เที่ยวฉะเชิงเทรา ไหว้พระขอพร นอนริมเขื่อน | 2 วัน 1 คืน


ถ้าพูดถึงจังหวัดฉะเชิงเทรา สิ่งแรกที่คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงก็คือ "หลวงพ่อโสธร" พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนทั้งเมือง แต่นอกจากสถานที่สำคัญทางศาสนาแล้ว ฉะเชิงเทรายังมีสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนที่น่าสนใจอีกมาก หากใครคิดไม่ออกว่าจะไปเที่ยวไหนดี? อยากแนะนำให้ลองมาสัมผัสกับเมืองเก่าแก่ริมแม่น้ำบางปะกงแห่งนี้ "เมืองแปดริ้ว"

อากาศช่วงนี้ร้อนจัด ทำให้เราพักจากการเดินป่าปีนเขายาว ๆ คาดว่าน่าจะไปพาตัวเองไปลำบากอีกครั้งช่วงฝนเริ่มโปรย นอกจากคลื่นความร้อนสูงแล้ว อีกเหตุผลหนึ่งคือ ไฟป่า ฝุ่นควัน ทำให้อุทยานแห่งชาติที่เปิดพื้นที่ให้เดินเท้าศึกษาธรรมชาติได้ ประกาศปิดพื้นที่ในช่วงฤดูร้อน ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ร่างกายเราจะได้เปลี่ยนบรรยากาศมาสัมผัสกับอะไรชิว ๆ บ้าง จริง ๆ แบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ

แผนการเดินทาง

Day 1 : 27 เมษายน 2024
05.30 น. ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ
06.30 น. เที่ยวชมอุโบสถกลางน้ำ วัดวีระโชติธรรมาราม
07.30 น. สักการะพระพุทธโสธร ณ วัดโสธรวรารามวรวิหาร
08.30 น. กินมื้อเช้า ร้านข้าวมันไก่ครัวคุณจ๊อย
10.30 น. สักการะหลวงพ่อปลดหนี้ วัดพระธาตุวาโย
12.00 น. ฝากท้องไว้กับที่บ้านของพ่อแม่แฟน
13.00 น. เช็คอินเข้าที่พัก สอนไลโฮมสเตย์
15.00 น. ไปจ่ายตลาดเพื่อเตรียมมื้อเย็น
17.00 น. พายเรือคายัคแบบสู้ฟัด
19.00 น. เปิดตี้มื้อเย็นสุขสันต์

Day 2 : 28 เมษายน 2024
09.00 น. เช็คเอาท์
09.30 น. ไปกินมื้อเช้าที่ ร้านส้มตำหลบมุมเมา
10.30 น. ออกเดินทางกลับกรุงเทพ
12.00 น. แวะคาเฟ่สวยสไตล์จีนโบราณ เฉินเตี้ยนคาเฟ่
13.00 น. มื้อกลางวันร้านก๋วยเตี๋ยวไก่ข้างทาง
14.30 น. ถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

บันทึกการเดินทาง

Day 1 : 27 เมษายน 2024
พวกเรานัดกันแต่เช้าเพราะนอกจากรถไม่ติดแล้ว จะได้ไปไหว้พระกันแต่เช้า และมีเวลาแวะได้หลาย ๆ ที่เลย เราเริ่มออกเดินทางจากกรุงเทพฯ 05.30 น. ชั่วโมงเดียวก็ถึงฉะเชิงเทราแล้ว และเห็นว่าวัดหลวงพ่อโสธรเปิดเจ็ดโมงตรง เราจึงเลี้ยวรถและไปสักการะพระใหญ่ ที่วัดวีระโชติธรรมาราม อยู่ก่อนถึงวัดหลวงพ่อโสธรประมาณ 20 นาที

ยังไม่ทันจะถึงทางเข้าวัด มองเห็นอุโบสถจากมุมไกล ๆ ผ่านทุ่งนาที่หว่านและเริ่มเขียวขจีแล้ว สวยเกินคาดไปมาก  
เมื่อเดินเข้าไปด้านในวัด จะเห็นพระอุโบสถแก้วกลางน้ำราชพรหมยานอนุสรณ์ ที่ด้านในประดับกระจกเงา ลวดลายทรงไทย และด้านบนยังบรรจุพระบรมสารีริกธาตุอีกด้วย ถัดไปด้านหลัง เป็นลานพญานาค ลานพระใหญ่ และบริเวณอื่น ๆ โดยรอบ ประกอบไปด้วยวิหารต่าง ๆ ถ้ำดาบส ศาลาไอ้ไข่ ไอ้จุก ไอ้แกละ และอีกมากมาย
ทางเดินระหว่างพระอุโบสถไปยังลานพญานาค ตกแต่งสวยงามแปลกตา
เป็นการสร้างจำลองได้สวยงามมาก ขนาดใหญ่โต ทำให้ไปยืนตรงนั้นแล้วรู้สึกราวกับว่าเราได้หลุดเข้ามาอยู่ในเมืองบาดาล
บริเวณอื่น ๆ ภายในวัด ของจริงมีเยอะกว่านี้อีกมาก
ไปต่อกันที่วัดประจำเมือง นั่นคือ วัดโสธรวรารามวรวิหาร ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาและมีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน สามารถเข้าไปอ่านได้ที่ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สำหรับมื้อเช้า พวกเราเลือกร้านอาหารง่าย ๆ อยู่ไม่ไกลจากวัด และไม่ออกนอกเส้นทางที่จะมุ่งหน้าต่อไปยังอำเภอท่าตะเกียบ นั่นคือ ร้านข้าวมันไก่ครัวคุณจ๊อย อร่อย สะอาด ราคาไม่แพง และมีที่จอดรถด้านหลัง

ท้องอิ่มแล้วพวกเราก็เดินทางกันต่อ ปักหมุดไปยังวัดพระธาตุวาโย หรือชาวบ้านเรียกว่า วัดห้วยน้ำทรัพย์ หรืออีกชื่อหนึ่งคือ วัดหลวงพ่อปลดหนี้ นั่นเอง ความโดดเด่นของวัดแห่งนี้คือพระเจดีย์ทรงระฆัง 3 ชั้น มองด้านนอกจะต้องสะดุดตาด้วยสีสันแปลกตา ชั้นบนสุดใช้กระเบื้องสีขาว ชั้นกลางใช้สีน้ำเงิน และชั้นล่างเป็นสีเหลืองทอง ด้านในประดิษฐานพระพุทธรูปจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังตกแต่งด้วยศิลปะภาพวาดสีน้ำมัน ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวของ พระพุทธเจ้าห้าพระองค์
ปิดทองหลวงพ่อปลดหนี้
วันนี้อากาศร้อนทำให้สูบพลังพวกเราไปมาก ต้องไปเติมพลังกันสักหน่อยแล้ว พวกเราไปฝากท้องกันที่บ้านของพี่ใหม่ แม่เตรียมสำรับจัดเต็มมาก ขนมจีนน้ำยาป่าตีนไก่ น้ำพริก ผักสด ผัดหมี่สีชมพู หมูทอด เนื้อทอด นอกจากจะอิ่มอร่อยในมื้อนี้แล้ว ยังหิ้วไปอร่อยต่อมื้อเย็นได้อีกด้วย ว้าวซ่ามาก และก่อนจะไปเช็คอินที่พัก ซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก เราได้แวะสั่งซื้อส้มตำแยกน้ำสูตรเด็ดที่ร้านหลบมุมเมา อร่อยมากจริง ๆ อยากให้ทุกคนได้ลอง

เมื่อถึงที่พัก เราต่างแยกย้ายเข้าห้องพัก เปิดแอร์อาบน้ำพักผ่อนกันเย็นสบาย สักแป๊ปก็ออกมานั่งเมาท์มอย เล่นกีตาร์ ฟังเพลง จิบเครื่องดื่มเย็น ๆ และมีลมพัดโชยจากเขื่อนมาคลายร้อนอีกแรง ก่อนจะไปเล่นน้ำพายเรือคายัคสนุกสนาน พวกเราไปจ่ายตลาดเพื่อเป็นเสบียงมื้อเย็น เมนูวันนี้คือ คอหมูย่างน้ำจิ้มแจ่ว ทะเลย่าง น้ำจิ้มซีฟู้ด ซึ่งพวกเราขอให้แม่ค้าส้มตำช่วยปรุงให้ แม่ค้าน่ารักมาก ให้ไปซื้อพริกและมะนาวมาจะทำให้ พวกเรานี่ยิ้มดีใจและปลื้มใจมากเลย

สำหรับโฮมสเตย์ที่เราพัก คือ สอนไล โฮมสเตย์ อยู่ติดกับอ่างเก็บน้ำสียัด วิวทิวทัศน์สวยงาม สามารถเช่าคายัคได้ที่นี่ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ มีห้องพักให้เลือกหลายแบบราคาเริ่มต้นแค่ 500 บาท https://www.facebook.com/SornlaiHomestay?mibextid=ZbWKwL

พอเริ่มเย็น แดดไม่แรงมาก พวกเราไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แจ้งเช่าพายเรือคายัคกับทางที่พัก พร้อมกับเสื้อชูชีพและไม้พาย  ทางที่พักจะดำเนินการลากไปให้ถึงที่ เรามีหน้าที่เดินตามไปตัวเปล่า
วันนี้คลื่นลมแรงมาก พายแบบสู้ฟัดสะบักสะบอมมาก เหนื่อยแต่สนุกกันสุด ๆ
ไม่เน้นพายเน้นถ่ายรูป ฮ่าฮ่า

บรรยากาศก่อนพระอาทิตย์จะตก ระหว่างเดินกลับขึ้นที่พัก

Day 2 : 28 เมษายน 2024
บรรยากาศบริเวณสันเขื่อนยามเช้า ระหว่างรอพระอาทิตย์ขึ้น
วนหามุมที่ถูกใจได้เลย พระอาทิตย์เริ่มขึ้นแล้ว บรรยากาศเริ่มต้นวันใหม่ สวยมากจริง ๆ
พวกเราเช็คเอาท์ออกจากที่พักช่วงสาย ๆ ประมาณเก้าโมงเช้า และไปกินมื้อเช้ากันที่ ร้านหลบมุมเมา ระหว่างทางรู้สึกดีมาก ถนนหนทางที่ไม่ค่อยมีรถวิ่ง บวกกับป่าต้นยาง ทำให้อดไม่ได้ที่จะลงไปเก็บภาพไว้สักหน่อย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่