ผมมีที่ดิน 7 ไร่ อยู่ตจว.ห่างกทม.ประมาณ 300 กม.ทำให้เดินทางไปดูแลบ่อยๆไม่ไหว ที่ดินอยู่ใกล้เขตเทศบาล ทีนี้ความเจริญมันขยายตัวออกมาถึง ที่ดินแปลงอื่นทำเลใกล้ๆกันนั้นกำลังมีการแบ่งแปลงจัดสรรขายเริ่มมีการพัฒนาเพื่อสร้างเป็นบ้านอยู่อาศัยเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ มีคนต่างถิ่นเข้ามาซื้อเก็บหรืออยู่อาศัย ราคาซื้อขายล่าสุดที่ดินแปลงใกล้ๆกันเมื่อไม่นานมานี้อยู่ที่ประมาณไร่ละ 2.5 ล้าน คนที่ซื้อเอาไปสร้างเป็นห้องแถวชั้นเดียวให้เช่า ตอนนี้สร้างเสร็จแล้วมีคนเช่าเต็มทุกห้องและเท่าที่คุยกับชาวบ้านแถวนั้นดูยังมีความต้องการเช่าอยู่อีกมาก

ที่ดินผมทั้งสองแปลงตอนนี้ัปลูกไม้ผลและต้นไม้ป่าไว้ไม่ได้สร้างรายได้ผลตอบแทนเท่าไหร่ แต่บังเอิญทำเลดีกว่าแปลงอื่นๆที่เขากำลังพยายามพัฒนากันอยู่ อยู่ใกล้กว่า หน้ากว้างติดถนนดำเส้นหลัก มีไฟฟ้าน้ำประปา ทำเลใกล้กับที่ดินที่เขาเพิ่งขายไปสร้างห้องเช่าเลยคาดการณ์ว่าราคาซื้อขายว่าน่าจะพอๆกัน ผมเลยเกิดความคิดที่จะขายหรือพัฒนาที่ดินขึ้นมา แต่ยังติดปัญหาคือไม่มีเงินสดหรือเงินเก็บมากพอเพื่อจะลงทุนจำนวนมากเพื่อปรับที่ดินและสร้างห้องเช่า และตอนนี้อายุเยอะแล้วไม่ค่อยอยากจะเหนื่อยและเสี่ยงเท่าไหร่ คิดไปคิดมาตอนนี้มีทางเลือก 2 ทาง คือ  1. ยอมเสี่ยงลงทุนเอาที่ดินไปเข้าธนาคารหรือตัดแบ่งขายแล้วเอาเงินที่ได้ไปพัฒนาปรับปรุงที่ดินแล้วสร้างห้องแถวให้เช่าขึ้นมาเอง โดยที่ตอนนี้ผมมีบริษัทของตัวเองอยู่อาจจะใช้รูปแบบเป็นนิติบุคคลเข้าไปบริหารจัดการที่ดิน  หรือ 2. ขายที่ดินทั้งสองแปลงให้นายทุนซื้อไปพัฒนาต่อ อาจจะขายได้สัก 10-15 ลบ.ตามราคาซื้อขายปัจจุบัน แต่เงินที่ขายที่ดินได้ก็คิดว่าจะนำไปใช้ลงทุนบริหารจัดการให้เกิดผลตอบแทนรายเดือนหรือรายปี ซึ่งก็อาจจะเป็นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์จัดสรรแบ่งขายหรือให้เช่า ซึ่งพอคิดไปคิดมามันเลยวนกลับไปข้อ 1 ว่าในเมื่อที่ดินก็มีอยู่แล้วและทำเลดีใช้ได้ ทำไมถึงไม่ลงทุนในที่ดินที่มีอยู่แล้วเลยเพื่อลดขั้นตอนกระบวนการ ทีนี้ความคิดมันก็เลยวนกลับไปที่ อายุ เงินทุน ความเสี่ยง ความเหนื่อย ความไกล ยังคิดไม่ตก เลยอยากจะมาขอฟังคำแนะนำจากหลายๆท่านดูครับ