เรื่องมีอยู่ว่า
ผมแต่งงานกับแฟนเมื่อปีนี้จะขอเล่าเหตุการณ์แบ่งเป็น3ช่วงดังนี้

1.ช่วงกำลังคบกัน ผมกับแฟนอายุเท่ากัน
เนื่องจากผมและแฟนต่างอยู่บ้านกับพ่อและแม่จึงไม่ได้อยู่ด้วยกันตรงนี้ก็ทำให้ผมได้เจอพ่อแม่แฟนบ่อยๆ ช่วงแรกแม่แฟนดูเป็นคนดุๆ หลังๆมาเริ่มมีมาดูถูกว่าผมจน และแนะนำผู้ชายคนที่ดูรวยๆให้แฟน
เค้าเคยพูดกับแฟนผมว่า
“ไปเอามันมาได้ยังไงกูไม่เห็นมันมีสมบัติอะไรเลยมีแค่กระด..อันเดียว” 
ผมพยายามมองข้ามเพราะคิดว่าเค้าคงไม่อยากให้ลูกลำบาก
ทั้งที่ทั้งที่ผมรายได้มากกว่าครอบครัวแฟนทั้งครอบครัวเสียอีก

2.ช่วงแต่งงาน
แฟนผมท้อง ผมป้องกันแล้วนะแต่มันพลาด เลยให้พ่อแม่ไปขอ เค้าทำสีหน้าดูถูกผมชัดเจน แต่ก็จบลงด้วย สินสอด3แสน รถ1คัน 
โดย 
สินสอด3แสน โดยจะวางโชว์4แสนแต่เงินอีก1แสนเป็นที่รู้กันว่าเป็นเงินของผมที่จะเอาไว้จ่ายค่าสถานที่จัดงาน
ทองสี่บาท จะคืนให้ผมขอแค่โชว์
รถ 1คัน ผมจะให้แฟนไว้ขับไปทำงาน
ค่าจัดง่านผมและแฟนช่วยกันจ่าย
ซองเนื่องจากผมกับแฟนเป็นคนจ่ายเค้าจะให้มาช่วยจ่ายค่างาน
พ่อแม่แฟนเชิญแขกมาเยอะแยะมากมาย ทำให้งานมันใหญ่ขึ้นเรื่อยๆค่าจัดก็เยอะขึ้น 

พอถึงวันแต่ง แม่แฟนกับหอบสินสอดทั้งหมดหนี ทองที่บอกว่าเอามาเป็นหน้าเป็นตาและเงินอีก1แสนที่เอาไว้แค่โชว์กับหายไปกับตา 
ซองที่คุยว่าจะให้ผมกับแฟนเก็บมาจ่ายค่างานก็เก็บของเค้าไปหมด
คำที่ติดใจผมคือ ”เลี้ยงใช้เงินมากกว่านี้แค่นี้มันยังไม่พอ ถ้ารู้จะได้แค่นี้กูไม่ส่งเรียนหรอก“

3.หลังจากแต่ง
ผมพยายามไม่ยุ่ง แต่เค้าก็ให้ญาติโทรมาหาแฟนบอกป่วยบ้าง เป็นมะเร็งบ้าง ซึ่งก็เห็นแม่แฟนโพสเที่ยวฉ่ำๆแทบทุกวัน ทุกวันนี้ก็ตามรังควานแฟนผมจะบุกที่ทำงานบ้าง จะตบบ้าง บอกบุญคุณแม่ต้องตอบแทน ด่าว่าเนรคุณบ้าง

อยากถามว่าผมควรจะทำอย่างไรดีครับ ผมควรจะวางตัวอย่างไรกับแม่แฟน ถึงจะเหมาะสมครับ
เอาแบบประณีประนอมนะครับไม่เอาบ้านแตกเพราะไม่ได้คิดจะทิ้งขว้างภรรยาครับ