[CR] Ep.4 รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองครั้งแรก ชมซากุระ 1-5 เมษายน 2024

กระทู้รีวิว

เที่ยวญี่ปุ่น บันทึกนักเดินทาง เที่ยวต่างประเทศ ประเทศญี่ปุ่น

Day 4 : 4 เมษายน 2024
- รอบ Lake Kawaguchiko เลือกลงจุด Bus Number 20 /16
- กลับโตเกียว
- Nikuya No Daidokoro Ueno
- Ameyoko Market
- Art Sports ODBOX Ueno
- Takeya
- Uniqlo Okachimachi

05.30 น.
วันนี้เราตื่นเช้าเป็นพิเศษเพราะเรามีนัดกับคุณฟูจิที่หวังว่าเช้านี้จะออกมาอวดโฉมให้เราเห็น ตื่นเช้ามารูดผ้าม่านกลับเจอเพียงหมอกหนาที่ปกคลุม พอเช็กสภาพอากาศในแอพก็บอกว่าช่วงสายๆจะมีแดด อาจจะได้เห็นแหละ ไม่เป็นไรอีกครึ่งชั่วโมงเจอกัน

06.00 น.

พอได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกอีกครั้ง เราก็รีบลืมตาตื่น รูดผ้าม่านช้าๆกะว่าฟ้าต้องใส คุณฟูจิต้องใหญ่เบิ้มมากแน่ๆ แต่ทุกอย่างยังคงมืดครึ้มเหมือนเดิม แต่เรามันเลือดนักสู้อยู่แล้ว เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาเกือบ 4,000 กิโลเมตร จะมาท้อตอนนี้ไม่ได้ งั้นอีกหนึ่งชั่วโมงเจอกัน
07.00 น.
ลืมตาตื่นขึ้นอีกครั้งพร้อมความหวังว่า มาแน่ๆ ต้องสวยมากแน่ๆ รูดผ้าม่านด้วยความเร็วแสง พรึบ! ครึ้มเหมือนเดิม ได้แต่ถอนหายใจเบาๆ พร้อมกับไปอาบน้ำเตรียมตัวออกไปเที่ยวรอบทะเลสาบ สระผมแต่เช้าอีกแล้วจ้า ขอรีวิวก่อนนะว่า ไม่แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ของโรงแรมใช้ของยี่ห้ออะไร ทำไมถึงใช้ดีขนาดนี้ แบบฟองเยอะ หอม นุ่ม ผมลื่นมากเลยอ่ะ แล้วใช้เวลาเป่าผมไม่นานก็แห้ง แถมผมยังพริ้วและมีกลิ่นหอมเบาๆด้วย มื้อเช้าวันนี้เป็นนม เนื้อปู ไส้กรอกและสตรอเบอร์รีที่ซื้อมาจากเมื่อวาน รองท้องเล็กน้อยก็เช็คเอาท์ออกจากโรงแรมกัน คุณลุงเจ้าของโรงแรมใจดีมาก ให้โปสการ์ดคุณฟูจิปลอบใจเราสองคนมาเป็นที่ระลึกอีกด้วย ใครที่มองหาโรงแรมที่เดินทางสะดวก สะอาด ใกล้สถานี ใกล้ร้านสะดวกซื้อ ราคาประหยัด แนะนำเลยที่นี่เลยค่ะ Plaza Inn Kawaguchiko แต่จะจองยากนิดนึงเพราะห้องพักมีไม่เยอะและเปิดให้จองล่วงหน้าแค่ 3-4 เดือนเท่านั้น สำหรับเราให้ไปเลย 4/5 (แอบหักไปนิดนึงเพราะห้องน้ำพอดีตัวไปหน่อยจ้า)

จากนั้นเราไปฝากกระเป๋าที่ตู้ฝากกระเป๋าอัตโนมัติของสถานี ซึ่งที่นี่จะต้องใช้เฉพาะเหรียญ 100 เยน จำนวน 700 เยน ในการหยอดตู้ฝาก สามารถแลกได้ที่ตู้แลกเหรียญในสถานีที่อยู่ใกล้กับทางเดินไปขึ้นรถไฟและต้องเก็บกุญแจไว้สำหรับไขเอากระเป๋าออกมา ตอนที่เราไปฝากกระเป๋าเวลาประมาณ 10.00 น. ขนาดเป็นวันธรรมดาคนยังเยอะ เบียดเสียดแย่งกันสุดๆ คุณปลาถูกคนเดินชนหน้านิ่วไปเลยทีเดียว
วันนี้เราวางแผนจะเดินทางด้วยรถบัส Red line เนื่องจากคนเยอะมาก เราเลยไม่ได้เข้าไปต่อคิวซื้อ Pass และวางแผนไว้ว่าจะลงแค่ไม่กี่สถานี เลยจะใช้บัตร Suica ในการจ่ายค่ารถบัสแทน

ระหว่างทางที่จะไปสถานีที่ 20 ก็ได้แต่หวังว่าให้แดดออกไวๆ ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีก็ถึงสถานีที่ 20 Kawaguchiko Natural Living Center ค่าเดินทางประมาณ 700-800 เยน พอเราแตะบัตรเตรียมลง ปรากฏว่าเสียงดังตื้ดๆๆๆ เงินไม่พอ เอาหล่ะ เราภาษาอังกฤษ คุณลุงภาษาญี่ปุ่น สุดท้ายจบลงที่ภาษามือ มีบริการเติมเงินบัตร Suica บนรถบัสด้วย รับเฉพาะแบงค์ 1,000 เยนนะ สะดวกมากๆ พอเติมเงินเสร็จ แตะบัตรจ่ายเงินเรียบร้อยก็เดินเที่ยวได้เลย อากาศอยู่ที่ 12 องศา ก็ถือว่าเย็นสบาย เดินดูดอกไม้ ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ

เรานั่งรถบัสย้อนกลับไปสถานีที่ 16 ซึ่งเป็นจุดชมซากุระที่สวยมากกก ช่วงที่เราไปมีจัดงาน Fuji x Sakura ด้วยนะ แต่ซากุระไม่บานตามนัด งานเลยจัดแบบเหงาๆนิดนึง เราใช้เวลาในการเดินไปรอบทะเลสาบเรื่อยๆเกือบ 2 ชั่วโมง ที่อยู่ตรงนี้นานเพราะประทับใจเส้นทางระหว่างสถานีที่ 16 ไปสถานีที่ 15 ขนาดซากุระไม่บาน แถมยังไม่เห็นคุณฟูจิอีก แต่วิวโคตรดี มู้ดโคตรจะได้เลย คุณปลาบอกว่า “ครั้งนี้ไม่เห็นคุณฟูจิไม่เป็นไร เขาคงอยากให้ครั้งหน้าเรากลับมาที่นี่อีก” สงสัยจะจริงแบบนั้น เพราะเราคิดแค่ว่าถ้ามีโอกาสจะกลับมาใหม่แน่นอน

12.00 น.
เรานั่งรถบัสกลับไปสถานี Kawaguchiko เพื่อไปร้านข้าวหน้าปลาไหลที่ดูรีวิวมาว่าทีเด็ด พอเดินไปถึงร้านปิดอีกแล้วจ้า ***ดอกจันทร์ไว้เลยครั้งหน้ามาวันอื่นที่ไม่ใช่วันพุธ-วันพฤหัสบดี เพราะร้านเขาปิดดดดด สุดท้ายฝากท้องไว้ที่ 7-11 และร้านเนื้อย่างเสียบไม้ ไปเอากระเป๋าพร้อมขึ้นรถบัสรอบบ่ายกลับโตเกียวกันค่า

15.00 น. ถึงสถานีรถบัสที่ชินจุกุ เรานั่งรถไฟสาย JR Yamanote line ไปยังสถานี Ueno และเข้าเช็คอินที่ Hotel resol Ueno เรียบร้อย พักหลังสักครู่แล้วไปลุยเนื้อย่างกันนน
เราจองร้านเนื้อย่าง Nikuya no Daidokoro Ueno เป็นร้านบุฟเฟ่ต์อยู่ชั้น 7 ตึก Delicious Plaza มีทั้งหมด 3 ราคา เราเลือกราคา 6,000 เยน/คน สามารถสั่งเนื้อ เครื่องดื่ม มีสลัดและอาหารทานเล่นเล็กน้อย จานเปิดถือว่าทำมาได้ดีเลย เนื้ออร่อย ไม่ค่อยเหนียว มีกลิ่นเนื้อพอสมควร ถือว่าผ่าน แต่พอจานหลังจากนั้นเนื้อค่อนข้างเหนียวเนื้อบางตัวแทบเคี้ยวไม่เข้าเลยนะ เอาดีๆ เคี้ยวเมื่อยมากกก ซอสที่ราดเนื้อมาหวานสุด เลยรู้สึกไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ (คหสต) บรรยากาศภายในร้านเหมือนอยู่ไทยเลย มีแต่คนไทยเต็มร้าน ใครมีโอกาสก็ไปลองดูได้นะคะ เผื่อชอบ แต่สำหรับเราคิดว่าร้าน Gyu-Kaku ที่คาวากุจิโกะอร่อยกว่าเยอะ

หลังจากนั้นก็เดินไปดูรองเท้าเล่นๆ ที่ Art Sports ODBOX Ueno เจอแต่คนไทยเยอะมากครัชพี่น้อง ภายในร้านมีขายทั้งรองเท้าหลายยี่ห้อ ของแคมปิ้ง อุปกรณ์เดินป่า และสินค้าอีกหลากหลายชนิด แต่เราได้รองเท้าจากชินจุกุมาแล้วก็เลยแวะเข้าไปดูไม่นานค่ะ

เดินไปซื้อของใช้และของฝากที่ตึก Takeya กับเวลาที่มีเพียง 1 ชั่วโมงก่อนร้านปิด ก่อนไปเราทำรายการซื้อของไว้แล้ว เลยทำให้ซื้อเสร็จด้วยความเร็วแสง พอคิดเงินแล้วพนักงานใส่ถุงมาเท่านั้นแหละ พ้มนี่ตกใจเลย จะเอากลับยังไงก่อน หิ้วถุงพะรุงพะรังไปกันต่อที่ร้าน Uniqlo สาขา Okachimachi เพื่อซื้อกระเป๋างอกด้วยเวลา 10 นาทีก่อนร้านปิด ทุกอย่างรีบเร่งไปหมด สุดท้ายคุณปลาได้กระเป๋าเป้มาหนึ่งใบถ้วน จ่ายเงินเสร็จตอนเกือบ 3 ทุ่ม ร้านค่อยๆเลื่อนประตูปิดแบบทันที ตรงเวลามากคุณน้า ทุกคนในร้านรีบเดินตรงไปบันไดเลื่อนเพื่อหาทางออกจากร้านแทบไม่ทัน เดินลัดเลาะมาตลาด Ameyoko ผ่านร้านคีบตุ๊กตา Taito คุณปลาก็เอาหล่ะ แลกเหรียญทันที คีบตุ๊กตาส่งท้ายก่อนกลับสักหน่อยยย จากนั้นเดินกลับที่พัก แพ็คของเตรียมตัวกลับประเทศไทยกันค่า

การแพ็คของเป็นอะไรที่เหนื่อยมากนะ ไม่ได้กังวลเรื่องน้ำหนักเลยเพราะได้น้ำหนักจากการบินไทยมา 30 กก. ยังไงก็ไม่ถึงแน่นอน แต่จะยัดลงไปยังไงก่อนนนน แถมของที่ทำ Tax Free มาก็แกะออกมาจัดใหม่ไม่ได้ ดีว่าเตรียมกระเป๋างอกและถุงสุญญากาศมาด้วย เลยเอาเสื้อผ้าที่ใช้แล้วใส่ถุงสุญญากาศและสูบให้แบนที่สุด กดๆยัดๆให้ลงกระเป๋าให้ได้ กว่าจะจัดลงตัวเล่นเอาหอบเลยทีเดียว แนะนำเลยว่าถ้าใครมาญี่ปุ่นไม่ต้องขนของจากไทยมาเยอะ เอามาแค่ของจำเป็นพอ ยิ่งบางโรงแรมนะมีของใช้ให้เราครบ โดยเฉพาะที่พักคืนนี้ Hotel resol Ueno มีครบทุกอย่าง ได้แต่ถามตัวเองว่า ฉันขนอะไรมาเยอะแยะ และที่สำคัญกระเป๋างอก ถุงสุญญากาศต้องพร้อม มีติดไว้ต้องได้ใช้บริการแน่นอน คุณปลาบอกว่า “ครั้งหน้าเอาของมาครึ่งกระเป๋าพอ อีกครึ่งหนึ่งไว้ขนของกลับ” ก็จริงนะ ขนาดเราไม่ใช่คนช้อปปิ้งจัด ไม่ได้ซื้ออะไรเยอะ ยังแบบเกือบยัดไม่ลง ของบางอย่างเราใช้ของญี่ปุ่นไง มาถึงถิ่นแล้วจะไม่ซื้อกลับไปใช้ก็ยังไงอยู่ ราคาถูกกว่าไทยครึ่งต่อครึ่งอ่ะ อดใจยังไงไหว แล้วแพ็กเกจแต่ละอย่างน่าร้ากกกกก ตะมุตะมิ น่าใช้ไปหมด ขนาดที่มาร์กตากับแปรงสีฟัน ยังซื้อกลับมาเลย จบวันที่ 4 ไปแบบแอบใจหาย พรุ่งนี้ต้องกลับไทยแล้ว แอบนอนไม่หลับเหมือนกันเนอะคืนนี้