The Fall Guy สตันท์แมนคนจริง



เรื่องย่อ The Fall Guy สตันท์แมนคนจริง
เขาคือ โคลต์ ซีเวอร์ส นักแสดงสตันท์แมนที่เลือกจะผละตัวและออกจากอาชีพนี้ไปเมื่อปีก่อน เพื่อใส่ใจกับเรื่องสุขภาพกายและสุขภาพจิตใจของเขา แต่เขากลับถูกทาบทามให้กลับมารับหน้าที่อีกครั้ง หลังจากที่ดาราหนังที่สตูดิโอชื่อดังได้วางตัวเอาไว้และทุ่มทุนสร้างอย่างมหาศาลได้หายตัวไป การจึงต้องค้นหาและเรียกคืนจิตวิญญาณแห่งอาชีพของตัวเองกลับมาอีกครั้ง



บอกเลยว่าเรื่องนี้ คนพูดถึงเยอะมาก และนักแสดงนำคือแม่เหล็กสุดๆ แต่ก็ไม่ค่อยเป็นเรื่องที่อยากดูเท่าไหร่
แต่เห็นรีวิว มีคนชมเยอะมาก ก็เลยไม่พลาด ที่จะตามเก็บ ถึงจะช้าหน่อย แต่ถ้าสนุกจริง ก็เป็นเรื่องที่ไม่น่าพลาด
ที่จะรับชมในโรงภาพยนตร์



ความรู้สึกส่วนตัวหลังดูจบ

ก็ถือว่าเป็นหนังอีกเรื่อง ที่ดูได้สนุก เพลินๆ ออกแนวหนังรัก แอคชั่น และเป็นจดหมายถึงคนผู้ทำงานเบื้องหลัง ที่เราไม่เคยรู้
ว่ากว่าจะเป็นหนังแอคชั่นสนุกๆซักเรื่อง คนคนเบื้องหลัง และทีมงานอีกมากมาย ที่ทุ่มเท ไม่แพ้คนเบื้องหน้าเช่นกัน
เราได้เห็นกระบวนการทำงานเบื้องหลังต่างๆ ที่เราไม่เคยได้เห็น และนำเสนอออกมา แนวถ่ายหนัง ซ้อนกับการถ่ายหนังได้ดี
และลงตัว ดูได้เรื่อยๆ 

บทก็จะมีความหักมุม ซึ่งหลายๆคนก็พอเดาทางได้ ตั้งแต่แรก เพราะมันแปลกๆ ตั้งแต่เริ่มต้น

งานภาพ สวยมาก เป็นไปตามเอกลักษณ์และมาตรฐานของค่ายUniversal คือโทนสีก็จะประมาณนี้ ออกน้ำตาลอ่อนๆหน่อย มีความนวลๆ
และสเกลภาพ ใหญ๋ เต็มตา แบบจัดเต็ม CGเนียน สวยมาก เรื่องนี้ถือสมแล้ว ที่เป็นหนังของคนทำหนัง เพราะงานภาพ คือสวย และอลังจริงๆ

การถ่ายภาพ มุมกล้อง ฉากแอคชั่นต่างๆ คือดูเทคนิคในการถ่ายทำ และลูกเล่น ให้เราได้ดูเยอะมากๆ

นักแสดงทุกคนเล่นดี โดยเฉพาะไรอัน และเอมิลี่ คือ หล่อสวย สะกดทุกฉาก ยิ่งไรอันนะ คือแบบทั้งความหล่อ ความเท่ หุ่น คือดึงดูกทุกฉาก และละสายตาไม่ได้เลย คนอะไร หล่อ เท่ มากกกกก ขนาดลุยแอคชั่นขนาดนี้ ความเปอะเปื้อนยังทำอะไรไม่ได้เลย

ดนตรีประกอบเพราะ และเข้ากับหนัง และแอบได้ยินดนตรี แอบคล้ายๆDune 2 เหมือนกันนะ



ข้อด้อยและส่วนที่ไม่ชอบ

เป็นหนังที่ใช้เวลาSet upโคตรจะนาน ช่วงแรกๆอาจจะใช้เวลาเล่าความหลัง และนำเสนอออกมาได้น่าเบื่อ ไม่น่าสนใจ
เชื่อมั้ยว่า เราเกือบจะคิดว่าหนังเรื่องนี้ คงไม่มีอะไรแล้ว และคงไม่สนุกแล้ว ถึงขนาดตัดสินใจ จะเดินออกจากโรงเลย 
และเป็นหนังเรื่องแรก ที่จะเดินออกจากโรง คือมันจะมีช่วงนึงในต้นเรื่อง ที่หนังเล่าถึงความหลัง นานมาก และโคตรน่าเบื่อ
และคิดว่าหนังคงจะมาแนวนี้ ไม่น่าจะสนุกละ วินาทีนั้น ตัดสินใจ จะออกจากโรง แต่ในใจก็ทนดู สักนิด เผื่อจะมาสนุกช่วงหลัง

และมันก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆ หลังจากผ่านช่วงที่น่าเบื่อ หลังๆมา หนังดูมีจุดหมาย และมีอะไรให้ดู รวมถึงฉากแอคชั่นแบบจัดเต็ม
ให้ดูเพลินๆจนจบ

โดยรวมก็ถือว่าดูได้เพลินๆ ถ้าไม่คิดมาก และไม่คาดหวังกับบทอะไร เพราะหนังมีความเกินจริงนิดนึง ก็ถือว่าขายความรักและแอคชั่น
และเป็นจดหมายเหตุให้ผู้ทำงานเบื้องหลัง ที่โดยรวมหนังก็ถ่ายทอดจุดๆนั้นได้ดี



สำหรับคะแนนความชอบ ให้  7/10 คะแนน

ดูได้เรื่อยๆ แต่ก็อาจจะไม่ถึงกับเพลิน ในช่วงแรก

สำหรับใคร ที่ไปดูมาแล้ว คิดเห็นอย่างไร มาแชร์กันได้นะ

https://www.facebook.com/?locale=th_TH