จากกระทู้นี้  ในความเห็นของผม https://pantip.com/topic/42650163/comment15
ที่ผมมองว่า "เจ้าบิว" จะไปได้ไม่ไกล  
แล้วจากข่าวที่ออกมาวันนี้ 

"การแข่งขันกรีฑาผลัดโลก หรือ เวิลด์แอธเลติกส์รีเลย์ส 2024 ณ โธมัส โรบินสัน สเตเดี้ยม กรุงแนสซอ ประเทศบาฮามาส ระหว่างวันที่ 4-5 พฤษภาคม 67
รายการนี้จะคัดเอา 14 ทีมที่ดีที่สุดใน 5 อีเวนต์ของการวิ่งผลัด ประกอบด้วย ผลัด 4X100 เมตรชาย, ผลัด 4X100 เมตรหญิง, ผลัด 4X400 เมตรชาย, ผลัด 4X400 เมตรหญิง และผลัดผสม 4X400 เมตร ไปร่วมชิงชัยในกีฬาโอลิมปิก 2024 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในช่วงกลางปีนี้ ซึ่งกรีฑาจะแข่งขันระหว่างวันที่ 1-11 สิงหาคม 67
หลังทัพไต้ฝุ่นไทยที่ลงแข่งขันในอีเวนต์วิ่งผลัด 4X100 เมตรชาย ทำผลงานจบอันดับ 4 ด้วยสถิติ 38.87 วินาที จึงยังไม่ได้ตั๋วลุยโอลิมปิก 2024 แต่ยังมีโอกาสในรอบคัดเลือกรอบ 2 
 
โดยทีมลมกรดไทยถูกจับให้อยู่ในฮีท 2 ร่วมกับ  ตุรกี (สถิติรอบแรก 40.04 วินาที), ซาอุดิอาระเบีย (สถิติรอบแรก 39.18 วินาที), เกาหลีใต้ (สถิติรอบแรก 39.25 วินาที), ไนจีเรีย (สถิติรอบแรก38.47 วินาที), เนเธอร์แลนด์ (สถิติรอบแรก 38.87 วินาที, กานา (ไม่มีสถิติในรอบแรก) และ โดมินิกัน (สถิติรอบแรก 39.08 วินาที)
ทว่า ก่อนลงแข่งได้เกิดข่าวร้าย เมื่อนักกีฬาตัวหลักที่ลงวิ่งในไม้สุดท้ายอย่าง “บิว” ภูริพล บุญสอน มีอาการกล้ามเนื้อตึง จึงทำให้สต๊าฟโค้ชตัดสินใจเปลี่ยนให้ “โอ๊ต” ธวัชชัย มเอียด ลงวิ่งไม้ 4 แทน ส่วนตำแหน่งไม้ 1-3  ยังคงเป็นชุดเดิม ได้แก่ "ไฟเตอร์" ณฐวรรธ เอี่ยมอุดม (ไม้ 1), "ต้า" สรอรรถ ดาบบัง (ไม้ 2) และ "เฉาก๊วย" ชยุตม์ คงประสิทธิ์ (ไม้ 3) 
ผลปรากฏว่า ทัพไต้ฝุ่นไทยเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 5 ด้วยสถิติ 39.41 วินาที ไม่เพียงพอต่อการคว้าตั๋วโอลิมปิก 2024 โดยทีมที่เข้า 2 อันดับแรกของฮีทได้แก่ กานา สถิติ 38.29 วินาที (สถิติดีที่สุดในซีซั่น) และ ไนจีเรีย สถิติ 38.57 วินาที (สถิติดีที่สุดในซีซั่น)
ทั้งนี้ทีมไต้ฝุ่นไทยยังมีโอกาสลุ้นตั๋วโอลิมปิก 2024 อยู่อีก โดยต้องลงแข่งขัน และทำสถิติให้ดีที่สุดเพื่อติดโควตา 2 ทีมที่ทำเวลาดีที่สุด (ไม่รวม 14 ทีมที่ได้โควตาโอลิมปิก 2024 ไปแล้ว) ภายในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ "
ที่มาของข่าว :- https://mgronline.com/sport/detail/9670000038985  ขอขอบคุณ manageronline 

มองในแง่ความเสียดาย  บอกตรงๆ  โครต เสียดายมากๆ  ไม่ง่ายนักที่ประเทศไทยจะมีนักกรีฑาดีๆเก่งๆสักคน โผล่ขึ้นมาเป็นความหวังที่จะได้ไปแข่งรายการใหญ่ๆ เช่นโอลิมปิก แล้วทีโอกาศคว้าเหรียญได้ 
เมื่อมีนักกีฬาคุณภาพขนาดนั้นที่จะสามารถไปถึงการแข่งขัน เวทีใหญ่ๆของโลกได้  แต่วิสัยทัศน์ของผู้ที่เกี่ยวข้อง ผู้ที่รับผิดชอบ กลับมีวิศัยทัศน์ที่คับแคบ มุ่งแต่จะไปกินของตายที่เวทีเล็ก เช่น กีฬา แห่งชาติ หรือไม่ก็ซีเกมส์ ที่จริงๆ แล้ว เอานักกรีฑาคนอื่นๆ ไปลงแข่งก็สามารถชนะได้อยู่แล้ว 
ส่วนนักกรีฑาที่มีศักยภาพที่ดี ก็มุ่งส่งไปเก็บตัวระยะยาว ที่ต่างประเทศ ในสภาพแวดล้อมที่ วิทยาศาสตร์การกีฬาดีเลิศ อาหารการกินมีการวางแผนไว้เป็นระบบ การแข่งขันกับ คนที่เก่งกว่าหรืออย่างน้อยๆเก่งเท่ากัน  จะเป็นแรงกระตุ้นให้นักกรีฑาสามารถเค้นศักยภาพของเราออกมาได้เต็มที่ 

สิ่งที่ได้มาตอนนี้ กลายเป็นสายไปเสียแล้ว  "เจ้าบิว" มีอาการบาดเจ็บ อาจจะบอกได้ว่าเป็นอาการเรื้อรัง หรือจะพูดอีกนัยหนึ่ง ว่า "เจ้าบิว" หมดสภาพแล้ว 
ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่า วิ่งไม่ได้ แข่งไม่ชนะ ไม่ใช่แบบนั้น  แต่คือ การจะสามารถพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นก้าวข้ามไปทัดเทียมกับนักวิ่งระดับโลก นั้นหมดแล้ว "เจ้าบิว" จะทำได้เต็มที่ ก็แค่กลับมาทำได้ดีที่สุดที่เคยทำ วิ่ง100 เมตร ก็จะได้เต็มที่ 10.1-10.2  เต็มที่ก็คงจะได้แค่นั้น  ยากที่จะพัฒนาตัวเองให้วิ่ง 100 เมตร ในระดับ 10.0xวิ ได้เลย 

ระดับโลกเขาไม่สนหรอกว่าใครชนะในซีเกมส์  บางทีเขายังไม่รู้เลยว่า มีการแข่งขัน SEA GAMES อยู่บนโลกนี้ และคงเข้าใจว่าคงจะเป็นการแข่งขันกีฬาทางน้ำ  เราแค่มุ่งหวังได้หน้าได้ตา ในเวทีเล็กแค่นี้ โดยลืมคิดไปหรือคิดไม่ถึงว่า เวทีระโลกเสียงแห่งการชื่นชมมันดังกว่ามากๆ 

หรือว่ากะลา ของเรามันไม่ใหญ่พอ  เสียดายจริงๆ  แต่ก็ยังจะขอเชียร์นักกีฬา นักกรีฑาของไทย อยู่เหมือนเดิม และหวังว่าคงจะมีโอกาสได้เห็น ธงชาติไทยปลิวไสวบนลานกรีฑา ในกีฬาโอลิมปิก สักครั้งหนึ่ง