จากวันที่ 8 เมษายน 2567 ได้เกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคาเต็มดวงขึ้น ณ ทวีปอเมริกาเหนือ ที่พาดผ่านหลายพื้นที่ของอเมริกาในประชานคนที่อาศัยได้รับชมแต่เคยสงสัยไม่ว่าความตระการตาของปรากฎการณ์นี้นั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร,มีประวัติอะไร หรือ มีประโยชน์ต่อมนุษย์อย่างไรนั้น เรามารับรู้ไปด้วยกันเลย
ภาพเหตุการณ์ สุริยุปราคา 8 เมษายน 2567
เริ่มแรกสุด สุริยุปราคา คืออะไร
“สุริยุปราคา” หรือ สุริยคราส เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และโลก โคจรมาอยู่ในแนวเดียวกัน ที่จะมีดวงจันทร์อยู่ตรงกลาง เมื่อสังเกตจากโลกจะเห็นดวงจันทร์เคลื่อนที่เข้ามาบดบังดวงอาทิตย์
แต่จากข้อมูลนี้ทำไมสุริยุปราคานั้นจึงไม่ได้เกิดขึ้นอย่างบ่อยๆทั้งๆที่ดวงจันทร์โคจรรอบโลกใช้เวลา30วันโดยเฉลี่ยดังนั้นจึงควรจะเกิดสุริยุปราคาเดือนละครั้ง นั้นเป็น
เพราะว่าจากวงโคจรของโลกและดวงจันทร์นั้นไม่ได้เป็นวงกลมในระนาบเดียวกันแต่เป็นวงรีที่วงโคจรมีมุมต่างกันทำให้บ้างครั้งทางเงาจะไม่อยู่พอดีกับโลก โดยความถี่เฉลี่ยนั้นจะเป็น2ครั้งต่อปี
ภาพวงโคจรที่ไม่ได้อยู่ในระนาบเดียวกัน
และ ด้วยวงโคจรนี้จึง
ทำให้เกิด สุริยุปราคา 4 ชนิด ขึ้นมา คือ
สุริยุปราคาเต็มดวง (Total Solar Eclipse)
- เป็นสุริยุปราคาประเภทที่ขนาดปรากฏของดวงอาทิตย์เล็กกว่าขนาดปรากฏของดวงจันทร์ ทำให้ผู้สังเกตเห็นดวงจันทร์บังดวงอาทิตย์มิดทั้งดวงโดยจะเกิดขึ้นเมื่อ โลกอยู่ในวงโคจรในจุดที่ไกลจากดวงอาทิตย์และดวงจันทร์อยู่ที่จุดperigee (จุดไกล้โลก)
สุริยุปราคาวงแหวน (Annular Eclipse)
- เป็นสุริยุปราคาประเภทที่ดวงจันทร์มีขนาดปรากฏเล็กกว่าขนาดปรากฏของดวงอาทิตย์ ทำให้ผู้สังเกตเห็นดวงอาทิตย์มีลักษณะคล้ายวงแหวนเกิดขึ้นเมื่อ โลกอยู่ในวงโคจรจุดที่ไกล้จากดวงอาทิตย์และดวงจันทร์อยู่ที่จุดapogee (จุดไกลโลก)
สุริยุปราคาบางส่วน (Partial Solar Eclipse)
- เป็นสุริยุปราคาประเภทที่ดวงจันทร์จะบดบังดวงอาทิตย์บางส่วน ทำให้มองเห็นดวงอาทิตย์เว้าแหว่ง ผู้สังเกตเห็นดวงอาทิตย์ปรากฏเป็นเสี้ยว
สุริยุปราคาผสม (hybrid eclipse)
- ความโค้งของโลกทำให้สุริยุปราคาคราวเดียวกันกลายเป็นแบบผสมได้ คือ บางส่วนของแนวคราสเห็นสุริยุปราคาเต็มดวง ที่เหลือเห็นสุริยุปราคาวงแหวน บริเวณที่เห็นสุริยุปราคาเต็มดวงเป็นส่วนที่อยู่ใกล้ดวงจันทร์มากกว่า โดยจะเกิดได้ยากที่สุด
ลักษณะทั่วไปของสุริยุปราคา
จุดไกล้-ไกลในวงโคจรของดวงจันทร์
ทางของเงา path of totality
ทางของเงาคือ แนวเงาของการเคลื่อนที่ที่เกิดจากดวงจันทร์บังดวงอาทิตย์ ซึ่งแบ่งได้เป็น 3 แบบตามตำแหน่งที่ทำการสังเกตและประเภทของ สุริยุปราคา
เงา umbra เป็น
เงามืด สนิทเพราะดวงจันทร์บังดวงอาทิตย์มิด หากอยู่บริเวณนี้เราจะสังเกตเห็นสุริยุปราคาเต็มดวงได้
เงา penumbra เป็น
เงาลบ เงาที่มีลักษณ์เป็นดวงจันทร์กัดดวงอาทิตย์แหว่งไป ดังนั้นเราจะเห็นสุริยุปราคาบางส่วน (ดวงอาทิตย์เป็นเสี้ยว)
เงา antumbra เป็น
เงามั่ว เงาที่ดวงจันทร์พยายามบังดวงอาทิตย์ด้วยตัวเองทั้งหมด แต่บังไม่มิดเพราะขนาดปรากฏบนท้องฟ้าของดวงจันทร์เล็กกว่าดวงอาทิตย์นั่นเอง นี่ทำให้เราได้สุริยุปราคาวงแหวน
ตัวอย่าง 26 ธันวาคม 2562 สุริยุปราคาวงแหวน
แนวสีแดงคือจุดเกิด เงา umbra หรือ เงา penumbra
แนวสีดำคือจุดเกิด เงา antumbra
ประวัติศาสตร์ความสำคัญของสุริยุปราคาต่อมนุษย์ในการทำนายและปรากฎการณ์
โดยทั่วไปเราอาจจะดูสุริยุปราคาเพราะความสวยงานและความตระการตา แต่ในความด้านอื่นๆ ปรากฎการณ์สุริยุปราคาก็มีความสำคัญมากๆ เช่นการ
อย่างแรก ในอตีดนั้นปรากฎการณ์นี้ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญในการใช้ปกครองและการเมือง การทำนายจึงเป็นเรื่องสำคัญ ตัวอย่างคือ เมื่อ4000ปีก่อนที่จีนได้เกิดเหตุการณ์สุริยุปราคาขึ้นจนเกิดความแตกตื่นไปทั่ว จากการทำนายที่ผิดพลาดของโหนหลวงจึงไม่ได้มีการรับมือความวุ่นวาย
หรือ เมื่อ2500ปีก่อนในสงครามระหว่างชาวเปอร์เซียและอาหรับ ใน battle of the eclipse ได้เกิดสุริยุปราคาขึ้น ณ บริเวณการต่อสู้จนผลสุดท้ายก็เกิดการสงบศึกกันเพราะ เชื่อว่าเป็นสัญญาณจากพระเจ้าให้หยุดการต่อสู้
สุริยุปราคา ณ battle of the eclipse
แม้กระทั้งการพัฒนาองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ก็ใช้ ปรากฏการนี้ในการเก็บองค์ความรู้ เช่น การค้นพบธาตุ ฮีเลียม จากการส่องเปลวสุริยะรอบๆสุริยุปราคาเต็มดวง ที่เรียกว่า chromosphere เป็นเปลวสีแดง
ส่วนเปลวสีแดง คือ chromosphere
หรือ แม้แต่การพิสูจน์ ทฤษฎีสัมพันธภาพพิเศษ ที่ทำนายว่า แสงจากดาวหลังดวงอาทิตย์สามารถเลี้ยวเบนจากแรงโน้มถ่วงได้ จาก Gravitatiomal Lensing
การพิสูจน์ Gravitatiomal Lensing
ประวัติศาสตร์ของสุริยุปราคาในไทย
จากจากบันทึกในประวัติศาสตร์ของไทยนั้นบันทึกแรกสุดคือ วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2111 ช่วงอาณาจักรอยุธยาแต่ไม่ใช้แบบเต็มดวง และในช่วงกรุงรัตนโกสินทร์สุริยุปราคาเต็มดวง 18 สิงหาคม พ.ศ. 2411 สมัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เกิดสุริยุปราคาเต็มดวงครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของไทย
ในปัจจุบัน เราได้ผ่านสุริยุปราคาเต็มดวงมา 5 ครั้งแล้วโดยครั้งล่าสุดคือ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2538
เหตุการณ์สุริยุปราคาเมื่อ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2538
และในครั้งต่อไปเราต้องรอถึง 11 เมษายน พ.ศ. 2613 กับ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2657 แต่ใครที่อยากดูสุริยุปราคาในไทยนั้น ครั้งต่อไปคือ 21 พฤษภาคม พ.ศ.2574 เป็นสุริยุปราคาบางส่วน ที่ชายแดนภาคใต้ของไทย
แหล่งอ้างอิง
https://www.sanook.com/campus/1398627/
https://en.wikipedia.org/wiki/Solar_eclipse
https://neizod.dev/2021/08/18/simple-solar-eclipse-calculation.html
https://www.youtube.com/watch?v=_TsI6zcH3Ao&t=762s
"สุริยุปราคา" ความตระการตาของธรรมชาติ
เริ่มแรกสุด สุริยุปราคา คืออะไร “สุริยุปราคา” หรือ สุริยคราส เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และโลก โคจรมาอยู่ในแนวเดียวกัน ที่จะมีดวงจันทร์อยู่ตรงกลาง เมื่อสังเกตจากโลกจะเห็นดวงจันทร์เคลื่อนที่เข้ามาบดบังดวงอาทิตย์
แต่จากข้อมูลนี้ทำไมสุริยุปราคานั้นจึงไม่ได้เกิดขึ้นอย่างบ่อยๆทั้งๆที่ดวงจันทร์โคจรรอบโลกใช้เวลา30วันโดยเฉลี่ยดังนั้นจึงควรจะเกิดสุริยุปราคาเดือนละครั้ง นั้นเป็นเพราะว่าจากวงโคจรของโลกและดวงจันทร์นั้นไม่ได้เป็นวงกลมในระนาบเดียวกันแต่เป็นวงรีที่วงโคจรมีมุมต่างกันทำให้บ้างครั้งทางเงาจะไม่อยู่พอดีกับโลก โดยความถี่เฉลี่ยนั้นจะเป็น2ครั้งต่อปี
และ ด้วยวงโคจรนี้จึงทำให้เกิด สุริยุปราคา 4 ชนิด ขึ้นมา คือ
สุริยุปราคาเต็มดวง (Total Solar Eclipse)
- เป็นสุริยุปราคาประเภทที่ขนาดปรากฏของดวงอาทิตย์เล็กกว่าขนาดปรากฏของดวงจันทร์ ทำให้ผู้สังเกตเห็นดวงจันทร์บังดวงอาทิตย์มิดทั้งดวงโดยจะเกิดขึ้นเมื่อ โลกอยู่ในวงโคจรในจุดที่ไกลจากดวงอาทิตย์และดวงจันทร์อยู่ที่จุดperigee (จุดไกล้โลก)
สุริยุปราคาวงแหวน (Annular Eclipse)
- เป็นสุริยุปราคาประเภทที่ดวงจันทร์มีขนาดปรากฏเล็กกว่าขนาดปรากฏของดวงอาทิตย์ ทำให้ผู้สังเกตเห็นดวงอาทิตย์มีลักษณะคล้ายวงแหวนเกิดขึ้นเมื่อ โลกอยู่ในวงโคจรจุดที่ไกล้จากดวงอาทิตย์และดวงจันทร์อยู่ที่จุดapogee (จุดไกลโลก)
สุริยุปราคาบางส่วน (Partial Solar Eclipse)
- เป็นสุริยุปราคาประเภทที่ดวงจันทร์จะบดบังดวงอาทิตย์บางส่วน ทำให้มองเห็นดวงอาทิตย์เว้าแหว่ง ผู้สังเกตเห็นดวงอาทิตย์ปรากฏเป็นเสี้ยว
สุริยุปราคาผสม (hybrid eclipse)
- ความโค้งของโลกทำให้สุริยุปราคาคราวเดียวกันกลายเป็นแบบผสมได้ คือ บางส่วนของแนวคราสเห็นสุริยุปราคาเต็มดวง ที่เหลือเห็นสุริยุปราคาวงแหวน บริเวณที่เห็นสุริยุปราคาเต็มดวงเป็นส่วนที่อยู่ใกล้ดวงจันทร์มากกว่า โดยจะเกิดได้ยากที่สุด
ทางของเงา path of totality
ทางของเงาคือ แนวเงาของการเคลื่อนที่ที่เกิดจากดวงจันทร์บังดวงอาทิตย์ ซึ่งแบ่งได้เป็น 3 แบบตามตำแหน่งที่ทำการสังเกตและประเภทของ สุริยุปราคา
เงา umbra เป็น เงามืด สนิทเพราะดวงจันทร์บังดวงอาทิตย์มิด หากอยู่บริเวณนี้เราจะสังเกตเห็นสุริยุปราคาเต็มดวงได้
เงา penumbra เป็น เงาลบ เงาที่มีลักษณ์เป็นดวงจันทร์กัดดวงอาทิตย์แหว่งไป ดังนั้นเราจะเห็นสุริยุปราคาบางส่วน (ดวงอาทิตย์เป็นเสี้ยว)
เงา antumbra เป็น เงามั่ว เงาที่ดวงจันทร์พยายามบังดวงอาทิตย์ด้วยตัวเองทั้งหมด แต่บังไม่มิดเพราะขนาดปรากฏบนท้องฟ้าของดวงจันทร์เล็กกว่าดวงอาทิตย์นั่นเอง นี่ทำให้เราได้สุริยุปราคาวงแหวน
ตัวอย่าง 26 ธันวาคม 2562 สุริยุปราคาวงแหวน
แนวสีแดงคือจุดเกิด เงา umbra หรือ เงา penumbra
แนวสีดำคือจุดเกิด เงา antumbra
ประวัติศาสตร์ความสำคัญของสุริยุปราคาต่อมนุษย์ในการทำนายและปรากฎการณ์
โดยทั่วไปเราอาจจะดูสุริยุปราคาเพราะความสวยงานและความตระการตา แต่ในความด้านอื่นๆ ปรากฎการณ์สุริยุปราคาก็มีความสำคัญมากๆ เช่นการ
อย่างแรก ในอตีดนั้นปรากฎการณ์นี้ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญในการใช้ปกครองและการเมือง การทำนายจึงเป็นเรื่องสำคัญ ตัวอย่างคือ เมื่อ4000ปีก่อนที่จีนได้เกิดเหตุการณ์สุริยุปราคาขึ้นจนเกิดความแตกตื่นไปทั่ว จากการทำนายที่ผิดพลาดของโหนหลวงจึงไม่ได้มีการรับมือความวุ่นวาย
หรือ เมื่อ2500ปีก่อนในสงครามระหว่างชาวเปอร์เซียและอาหรับ ใน battle of the eclipse ได้เกิดสุริยุปราคาขึ้น ณ บริเวณการต่อสู้จนผลสุดท้ายก็เกิดการสงบศึกกันเพราะ เชื่อว่าเป็นสัญญาณจากพระเจ้าให้หยุดการต่อสู้
แม้กระทั้งการพัฒนาองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ก็ใช้ ปรากฏการนี้ในการเก็บองค์ความรู้ เช่น การค้นพบธาตุ ฮีเลียม จากการส่องเปลวสุริยะรอบๆสุริยุปราคาเต็มดวง ที่เรียกว่า chromosphere เป็นเปลวสีแดง
ส่วนเปลวสีแดง คือ chromosphere
หรือ แม้แต่การพิสูจน์ ทฤษฎีสัมพันธภาพพิเศษ ที่ทำนายว่า แสงจากดาวหลังดวงอาทิตย์สามารถเลี้ยวเบนจากแรงโน้มถ่วงได้ จาก Gravitatiomal Lensing
ประวัติศาสตร์ของสุริยุปราคาในไทย
จากจากบันทึกในประวัติศาสตร์ของไทยนั้นบันทึกแรกสุดคือ วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2111 ช่วงอาณาจักรอยุธยาแต่ไม่ใช้แบบเต็มดวง และในช่วงกรุงรัตนโกสินทร์สุริยุปราคาเต็มดวง 18 สิงหาคม พ.ศ. 2411 สมัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เกิดสุริยุปราคาเต็มดวงครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของไทย
ในปัจจุบัน เราได้ผ่านสุริยุปราคาเต็มดวงมา 5 ครั้งแล้วโดยครั้งล่าสุดคือ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2538
และในครั้งต่อไปเราต้องรอถึง 11 เมษายน พ.ศ. 2613 กับ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2657 แต่ใครที่อยากดูสุริยุปราคาในไทยนั้น ครั้งต่อไปคือ 21 พฤษภาคม พ.ศ.2574 เป็นสุริยุปราคาบางส่วน ที่ชายแดนภาคใต้ของไทย
แหล่งอ้างอิง
https://www.sanook.com/campus/1398627/
https://en.wikipedia.org/wiki/Solar_eclipse
https://neizod.dev/2021/08/18/simple-solar-eclipse-calculation.html
https://www.youtube.com/watch?v=_TsI6zcH3Ao&t=762s