JJNY : ก้าวไกลชี้ระบอบประยุทธ์ยังอยู่│นันทนายื่นสมัครส.ว.แล้ว│แม่ค้าครวญราคาพริกขี้หนูขี้หนูขึ้น│รัสเซียแขวะเซเลนสกี

ก้าวไกล ชี้ ระบอบประยุทธ์ยังอยู่ ดัน 3 วาระ รื้อมรดก คสช. หยุดรัฐประหาร
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8245833

ก้าวไกล โพสต์ 10 ปี รัฐประหาร 2557 ชี้ ระบอบประยุทธ์ยังอยู่ ดัน 3 วาระ จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่-ปฏิรูปกองทัพ-ทลายทุนผูกขาด หยุดรปห.
 
เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2567 เพจเฟซบุ๊กพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความครบรอบ 10 ปี รัฐประหาร 2557 ระบุว่า 
 
“10 ปี รัฐประหาร 2557 : ประยุทธ์ออกแล้ว ระบอบประยุทธ์ยังอยู่”
 
ผ่านมาแล้ว 10 ปีหลังรัฐประหาร 22 พ.ค. 57 จุดกำเนิดของระบอบประยุทธ์ ประเทศไทยมีรัฐบาลที่ผ่านการเลือกตั้งแล้ว 2 ครั้ง แต่ประชาชนจำนวนมากไม่ได้รู้สึกว่าประเทศไทย ‘เปลี่ยน’ ไปจริงๆ
 
นั่นเพราะ “ระบอบประยุทธ์” มีความหมายกว้างกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่หมายถึงเครือข่ายผลประโยชน์ที่แวดล้อมคณะรัฐประหาร และร่วมมือกันรักษาผลประโยชน์และอำนาจของกันและกัน
 
ผ่านการออกแบบโครงสร้างและกลไกรัฐให้อยู่ในการควบคุมของตนเอง เป็นโครงสร้างทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ที่เปิดช่องให้อำนาจที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งทัดทานอำนาจที่มาจากการเลือกตั้ง เปิดช่องให้ทหารเข้ามาแทรกแซงการเมือง และเปิดช่องให้ทุนใหญ่เข้ากุมอำนาจทางเศรษฐกิจเหนือตลาด
 
การตั้งรัฐบาลข้ามขั้วที่นำโดยพรรคเพื่อไทย แม้ทำให้พล.อ.ประยุทธ์หายหน้าไปจากการเมือง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หายไปจากตำแหน่งในรัฐบาล แต่ “ระบอบประยุทธ์” ที่หมายถึงเครือข่ายผลประโยชน์ นายทุน-ขุนศึก-ศักดินา ไม่ได้หายไปไหน และผลพวงจากการรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 จะยังคงอยู่กับเรา ตราบที่เราไม่เดินหน้ารื้อมรดก คสช.
 
ซึ่งประกอบด้วยอย่างน้อย 3 วาระที่พรรคก้าวไกลพยายามผลักดันมาตลอด 1 ปีที่ผ่านมาหลังการเลือกตั้ง ผ่านการยื่นกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ด้วยความหวังว่าจะได้รับความร่วมมือจากรัฐบาลในการทำให้สำเร็จ
 
วาระ 1 จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน 100%
 
สำหรับปัญหา ในแง่การเมือง มรดกสำคัญของรัฐประหาร 2557 คือรัฐธรรมนูญ 2560 ที่มีเป้าหมายในการสืบทอดอำนาจของเครือข่ายที่เชื่อมโยงกับคณะรัฐประหาร ผ่านการขยายอำนาจของสถาบันทางการเมืองที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง เช่น สว. ศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระ ให้สามารถอยู่เหนือหรือแทรกแซงอำนาจที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน
 
ทางออก คือ จัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ โดย สสร. ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน 100% เพื่อพาสังคมไทยออกจากรัฐธรรมนูญ 2560 และสร้างประชาธิปไตยเต็มใบ ด้วยความเชื่อว่าหากสภาร่างรัฐธรรมนูญมาจากการเลือกตั้งทั้งหมด รัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะมีแนวโน้มมากที่สุด ที่จะมีเนื้อหาที่พร้อมทำให้ทุกสถาบันทางการเมืองมีความชอบธรรมทางประชาธิปไตย และพร้อมปิดช่องไม่ให้ศาลรับรองการทำรัฐประหารและไม่ให้มีการนิรโทษกรรมผู้ก่อรัฐประหาร
 
สิ่งที่ก้าวไกลเดินหน้าแล้ว ปี 2566-67 คือ 1.สนับสนุนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยการยื่นร่างแก้ไข พ.ร.บ.ประชามติ และร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ 200 คน ที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด
 
2.ยื่นร่างพ.ร.บ.ยกเลิกประกาศ คสช. เพื่อยกเลิกประกาศและคำสั่งจากคณะรัฐประหารที่ลิดรอนสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน ซึ่งเป็นร่างกฎหมายด้านการเงิน และรอนายกฯ ให้คำรับรองเพื่อให้เข้าสู่การพิจารณาในสภาฯ
 
วาระ 2 ปฏิรูปกองทัพให้อยู่ใต้รัฐบาลพลเรือน รื้อสภากลาโหม-ศาลทหาร

สำหรับปัญหา การที่วันนี้สื่อมวลชนยังมีคำถามว่าทหารจะรัฐประหารหรือไม่ ตอกย้ำให้เห็นชัดว่ากองทัพ ณ ปัจจุบัน ยังคงมีอำนาจหลายส่วนอยู่เหนือรัฐบาลพลเรือน สามารถแทรกแซงการเมืองหรือแม้แต่กิจการที่ไม่เกี่ยวข้องกับภารกิจรักษาความมั่นคง เป็น ‘ขุนศึก’ ที่ถือครองที่ดินและธุรกิจโดยขาดการตรวจสอบจากประชาชน
 
ทางออก คือ ปฏิรูปกองทัพให้อยู่ใต้รัฐบาลพลเรือน เพื่อเอาทหารออกจากการเมือง และทำให้กองทัพเป็นกองทัพยุคใหม่ ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการรักษาความมั่นคงของประเทศ มีความโปร่งใสมากขึ้นในการดำเนินการและการใช้งบประมาณ และได้รับความไว้วางใจมากขึ้นจากประชาชน
สิ่งที่ก้าวไกลเดินหน้าแล้ว ปี 2566-67 คือ 1.ยื่นร่างแก้ไข พ.ร.บ.ระเบียบราชการกลาโหม เพื่อยกเลิกอำนาจพิเศษของกองทัพที่อยู่เหนือรัฐบาลพลเรือน รวมถึงการปรับโครงสร้างอำนาจ-ที่มาของสภากลาโหม และกระบวนการแต่งตั้งนายพล โดยบรรจุเข้าระเบียบวาระการประชุมสภาฯ แล้ว รอการพิจารณาและลงมติในสมัยประชุมหน้า 2.เตรียมร่างกฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูปศาลทหาร เพื่อป้องกันกระบวนการยุติธรรมหลายมาตรฐาน
วาระ 3 ทลายทุนผูกขาด ปรับปรุงกฎหมายแข่งขันทางการค้า
 
สำหรับปัญหา ทุนใหญ่ได้ขยายอำนาจและส่วนแบ่งตลาดในทุกภาคเศรษฐกิจที่สำคัญมาอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมทุกด้านของปากท้องประชาชน ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค อาหาร ไฟฟ้า ผ่านสายสัมพันธ์ที่มีกับเครือข่ายคณะรัฐประหาร กองทัพ ระบบราชการ และผ่านกฎกติกาที่เอื้อประโยชน์ให้เกิดการผูกขาด
ทางออก คือ ทลายทุนผูกขาด จากเดิมที่ระบบเศรษฐกิจถูกครอบงำโดยผู้เล่นไม่กี่ราย ต้องเปลี่ยนเป็นการแข่งขันที่เป็นธรรมมากขึ้นระหว่างทุนใหญ่กับผู้ประกอบการรายย่อย
 
สิ่งที่ก้าวไกลเดินหน้าแล้ว ปี 2566-67 คือ 1.ยื่นร่างแก้ไข พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า เพื่อปฏิรูปคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า ให้ทำหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในการป้องกันการผูกขาดทางเศรษฐกิจ โดยบรรจุเข้าระเบียบวาระการประชุมสภาฯ แล้ว รอการพิจารณาและลงมติในสมัยประชุมหน้า
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่พรรคก้าวไกลไม่เพียงปรารถนาที่จะเห็น แต่เราได้ใช้ทุกกลไกและวิถีทางที่มีอยู่ แม้ในฐานะฝ่ายค้านปัจจุบัน ในการผลักดันลบล้างผลพวงรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 ออกจากสังคมไทย การต่อต้านและลบล้างผลพวงรัฐประหารย่อมไม่อาจเป็นจริงได้ผ่านเพียงคำพูด แต่ต้องพิสูจน์ผ่านการกระทำ
 
เราหวังว่ารัฐบาลจะร่วมกันผลักดัน “ทุกวาระ” ข้างต้นร่วมกับพรรคก้าวไกล เพื่อสร้างประชาธิปไตยเต็มใบให้เกิดขึ้นและตั้งมั่นในสังคมไทย ทำให้รัฐประหาร 2557 เป็นรัฐประหารครั้งสุดท้าย
 
https://www.facebook.com/MoveForwardPartyThailand/posts/pfbid02mHSDyAACPME8m5tAeH8kLBfvB6UbeQ5x9gx1yojS4vJPgheEra3VSQWGkEcHpyiUl
 

 
นันทนา ยื่นสมัคร ส.ว.แล้ว กลุ่มสื่อสารมวลชน ชิงเก้าอี้เขตพระนคร กทม.
https://www.matichon.co.th/politics/thai-senate-2024/news_4588345

นันทนา ยื่นสมัคร ส.ว.แล้ว กลุ่มสื่อสารมวลชน ชิงเก้าอี้เขตพระนคร กทม.

เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ที่สำนักงานเขตพระนคร กรุงเทพฯ รศ.ดร.นันทนา นันทวโรภาส คณบดีวิทยาลัยสื่อสารการเมือง ม.เกริก เดินทางมาสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในกลุ่ม 18 สื่อสารมวลชน ซึ่งได้เป็นลำดับที่ 13

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ตลอด 2 วันของการเปิดรับสมัคร ส.ว. (20-21 พ.ค.) มีผู้สมัครแล้ว 11,249 คน และจะเปิดรับสมัครจนถึงวันศุกร์ที่ 24 พ.ค. เวลา 08.30-16.30 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ



ฉุดไม่อยู่! แม่ค้าครวญราคาพริกขี้หนูขยับขึ้นเรื่อยๆกิโลละ600-800บาท.
https://www.dailynews.co.th/news/3457477/

เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 67 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจราคาผักสด ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองอุทัยธานี ริมแม่น้ำสะแกกรัง อ.เมือง จ.อุทัยธานี พบว่าตอนนี้ราคาผักสดยังคงมีราคาปรับขึ้นมาหลายรายการ โดยเฉพาะ พริกขี้หนูสวน ที่ราคายังคงแพงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง สูงถึงกิโลกรัมละ 600 บาท จากเพียงแค่ 16 วัน จากวันที่ 6 พ.ค. ที่เคยลงสำรวจตลาดไปครั้งที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 500 บาท โดยยังพบว่าบางอำเภอนั้น มีราคาที่สูงมากกว่านี้ อย่างเช่นที่อำเภอบ้านไร่ ที่ราคาพริกขี้หนูสวนตอนนี้พุ่งสูงไปถึงกิโลกรัมละ 800 บาท

นางสายชล สุขพงษ์ แม่ค้าแผงผัก เปิดเผยว่า ราคาพริกขี้หนูสวนตอนนี้ปรับราคาขึ้นมาอีกแล้ว จากเดิมกิโลกรัมละ 500 บาท ตอนนี้พุ่งมาเป็นราคากิโลกรัมละ 600 บาท ซึ่งขึ้นมาประมาณ 1 อาทิตย์แล้ว ซึ่งแต่ละวันนั้น แต่ละร้านจะได้พริกกันมาน้อยมาก บางวันได้กันแค่ 1 กิโลกรัมก็มี โดยชาวสวนพริกที่ปลูกแล้วนำมาขายส่งให้แม่ค้า บอกว่าสาเหตุนั้นเป็นเพราะเจอกับปัญหาแล้ง ทำให้ต้นพริกที่ปลูกไว้นั้นออกน้อย จึงไม่ทันต่อความต้องการของตลาด ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่พริกขี้หนูสวนเท่านั้นที่มีการปรับขึ้นราคา โดยมะเขือเจ้าพระยา จากกิโลกรัมละ 30 บาท ขึ้นมาเป็นกิโลกรัมละ 60 บาทแล้ว

ขณะที่แม่ค้าแผงผักรายอื่นๆ ต่างก็เปิดเผยว่า ราคาพืชผักในตลาดตอนนี้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เพียงแค่พริกขี้หนูสวนเท่านั้น โดยเฉพาะมะเขือเทศที่ราคาพุ่งจากกิโลกรัมละ 40 บาท เป็น 80 บาท และคาดว่าจะขึ้นไปถึง 100 บาท เนื่องจากผลผลิตมะเขือเทศในช่วงนี้มีน้อย ส่วนพริกขี้หนูสวนและพริกเมล็ดใหญ่ก็ปรับราคาขึ้นเช่นกัน จากกิโลกรัมละ 50 บาท เป็น 100 บาท แม่ค้าในตลาดระบุว่า เป็นเรื่องปกติในช่วงหน้าแล้งที่ราคาผักจะสูงขึ้น
 
เนื่องจากสภาพอากาศ แต่หลังจากฝนเริ่มตก ราคาก็จะลดลง อย่างไรก็ตาม ปัจจัยอื่นที่ทำให้ราคาผักสูงขึ้นก็คือราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ค่าขนส่งผักในตลาดปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่