ซินาคืออะไร? เมื่อใดที่กล่าวว่าบุคคลหนึ่งได้กระทำซินา? คำถามเช่นนี้กลายเป็นเรื่องธรรมดาเมื่อสังคมของเรามีแนวคิดเสรีนิยมมากขึ้น และซินาก็กลายเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้น ซินา หมายถึงการผิดประเวณีและการผิดประเวณี และถือเป็นบาปใหญ่ในศาสนาอิสลาม การผิดประเวณีคือการมีเพศสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นระหว่างชายและหญิงที่ไม่ได้แต่งงานกัน และการผิดประเวณีคือการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างชายและหญิง ซึ่งคนใดคนหนึ่งหรือทั้งสองคนแต่งงานกัน แต่ไม่ได้แต่งงานกับผู้ที่เป็นชู้ร่วม, การเที่ยวสถานบริการทางเพศทุกๆชนิดถือว่าเป็น "ซินา" ความชั่วช้าที่น่ารังเกียจเช่นกัน
“และอย่าเข้าใกล้การมีเพศสัมพันธ์ที่ผิดกฎหมาย แท้จริง มันเป็นฟาฮิชะฮ์ (นั่นคือ สิ่งใด ๆ ที่ละเมิดขอบเขตุของมัน เป็นบาปมหันต์) และทางที่ชั่วร้ายที่จะพาคน ๆ หนึ่งไปสู่นรก เว้นแต่อัลลอฮฺจะทรงอภัยโทษเขา” (อัล-อิสรออ์ 17:32)
นี่คือโองการหนึ่งในอัลกุรอานที่อัลลอฮฺ ห้ามการทำซินา, ซินาเป็นบาปใหญ่ที่สองจากการทำ "ชิริก" และ "การฆาตกรรม" และร้ายแรงยิ่งกว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือการพนัน
“และบรรดาผู้ที่ไม่วิงวอนพระเจ้าอื่นใดร่วมกับอัลลอฮ์ และไม่ฆ่าบุคคลดังที่อัลลอฮ์ทรงห้าม เว้นแต่ด้วยเหตุอันชอบธรรม และไม่กระทำการร่วมเพศที่ผิดกฎหมาย” (อัล-ฟุรกอน 25:68)
ซีนาถูกกล่าวถึงพร้อมกับชิริกและการฆาตกรรม ซึ่งเป็นบาปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสองประการในศาสนาอิสลามEncourage marriage:
ศาสนาอิสลามสนับสนุนให้ชายโสดหญิงโสดแต่งงานโดยที่ไม่ต้องกลัวความยากจน
وَأَنْكِحُوا الْأَيَامَىٰ مِنْكُمْ وَالصَّالِحِينَ مِنْ عِبَادِكُمْ وَإِمَائِكُمْ ۚ إِنْ يَكُونُوا فُقَرَاءَ يُغْنِهِمُ اللَّهُ مِنْ فَضْلِهِ ۗ وَاللَّهُ وَاسِعٌ عَلِيمٌ {32}
{24:32} และ
พวกเธอจงจัดการสมรสให้แก่ผู้เป็นโสดในหมู่พวกเธอ และคนดี ๆ จากเหล่าทาสของพวกเธอ และเหล่าทาสีของพวกเธอ หากพวกเขายากจน อัลลอฮฺจะทรงให้พวกเขาร่ำรวยขึ้นจากความโปรดปรานของพระองค์ และอัลลอฮฺคือพระผู้ทรงไพบูลย์ พระผู้ทรงรอบรู้
คำว่า “ أَنْكِحُ ” เป็นคำกริยา บุรุษที่สองเพศชาย แสดงถึงความจำเป็น, คำสั่ง(สนับสนุนขยั้นขยอ) ให้สังคมมุสลิมส่งเสริมการแต่งงานโดยไม่ต้องกลัวความยากจน เพราะอัลลอฮ์ทรงมีความเมตตาให้เขาประสพความสำเร็จในชีวิตแต่งงานได้
การที่อัลลอฮ์ทรงสนับสนุนการนิกะห์หรือการแต่งงานก็เพื่อที่จะป้องกันการประกอบกรรม "ซินา" ในสังคมมุสลิม
"กฎหมายอิสลามให้คำจำกัดความของนิกะห์ว่า "เป็นสัญญาทางแพ่งซึ่งมีหน้าที่หลักในการทำให้ความสัมพันธ์ทางเพศระหว่างชายและหญิงอย่างถูกกฎหมายและศีลธรรม" การมีเพศสัมพันธ์ใดๆ นอกสัญญานิกะห์ ถือเป็นอาชญากรรมของ "ซินา" (การมีเพศสัมพันธ์ที่ผิดกฎหมาย) และอาจถูกลงโทษได้"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Islamic law defines nikah as a civil contract whose main function is to render sexual relations between a man and woman licit. Any sexual relations outside the nikah contract constitute the crime of zina (illicit sexual relations) and are subject to punishment.
จากคำจำกัดความของคำว่า "นิกะห์"
หรือ การแต่งงาน ตามวัตถุประสงค์ของ กฏหมายชารีอะ พอจะเห็นได้ว่าเป็นการป้องกันการ "ซินา" ในสังคมมนุษย์โดยตรง ตามระเบียบและวัฒนธรรมของสังคมมนุษย์, ในมัซฮับของชีอะฮ์ การเป็นพยานต่อ การแต่งงาน (นิกะห์) นั้นไม่มีความจำเป็นต้องมี ไม่ว่าในกรณีใดๆ, ดังนั้นการนิกะห์จึงมีความจำเป็นเฉพาะ ในมัซฮับของซุนนี ซึ่งจำเป็นต้องมีพยานที่น่าเชื่อถือ 2 คน ในสถานการณ์ที่พ่อและแม่หรือญาติพี่น้องในครอบครัว นิกะห์ให้
นั้นใช้ได้แม้กระทั่งในมัสฮับสุหนี่เช่นกัน
คุณสมบัติของพยานในการนิกะห์:
พยานสามารถเป็นใครก็ได้ที่เป็นอากีล (มีสติ) บาลีห์ (ผู้ใหญ่) และเป็นมุสลิม, พยานไม่จำเป็นต้องมาจากญาติใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม ควรมีพยานสองคนที่สามารถฟังและเข้าใจถ้อยคำนิกะห์ที่ชายและหญิงแลกเปลี่ยนกัน
คำถามจึงมีว่า ในกรณีที่พ่อแม่หรือครอบครัวของฝ่ายหญิงหรือฝ่ายชาย นิกะห์ให้คู่รักทั้งสอง
เพื่อป้องกัน การทำซินา จะทำได้หรือไม่? คำตอบคือทำได้
................
คำถามว่าถ้าชายหญิงมุสลิมรักใคร่กันมาก และเขาวิงวอนขอต่ออัลลอฮ์ ให้ทรงเป็นพยานในการที่เขาจะอยู่ร่วมฉันผัวเมียกัน การวิงวอนขอร้องต่ออัลลอฮ์ให้เป็นพยานในการแต่งงานของเขาทั้งสองนั้นจะได้หรือไม่? ถ้าไม่ได้เพราะเหตุใด?
การแต่งงานตามกฎหมาย
การนิกะห์นั้นค่อนข้างง่าย: เพื่อทำให้การแต่งงานเป็นที่ถูกต้องตามกฎหมายในสายพระเนตรของทั้งอัลลอฮ์,และตามกฏหมายของรัฐ นิกะห์เป็นข้อตกลงที่มีผลผูกพันทางกฎหมายว่าทั้งสองจะยังคงเป็นสามีภรรยากัน, การขอหย่าและการพยายามแยกทางกับคู่สมรสเป็นจึงเป็นเรื่องที่ท้าทายมากขึ้นหลังจากพิธีการแต่งงานได้ เกิดขึ้น
ด้วยเหตุผลข้อนี้หญิงและชายที่แต่งงานกันด้วยคำมั่นสัญญาภายใต้การเป็นพยานของอัลลอฮ์ จึงไม่มีผลบังคับตามกฏหมาย
"การนิกะห์หรือแต่งงาน" โดยมีอัลลอฮ์เป็นพยานนั้นเพราะความเชื่อมั่นศรัทธาต่ออัลลอฮ์อย่างแท้จริง, เขาทั้งสองเกรงว่าความประพฤติ ระหว่างเขาทั้งสองอาจจะฝ่าฝืนบัญญัติของอัลลอฮ์ในเรื่องซินาในความใกล้ชิดกัน, ดังนั้นเขาทั้งสองจึงนิกะห์หรือแต่งงานกันเสียก่อน ซึ่งทำให้การอยู่กินถูกหลักศาสนาแต่ฝ่ายหญิง อาจจะเสียเปรียบทางกฏหมาย แต่อย่างไรก็ตามการนิกะห์จึงถือว่าเป็นการป้องการการล่วงประเวณี "ซินา" ได้อย่างหนึ่ง
"การนิกะห์ หรือ การแต่งงาน" เป็นการป้องกันการกระทำผิดประเวณี(ซินา) ที่สำคัญตามหลักการของศาสนาอิสลาม
“และอย่าเข้าใกล้การมีเพศสัมพันธ์ที่ผิดกฎหมาย แท้จริง มันเป็นฟาฮิชะฮ์ (นั่นคือ สิ่งใด ๆ ที่ละเมิดขอบเขตุของมัน เป็นบาปมหันต์) และทางที่ชั่วร้ายที่จะพาคน ๆ หนึ่งไปสู่นรก เว้นแต่อัลลอฮฺจะทรงอภัยโทษเขา” (อัล-อิสรออ์ 17:32)
นี่คือโองการหนึ่งในอัลกุรอานที่อัลลอฮฺ ห้ามการทำซินา, ซินาเป็นบาปใหญ่ที่สองจากการทำ "ชิริก" และ "การฆาตกรรม" และร้ายแรงยิ่งกว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือการพนัน
“และบรรดาผู้ที่ไม่วิงวอนพระเจ้าอื่นใดร่วมกับอัลลอฮ์ และไม่ฆ่าบุคคลดังที่อัลลอฮ์ทรงห้าม เว้นแต่ด้วยเหตุอันชอบธรรม และไม่กระทำการร่วมเพศที่ผิดกฎหมาย” (อัล-ฟุรกอน 25:68)
ซีนาถูกกล่าวถึงพร้อมกับชิริกและการฆาตกรรม ซึ่งเป็นบาปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสองประการในศาสนาอิสลามEncourage marriage:
ศาสนาอิสลามสนับสนุนให้ชายโสดหญิงโสดแต่งงานโดยที่ไม่ต้องกลัวความยากจน
وَأَنْكِحُوا الْأَيَامَىٰ مِنْكُمْ وَالصَّالِحِينَ مِنْ عِبَادِكُمْ وَإِمَائِكُمْ ۚ إِنْ يَكُونُوا فُقَرَاءَ يُغْنِهِمُ اللَّهُ مِنْ فَضْلِهِ ۗ وَاللَّهُ وَاسِعٌ عَلِيمٌ {32}
{24:32} และพวกเธอจงจัดการสมรสให้แก่ผู้เป็นโสดในหมู่พวกเธอ และคนดี ๆ จากเหล่าทาสของพวกเธอ และเหล่าทาสีของพวกเธอ หากพวกเขายากจน อัลลอฮฺจะทรงให้พวกเขาร่ำรวยขึ้นจากความโปรดปรานของพระองค์ และอัลลอฮฺคือพระผู้ทรงไพบูลย์ พระผู้ทรงรอบรู้
คำว่า “ أَنْكِحُ ” เป็นคำกริยา บุรุษที่สองเพศชาย แสดงถึงความจำเป็น, คำสั่ง(สนับสนุนขยั้นขยอ) ให้สังคมมุสลิมส่งเสริมการแต่งงานโดยไม่ต้องกลัวความยากจน เพราะอัลลอฮ์ทรงมีความเมตตาให้เขาประสพความสำเร็จในชีวิตแต่งงานได้ การที่อัลลอฮ์ทรงสนับสนุนการนิกะห์หรือการแต่งงานก็เพื่อที่จะป้องกันการประกอบกรรม "ซินา" ในสังคมมุสลิม
"กฎหมายอิสลามให้คำจำกัดความของนิกะห์ว่า "เป็นสัญญาทางแพ่งซึ่งมีหน้าที่หลักในการทำให้ความสัมพันธ์ทางเพศระหว่างชายและหญิงอย่างถูกกฎหมายและศีลธรรม" การมีเพศสัมพันธ์ใดๆ นอกสัญญานิกะห์ ถือเป็นอาชญากรรมของ "ซินา" (การมีเพศสัมพันธ์ที่ผิดกฎหมาย) และอาจถูกลงโทษได้"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จากคำจำกัดความของคำว่า "นิกะห์" หรือ การแต่งงาน ตามวัตถุประสงค์ของ กฏหมายชารีอะ พอจะเห็นได้ว่าเป็นการป้องกันการ "ซินา" ในสังคมมนุษย์โดยตรง ตามระเบียบและวัฒนธรรมของสังคมมนุษย์, ในมัซฮับของชีอะฮ์ การเป็นพยานต่อ การแต่งงาน (นิกะห์) นั้นไม่มีความจำเป็นต้องมี ไม่ว่าในกรณีใดๆ, ดังนั้นการนิกะห์จึงมีความจำเป็นเฉพาะ ในมัซฮับของซุนนี ซึ่งจำเป็นต้องมีพยานที่น่าเชื่อถือ 2 คน ในสถานการณ์ที่พ่อและแม่หรือญาติพี่น้องในครอบครัว นิกะห์ให้ นั้นใช้ได้แม้กระทั่งในมัสฮับสุหนี่เช่นกัน
คุณสมบัติของพยานในการนิกะห์:
พยานสามารถเป็นใครก็ได้ที่เป็นอากีล (มีสติ) บาลีห์ (ผู้ใหญ่) และเป็นมุสลิม, พยานไม่จำเป็นต้องมาจากญาติใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม ควรมีพยานสองคนที่สามารถฟังและเข้าใจถ้อยคำนิกะห์ที่ชายและหญิงแลกเปลี่ยนกัน
คำถามจึงมีว่า ในกรณีที่พ่อแม่หรือครอบครัวของฝ่ายหญิงหรือฝ่ายชาย นิกะห์ให้คู่รักทั้งสอง เพื่อป้องกัน การทำซินา จะทำได้หรือไม่? คำตอบคือทำได้
................
คำถามว่าถ้าชายหญิงมุสลิมรักใคร่กันมาก และเขาวิงวอนขอต่ออัลลอฮ์ ให้ทรงเป็นพยานในการที่เขาจะอยู่ร่วมฉันผัวเมียกัน การวิงวอนขอร้องต่ออัลลอฮ์ให้เป็นพยานในการแต่งงานของเขาทั้งสองนั้นจะได้หรือไม่? ถ้าไม่ได้เพราะเหตุใด?
การแต่งงานตามกฎหมาย
การนิกะห์นั้นค่อนข้างง่าย: เพื่อทำให้การแต่งงานเป็นที่ถูกต้องตามกฎหมายในสายพระเนตรของทั้งอัลลอฮ์,และตามกฏหมายของรัฐ นิกะห์เป็นข้อตกลงที่มีผลผูกพันทางกฎหมายว่าทั้งสองจะยังคงเป็นสามีภรรยากัน, การขอหย่าและการพยายามแยกทางกับคู่สมรสเป็นจึงเป็นเรื่องที่ท้าทายมากขึ้นหลังจากพิธีการแต่งงานได้ เกิดขึ้น ด้วยเหตุผลข้อนี้หญิงและชายที่แต่งงานกันด้วยคำมั่นสัญญาภายใต้การเป็นพยานของอัลลอฮ์ จึงไม่มีผลบังคับตามกฏหมาย
"การนิกะห์หรือแต่งงาน" โดยมีอัลลอฮ์เป็นพยานนั้นเพราะความเชื่อมั่นศรัทธาต่ออัลลอฮ์อย่างแท้จริง, เขาทั้งสองเกรงว่าความประพฤติ ระหว่างเขาทั้งสองอาจจะฝ่าฝืนบัญญัติของอัลลอฮ์ในเรื่องซินาในความใกล้ชิดกัน, ดังนั้นเขาทั้งสองจึงนิกะห์หรือแต่งงานกันเสียก่อน ซึ่งทำให้การอยู่กินถูกหลักศาสนาแต่ฝ่ายหญิง อาจจะเสียเปรียบทางกฏหมาย แต่อย่างไรก็ตามการนิกะห์จึงถือว่าเป็นการป้องการการล่วงประเวณี "ซินา" ได้อย่างหนึ่ง