ตอนนี้เครียดมากค่ะ จึงมาขอรบกวนทุกท่าน
ถ้าท่านใดมีความรู้หรือประสบการณ์ ขอความกรุณาแนะนำด้วยนะคะ
คุณแม่ ซึ่งเป็นข้าราชการครูเสียชีวิตกระทันหันค่ะ
ก่อนจากไป ท่านไม่ได้คุยหรือสั่งเสีย หรือเล่าอะไรให้ลูกๆ ฟังมากนัก
ช่วงงานศพ มีข้อมูลหนี้ต่างๆ เข้ามาแบบถาโถม ลูกๆ ตั้งมือรับไม่ถูกเลยค่ะ
มีหนี้สหกรณ์ประมาณ 1 ล้านบาท (ยอดหลังหักประกันและหุ้นกู้) มีผู้ค้ำ 3 คน
มีหนี้ธนาคาร ที่เอาบำเน็จตกทอดไปค้ำประกัน ยังไม่ได้ตามข้อมูลแน่ชัด แต่ทราบเบื้องต้นว่ากู้เต็มวงเงินที่สามารถกู้ได้
สิ่งที่ถือว่าเป็นมรดกได้ มีแค่เงินติดบัญชีธนาคารประมาณ 10,000 บาท
นอกจากนั้น ไม่มีอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ที่ดิน รถ ทอง ประกันชีวิต คือไม่มีอะไรไว้ให้ลูกเลยค่ะ
(แม่อยู่บ้านกับพี่ชาย ไม่เคยซื้อที่ดิน ไม่มีรถ ไม่ทำประกันชีวิต
เงินที่กู้มา คือเอาไปจ่ายหนี้ให้ยายและน้า และยาโรคประจำตัวที่เบิกไม่ได้ค่ะ)
ส่วนเงิน ชพค. ได้งวดแรกมาแล้วค่ะ เราสองคนก็เอามาใช้จัดงานศพเกือบหมด
แต่งวดที่เหลือยังไม่รู้จะได้เมื่อไหร่
ปัญหาคือ ผู้ค้ำประกัน ซึ่งน่าจะเป็นครูเหมือนกัน มาคุยกับเราและพี่ชายค่ะ
ว่าเราและพี่ต้องใช้หนี้สหกรณ์แทนแม่
เราสองคนจึงแย้งไปว่า เราแทบไม่ได้มรดกอะไรเลย มีแค่เงินติดบัญชีประมาณหมื่นนึง
จะเอาเงินที่ไหนไปใช้หนี้ให้ เราสองคนก็ไม่ได้ฐานะดีค่ะ ทำงานออฟฟิศทั่วไป
เงินเดือนประมาณสองหมื่น พี่ชายมีภาระผ่อนบ้านผ่อนรถและลูกเล็กสองคน ส่วนเรายังเช่าหอพักอยู่เลย
เมื่อเจอคำพูดกดดันมากๆ เข้า พี่ชายจึงบอกผู้ค้ำทั้งสามท่านไปว่า เดี๋ยวเงิน ชพค. ที่เหลือออก
จะโอนให้ทั้งหมดเลย แต่ผู้ค้ำทั้งสามไม่พอใจค่ะ บอกว่าต้องใช้คืนทั้งหมดเท่านั้น
รวมทั้งดอกเบี้ย ค่าเสียเวลา ค่าเดินทาง ซึ่งเราก็ยังไม่เข้าใจว่าเสียเวลาอะไรและเดินทางไปไหน
และมีคำพูดเชิงข่มขู่ใส่เราสองคนกลางงานศพ
รวมทั้งบอกว่าจริงๆ แม่เคยยืมเงินเขาสี่พัน เราต้องใช้คืน
อีกคนบอกว่าเคยถูกยืมเหมือนกัน เป็นหมื่นๆ ต้องใช้คืนนะ
เราและพี่ชายไม่รู้จะทำยังไง จึงอยากปรึกษาทุกท่านค่ะ ว่าควรทำยังไงดี
เราสองคนเต็มใจให้เงิน ชพค. ที่เหลือทั้งหมดนะคะ แต่กลัวว่าเขาจะมาทวงเงินเพิ่มไม่จบสิ้น
เพราะถึงให้เงิน ชพค. ไปหมด ก็ยังมีหนี้เหลือค้างบางส่วนค่ะ
ถ้าตัดสินใจปล่อยให้สหกรณ์หรือผู้ค้ำทั้งสามส่งเรื่องฟ้องเราและพี่ชายไปเลยดีมั้ยคะ
ให้ศาลสั่งมาเลย ว่าเราและพี่ต้องใช้หนี้กี่บาทกันแน่
เพิ่มเติมค่ะ เราและพี่ชายยังไม่ได้เซ็นต์เอกสารรับสภาพหนี้ใดๆ นะคะ
ผู้ค้ำประกันข่มขู่ให้ช่วยชำระหนี้ ทำยังไงดีคะ
ถ้าท่านใดมีความรู้หรือประสบการณ์ ขอความกรุณาแนะนำด้วยนะคะ
คุณแม่ ซึ่งเป็นข้าราชการครูเสียชีวิตกระทันหันค่ะ
ก่อนจากไป ท่านไม่ได้คุยหรือสั่งเสีย หรือเล่าอะไรให้ลูกๆ ฟังมากนัก
ช่วงงานศพ มีข้อมูลหนี้ต่างๆ เข้ามาแบบถาโถม ลูกๆ ตั้งมือรับไม่ถูกเลยค่ะ
มีหนี้สหกรณ์ประมาณ 1 ล้านบาท (ยอดหลังหักประกันและหุ้นกู้) มีผู้ค้ำ 3 คน
มีหนี้ธนาคาร ที่เอาบำเน็จตกทอดไปค้ำประกัน ยังไม่ได้ตามข้อมูลแน่ชัด แต่ทราบเบื้องต้นว่ากู้เต็มวงเงินที่สามารถกู้ได้
สิ่งที่ถือว่าเป็นมรดกได้ มีแค่เงินติดบัญชีธนาคารประมาณ 10,000 บาท
นอกจากนั้น ไม่มีอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ที่ดิน รถ ทอง ประกันชีวิต คือไม่มีอะไรไว้ให้ลูกเลยค่ะ
(แม่อยู่บ้านกับพี่ชาย ไม่เคยซื้อที่ดิน ไม่มีรถ ไม่ทำประกันชีวิต
เงินที่กู้มา คือเอาไปจ่ายหนี้ให้ยายและน้า และยาโรคประจำตัวที่เบิกไม่ได้ค่ะ)
ส่วนเงิน ชพค. ได้งวดแรกมาแล้วค่ะ เราสองคนก็เอามาใช้จัดงานศพเกือบหมด
แต่งวดที่เหลือยังไม่รู้จะได้เมื่อไหร่
ปัญหาคือ ผู้ค้ำประกัน ซึ่งน่าจะเป็นครูเหมือนกัน มาคุยกับเราและพี่ชายค่ะ
ว่าเราและพี่ต้องใช้หนี้สหกรณ์แทนแม่
เราสองคนจึงแย้งไปว่า เราแทบไม่ได้มรดกอะไรเลย มีแค่เงินติดบัญชีประมาณหมื่นนึง
จะเอาเงินที่ไหนไปใช้หนี้ให้ เราสองคนก็ไม่ได้ฐานะดีค่ะ ทำงานออฟฟิศทั่วไป
เงินเดือนประมาณสองหมื่น พี่ชายมีภาระผ่อนบ้านผ่อนรถและลูกเล็กสองคน ส่วนเรายังเช่าหอพักอยู่เลย
เมื่อเจอคำพูดกดดันมากๆ เข้า พี่ชายจึงบอกผู้ค้ำทั้งสามท่านไปว่า เดี๋ยวเงิน ชพค. ที่เหลือออก
จะโอนให้ทั้งหมดเลย แต่ผู้ค้ำทั้งสามไม่พอใจค่ะ บอกว่าต้องใช้คืนทั้งหมดเท่านั้น
รวมทั้งดอกเบี้ย ค่าเสียเวลา ค่าเดินทาง ซึ่งเราก็ยังไม่เข้าใจว่าเสียเวลาอะไรและเดินทางไปไหน
และมีคำพูดเชิงข่มขู่ใส่เราสองคนกลางงานศพ
รวมทั้งบอกว่าจริงๆ แม่เคยยืมเงินเขาสี่พัน เราต้องใช้คืน
อีกคนบอกว่าเคยถูกยืมเหมือนกัน เป็นหมื่นๆ ต้องใช้คืนนะ
เราและพี่ชายไม่รู้จะทำยังไง จึงอยากปรึกษาทุกท่านค่ะ ว่าควรทำยังไงดี
เราสองคนเต็มใจให้เงิน ชพค. ที่เหลือทั้งหมดนะคะ แต่กลัวว่าเขาจะมาทวงเงินเพิ่มไม่จบสิ้น
เพราะถึงให้เงิน ชพค. ไปหมด ก็ยังมีหนี้เหลือค้างบางส่วนค่ะ
ถ้าตัดสินใจปล่อยให้สหกรณ์หรือผู้ค้ำทั้งสามส่งเรื่องฟ้องเราและพี่ชายไปเลยดีมั้ยคะ
ให้ศาลสั่งมาเลย ว่าเราและพี่ต้องใช้หนี้กี่บาทกันแน่
เพิ่มเติมค่ะ เราและพี่ชายยังไม่ได้เซ็นต์เอกสารรับสภาพหนี้ใดๆ นะคะ