เรา ช รัก ช ครับ รุกได้รับได้ เรามีแฟนมา 3 คน แล้วทุกคนเป็น HIV หมดเลย แต่เราไม่ติต
ก็เลย งงๆ มาถามที่นี่ดูครับ ว่ามีคนเลยเจอ เคสแปลกๆแบบเราบ้างมั้ย?
ตอนนี้ผม อายุ 35 ครับ
เรื่มย้อนกลับไป เมื่อตอนเรียน มหาวิทยาลัย10 กว่าปีที่แล้วครับ ผมได้คบกับรุ่นพี่คนหนึง
คบกันได้1ปีกว่า ก่อนหน้านั้นมีอะไรกัน ใส่ถุงป้องกันทุกครั้งครับ พอวันหนึง เขาขอไม่ไใส่ถุง
แต่ผมไม่ยอมครับ ผมบอกถ้าไม่อยากใส่ถุง งั้นพรุ่งนี้เราไปโรงบาล ไปตรวจเลือดด้วยกัน ก็เลย
ไปตรวจวันนั้น ตรวจโรคพ้อมกันทั้งสอง ตรวจ HIVกับอีกหลายโรค ผลออกมา เลือดปกติกครับ
แฟนผมตลอดที่อยู่กับผม เขาไม่เคยนอกใจครับ จากนี้ไปปลอดภัยแล้วสบายใจ ในเมื่อทั้งสอง
ไม่มีโรคอะไร ก็ไม่ป้องกันก็ ไม่เป็นไร เลยไม่ได้ป้องกันครับ จากนั้น อีกปีหนึง เราสองคนก็ว่า
ครบปีหนึงที่ เราจะต้องตรวจ สุขภาพประจำปีแล้ว ปกติตรวจ สุขภาพปะจำปี เราจะไม่ค่อยตรวจ
HIV ด้วยครับถ้าเราไม่ไปเสียงมา แต่นี้อยู่ๆ ให้หมอตรวจด้วยเลย ไหนๆก็ ไหนๆ แล้ว จากนั้น
รอผลครับ ผลออกมาว่า แฟนผม เลือดบวก ติตHIV แต่ของผมเป็นลบ เลือดปดติ ตอนนั้นผมโโกรธ
เขามากๆเลยครับ เลยไปตรวจซำอีกที่หนึง ผลก็เป็นเหมือนอันแรกครับ เขาติต ผมไม่ติต ผมเลยหาว่า
เขานอกใจ ทะเลาะกัน เขาบอกเขาไม่เคยนอกใจเลย แต่นั้นตอนนั้น ผมไม่เชื่อใจแล้ว ผมขอเลิกเลย
เอาเป็นว่าหลังจากนั้น เราเลิกกันครับ จากนั้นผมอยู่เป็นโสด โดยที่ไม่มีไรกับใครปีหนึงได้ เลยไไปตรวจ
หลังครบปี ผลก็เป็นลบ ครับไม่ติตจากแฟนเก่า
ก็เลยคิดว่าเราปลอดภัยแล้ว โชคดีจังที่ไม่ติตจาก แฟนเก่าที่ ไม่ซื่อสัตย์ เลยลองเปิดใจมีแฟนครั้งใหม่
ผมเป็นคนที่เป็นแนว ตรงสเปคที่ชอบของเกย์ส่วนมากครับ ขาวสอาด หุ่นดี ดูแลตัวเองดีครับ มมีคคนเเข้ามมาจีตลอดถึงแม้บางคนรู้ว่าช่วงมีแฟน แต่พวกเขาก็จีบ แต่ผมพวกรู้จากพอครับ ไม่มั่วเซ๊ก มีแฟนแล้ว พอแค่แฟนคนเดียว ไม่นอกใจ แล้วไม่ชอบให้ใคร นอกใจเราด้วยเหมือนกัน เลยลองคบกับ เพื่อนอีกคนหนึง รุ่นเดียวกันครับ คือแฟนคนที่สองครับ จากนี้ไปผมกลายเป็นคนที่ระมัดระวังตัว ไม่ไวใจใครง่ายๆแล้วครับ ป้องกันตลอด อยู่กับพี่คนนี้สีก9เดือนได้ครับ ไม่นานก็จะเรียนจบแล้ว เลยไปเที่ยวต่างจังหวัดกัน วันนั้นไปอยู่ที่พักที่ต่างจังหวัด เขาขอมีไรด้วย แต่ไม่ได้เอาถุงยางมา เขาบอกเขาปลอดภัย เขาไม่มีโครไรหรอก เดิ๋ยวกลับไป จะไปตรวจให้ ผมเลยมอมมีไรกันโดยไม่ป้องกัน จากนั้นอีกวันหนึง กลับมาจากเที่ยว ผมชวนพี่เขา ไปตรวจด้วยกันเลย ผลออกมา ทั้งคู่ไม่มีHIV ผลเป็นลบ แล้วโรคอื่นๆก็ ไม่มีครับ เลยอยู่ด้วยกัน มีไรโดยไม่ป้องกัน จนไม่กีเดือนก็ เรียนจบ ด้วยที่ต้องไปทำงานกันคนล่ะที่ ไม่ค่อยได้คุยกันครับ ไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว เขาเมือนไปมีใจให้คนอื่น ผมเลยไม่ตื้อไรเขานะ ปล่อยๆไป ผ่านไปไม่กีเดือนครับ เขาโทรมาหาผมว่า ให้ผมไปตรวจเลือดให้เขาดูด้วย เพราะเขาบอกเขาติตHIV ผมก็ไม่ตกใจนะ ตอนนั้น เพราะผมคิดว่า จากที่เราไม่คุยกันหลายเดือน นายก็ไปมีไรกับคนอื่นอ่ะดิ เลยติจะมาโทษผมทำมั้ย เขาโมโหมาก เขายอมรับว่า เขาไปกับคนอื่นอ่ะ เรื่องจริง แต่เขาไส่ถุง ไม่ได้ใช้ปากช่วยด้วย เราจะติตได้ไง ถุงก็ไม่แตก แล้ววเขาเป็นแต่ฝ่ายรุกที่ไปกับคนอื่นเขารู้ตัวดี ถุงไม่แตก แน่นนอนครับ เขาบอกแต่ว่า เขาติตจากผม100% ผมก็เริ่มกลัวขึ้นมาแล้วครับ หรือว่าผมติตจากแฟนคนแรก แต่มันผ่านไปตั้ก2ปี ตรวจก็เป็นลบนี่ จะเป็นไปได้ไง ผมเลยเงี่ยบ เลยบอกเดี๋ยวไปตรวจให้ ไห้มาหาด้วยนะ ถ้าว่าง ไปดูผลพร้อมกัน ถ้าผมติต แล้วนายติตจากผมจริงๆ มาว่าผมเลย แล้ววผมพร้อมที่ จะรับผิดชอบ ผมแมนพอ ผ่านไป3วันเขามาหาผม วันนั้นผมขอลางาน ไปตรวจให้เขาเห็น ในใจผมก็กลัวๆครับ คิดว่าถ้าผมเป็นบวกนี้ ตายแน่นๆเขาต้องคิดว่าติตจากผมแน่นๆ ตายแน่นๆ เลยรอผลจากโรบาลออกมา พยาบาลเรียก ผมบอกว่าขอพาคนที่มาด้วยเข้าไปฝังผลได้มั้ยครับ พยบาลบอกเดี๋ยวไปถามหมอให้นะ สักพัก เขาบอกว่า พาเข้ามาได้ ถ้าคนไข้คิคว่า เขาคนสำคัญที่ควรรู้ผลของเราด้วย เลยเราสองคนเข้าไปหาหมอ หมอบอกเราไม่ติตเชื่อนะครับ ผลเป็นลบ นั้นหมายความว่า ผมไม่ติตเชื่อ100% ครับ เพราะจากที่เราหางกันไป จะควบ7 เดือนแล้ว เหมือนตอนนั้น เขาหน้าชาไปเลย แทนที่จะมาหาเรื่องผม กล้ายเป็นผมก็ กล้าพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจให้เขาเห็นว่า เขาไม่ได้ติติตจากผม
แล้วจากนั้นผมก็ไม่ได้ว่าไรเขานะครับ ปล่อยผ่านไป เขาก็ไม่ได้ขอโทษไรผมนะ แถมยังบอกอีกว่าเป็นไปได้ไง ถ้าไม่ได้ติตจากผม ก็ผมบอก ผลก็ตรวจให้นี้ ตองการไรอีก นายควรไปรักษาตัวดีๆก่อนมั้ยแทนที่จะโทษคนอื่น แล้วไม่นานเราก็ไม่ได้ติตต่อกันอีกเลย หายกันไปแล้วครครับ
จากนั้นสัก2ปี ผมก็ย้าย บริษัทไปทำงานที่ใหม่ แล้วได้เจอกับแฟนคนใหม่ คนนี้เป็นผู้ใหญ่มากครับ อายุมากกว่าผม 5 ปีได้ เป็นคนดูแลตัวเองดี แล้วแนวนิ่งๆไม่เจ้าชู้เมือนคนที่ผ่านๆมาครับ คนนี้เท่าที่คบมา โอเคสุดน่าไวใจสุดแล้ว ก็อย่าว่านั้นแหล่ะครับ คบกันไม่แว้นเรื่องมีไรกัน พอคบกันอยู่ด้วยกันสัก ปีกว่าๆ ตามเคยเหมือนที่ผ่านมาครับ เพราะเป็นแฟนกันไม่ได้นอกใจกัน ทำงานด้วยกัน อยู่ด้วยกัน เหมือนคู่ ชายหญิง พอมาปีกว่าๆ เขาบอกเราไม่ไส่ถุงอีกเลยได้มั้ย ผมเลยเล่าเรื่องแฟนก่อนหน้านั้นให้เขาฝังที่ เดียวกับทั้งสองเป็น HIV แต่ผมไม่เป็น เขาบอกมันนานหลายปีแล้วนี้ งั้นหาเวลาว่าง ไปตรวจกัน ก่อนที่จะไม่ป้องกัน เลยไปตรวจด้วยกัน ผลก็ตามเคยครับ ทั้งคู่ไม่มีเชื่อไรผมเป็นลบ ผลเลือดปกติ จากนั้นไม่ได้ป้องกันครับ อยู่ด้วยกันแบบคู่ชิวิตกัน นานสองปีได้ คนนี้ผมคบนานครับ เข้าสู่ปีที3 เขาเจ็บๆป๋วยๆ เข้าโรงบาลบ่อย เป็นช่วงโควิดเป็นโควิด แล้วเป็นไข้หวัดใหญ่ เข้าโรงบาลเป็นว่าเล่น แต่กลับกับผม วัดซีนก็ไม่ฉิต โควิดก็ไม่เคยติตจากแฟนเลย ไม่เป็นอะไรเลยทั้งสี่น มีอยู่วันหนึง จุๆหมอถามเขาว่า ผอมขอ ตรวจเลือดหาเชื้ออื่นได้มั้ย เขาบอกได้ให้ตรวจเลย ผลออกมา ผลเลือดไม่ปกติ ให้ตรวจซำ เขามาเล่าให้ผมฝัง ในใจผมคือ เอาอีกแล้วหรอ อะไรกันเนี่ย อีกแล้วหรอ อย่าที่ว่าครับ เขาติตเชื่อHIV โอยยย อีกแล้ว ผมก็ตรวจเป็นลบตามเคย ไม่ติตเชื่อ
แล้งงี้คือไร ตกลงจะเชื่อใคร
แล้วทีนี้ผมไม่ได้ตรวจแค่ ภูมิคุ้มกันแล้ว
ตรวจวิธีอื่น หากพันธุกรรมเชื้อที่อยู่ในเลือด ก็ไม่เจอ งง กันไปหมด
แล้วแฟนคนนี้ก็ผมมั่นใจว่าเขาไม่นอกใจผม เขาถึงไปกล้าสาบานต่อหน้าพระที่เขานับถือเลย ผมบอไม่ต้องทำแบบนั้นมันไม่ดีไม่ควร แต่เขาก็สาบาน เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจ ผลเลยยังคบกับคนนี้ต่อครับ จนถึงทุกวันนี้ เขารับยานานเป็นปี แล้วตอนนี้ ตรวจไม่เจอเชื้อในเลือดแล้ว ผมก็ยังอยู่กับเขาครับ พวกคุณเชื่อมัมั้ย
ตอนที่ผมรู้ว่าแฟนคนนี้ติตเชื้อ ผมเบื่อกับเชื้อบ้าบอนี้มาก ผมโกรธมาก แต่เมือนคนบ้าเลยไม่รู้ว่าจะโกรธใครด้วย รำคาญด้วยอ่ะไรหลายๆอย่าง ผมประชดด้วยแฟนไส่ถุง แต่ผมถอน เขาไม่ยอม เขากลัวผมติต ผมเลยบอก ติตไปเลย ติตไปพร้อมกัน กินยาด้วยกัน อยู่ด้วยกันจนตายเลย พอผมขอยอมที่จะติตกับเขา ขอตลอดไม่ต้องป้องกันเลย ไหนๆเราจะมีกันแค่สองคนแล้ว ผมขอจนเขารำคาญผมครับ เขาเลยยอมผมโดยไม่ป้องกัน ตอนนั้นเขาเพิ่งเริ่มกินยาใหม่ๆครับ หมอบอกให้ป้องกัน แล้วนั้นเวลานั้น เราไม่ป้องกันเลย ตักสินใจดีแล้ว จะติตเป็นเพื่อนเขา
จนตอนนี้ผ่านมานานหลายปีแล้ว ผมไปตรวจผลก็ไม่ติตเชื้ออยู่ดดีสรุปมันคืคืออะไร
หมอก็ให้คำตอบไม่ได้ ไม่มีใครให้คำตอบได้เลย
ทุกวันนี้ยังทิ้งปริศนาในใจผม ถึงแม้จะแปลแต่ก็เป็นเรื่องจริง😏
ใครติต HIV จากใคร? เรื่องนี้แปลกมาก แต่เรื่องจริง!
ก็เลย งงๆ มาถามที่นี่ดูครับ ว่ามีคนเลยเจอ เคสแปลกๆแบบเราบ้างมั้ย?
ตอนนี้ผม อายุ 35 ครับ
เรื่มย้อนกลับไป เมื่อตอนเรียน มหาวิทยาลัย10 กว่าปีที่แล้วครับ ผมได้คบกับรุ่นพี่คนหนึง
คบกันได้1ปีกว่า ก่อนหน้านั้นมีอะไรกัน ใส่ถุงป้องกันทุกครั้งครับ พอวันหนึง เขาขอไม่ไใส่ถุง
แต่ผมไม่ยอมครับ ผมบอกถ้าไม่อยากใส่ถุง งั้นพรุ่งนี้เราไปโรงบาล ไปตรวจเลือดด้วยกัน ก็เลย
ไปตรวจวันนั้น ตรวจโรคพ้อมกันทั้งสอง ตรวจ HIVกับอีกหลายโรค ผลออกมา เลือดปกติกครับ
แฟนผมตลอดที่อยู่กับผม เขาไม่เคยนอกใจครับ จากนี้ไปปลอดภัยแล้วสบายใจ ในเมื่อทั้งสอง
ไม่มีโรคอะไร ก็ไม่ป้องกันก็ ไม่เป็นไร เลยไม่ได้ป้องกันครับ จากนั้น อีกปีหนึง เราสองคนก็ว่า
ครบปีหนึงที่ เราจะต้องตรวจ สุขภาพประจำปีแล้ว ปกติตรวจ สุขภาพปะจำปี เราจะไม่ค่อยตรวจ
HIV ด้วยครับถ้าเราไม่ไปเสียงมา แต่นี้อยู่ๆ ให้หมอตรวจด้วยเลย ไหนๆก็ ไหนๆ แล้ว จากนั้น
รอผลครับ ผลออกมาว่า แฟนผม เลือดบวก ติตHIV แต่ของผมเป็นลบ เลือดปดติ ตอนนั้นผมโโกรธ
เขามากๆเลยครับ เลยไปตรวจซำอีกที่หนึง ผลก็เป็นเหมือนอันแรกครับ เขาติต ผมไม่ติต ผมเลยหาว่า
เขานอกใจ ทะเลาะกัน เขาบอกเขาไม่เคยนอกใจเลย แต่นั้นตอนนั้น ผมไม่เชื่อใจแล้ว ผมขอเลิกเลย
เอาเป็นว่าหลังจากนั้น เราเลิกกันครับ จากนั้นผมอยู่เป็นโสด โดยที่ไม่มีไรกับใครปีหนึงได้ เลยไไปตรวจ
หลังครบปี ผลก็เป็นลบ ครับไม่ติตจากแฟนเก่า
ก็เลยคิดว่าเราปลอดภัยแล้ว โชคดีจังที่ไม่ติตจาก แฟนเก่าที่ ไม่ซื่อสัตย์ เลยลองเปิดใจมีแฟนครั้งใหม่
ผมเป็นคนที่เป็นแนว ตรงสเปคที่ชอบของเกย์ส่วนมากครับ ขาวสอาด หุ่นดี ดูแลตัวเองดีครับ มมีคคนเเข้ามมาจีตลอดถึงแม้บางคนรู้ว่าช่วงมีแฟน แต่พวกเขาก็จีบ แต่ผมพวกรู้จากพอครับ ไม่มั่วเซ๊ก มีแฟนแล้ว พอแค่แฟนคนเดียว ไม่นอกใจ แล้วไม่ชอบให้ใคร นอกใจเราด้วยเหมือนกัน เลยลองคบกับ เพื่อนอีกคนหนึง รุ่นเดียวกันครับ คือแฟนคนที่สองครับ จากนี้ไปผมกลายเป็นคนที่ระมัดระวังตัว ไม่ไวใจใครง่ายๆแล้วครับ ป้องกันตลอด อยู่กับพี่คนนี้สีก9เดือนได้ครับ ไม่นานก็จะเรียนจบแล้ว เลยไปเที่ยวต่างจังหวัดกัน วันนั้นไปอยู่ที่พักที่ต่างจังหวัด เขาขอมีไรด้วย แต่ไม่ได้เอาถุงยางมา เขาบอกเขาปลอดภัย เขาไม่มีโครไรหรอก เดิ๋ยวกลับไป จะไปตรวจให้ ผมเลยมอมมีไรกันโดยไม่ป้องกัน จากนั้นอีกวันหนึง กลับมาจากเที่ยว ผมชวนพี่เขา ไปตรวจด้วยกันเลย ผลออกมา ทั้งคู่ไม่มีHIV ผลเป็นลบ แล้วโรคอื่นๆก็ ไม่มีครับ เลยอยู่ด้วยกัน มีไรโดยไม่ป้องกัน จนไม่กีเดือนก็ เรียนจบ ด้วยที่ต้องไปทำงานกันคนล่ะที่ ไม่ค่อยได้คุยกันครับ ไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว เขาเมือนไปมีใจให้คนอื่น ผมเลยไม่ตื้อไรเขานะ ปล่อยๆไป ผ่านไปไม่กีเดือนครับ เขาโทรมาหาผมว่า ให้ผมไปตรวจเลือดให้เขาดูด้วย เพราะเขาบอกเขาติตHIV ผมก็ไม่ตกใจนะ ตอนนั้น เพราะผมคิดว่า จากที่เราไม่คุยกันหลายเดือน นายก็ไปมีไรกับคนอื่นอ่ะดิ เลยติจะมาโทษผมทำมั้ย เขาโมโหมาก เขายอมรับว่า เขาไปกับคนอื่นอ่ะ เรื่องจริง แต่เขาไส่ถุง ไม่ได้ใช้ปากช่วยด้วย เราจะติตได้ไง ถุงก็ไม่แตก แล้ววเขาเป็นแต่ฝ่ายรุกที่ไปกับคนอื่นเขารู้ตัวดี ถุงไม่แตก แน่นนอนครับ เขาบอกแต่ว่า เขาติตจากผม100% ผมก็เริ่มกลัวขึ้นมาแล้วครับ หรือว่าผมติตจากแฟนคนแรก แต่มันผ่านไปตั้ก2ปี ตรวจก็เป็นลบนี่ จะเป็นไปได้ไง ผมเลยเงี่ยบ เลยบอกเดี๋ยวไปตรวจให้ ไห้มาหาด้วยนะ ถ้าว่าง ไปดูผลพร้อมกัน ถ้าผมติต แล้วนายติตจากผมจริงๆ มาว่าผมเลย แล้ววผมพร้อมที่ จะรับผิดชอบ ผมแมนพอ ผ่านไป3วันเขามาหาผม วันนั้นผมขอลางาน ไปตรวจให้เขาเห็น ในใจผมก็กลัวๆครับ คิดว่าถ้าผมเป็นบวกนี้ ตายแน่นๆเขาต้องคิดว่าติตจากผมแน่นๆ ตายแน่นๆ เลยรอผลจากโรบาลออกมา พยาบาลเรียก ผมบอกว่าขอพาคนที่มาด้วยเข้าไปฝังผลได้มั้ยครับ พยบาลบอกเดี๋ยวไปถามหมอให้นะ สักพัก เขาบอกว่า พาเข้ามาได้ ถ้าคนไข้คิคว่า เขาคนสำคัญที่ควรรู้ผลของเราด้วย เลยเราสองคนเข้าไปหาหมอ หมอบอกเราไม่ติตเชื่อนะครับ ผลเป็นลบ นั้นหมายความว่า ผมไม่ติตเชื่อ100% ครับ เพราะจากที่เราหางกันไป จะควบ7 เดือนแล้ว เหมือนตอนนั้น เขาหน้าชาไปเลย แทนที่จะมาหาเรื่องผม กล้ายเป็นผมก็ กล้าพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจให้เขาเห็นว่า เขาไม่ได้ติติตจากผม
แล้วจากนั้นผมก็ไม่ได้ว่าไรเขานะครับ ปล่อยผ่านไป เขาก็ไม่ได้ขอโทษไรผมนะ แถมยังบอกอีกว่าเป็นไปได้ไง ถ้าไม่ได้ติตจากผม ก็ผมบอก ผลก็ตรวจให้นี้ ตองการไรอีก นายควรไปรักษาตัวดีๆก่อนมั้ยแทนที่จะโทษคนอื่น แล้วไม่นานเราก็ไม่ได้ติตต่อกันอีกเลย หายกันไปแล้วครครับ
จากนั้นสัก2ปี ผมก็ย้าย บริษัทไปทำงานที่ใหม่ แล้วได้เจอกับแฟนคนใหม่ คนนี้เป็นผู้ใหญ่มากครับ อายุมากกว่าผม 5 ปีได้ เป็นคนดูแลตัวเองดี แล้วแนวนิ่งๆไม่เจ้าชู้เมือนคนที่ผ่านๆมาครับ คนนี้เท่าที่คบมา โอเคสุดน่าไวใจสุดแล้ว ก็อย่าว่านั้นแหล่ะครับ คบกันไม่แว้นเรื่องมีไรกัน พอคบกันอยู่ด้วยกันสัก ปีกว่าๆ ตามเคยเหมือนที่ผ่านมาครับ เพราะเป็นแฟนกันไม่ได้นอกใจกัน ทำงานด้วยกัน อยู่ด้วยกัน เหมือนคู่ ชายหญิง พอมาปีกว่าๆ เขาบอกเราไม่ไส่ถุงอีกเลยได้มั้ย ผมเลยเล่าเรื่องแฟนก่อนหน้านั้นให้เขาฝังที่ เดียวกับทั้งสองเป็น HIV แต่ผมไม่เป็น เขาบอกมันนานหลายปีแล้วนี้ งั้นหาเวลาว่าง ไปตรวจกัน ก่อนที่จะไม่ป้องกัน เลยไปตรวจด้วยกัน ผลก็ตามเคยครับ ทั้งคู่ไม่มีเชื่อไรผมเป็นลบ ผลเลือดปกติ จากนั้นไม่ได้ป้องกันครับ อยู่ด้วยกันแบบคู่ชิวิตกัน นานสองปีได้ คนนี้ผมคบนานครับ เข้าสู่ปีที3 เขาเจ็บๆป๋วยๆ เข้าโรงบาลบ่อย เป็นช่วงโควิดเป็นโควิด แล้วเป็นไข้หวัดใหญ่ เข้าโรงบาลเป็นว่าเล่น แต่กลับกับผม วัดซีนก็ไม่ฉิต โควิดก็ไม่เคยติตจากแฟนเลย ไม่เป็นอะไรเลยทั้งสี่น มีอยู่วันหนึง จุๆหมอถามเขาว่า ผอมขอ ตรวจเลือดหาเชื้ออื่นได้มั้ย เขาบอกได้ให้ตรวจเลย ผลออกมา ผลเลือดไม่ปกติ ให้ตรวจซำ เขามาเล่าให้ผมฝัง ในใจผมคือ เอาอีกแล้วหรอ อะไรกันเนี่ย อีกแล้วหรอ อย่าที่ว่าครับ เขาติตเชื่อHIV โอยยย อีกแล้ว ผมก็ตรวจเป็นลบตามเคย ไม่ติตเชื่อ
แล้งงี้คือไร ตกลงจะเชื่อใคร
แล้วทีนี้ผมไม่ได้ตรวจแค่ ภูมิคุ้มกันแล้ว
ตรวจวิธีอื่น หากพันธุกรรมเชื้อที่อยู่ในเลือด ก็ไม่เจอ งง กันไปหมด
แล้วแฟนคนนี้ก็ผมมั่นใจว่าเขาไม่นอกใจผม เขาถึงไปกล้าสาบานต่อหน้าพระที่เขานับถือเลย ผมบอไม่ต้องทำแบบนั้นมันไม่ดีไม่ควร แต่เขาก็สาบาน เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจ ผลเลยยังคบกับคนนี้ต่อครับ จนถึงทุกวันนี้ เขารับยานานเป็นปี แล้วตอนนี้ ตรวจไม่เจอเชื้อในเลือดแล้ว ผมก็ยังอยู่กับเขาครับ พวกคุณเชื่อมัมั้ย
ตอนที่ผมรู้ว่าแฟนคนนี้ติตเชื้อ ผมเบื่อกับเชื้อบ้าบอนี้มาก ผมโกรธมาก แต่เมือนคนบ้าเลยไม่รู้ว่าจะโกรธใครด้วย รำคาญด้วยอ่ะไรหลายๆอย่าง ผมประชดด้วยแฟนไส่ถุง แต่ผมถอน เขาไม่ยอม เขากลัวผมติต ผมเลยบอก ติตไปเลย ติตไปพร้อมกัน กินยาด้วยกัน อยู่ด้วยกันจนตายเลย พอผมขอยอมที่จะติตกับเขา ขอตลอดไม่ต้องป้องกันเลย ไหนๆเราจะมีกันแค่สองคนแล้ว ผมขอจนเขารำคาญผมครับ เขาเลยยอมผมโดยไม่ป้องกัน ตอนนั้นเขาเพิ่งเริ่มกินยาใหม่ๆครับ หมอบอกให้ป้องกัน แล้วนั้นเวลานั้น เราไม่ป้องกันเลย ตักสินใจดีแล้ว จะติตเป็นเพื่อนเขา
จนตอนนี้ผ่านมานานหลายปีแล้ว ผมไปตรวจผลก็ไม่ติตเชื้ออยู่ดดีสรุปมันคืคืออะไร
หมอก็ให้คำตอบไม่ได้ ไม่มีใครให้คำตอบได้เลย
ทุกวันนี้ยังทิ้งปริศนาในใจผม ถึงแม้จะแปลแต่ก็เป็นเรื่องจริง😏