สวัสดีครับทุกคน 

สืบเนื่องจากกระทู้ที่แล้ว https://pantip.com/topic/40648036 
เป็นเวลากว่าเกือบๆ 4 ปีแล้วที่เจ้า Toyota Corolla Altis 2010 มือสองคันแรกของผมได้พาผมและครอบครัวเดินทางไปทุกๆที่โดยสวัสดิภาพ
ผ่านการดูแลอย่างสม่ำเสมอ (ตามกำลังทรัพย์เจ้าของ) จนถึงวันนี้ รถคันนี้ก็ยังคงสภาพที่ดี ใช้งานได้ปกติทุกประการ
.
.
อย่างไรก็ตามเมื่อขึ้นชื่อว่ามนุษย์แทบทุกผู้ทุกนามล้วนมีกิเลส !
ในปีนี้ผมเริ่มมองหารถคันใหม่ที่จะมาใช้งานอีกครั้ง โดยตั้งใจไว้ว่าคงจะเป็นมือสอง (อีกเช่นเคย)
ตั้งโจทย์ในใจไว้ว่า
- ต้องการรถยนต์ประเภท CROSSOVER (ครอสโอเวอร์) มาใช้งานบ้าง
- สมรรถนะดีขึ้นกว่า Altis คันเดิมถ้าเป็นไปได้
- ขอสภาพเดิมๆ
- ตั้งงบประมาณไว้ราวๆ 500,000 - 600,000 บาท (เจ็บแต่จบ,ไม่ต้องการเป็นหนี้ในสภาวะแบบนี้)
.
.
สรุปแล้วถูกใจรถตระกูล C-HR เนื่องจากค่อนข้างตอบโจทย์ได้ จึงเริ่มค้นหารถรุ่นนี้อยู่สักพักใหญ่
และในที่สุดผมก็ได้มาเจอกับเจ้า Toyota C-HR 1.8 MID 2019 คันนี้ครับ
กับค่าตัว 550,000 บาท ซื้อกับเจ้าของมือแรกโดยตรง

คันนี้เป็นรถ Toyota C-HR 1.8 MID จดทะเบียนปี 2019
โดย Toyota C-HR เวอร์ชั่นไทยเปิดตัวครั้งแรกในปี 2018 โดยจะมีจำหน่ายอยู่ 4 รุ่นย่อยดังนี้ครับ
1.8 Entry  979,000 บาท (เบนซินล้วน)
1.8 MID  1,039,000 บาท (เบนซินล้วน)
1.8 Hybrid MID  1,069,000 บาท
1.8 Hybrid High  1,159,000 บาท
.
.
โดยเจ้า C-HR ของผมคันนี้เป็น MY2019 ที่ทางผู้ผลิตมีการปรับล้อดีไซน์ใหม่และรุ่นย่อยคันนี้คือ 1.8 MID (เบนซินล้วน)
ตั้งใจว่าจะใช้รถเบนซินล้วนไปก่อนสักระยะ คันต่อไปอาจจะขยับไปรถไฟฟ้าในอนาคต
.
.
ว่ากันต่อที่เจ้า C-HR
เครื่องยนต์:
ตัวนี้ใช้เครื่องยนต์เบนซิน รหัส 2ZR-FBE 4 สูบแถวเรียง
ขนาด 1.8 ลิตร โดยมีกำลังสูงสุด 140 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT 7 จังหวะ 

ตัวถังและช่วงล่าง:
รถรุ่นนี้ได้ใช้โครงสร้างตัวถัง TNGA : Toyota New Global Architecture
ช่วงล่างด้านหน้า : อิสระ McPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง
ช่วงล่างด้านหลัง : อิสระ Double Wishbone พร้อมเหล็กกันโคลง
ยาว x กว้าง x สูง : 4,360 x 1,795 x 1,565 มิลลิเมตร
ระยะฐานล้อ : 2,640 มิลลิเมตร

อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก:
ไฟหน้า Projector Lens แบบฮาโลเจน
ไฟ Daytime Running Light แบบ LED เม็ดๆ (รุ่น Hybrid จะได้ไฟหน้าสวยกว่าและไฟ Daytime เป็นแบบ Light Guiding)
ไฟท้ายแบบ LED เต็มระบบ (เฉพาะรุ่นไฮบริดเท่านั้น ถ้ารุ่นเบนซินจะได้หลอดไส้แบบโบราณ เสียใจมาก)
ไฟตัดหมอกคู่หน้า
ไฟตัดหมอกหลัง
ระบบเปิด-ปิดไฟหน้า แบบอัตโนมัติ
คิ้วขอบกระจกหน้าต่างโครเมียม
คิ้วตกแต่งเสากลางภายนอกสีดำเงา Piano Black
ล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว สีทูโทน พร้อมยาง 215/60 R17
ระบบเบรกด้านหน้า / ด้านหลัง →  ดิสก์เบรก







อุปกรณ์มาตรฐานภายใน:

พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS พร้อมสวิตซ์ควบคุมบนพวงมาลัย
ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง (คู่หน้า-ด้านข้าง-ม่านนิรภัย-หัวเข่าคนขับ)
กระจกหน้าต่างไฟฟ้า ขึ้น-ลงอัตโนมัติ 4 บาน (อันนี้ดี ขอชื่นชม)
กระจกมองข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้า (พร้อมพับเก็บแบบอัตโนมัติ)
กระจกบังลมหน้าแบบกันเสียงรบกวน Acoustic Glass
คิ้วตกแต่งเสากลางภายนอกสีดำ (อันใหญ่มาก)
ภายในห้องโดยสาร เบาะหนังโทนสีดำ / เบาะนั่งคนขับปรับด้วยมือ 6 ทิศทาง (ย้ำว่าแบบมือ) แต่ก็ยังใจดีให้ปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้า Lumbar Support มาให้
หน้าจอเครื่องเสียงระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 7 นิ้ว พร้อมลำโพง 6 ตำแหน่ง
มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสี TFT ขนาด 4.2 นิ้ว
ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา Dual Zoneระบบ 
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
ระบบเบรก ABS / EBD / BA
ระบบควบคุมการทรงตัว VSC
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC
ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC
ระบบแจ้งเตือนแรงดันลมยาง TPMS




แวะมาดูหลังรถกันครับ 
ห้องสัมภาระท้ายกว้างขวางใช้ได้เลย (รุ่นนี้ประตูท้ายค่อนข้างหนัก และ ไม่มีประตูไฟฟ้ามาให้)

ยกแผ่นปิดขึ้นดู หลุมยางอะไหล่ด้านล่าง รุ่นนี้ไม่มียางอะไหล่มาให้แต่มีชุดซ่อมยางฉุกเฉินติดมากับรถ 
แม่แรงและเครื่องมือให้มาครบครับ


****** สรุปการรีวิว ******
รถคันนี้ได้มาก็ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีเลยครับในการใช้งาน ค่อนข้างประทับใจในสมรรถนะและความคล่องตัวของเขา ยังไม่เจอปัญหาจุกจิกใดๆ
ได้รถมาก็นำไปเช็คที่ศูนย์ Toyota เช็คระยะ รอดูระยะยาวๆว่าจะมีปัญหาใดๆหรือไม่
ส่วนข้อเสีย/ข้อด้อยประจำรุ่น ทุกๆท่านก็คงจะเคยได้ยินมาบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นทัศนวิสัยห้องโดยสารด้านหลัง / เสาหลังมีจุดอับสายตา / ไม่มีมือโหนหลังคาคู่หลัง หรืออื่นๆ
สำหรับผมแล้ว สามารถมองข้ามไปได้เพราะถือว่าเขาตอบโจทย์เราได้ดี พอใจมากๆแล้วครับ ในงบประมาณเท่านี้
.
.
หากพี่ๆเพื่อนๆ มีข้อคิดเห็นหรือเคยใช้รถรุ่นนี้แล้วมีคำแนะนำในการดูแลรักษา รบกวนช่วยแนะนำด้วยครับ
ขอบคุณครับ