร้างมา 4 ปีแล้ว
เราเลยโทรไปถามคนรู้จักที่เป็น "ผู้จัดการธนาคารสาขา" ซึ่งธนาคารนี้ คือโจทก์หลักในหมายศาล
เพื่อนบอก โทรเข้าศูนย์ แจ้งว่าลงข้อมูลผิดบ้าน แล้วเดี๋ยวเจ้าหน้าที่จะจัดการแก้เอง
เราก็ได้ งั้นโทรไปเลย
ปรากฏว่า ลองโทรไป ...ทั้งธนาคาร ทั้งสถาบันที่มีชื่อเป็นโจทก์ ครบทุกแห่ง
บ้างไม่รับสาย บ้างโอนสายไปจนสายตัด
ส่วนเบอร์ธนาคารหลัก ให้ถือสายรอ 30 นาที ...เกินขีดความอดทนรอ เลยวางสาย
ที่สุด เราถามเพื่อนที่เป็นทนายความ
เพื่อนบอก เออ เข้าใจ แต่ช่างมันเถอะ เดี๋ยว "เค้า" ก็ตรวจเจอเองว่า มันผิด
อย่าไปเสียเวลาเลย
เราก็ หืมมมมม ? ....
ที่สุด เราตัดสินใจเองว่า เราควรจะ "แจ้งเพื่อทราบ"
จึงส่งอีเมล 1 ฉบับ เขียนถึง ศาลประจำจังหวัดสงขลา และ CC ให้ธนาคาร + สถาบันการเงินตามชื่อโจทก์ร่วม
(หาอีเมลทั้งหมด จาก google) ระบุเนื้อหาในอีเมล "ร้องเรียน" ว่า
ในหมายศาลเลขที่.... ลงข้อมูลผิดบ้านเลขที่ เลขที่บ้านหลังที่ต้องคดี ตกหล่นไป 1 ตัวเลข
พร้อมถ่ายภาพหมายศาลที่แปะหน้าบ้านเรา และเลขที่บ้านเราแบบปรากฏชัดเจน
และอธิบายว่า ที่ปิดหมายศาลผิดบ้าน เพราะข้อมูลในหมายศาล ผิดมาตั้งแต่ต้น
ดังไฟล์แนบนะคะ
...
ความประทับใจบังเกิด ...หลังส่งอีเมลผ่านไป 3 วัน
สำนักอำนวยการประจำศาลจังหวัดสงขลา ส่งไฟล์ตอบกลับมา
ว่า ตรวจสอบแล้ว พบว่า เจ้าหน้าที่ทำผิดพลาดจริง ไม่ได้มีการตรวจทานข้อมูลให้ถี่ถ้วน
มีการระบุว่า ตามกฎข้อนี้ข้อนั้น มาตรานั้น วรรคนี้ ได้ว่ากล่าวตักเตือนเจ้าหน้าที่แล้ว
บลา บลา ...
แค่นั้นก็ประทับใจแล้วค่ะ
ถึงกับเอาไปบอกเล่าเพื่อนทนาย ...เพื่อนบอก สุดยอด นี่แหละที่องค์กรควรทำ
เรานึกในใจ แหมมมมมม ... เธอบอกเราเองว่า อย่าไปสนใจ...นะจ๊ะ
ผ่านมาอีก 5 วัน เราได้รับจดหมายลงทะเบียนจากศาลสงขลา
เนื้อความตามปรากฏในอีเมลที่ตอบมาก่อนแล้ว
เรานึกทึ่ง นึกชื่นชม และรู้สึกมีความหวัง
ที่มีเจ้าหน้าที่ศาลเช่นนี้ คุ้มครองสิทธิ์ชาวบ้านอย่างเรา ที่ไม่ได้รู้อิโหน่อิเหน่อะไร
แต่ทำให้คนแก่ในบ้านเรา หัวใจเต้นตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ ในเรื่องที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับบ้านเราเลย
ตอนอ่านจดหมายก็ยิ้ม ๆ นะคะ ประทับใจมากในความใส่ใจจากศาล
ขณะที่ ธนาคารของรัฐ (เอ๊ะ หรือของกองทัพน้ออออออ) และสถาบันการเงินต่าง ๆ ไม่หืออือ
ไม่แม้จะตอบ "รับทราบ" จากอีเมล "ร้องเรียน" ที่เราส่งไปเลย สักคำเดียว
ทว่า ความพีค ... ไม่ได้หยุดแค่ 2 ความประทับใจติดค่ะ
ความพีคที่ทำให้ต้องลงกระทู้ชื่นชม เป็นลายลักษณ์อักษร คือ ...
วันอาทิตย์ค่ะ วันอาทิตย์ สาย ๆ เจ้าหน้าที่ศาลประจำจังหวัดสงขลา
ยกคณะทำงาน ไปเยือนเราถึงบ้านค่ะ
แว่วว่า ไปหาเราที่บ้านตามปรากฏในหมายศาล "ผิดบ้าน"
แล้วข้างบ้านคงจะบอกว่า ปกติบ้านนี้ไม่มีคนอยู่ เจ้าของบ้านอยู่บ้านหลังริมคลอง
ซึ่งห่างไป 100 เมตร
... เสียงกดออดดัง
แม่วัยชราของเรา ออกไปรับ
เจ้าหน้าที่ศาลลงรถมาทั้งหมด และกล่าว "ขอโทษ" ค่ะคุณขา
ว้าววววววววววว พูดไม่ออก ไม่คาดคิด
สุดยอดเลยค่ะ
เสียดาย เราไม่อยู่บ้าน (แต่เปิดกล้องวงจรปิดดูจนจบครบ 15 นาทีแล้วค่ะ)
ปรบมือรัว ๆ เลย ...และขอบคุณมา ณ ที่นี้นะคะ
แค่อีเมลฉบับเดียวที่ตอบมา ก็ดีใจมากแล้วค่ะ ที่พวกคุณใส่ใจ
ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องเดินทางมาจากจังหวัดสงขลา ขับรถมาถึงหาดใหญ่
มันไม่ใช่ใกล้ และยังเลือกมาวันหยุด ...อีก
ขอบคุณมากค่ะที่ทำให้เราประทับใจขั้นสุด เช่นนี้.
ป.ล. ถึงกับอยากสั่งเงือกเขียว ส่งไปแทนความประทับใจที่ได้รับเลยค่ะ
แต่กลัวจะไม่สมควร เพราะเกี่ยวกับศาล ศาล ...
ทว่า ...ประทับใจจริง ๆ นะคะ ยืนยัน