JJNY : นายกฯ รับความนิยมแพ้ ‘ก้าวไกล’│ไทยจ่อเข้าสู่สังคมคนโสด│น้ำมันโลกกลับมารีบาวด์│โปแลนด์“จำกัดการเคลื่อนไหว”รัสเซีย

นายกฯ ยอมรับ ปชช.ยังไม่พอใจผลงานรัฐบาล หลังผลโพล พบความนิยมแพ้ ‘ก้าวไกล’
https://www.matichon.co.th/politics/news_4597904

 
นายกฯ ยอมรับ ปชช.ยังไม่พอใจผลงานรัฐบาล หลังผลโพลพบความนิยมแพ้ “ก้าวไกล” พร้อมคำนึงและนำมาประมวลจุดไหนยังไม่ดีพอ เผยรัฐบาลก็ทำโพลตัวเองเหมือนกัน
 
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 28 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีผลโพลสถาบันพระปกเกล้า ที่พรรคเพื่อไทย มีคะแนนตามพรรคก้าวไกล ทั้งในส่วนของพรรคและผู้นำ รัฐบาลจะทำอย่างไรให้ได้รับความนิยมมากขึ้น ว่า ตนคิดว่าผลงานอย่างเดียวที่จะเป็นตัวชี้วัดว่าโพลจะออกมาเป็นอย่างไร แสดงว่าพี่น้องประชาชนยังไม่พอใจกับการทำงานของเรา เราก็ต้องทำงานต่อไป
 
เมื่อถามว่าเป็นการสะท้อนว่าประชาชนยังไม่เชื่อมั่นในรัฐบาลใช่หรือไม่ แม้จะผ่านมา 9-10 เดือนแล้ว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องข้อคิดเห็นของพี่น้องประชาชนเป็นเรื่องที่สำคัญ รัฐบาลต้องเอามาคำนึงและประมวลว่าเรายังทำอะไรไม่ดีพอ ซึ่งอยากจะลงเชิงลึก
 
และเราก็มีโพลของเราเองเหมือนกัน แต่บางเรื่องที่เรายังทำไม่ได้ดีพอ ซึ่งเราเริ่มมีกระบวนการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป็นราคาพืชผลการเกษตร ระบบสาธารณสุข ยาเสพติด ต่างๆเหล่านี้เราได้ทำงานกันอย่างต่อเนื่อง แต่แน่นอนผลงานยังไม่เป็นที่พอใจ แต่ผมเชื่อว่าเราทำงานมีความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้



ไทยจ่อเข้าสู่สังคมคนโสด วัยเจริญพันธุ์ทำงานหนัก ไร้สมดุลชีวิต สภาพัฒน์ฯ แนะรัฐหนุนช่วยหาคู่
https://ch3plus.com/news/economy/morning/401696

วานนี้ (27 พ.ค.67) นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงภาวะสังคมไทยไตรมาส 1 โดยพบปัญหาสุขภาพจิต ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในสังคมไทย ซึ่งข้อมูลจากกรมสุขภาพจิต พบว่ามีผู้ป่วยจิตเวชเข้ารับบริการเพิ่มขึ้นจาก 1.3 ล้านคน ในปี 2558 เป็น 2.9 ล้านคน ในปี 2566 ประเด็นที่น่ากังวลคือ แม้ว่าประเทศไทยมีผู้ป่วยเข้ารับการรักษา 2.9 ล้านคน แต่ผู้มีปัญหาอาจมากถึง 10 ล้านคน ทำให้สัดส่วนผู้มีปัญหาสูงกว่าค่าเฉลี่ยระดับโลก สะท้อนให้เห็นว่ายังมีผู้ที่ ไม่ได้เข้ารับการรักษาเป็นจำนวนมาก

ผู้มีความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพจิตมีสัดส่วนสูงเช่นกัน โดยวันที่ 1 ต.ค. 2566-22 เม.ย.2567 พบผู้มีความเครียดสูงถึง 15.48% เสี่ยงซึมเศร้า 17.20% เสี่ยงฆ่าตัวตาย 10.63% ซึ่งแย่ลงกว่าในปีที่ผ่านมา ปัญหาสุขภาพจิตไม่เพียงกระทบต่อตนเอง แต่ยังส่งผลต่อเศรษฐกิจมากกว่าที่คาดคิด องค์การอนามัยโลกพบว่าภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวลของประชากรทั่วโลก ทำให้วันทำงานหายไป 12,000 ล้านวัน สร้างความสูญเสีย ทางเศรษฐกิจมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯและเกือบ 1 ใน 5 ของผู้มีปัญหาสุขภาพจิตไม่สามารถดูแลตนเองได้

สภาพเศรษฐกิจและสังคมที่มีความกดดันส่งผลให้คนไทยเป็นโรคซึมเศร้า โรควิตกกังวลมากขึ้น ในปีงบประมาณ 2566 พบสัดส่วนผู้ป่วย กลุ่มโรควิตกกังวล โรคซึมเศร้า สูงเป็น 2 อันดับแรก สูงกว่าผู้ป่วยติดยาบ้าและยาเสพติดอื่นๆรวมกัน และพบว่ามีผู้เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายอยู่ที่ 7.94 ต่อประชากรแสนคน ใกล้เคียงช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง 8.59 ต่อประชากรแสนคน บริษัท Kisi พบว่า ปี 2565 กรุงเทพฯอยู่ในอันดับ 5 จาก 100 เมืองทั่วโลกที่มีผู้คนทำงานหนักเกินไป สะท้อนให้เห็นว่า ปัญหาสุขภาพจิตต้องได้รับการแก้ไขจริงจัง

นอกจากนี้ปัจจุบันประเทศไทยกำลังเร่งผลักดันนโยบายส่งเสริมการมีลูก โดยมีเป้าหมายไปที่คนมีคู่เพื่อแก้ปัญหาเด็กเกิดน้อย จากการสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือนปีที่ผ่านมาพบว่า คนไทยครองตัวเป็นโสดมากขึ้น คิดเป็น 23.9% หากพิจารณาเฉพาะช่วงวัยเจริญพันธุ์ มีสัดส่วน 40.5% สูงกว่าภาพรวมประเทศเกือบเท่าตัว เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่ 35.7% โดยมีค่านิยมทางสังคมของการเป็นโสดยุคใหม่ อาทิ Single Income, No Kids หรือคนโสดที่มีรายได้และไม่มีลูก เน้นใช้จ่ายเพื่อตนเอง มี 2.8 ล้านคน ส่วนใหญ่มีรายได้ดี จบการศึกษาสูง รวมทั้ง Waithood หรือกลุ่มคนโสดที่เลือกรอคอยความรัก เนื่องจากความไม่พร้อม ไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ

คนโสดมีชั่วโมงการทำงานสูงกว่าค่าเฉลี่ยของทั้งประเทศ และกรุงเทพฯจัดอยู่ในอันดับที่ 5 ของเมืองที่แรงงานทำงานหนักที่สุดในโลก ทำให้คนโสดไม่มีโอกาสในการมองหาคู่ โดยนโยบายส่งเสริมการมีคู่ของภาครัฐยังไม่ต่อเนื่องครอบคลุม ความต้องการของคนโสด รัฐบาลจึงควรสนับสนุนเครื่องมือการจับคู่คนโสด โดยภาครัฐอาจร่วมมือกับผู้ให้บริการพัฒนาแพลตฟอร์ม เพื่อส่งเสริมให้คนโสด เข้าถึงได้มากขึ้น และส่งเสริมการมี Work-life Balance ทั้งในภาครัฐและเอกชน ทำให้คนโสดมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพิ่มโอกาสให้คนโสดมีเวลาพบปะกัน

ทั้งนี้ ครัวเรือนไทยอีกรูปแบบที่เรียกว่า แซนด์วิช เจเนอเรชัน มักใช้เรียกคนที่อยู่ตรงกลาง ที่ต้องรับผิดชอบดูแลทั้งพ่อแม่สูงอายุและลูกของตนเอง มี 3.4 ล้านครัวเรือน ในปี 2566 คิดเป็น 14.0% ของครัวเรือนทั้งหมด คนกลุ่มนี้มีภาระต้องแบกรับ ทำให้มีความเปราะบางทางการเงิน 

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/Y4uQSIIsmTE

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

 
น้ำมันโลกกลับมารีบาวด์ หลังดิ่งยาวตลอดสัปดาห์ก่อน - ทองคำปิดบวก ขายออกยังเหนือ 4 หมื่น
https://ch3plus.com/news/economy/morning/401692

ราคาน้ำมันโลกปรับราคาขึ้นประมาณ 1% หลังจากสัปดาห์ที่แล้วลดราคาทุกวัน สาเหตุมาจาก นักลงทุนคาดว่าตัวเลขค่าใช้จ่ายของสหรัฐฯ น่าจะส่งผลต่อธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการตัดสินใจเรื่องการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ส่งผลให้ราคาน้ำมันโลก มีดังนี้

• ตลาดไนเม็กซ์ นิวยอร์ก เพิ่มขึ้น 0.93 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล ปิดที่ 78.65 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล
• ตลาดเบรนท์ ลอนดอน เพิ่มขึ้น 1.00 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล ปิดที่ 83.12 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล
• น้ำมันกลั่นสำเร็จรูป สิงคโปร์ ลดลง 0.67 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล ปิดที่ 96.80 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล
--------------

ราคาทองคำ สปอต โกลด์ (Spot Gold) ปรับขึ้น 17.14 ดอลลาร์/ออนซ์ ปิดที่ 2,350.97 ดอลลาร์/ออนซ์
ราคาทองคำ โกลด์ฟิวเจอร์ (โคเม็กซ์) ปรับขึ้น 17.80 ดอลลาร์/ออนซ์ ปิดที่ 2,374.70 ดอลลาร์/ออนซ์

--------------
ราคาทองประเทศไทย วันที่ 27 พ.ค. 67 มีการปรับขึ้น-ลง 6 ครั้ง รวม +100 บาท

• ทองคำแท่ง : รับซื้อ 40,550.00 ขายออก 40,650
• ทองรูปพรรณ : รับซื้อ 39,825.32 ขายออก 41,150
 
--------------
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/sEXJpwaNAS0

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่