"สระบุรี" มีดีกว่าที่คิด มีดีต่อหัวใจ ♪ ♫ ♬



สวัสดีค่า กลับมาเจอกันอีกแล้ว อย่าเพิ่งเบื่อกันน๊าาาา

ช่วงหลังๆ พยายามหาเวลาพาพ่อแม่เที่ยวต่างจังหวัดให้ได้เดือนละ 1 ครั้ง
แล้วในส่วนของเดือนนี้หวยมาออกที่จังหวัดสระบุรี๊ เสียงสู๊งงง
เหตุผลคือไม่ไกลจากบ้านมากนัก มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายหลายดี พร้อมแล้ว Go Go........


สถานที่แรกที่เราจะไปคือ "วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร"

บริเวณหน้าประตูทางเข้ามียักษ์ 2 ตน ยืนเฝ้าประตูอยู่
ส่วนอาคารยอดแหลมๆที่เห็นอยู่ทางขวามือของภาพคือที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาท

พอเดินผ่านประตูเข้ามามีระฆังแขวนไว้ให้เคาะด้วย เราก็เคาะเอาฤกษ์เอาชัยซะหน่อย

ภาพนี้คือบันได้ทางขึ้นไปกราบรอยพระพุทธบาท ร่มรื่นมากๆ

ขึ้นมาถึงด้านบนแล้วซื้อดอกไม้ธูปเทียน ปักดอกไม้ธูปเทียนบริเวณด้านนอกอาคาร
ส่วนแผ่นทองคำเปลวเก็บไว้ไปปิดทองรอยพระพุทธบาทด้านในอาคาร

รอยพระพุทธบาทด้านในอาคาร

สามารถปิดทองรอยพระพุทธบาทได้เลย

สักการะรอยพระพุทธบาทแล้ว เราลงบันไดอีกฝั่ง

เดินสำรวจทั่วแล้วไปต่อกันที่ "วัดถ้ำกระบอก"

ปกติเรามักจะคุ้นหูกับชื่อวัดนี้ เพราะเป็นวัดสำหรับบำบัดผู้ติดยาเสพติด
แต่นอกจากนั้นวัดนี้ยังมีลานพระพุทธรูปหินลาวาที่งดงาม ใหญ่โตมากๆอีกด้วย

อาจจะมีรูปให้ชมน้อยไปหน่อยเพราะว่าวันที่ไปอากาศร้อนจริงๆ พอถ่ายรูปเสร็จก็รีบขึ้นรถเลย

รู้สึกได้ว่าน้ำย่อยเริ่มทำงาน กระเพาะร้องโครกครากไปหมด เลยขอแวะไปทานข้าวที่ "ตลาดหัวปลี"
ระยะทางไม่ไกลจากวัดถ้ำกระบอก เป็นตลาดชุมชน จำหน่ายผลผลิตในชุมชนและจากพื้นที่ใกล้เคียง


มาอุดหนุนที่ตลาดนี้ก็เหมือนได้ช่วยอุดหนุนชาวบ้านด้วย

ที่นี่มีอาหารให้เลือกทานหลากหลายเลย ทั้งของหวานของคาวไม่ว่าจะเป็นส้มตำ ก๋วยเตี๋ยว ราดหน้า ลูกชิ้นย่าง น้ำแข็งไส
มากมายเต็มไปหมดเลยจ้า ไม่ต้องกลัวหิวแน่นอน

บริเวณพื้นที่นั่งทานอาหารเป็นสวนไผ่ร่มรื่นดี มีดนตรีสดให้นั่งฟังชิวๆ

มีจุดสำหรับนวดสมุนไพรด้วย

สนามเด็กเล่นก็มี

ท้องอิ่มแล้วเตรียมตัวออกเดินทางไปต่อกันที่ "วัดถ้ำพระธาตุเจริญธรรม( ถ้ำบ่อปลา )"

ขอสารภาพว่าตอนแรกคิดว่าวัดนี้ก็น่าจะเป็นวัดทั่วๆไปแค่มีถ้ำเล็กๆ แต่เป็นทางผ่านพอดีเลยแวะซักหน่อยแล้วกัน
สรุปเราคิดผิดอย่างแรงเลย วัดนี้หากใครมาสระบุรีเราแนะนำมากๆ อลังการดาวล้านดวงเลย ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง

ก็เนี่ยด้านหน้าวัดมีเท่านี้ใครจะไปรู้ว่ามีของดี ส่วนถนนฝั่งตรงข้ามก็มีโบสถ์หลังเล็กๆเท่านั้น

เดินขึ้นบันไดมากราบหลวงพ่อ ซึ่งหลวงพ่อท่านเมตตาจะพาเดินชมถ้ำ แต่พอดีมีญาติโยมมาขอดูดวงกับหลวงพ่อซะก่อน
หลวงพ่อท่านเลยให้ลุงอีกคนที่อยู่ประจำวัดเป็นคนพาชมถ้ำแทน

ภายในถ้ำเย็นมากๆ พอลงบันไดมาเจอพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่

หินรูปหัวช้าง🐘 เพื่อนๆมองออกกันรึป่าวเอ่ย หรือใครมองเห็นเป็นตัวอะไรบ้าง กระซิบบอกกันได้เลยน๊าา

นี่คือรูปหล่อจำลองของหลวงพ่อผู้ซึ่งเป็นคนค้นพบถ้ำแห่งนี้และวัดนี้ ลุงคนนำทางเล่าให้ฟังว่า หลวงพ่อท่านเป็นพระธุดงค์
เดินธุดงค์มาเรื่อยๆจนรู้ว่าตรงนี้เป็นถ้ำแต่ตอนนั้นดินปิดทางเข้าออกทั้งหมด 
หลวงพ่อและลูกศิษย์ค่อยๆช่วยกันขุดดินออกไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นถ้ำขนาดใหญ่ที่เราเห็นกันทุกวันนี้

ภายในถ้ำมีจุดที่แสงสามารถส่องผ่านเข้ามาได้ด้วย

เดินเข้ามาแล้วร้องว้าววววว ถ้ำที่นี่ใหญ่มากๆเลย ต้องไปเห็นด้วยตาตัวเอง
กล้องเราเก็บไม่หมดหรือเราถ่ายรูปไม่เก่งก็ไม่รู้ ของจริงใหญ่กว่าที่เห็นในรูปนี้มาก

เพดานถ้ำมีหินซ้อนเป็นชั้นๆเต็มไปหมด

หินรูประฆังคว่ำ

ลุงคนนำทางบอกถ้ำแห่งนี้มีมาถ่ายทำละครหลายเรื่องแล้วด้วยนะ

มีน้องค้างคาวด้วยจะอยู่รวมกันบริเวณแถวๆปากถ้ำที่เดียว

ออกมาจากถ้ำก็ประมาณบ่าย 3 โมงกว่าแล้ว เลยรีบขับรถไปต่อที่น้ำตก "เจ็ดสาวน้อย"
ในส่วนของน้ำตกเจ็ดสาวน้อยเรากลัวว่ารูปจะเยอะไปเลยเขียนแยกไว้อีกกระทู้นึงแล้วนะ เข้าไปรับชมกันได้
https://pantip.com/topic/42678860

คืนนี้เรานอนค้างบ้านพักของกรมอุทยาน ใกล้ๆกันกับน้ำตกเจ็ดสาวน้อยเลย
ถ้าใครจะมาเล่นน้ำที่น้ำตกเจ็ดสาวน้อยให้เข้าประตูที่ 1 แต่ในส่วนบ้านพักที่เราพักเข้าประตู7 (ห่างกัน1กิโลเมตร)

เช้าวันต่อมา ที่แรกที่เราไปคือ "ไร่องุ่นภูนวพันธุ์"

ที่นี่ให้เข้าชมสวนและถ่ายรูปกับองุ่นได้ฟรี แต่อย่าไปเก็บองุ่นเล่นน๊าาา

ช่วงที่เราไปองุ่นยังเม็ดไม่โต ประมาณอีก 3 เดือนถึงเก็บเกี่ยวได้

พนักงานในสวนบอกว่าตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการตัดลูกทิ้งไปบ้าง ไม่งั้นเม็ดองุ่นจะเบียดกันและเม็ดไม่โต
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่