ภาระหนัก!!! ราคาน้ำมันดีเซลเต็มกรอบเพดานลิตรละ 33 บ. เร็วกว่ากำหนด 2 เดือน ชี้ทางออกดีที่สุด ต้องขยับเพดานดีเซลเป็นลิตรละ 35 บาท ราคาเดียวกับปี 65 หากรัฐบาลไม่สามารถหาทางออกหาเงินโปะ ทั้งงบกลาง หรือลดภาษีสรรพสามิตได้ เหตุกองทุนฯวิกฤติหนักแบกเงินติดลบ 1.1 แสนล้านบาท
แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน ระบุว่า ล่าสุดคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) มีมติตรึงราคาอัตราชดเชยราคาน้ำมันดีเซลไว้ที่ลิตรละ 1.40 บาท เพื่อรักษาสภาพคล่องกองทุนฯ ในภาวะราคาน้ำมันตลาดโลกยังผันผวน ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลต้องปรับขึ้นอีกลิตรละ 0.50 บาท เป็นลิตรละ 32.94 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค. เป็นต้นไป เป็นการปรับขึ้นเต็มกรอบเพดานราคาที่ ครม.ตรึงราคาไว้ไม่เกินลิตรละ 33 บาท เป็นการทยอยปรับขึ้นตั้งแต่หมดมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลวันที่ 19 เม.ย. ที่ผ่านมา ทำให้สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ต้องเร่งหาแนวทางในการดูแลราคาน้ำมันดีเซล ในภาวะราคาน้ำมันในตลาดโลกยังผันผวนหลังจากนี้ เพื่อไม่ให้กระทบกับค่าครองชีพประชาชนมากนัก
ทั้งนี้เบื้องต้นวางไว้ 3 แนวทาง คือ
1.ขอมติ ครม.ให้ขยับเพดานกรอบราคาน้ำมันดีเซลใหม่ เพื่อให้สะท้อนต้นทุนราคาน้ำมันตลาดโลก อาจจะกลับไปกรอบเพดานราคาเดิมไม่เกินลิตรละ 35 บาท ในปี 65 ที่มีภาวะสงครามรัสเซีย–ยูเครน ทำให้เกิดวิกฤติด้านราคา แต่ขณะนี้แม้ไม่ใช่วิกฤติด้านราคาน้ำมันในตลาดโลก แต่เป็นวิกฤติด้านสถานะกองทุนฯ เอง ล่าสุดฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสุทธิฯ วันที่ 26 พ.ค. 67 ติดลบ 111,345 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 63,655 ล้านบาท ส่วนก๊าซฯ แอลพีจี ติดลบ 47,690 ล้านบาท
2. รอการจัดสรรงบประมาณโครงการดิจิทัลวอลเล็ตแล้วเสร็จ แล้วจะขอความร่วมมือให้กรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลอีกครั้ง
3. ของบกลาง ดูแลราคาน้ำมันดีเซล เพื่อลดผลกระทบค่าครองชีพประชาชน
https://www.dailynews.co.th/news/3487915/
จ่อขยับเพดานดีเซล 35 บ. ถ้าไร้สิ้นทางหาเงินอื่นโปะ เหตุกองทุนฯแบกหนี้แสนล้าน
ภาระหนัก!!! ราคาน้ำมันดีเซลเต็มกรอบเพดานลิตรละ 33 บ. เร็วกว่ากำหนด 2 เดือน ชี้ทางออกดีที่สุด ต้องขยับเพดานดีเซลเป็นลิตรละ 35 บาท ราคาเดียวกับปี 65 หากรัฐบาลไม่สามารถหาทางออกหาเงินโปะ ทั้งงบกลาง หรือลดภาษีสรรพสามิตได้ เหตุกองทุนฯวิกฤติหนักแบกเงินติดลบ 1.1 แสนล้านบาท
แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน ระบุว่า ล่าสุดคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) มีมติตรึงราคาอัตราชดเชยราคาน้ำมันดีเซลไว้ที่ลิตรละ 1.40 บาท เพื่อรักษาสภาพคล่องกองทุนฯ ในภาวะราคาน้ำมันตลาดโลกยังผันผวน ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลต้องปรับขึ้นอีกลิตรละ 0.50 บาท เป็นลิตรละ 32.94 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค. เป็นต้นไป เป็นการปรับขึ้นเต็มกรอบเพดานราคาที่ ครม.ตรึงราคาไว้ไม่เกินลิตรละ 33 บาท เป็นการทยอยปรับขึ้นตั้งแต่หมดมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลวันที่ 19 เม.ย. ที่ผ่านมา ทำให้สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ต้องเร่งหาแนวทางในการดูแลราคาน้ำมันดีเซล ในภาวะราคาน้ำมันในตลาดโลกยังผันผวนหลังจากนี้ เพื่อไม่ให้กระทบกับค่าครองชีพประชาชนมากนัก
ทั้งนี้เบื้องต้นวางไว้ 3 แนวทาง คือ
1.ขอมติ ครม.ให้ขยับเพดานกรอบราคาน้ำมันดีเซลใหม่ เพื่อให้สะท้อนต้นทุนราคาน้ำมันตลาดโลก อาจจะกลับไปกรอบเพดานราคาเดิมไม่เกินลิตรละ 35 บาท ในปี 65 ที่มีภาวะสงครามรัสเซีย–ยูเครน ทำให้เกิดวิกฤติด้านราคา แต่ขณะนี้แม้ไม่ใช่วิกฤติด้านราคาน้ำมันในตลาดโลก แต่เป็นวิกฤติด้านสถานะกองทุนฯ เอง ล่าสุดฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสุทธิฯ วันที่ 26 พ.ค. 67 ติดลบ 111,345 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 63,655 ล้านบาท ส่วนก๊าซฯ แอลพีจี ติดลบ 47,690 ล้านบาท
2. รอการจัดสรรงบประมาณโครงการดิจิทัลวอลเล็ตแล้วเสร็จ แล้วจะขอความร่วมมือให้กรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลอีกครั้ง
3. ของบกลาง ดูแลราคาน้ำมันดีเซล เพื่อลดผลกระทบค่าครองชีพประชาชน
https://www.dailynews.co.th/news/3487915/