กลิ่นตุๆ โชย ปีกขวาจัดโยนหินถามทาง ปลุกกระแสรัฐประหาร จุดชนวนไล่ทักษิณ โหมไฟขัดแย้ง
https://www.matichon.co.th/clips/news_4581152
The Politics ข่าวบ้าน การเมือง จับสถานการณ์มีกลิ่นตุๆ อาจจะเกิดรัฐประหารอีกครั้ง อ.
สุรชาติ บำรุงสุข ชี้ประเด็นปีกขวาจัดสุดโต่ง การก่อกระแสรัฐประหารคือการโยนหินถามทาง เพื่อหวังกระแสสังคมจะตอบรับกับการเตรียมรัฐประหาร จุดชนวนไล่
ทักษิณ ชินวัตร เพราะยังมีคนเกลียดชัง เคลื่อนไหวใน 3 โจทย์ พาน้องสาว
ยิ่งลักษณ์กลับบ้าน เรียกคะแนนนิยมเพื่อไทย และปูทางให้
แพทองธาร ชินวัตร นั่งเก้าอี้นายกฯ ติดตามรายละเอียดจากคลิปด้านล่างนี้
ก้าวไกล ออกแถลง ‘บุ้ง’ เสียชีวิต เรียกร้องรบ. 4 ข้อ เร่งสร้างความเชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรม
https://www.matichon.co.th/politics/news_4582177
‘ก้าวไกล’ ออกแถลงการณ์กรณี ‘บุ้ง ทะลุวัง’ เสียชีวิต พร้อมเรียกร้องรบ. 4 ข้อ เร่งสร้างความเชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรม
เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ออกแถลงการณ์ต่อกรณีการเสียชีวิตของ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง ทะลุวัง นักกิจกรรมทางการเมือง เรียกร้องต่อรัฐบาลให้มีบทบาทในการสร้างการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน สร้างหลักประกันในการประกันตัว และคลี่คลายสถานการณ์เพื่อนำไปสู่ความปรองดองสมานฉันท์ของสังคม
ในห้วงเวลาที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ประสบพบเจอกับการรัฐประหาร อันเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้สังคมไทยแตกแยกอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ประชาชนจึงตั้งความหวังว่า การนิรโทษกรรมทางการเมือง ตลอดจนการปรับปรุงกฎหมายที่จะปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชน จะเป็นวาระที่สำคัญของรัฐบาลนี้ เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบัน ที่ปรากฏการเสียชีวิตของ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม จากการอดอาหารประท้วงต่อการไม่ได้รับประกันตัว ย่อมส่งผลให้ความเชื่อมั่นของกระบวนการยุติธรรมเสียหายเป็นอย่างมาก พรรค ก.ก. จึงมีข้อเสนอต่อรัฐบาลเพื่อดำเนินการให้เกิดความเปลี่ยนแปลงต่อกระบวนการยุติธรรมอันเป็นการคุ้มครองสิทธิของประชาชน
1) ต่อการดำเนินการในอำนาจหน้าที่ของตำรวจ ควรกำหนดเป็นนโยบายของรัฐบาลในการชะลอคดีทางการเมือง เพื่อไม่สร้างความขัดแย้งเพิ่มเติมจนกว่าจะได้ความชัดเจนในการจัดทำพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม และต้องกำหนดให้สิทธิในการประกันตัว การไม่คัดค้านการประกันตัว หรือมีความเห็นไม่ให้ถอนการประกันตัวของตำรวจในคดีการเมือง ซึ่งสามารถทำได้ทันที เนื่องจากตำรวจอยู่ในการกำกับดูแลของนายกรัฐมนตรีโดยตรง
2) ข้อเสนอต่อการดำเนินการในอำนาจหน้าที่ขององค์กรอัยการ ให้นายกรัฐมนตรีมีความเห็น หรือรัฐบาลมีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เสนอไปยังอัยการสูงสุด ให้พิจารณาให้สั่งไม่ฟ้องหรือถอนฟ้องได้ตามมาตรา 21 พ.ร.บ.องค์กรอัยการและพนักงานอัยการ 2553 ประกอบข้อ 7 ระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการสั่งคดีอาญาที่ไม่เป็นประโยชน์แก่สาธารณชน หรือมีผลกระทบต่อความปลอดภัยหรือความมั่นคงของชาติ หรือต่อผลประโยชน์อันสำคัญของประเทศ 2554
ทั้งนี้ ข้อ 7 (4) เหตุผลตามความเห็นของรัฐบาลโดยมติคณะรัฐมนตรีถึงผลกระทบต่อความปลอดภัยหรือความมั่นคงของชาติ หรือต่อผลประโยชน์สำคัญของประเทศ และที่แก้ไขเพิ่มเติม 2561, ข้อ 7 (5) เหตุผลตามความเห็นของนายกรัฐมนตรีหรือหน่วยงานอื่นถึงผลกระทบต่อความมั่นคงปลอดภัยของพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์, ข้อ 7 (6) ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนหรือความสามัคคีของคนในชาติ ซึ่งนายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีสามารถดำเนินการให้บรรดาผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดทางการเมืองทั้งหลาย ให้คดีเป็นอันยุติลงไป
3) ข้อเสนอต่อคดีที่อยู่ในการพิจารณาของศาลยุติธรรม ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ตามมาตรา 108/1 ให้อำนาจศาลยุติธรรมในการใช้ดุลพินิจพิจารณาให้ประกันตัวผู้ต้องหาหรือจำเลย ทั้งนี้ การประกันตัว เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ประชาชนทุกคนควรได้รับ การไม่ให้ประกันตัวตามกฎหมายดังกล่าว จะต้องปรากฏว่ามีพฤติการณ์บางอย่าง เช่น มีพฤติกรรมหลบหนี หรือยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
ซึ่งรัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี สมควรมีการปรึกษากับประธานศาลฎีกา ในฐานะประมุขของศาลยุติธรรม เพื่อหารือถึงความเป็นไปได้ในการประกันสิทธิขั้นพื้นฐานนี้ เมื่อรัฐบาลมีแนวนโยบายที่จะนิรโทษกรรมคดีทางการเมืองให้กับประชาชน การชะลอคดีจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่รัฐบาลต้องหารือกับทุกฝ่าย เพื่อไม่ให้เกิดการดำเนินคดีที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อกระบวนการยุติธรรม
4) การนิรโทษกรรมมีความจำเป็นอย่างเร่งด่วน แม้ว่าปัจจุบันจะมีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ของสภาผู้แทนราษฎร แต่ผลการศึกษาดังกล่าว ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมายที่จะนำไปสู่การสร้างความปรองดองของสังคมในตอนนี้ได้ ดังนั้น รัฐบาลจึงสมควรเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมโดยเร่งด่วน ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญต่อการสร้างความสมานฉันท์ในสังคมต่อไป
นอกจากการนิรโทษกรรมแล้ว รัฐบาลสามารถเสนอร่างกฎหมายอื่นที่จะนำไปสู่การแก้ไขปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้เกิดการปกป้องสิทธิมนุษยชน ตลอดจนให้ความคุ้มครองในการประกันตัวของประชาชนที่จะสามารถต่อสู้คดีปกป้องสิทธิของตนเองได้อย่างเต็มที่ต่อไป
สุดท้ายนี้ พรรค ก.ก. ตั้งความหวังว่า รัฐบาลจะดำเนินการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมอย่างจริงจัง เหตุการณ์เสียชีวิตอย่างกรณี น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม ไม่สมควรจะเกิดขึ้นอีกแล้ว ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทย จะได้กลับมาทบทวน การฟื้นฟูรากฐานกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสร้างประชาธิปไตยที่เข็มแข็ง ตามที่ประชาชนพึงได้รับ
‘โรม’ ชี้ช่องนายกฯ หวั่นตะวันซ้ำรอย-ผิดหวังรัฐบาลเอาให้ชัดก่อน ‘จะนิรโทษไหม?
https://www.matichon.co.th/politics/news_4582136
โรม ชี้ช่องนายกฯ ส่งอัยการ ‘ยกฟ้องคดีการเมือง’ เร่งเคลียร์ให้ชัด ‘จะนิรโทษฯไหม?’- หวังทุกฝ่ายดูแล ‘ตะวัน’ หวั่นซ้ำรอย ’บุ้ง‘
สืบเนื่องการเสียชีวิตของ น.ส.
เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง ทะลุวัง ผู้ต้องหาคดีทางการเมือง ซึ่งอดอาหารประท้วง หลังถูกคุมขังในทัณฑสถานหญิงกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา กระทั่งมีอาการวิกฤตหัวใจหยุดเต้น จึงต้องส่งตัวไปรักษาที่ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี โดยแพทย์ได้ปั๊มหัวใจยื้อชีวิต (CPR) แต่ไม่เป็นผลก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ที่ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เมื่อเวลา 11.22 น. วันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา นั้น
เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ที่ศาลา 7 วัดสุทธาโภชน์ ลาดกระบัง กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ การสวดพระอภิธรรมและพิธีฌาปนกิจศพ น.ส.
เนติพร เสน่ห์สังคม คืนที่ 2 เต็มไปด้วยครอบครัว ญาติ มิตรสหาย ผู้ร่วมอุดมการณ์ ตลอดจนนักกิจกรรมและประชาชนซึ่งทยอยเดินทางมาร่วมไว้อาลัยอย่างต่อเนื่อง ก่อนเริ่มสวดพระอภิธรรมในเวลา 19.00 น.
สำหรับวันนี้ มีนักการเมืองทยอยเดินทางมาร่วมงานสวดพระอภิธรรมอย่างต่อเนื่อง พร้อมเขียนข้อความส่งถึง น.ส.
เนติพร อาทิ นาย
ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ หรือ
ปูอัด ส.ส.กทม.พรรคไทยก้าวหน้า, น.ส.
อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล หรือ เจี๊ยบ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล, นาย
รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคกก., นาย
ปิยรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้ ส.ส.กทม. กก. อดีตแกนนำกลุ่ม We volunteer, น.ส.
ธิษะณา ชุณหะวัณ หรือ
แก้วตา ส.ส.กทม. เป็นต้น ท่ามกลางบรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า
นาย
รังสิมันต์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนภายหลังสวดพระอภิธรรมแล้วเสร็จ ว่า วันนี้มีการพูดคุยกับผู้มาร่วมงานซึ่ง ส่วนใหญ่คุยกับเพื่อนๆ คนที่อยู่ในแวดวงของ น.ส.
เนติพร ทุกคนต่างเสียใจ รวมถึฃได้มีโอกาสคุยกับทนายของ น.ส.
เนติพร ซึ่งเข้าใจว่ายังมีการติดตามในเรื่องของผลในการชันสูตร เอกสาร ต่างๆ
“
เราก็ติดตามในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เป็นห่วงในเรื่องของความโปร่งใส เพราะว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้นเป็นเรื่องที่น่าเศร้า และผมคิดว่ามันทำให้เกิดคำถามในเรื่องของกระบวนการยุติธรรมเยอะ ว่าสุดท้าย กระบวนการยุติธรรมของเรามันจะเป็นอย่างไร
เพราะถึงแม้เขาจะอดอาหาร แต่ก็อยู่ภายใต้การดูแลต่างๆ ของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และรวมไปถึงการที่คนคนนึงตัดสินใจอดอาหาร มันเป็นเรื่องที่เรานิ่งนอนใจไม่ได้ ยิ่งเขาอดอาหารจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ยิ่งเป็นสิ่งที่นิ่งนอนใจไม่ได้“ นาย
รังสิมันต์กล่าว
นาย
รังสิมันต์ กล่าวต่อว่า อยากจะให้ฝ่ายต่างๆ คิดให้ดี ว่าในสถานการณ์ที่มันเกิดขึ้นแบบนี้มันจังหวะที่เราน่าจะมาพูดคุยกัน ในเรื่องของการที่จะทำอย่างไรให้กระบวนการยุติธรรมได้มาตรฐาน เป็นกระบวนการยุติธรรมที่รับประกันสิทธิของประชาชน
“
และจริงๆ ผมคิดว่ามันมีช่องทางอีกหลายช่องทางที่รัฐบาลสามารถดำเนินการได้ หลายคนบอกว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม รัฐบาลจะทำอะไรได้ มันแยกอำนาจออกไป เรื่องนี้ผมเข้าใจ ไม่ต้องมาสอนกฏหมาย
แต่ว่าสิ่งที่รัฐบาลทำได้ในฐานะที่เป็นผู้บริหารของประเทศ คือการพูดคุยว่ามันจะมีกระบวนการอย่างไร ที่จะทำอย่างไรให้มีวิธีการ ที่อาจจะทำให้มีการคุ้มครองสิทธิที่มากขึ้น รวมไปถึงกลไกของอัยการ” นาย
รังสิมันต์กล่าว
นาย
รังสิมันต์ชี้ว่า ถ้าเราไปดูระเบียบของอัยการ จะพบว่าจริงๆ แล้ว มีช่องทางที่ให้นายกรัฐมนตรีสามารถเสนอความคิดเห็นได้ แล้วจากนั้นอัยการสามารถดำเนินการกระบวนการบางอย่าง
”
ถ้าหากพิจารณาแล้วว่าคดีไม่มีประโยชน์ สามารถดำเนินการต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็นการถอนฟ้อง การยุติคดี แต่ทั้งนี้ก็อยู่ที่ว่ารัฐบาลจะมีความชัดเจนในเรื่องของการนิรโทษกรรมอย่างไร ดังนั้นวันนี้วาระที่สำคัญ รัฐบาลต้องมีความชัดเจนก่อน ว่าจะมีการนิรโทษกรรมไหม ถ้ามี จะใช้กับใครบ้าง
ถ้าเกิดไม่มีความชัดเจนตรงนี้ ผมคิดว่าในภาคส่วนต่างๆ จะไม่รู้แนวทางการดำเนินการ ว่ามันเป็นอย่างไร เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ผมคิดว่ารัฐบาลต้องแสดงความชัดเจน ต่อประชาชน ต่อนักโทษทางการเมือง ตกลงแล้วจะเอายังไง จะปล่อยไปเรื่อยๆ ให้ไปแก้ปัญหากันเอาเอง หรือสุดท้ายรัฐบาลจะมีมาตรการบางอย่างเกิดขึ้น“ นาย
รังสิมันต์กล่าว
นาย
รังสิมันต์เผยว่า ตนได้รับการชี้แจงเมื่อมีการประชุมกรรมธิการวิสามัญนิรโทษกรรม เรื่อง การตราร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ทราบมาว่ารัฐบาลจะมีการพูดคุยเรื่องนี้ในวันที่ 21 พฤษภาคมนี้
“
ผมก็รอความชัดเจนว่ารัฐบาลจะมีความชัดเจนต่อไปอย่างไร” นายรังสิมันต์กล่าว
เมื่อถามว่า ในฐานะ ส.ส. ยังมีข้อสงสัยหรือติดใจอะไรในการแถลงของกรมราชทัณฑ์หรือไม่ ?
นาย
รังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ตนก็มีความติดใจต่อแถลงการณ์ของกรมราชทัณฑ์ต่อเรื่องนี้ แต่ว่าสิ่งที่ส่วนตัวพยายามให้ความสำคัญและน้ำหนัก เป็นเรื่องของการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม และคิดว่าไม่ควรมีเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้น
“
สิ่งที่ผมให้น้ำหนักในส่วนนี้ จึงอยากเห็นในมุมของรัฐบาลจะเดินกันอย่างไร ตอบให้ชัดว่าการนิรโทษกรรมมันควรจะครอบคลุมแค่ไหน เข้าใจว่ามีความยากทางการเมือง แต่ถ้าอย่างน้อยที่สุดมีความชัดเจน ที่จะไม่ตัดใครออกจากระบวนการนิรโทษกรรม อย่างน้อยก็ยังพอไปต่อกันไดั
ถ้าไปดูในร่างนิรโทษกรรมของก้าวไกลเราไม่ได้เริ่มต้นว่าคดีอะไรบ้าง เราเริ่มต้นว่ามันต้องมีกลไกในการนิรโทษกรรม โดยใช้กฏเกณฑ์อย่างเดียว คือต้องมีแรงจูงใจทางการเมือง เราปฏิบัติกับคดีต่างๆ ทางการเมืองเท่าเทียมกันหมด เพราะสุดท้ายปัญหาที่มันเกิดขึ้นทางการเมืองเราก็พยายามที่จะแก้ไขปัญหาด้วยการเมือง ถ้ามันเริ่มต้นกันแบบนี้ เชื่อว่าอย่างน้อยมันมีช่องให้ไป ถ้ามันเริ่มต้นด้วยการที่ว่า คดีนี้นิรโทษได้ คดีนี้นิรโทษไม่ได้ ต้องยอมรับความจริงว่ามันจะมีบางส่วนที่เขาไม่ได้ร
JJNY : ปีกขวาจัดโยนหินถามทาง│ก้าวไกลเรียกร้องรบ. 4 ข้อ│‘โรม’ผิดหวังรบ.เอาให้ชัดก่อน│ถล่มฐานทัพอากาศรัสเซียในไครเมีย
https://www.matichon.co.th/clips/news_4581152
The Politics ข่าวบ้าน การเมือง จับสถานการณ์มีกลิ่นตุๆ อาจจะเกิดรัฐประหารอีกครั้ง อ.สุรชาติ บำรุงสุข ชี้ประเด็นปีกขวาจัดสุดโต่ง การก่อกระแสรัฐประหารคือการโยนหินถามทาง เพื่อหวังกระแสสังคมจะตอบรับกับการเตรียมรัฐประหาร จุดชนวนไล่ทักษิณ ชินวัตร เพราะยังมีคนเกลียดชัง เคลื่อนไหวใน 3 โจทย์ พาน้องสาวยิ่งลักษณ์กลับบ้าน เรียกคะแนนนิยมเพื่อไทย และปูทางให้ แพทองธาร ชินวัตร นั่งเก้าอี้นายกฯ ติดตามรายละเอียดจากคลิปด้านล่างนี้
ก้าวไกล ออกแถลง ‘บุ้ง’ เสียชีวิต เรียกร้องรบ. 4 ข้อ เร่งสร้างความเชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรม
https://www.matichon.co.th/politics/news_4582177
‘ก้าวไกล’ ออกแถลงการณ์กรณี ‘บุ้ง ทะลุวัง’ เสียชีวิต พร้อมเรียกร้องรบ. 4 ข้อ เร่งสร้างความเชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรม
เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ออกแถลงการณ์ต่อกรณีการเสียชีวิตของ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง ทะลุวัง นักกิจกรรมทางการเมือง เรียกร้องต่อรัฐบาลให้มีบทบาทในการสร้างการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน สร้างหลักประกันในการประกันตัว และคลี่คลายสถานการณ์เพื่อนำไปสู่ความปรองดองสมานฉันท์ของสังคม
ในห้วงเวลาที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ประสบพบเจอกับการรัฐประหาร อันเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้สังคมไทยแตกแยกอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ประชาชนจึงตั้งความหวังว่า การนิรโทษกรรมทางการเมือง ตลอดจนการปรับปรุงกฎหมายที่จะปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชน จะเป็นวาระที่สำคัญของรัฐบาลนี้ เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบัน ที่ปรากฏการเสียชีวิตของ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม จากการอดอาหารประท้วงต่อการไม่ได้รับประกันตัว ย่อมส่งผลให้ความเชื่อมั่นของกระบวนการยุติธรรมเสียหายเป็นอย่างมาก พรรค ก.ก. จึงมีข้อเสนอต่อรัฐบาลเพื่อดำเนินการให้เกิดความเปลี่ยนแปลงต่อกระบวนการยุติธรรมอันเป็นการคุ้มครองสิทธิของประชาชน
1) ต่อการดำเนินการในอำนาจหน้าที่ของตำรวจ ควรกำหนดเป็นนโยบายของรัฐบาลในการชะลอคดีทางการเมือง เพื่อไม่สร้างความขัดแย้งเพิ่มเติมจนกว่าจะได้ความชัดเจนในการจัดทำพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม และต้องกำหนดให้สิทธิในการประกันตัว การไม่คัดค้านการประกันตัว หรือมีความเห็นไม่ให้ถอนการประกันตัวของตำรวจในคดีการเมือง ซึ่งสามารถทำได้ทันที เนื่องจากตำรวจอยู่ในการกำกับดูแลของนายกรัฐมนตรีโดยตรง
2) ข้อเสนอต่อการดำเนินการในอำนาจหน้าที่ขององค์กรอัยการ ให้นายกรัฐมนตรีมีความเห็น หรือรัฐบาลมีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เสนอไปยังอัยการสูงสุด ให้พิจารณาให้สั่งไม่ฟ้องหรือถอนฟ้องได้ตามมาตรา 21 พ.ร.บ.องค์กรอัยการและพนักงานอัยการ 2553 ประกอบข้อ 7 ระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการสั่งคดีอาญาที่ไม่เป็นประโยชน์แก่สาธารณชน หรือมีผลกระทบต่อความปลอดภัยหรือความมั่นคงของชาติ หรือต่อผลประโยชน์อันสำคัญของประเทศ 2554
ทั้งนี้ ข้อ 7 (4) เหตุผลตามความเห็นของรัฐบาลโดยมติคณะรัฐมนตรีถึงผลกระทบต่อความปลอดภัยหรือความมั่นคงของชาติ หรือต่อผลประโยชน์สำคัญของประเทศ และที่แก้ไขเพิ่มเติม 2561, ข้อ 7 (5) เหตุผลตามความเห็นของนายกรัฐมนตรีหรือหน่วยงานอื่นถึงผลกระทบต่อความมั่นคงปลอดภัยของพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์, ข้อ 7 (6) ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนหรือความสามัคคีของคนในชาติ ซึ่งนายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีสามารถดำเนินการให้บรรดาผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดทางการเมืองทั้งหลาย ให้คดีเป็นอันยุติลงไป
3) ข้อเสนอต่อคดีที่อยู่ในการพิจารณาของศาลยุติธรรม ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ตามมาตรา 108/1 ให้อำนาจศาลยุติธรรมในการใช้ดุลพินิจพิจารณาให้ประกันตัวผู้ต้องหาหรือจำเลย ทั้งนี้ การประกันตัว เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ประชาชนทุกคนควรได้รับ การไม่ให้ประกันตัวตามกฎหมายดังกล่าว จะต้องปรากฏว่ามีพฤติการณ์บางอย่าง เช่น มีพฤติกรรมหลบหนี หรือยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
ซึ่งรัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี สมควรมีการปรึกษากับประธานศาลฎีกา ในฐานะประมุขของศาลยุติธรรม เพื่อหารือถึงความเป็นไปได้ในการประกันสิทธิขั้นพื้นฐานนี้ เมื่อรัฐบาลมีแนวนโยบายที่จะนิรโทษกรรมคดีทางการเมืองให้กับประชาชน การชะลอคดีจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่รัฐบาลต้องหารือกับทุกฝ่าย เพื่อไม่ให้เกิดการดำเนินคดีที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อกระบวนการยุติธรรม
4) การนิรโทษกรรมมีความจำเป็นอย่างเร่งด่วน แม้ว่าปัจจุบันจะมีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ของสภาผู้แทนราษฎร แต่ผลการศึกษาดังกล่าว ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมายที่จะนำไปสู่การสร้างความปรองดองของสังคมในตอนนี้ได้ ดังนั้น รัฐบาลจึงสมควรเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมโดยเร่งด่วน ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญต่อการสร้างความสมานฉันท์ในสังคมต่อไป
นอกจากการนิรโทษกรรมแล้ว รัฐบาลสามารถเสนอร่างกฎหมายอื่นที่จะนำไปสู่การแก้ไขปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้เกิดการปกป้องสิทธิมนุษยชน ตลอดจนให้ความคุ้มครองในการประกันตัวของประชาชนที่จะสามารถต่อสู้คดีปกป้องสิทธิของตนเองได้อย่างเต็มที่ต่อไป
สุดท้ายนี้ พรรค ก.ก. ตั้งความหวังว่า รัฐบาลจะดำเนินการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมอย่างจริงจัง เหตุการณ์เสียชีวิตอย่างกรณี น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม ไม่สมควรจะเกิดขึ้นอีกแล้ว ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทย จะได้กลับมาทบทวน การฟื้นฟูรากฐานกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสร้างประชาธิปไตยที่เข็มแข็ง ตามที่ประชาชนพึงได้รับ
‘โรม’ ชี้ช่องนายกฯ หวั่นตะวันซ้ำรอย-ผิดหวังรัฐบาลเอาให้ชัดก่อน ‘จะนิรโทษไหม?
https://www.matichon.co.th/politics/news_4582136
โรม ชี้ช่องนายกฯ ส่งอัยการ ‘ยกฟ้องคดีการเมือง’ เร่งเคลียร์ให้ชัด ‘จะนิรโทษฯไหม?’- หวังทุกฝ่ายดูแล ‘ตะวัน’ หวั่นซ้ำรอย ’บุ้ง‘
สืบเนื่องการเสียชีวิตของ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง ทะลุวัง ผู้ต้องหาคดีทางการเมือง ซึ่งอดอาหารประท้วง หลังถูกคุมขังในทัณฑสถานหญิงกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา กระทั่งมีอาการวิกฤตหัวใจหยุดเต้น จึงต้องส่งตัวไปรักษาที่ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี โดยแพทย์ได้ปั๊มหัวใจยื้อชีวิต (CPR) แต่ไม่เป็นผลก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ที่ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เมื่อเวลา 11.22 น. วันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา นั้น
เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ที่ศาลา 7 วัดสุทธาโภชน์ ลาดกระบัง กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ การสวดพระอภิธรรมและพิธีฌาปนกิจศพ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม คืนที่ 2 เต็มไปด้วยครอบครัว ญาติ มิตรสหาย ผู้ร่วมอุดมการณ์ ตลอดจนนักกิจกรรมและประชาชนซึ่งทยอยเดินทางมาร่วมไว้อาลัยอย่างต่อเนื่อง ก่อนเริ่มสวดพระอภิธรรมในเวลา 19.00 น.
สำหรับวันนี้ มีนักการเมืองทยอยเดินทางมาร่วมงานสวดพระอภิธรรมอย่างต่อเนื่อง พร้อมเขียนข้อความส่งถึง น.ส.เนติพร อาทิ นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ หรือ ปูอัด ส.ส.กทม.พรรคไทยก้าวหน้า, น.ส.อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล หรือ เจี๊ยบ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล, นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคกก., นายปิยรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้ ส.ส.กทม. กก. อดีตแกนนำกลุ่ม We volunteer, น.ส.ธิษะณา ชุณหะวัณ หรือ แก้วตา ส.ส.กทม. เป็นต้น ท่ามกลางบรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า
นายรังสิมันต์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนภายหลังสวดพระอภิธรรมแล้วเสร็จ ว่า วันนี้มีการพูดคุยกับผู้มาร่วมงานซึ่ง ส่วนใหญ่คุยกับเพื่อนๆ คนที่อยู่ในแวดวงของ น.ส.เนติพร ทุกคนต่างเสียใจ รวมถึฃได้มีโอกาสคุยกับทนายของ น.ส.เนติพร ซึ่งเข้าใจว่ายังมีการติดตามในเรื่องของผลในการชันสูตร เอกสาร ต่างๆ
“เราก็ติดตามในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เป็นห่วงในเรื่องของความโปร่งใส เพราะว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้นเป็นเรื่องที่น่าเศร้า และผมคิดว่ามันทำให้เกิดคำถามในเรื่องของกระบวนการยุติธรรมเยอะ ว่าสุดท้าย กระบวนการยุติธรรมของเรามันจะเป็นอย่างไร
เพราะถึงแม้เขาจะอดอาหาร แต่ก็อยู่ภายใต้การดูแลต่างๆ ของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และรวมไปถึงการที่คนคนนึงตัดสินใจอดอาหาร มันเป็นเรื่องที่เรานิ่งนอนใจไม่ได้ ยิ่งเขาอดอาหารจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ยิ่งเป็นสิ่งที่นิ่งนอนใจไม่ได้“ นายรังสิมันต์กล่าว
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า อยากจะให้ฝ่ายต่างๆ คิดให้ดี ว่าในสถานการณ์ที่มันเกิดขึ้นแบบนี้มันจังหวะที่เราน่าจะมาพูดคุยกัน ในเรื่องของการที่จะทำอย่างไรให้กระบวนการยุติธรรมได้มาตรฐาน เป็นกระบวนการยุติธรรมที่รับประกันสิทธิของประชาชน
“และจริงๆ ผมคิดว่ามันมีช่องทางอีกหลายช่องทางที่รัฐบาลสามารถดำเนินการได้ หลายคนบอกว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม รัฐบาลจะทำอะไรได้ มันแยกอำนาจออกไป เรื่องนี้ผมเข้าใจ ไม่ต้องมาสอนกฏหมาย
แต่ว่าสิ่งที่รัฐบาลทำได้ในฐานะที่เป็นผู้บริหารของประเทศ คือการพูดคุยว่ามันจะมีกระบวนการอย่างไร ที่จะทำอย่างไรให้มีวิธีการ ที่อาจจะทำให้มีการคุ้มครองสิทธิที่มากขึ้น รวมไปถึงกลไกของอัยการ” นายรังสิมันต์กล่าว
นายรังสิมันต์ชี้ว่า ถ้าเราไปดูระเบียบของอัยการ จะพบว่าจริงๆ แล้ว มีช่องทางที่ให้นายกรัฐมนตรีสามารถเสนอความคิดเห็นได้ แล้วจากนั้นอัยการสามารถดำเนินการกระบวนการบางอย่าง
”ถ้าหากพิจารณาแล้วว่าคดีไม่มีประโยชน์ สามารถดำเนินการต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็นการถอนฟ้อง การยุติคดี แต่ทั้งนี้ก็อยู่ที่ว่ารัฐบาลจะมีความชัดเจนในเรื่องของการนิรโทษกรรมอย่างไร ดังนั้นวันนี้วาระที่สำคัญ รัฐบาลต้องมีความชัดเจนก่อน ว่าจะมีการนิรโทษกรรมไหม ถ้ามี จะใช้กับใครบ้าง
ถ้าเกิดไม่มีความชัดเจนตรงนี้ ผมคิดว่าในภาคส่วนต่างๆ จะไม่รู้แนวทางการดำเนินการ ว่ามันเป็นอย่างไร เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ผมคิดว่ารัฐบาลต้องแสดงความชัดเจน ต่อประชาชน ต่อนักโทษทางการเมือง ตกลงแล้วจะเอายังไง จะปล่อยไปเรื่อยๆ ให้ไปแก้ปัญหากันเอาเอง หรือสุดท้ายรัฐบาลจะมีมาตรการบางอย่างเกิดขึ้น“ นายรังสิมันต์กล่าว
นายรังสิมันต์เผยว่า ตนได้รับการชี้แจงเมื่อมีการประชุมกรรมธิการวิสามัญนิรโทษกรรม เรื่อง การตราร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ทราบมาว่ารัฐบาลจะมีการพูดคุยเรื่องนี้ในวันที่ 21 พฤษภาคมนี้
“ผมก็รอความชัดเจนว่ารัฐบาลจะมีความชัดเจนต่อไปอย่างไร” นายรังสิมันต์กล่าว
เมื่อถามว่า ในฐานะ ส.ส. ยังมีข้อสงสัยหรือติดใจอะไรในการแถลงของกรมราชทัณฑ์หรือไม่ ?
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ตนก็มีความติดใจต่อแถลงการณ์ของกรมราชทัณฑ์ต่อเรื่องนี้ แต่ว่าสิ่งที่ส่วนตัวพยายามให้ความสำคัญและน้ำหนัก เป็นเรื่องของการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม และคิดว่าไม่ควรมีเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้น
“สิ่งที่ผมให้น้ำหนักในส่วนนี้ จึงอยากเห็นในมุมของรัฐบาลจะเดินกันอย่างไร ตอบให้ชัดว่าการนิรโทษกรรมมันควรจะครอบคลุมแค่ไหน เข้าใจว่ามีความยากทางการเมือง แต่ถ้าอย่างน้อยที่สุดมีความชัดเจน ที่จะไม่ตัดใครออกจากระบวนการนิรโทษกรรม อย่างน้อยก็ยังพอไปต่อกันไดั
ถ้าไปดูในร่างนิรโทษกรรมของก้าวไกลเราไม่ได้เริ่มต้นว่าคดีอะไรบ้าง เราเริ่มต้นว่ามันต้องมีกลไกในการนิรโทษกรรม โดยใช้กฏเกณฑ์อย่างเดียว คือต้องมีแรงจูงใจทางการเมือง เราปฏิบัติกับคดีต่างๆ ทางการเมืองเท่าเทียมกันหมด เพราะสุดท้ายปัญหาที่มันเกิดขึ้นทางการเมืองเราก็พยายามที่จะแก้ไขปัญหาด้วยการเมือง ถ้ามันเริ่มต้นกันแบบนี้ เชื่อว่าอย่างน้อยมันมีช่องให้ไป ถ้ามันเริ่มต้นด้วยการที่ว่า คดีนี้นิรโทษได้ คดีนี้นิรโทษไม่ได้ ต้องยอมรับความจริงว่ามันจะมีบางส่วนที่เขาไม่ได้ร