เรื่องราวรักแรกที่ไม่ได้มาเป็นคนแรก

ผมเชื่อว่าทุกๆคน คงผ่านประสบการณ์รักมาหลากหลายคน คงมีทั้งสมหวังบ้างไม่สมหวังบ้าง วันนี้ผมขออนุญาติมาแชร์เรื่องราวความรักครั้งแรกของผมที่ผมอยากจะเขียนไว้เผื่ออนาคตจะได้กลับมาอ่านและนึกถึงวันที่ตัวเองก็มีรักแรกที่สวยงามครั้งนึงเลย 
 เริ่มเลยล่ะกันน
ผมเป็นคนนึงครับที่เป็นนักเรียนมัธยม ปัจจุบันอยู่ม.5 เป็นคนนึงที่รุ้สึกว่าตัวเองอยู่ในจุดคนธรรมดาไม่ได้พิเศษกว่าใครไม่ได้เป็นคนที่ฮอตในโรงเรียน มีเพื่อนที่สนิทประมาณ 6-7 คน แค่นั้นนอกนั้นเราก็คุยไม่ค่อยสนิทมาก เพราะผมคงเป็นคนที่เขินๆอายด้วยแหะ แต่ผมเป็นคนนึงนะครับที่ผมไม่เคยรู้สึกว่าเพื่อน 6-7 คนนี่พอ ผมยังรู้สึกต้องการ ผมเลยกลายไปเป็นคนที่ต้องการความรัก ผมเป็นคนนึงครับที่ต้องการอยากมีแฟนนนมากกก อยากลองมีความรักกับคนอื่นเขามั้งง
อาการแบบนี้ผมแสดงออกชัดสุดตอน ม.3 ผมรู้สึกเป็นคนนึงที่โหยหา ต้องการมีแฟนมากก ทุกๆครั้งที่ผมคุยกับเพื่อนผมมักจะบอกเพื่อนตลอดว่า “ กูอยากมีแฟนหว่ะะ ” ตลอดๆๆ 555 แล้ว ณ ช่วงนั้นผมก็เป็นคนนึงที่ไล่ชอบคนนั้น คนนี่ไปแบบทั่วเลยยครับบ แต่ผลลัพธ์เหมือนเดิมนะะ คือเขาไม่ชอบกลับ หรือเวลามีคนมาชอบเรา ถามว่าเราชอบไหม No ไม่เลยย555 ผมวนลูปอยู่อย่างนี้อ่ะครับ ชอบเขา เขาไม่ชอบกลับ ณ ตอนนั้นประมาณ 10-15 คน ถามว่าผมทุกข์ในทุกๆคนมั้ย ตอบเลยว่าทุกข์555 แบบว่าเราชอบใครเราชอบภาพในหัวเรามันลอยไปตอนเป็นแฟนกันแล้วว555 และสุดท้ายภาพมันก็ไม่เกิดขึ้นจริง55 ผมก็เป็นอยู่งี้แหละครับบ พยายามเรียกร้องความสนใจลงไอจีสตอรี่ เผื่อจะมีใครมาเห็นเราและชอบเรา จนชีวิตผมเปลี่ยนไปตอนขึ้นม.4 หลายๆความเปลี่ยนแปลงเข้ามาแบบพร้อมกันน เพื่อน6-7 คนที่เราสนิทกันต่างแยกย้ายไปมีชีวิตของตนเอง เป็นช่วงนึงที่ผมเริ่มมีสิ่งที่ตัวเองชอบแล้วนั่นคือการร้องเพลง และเริ่มมีเป้าหมายของตนเองแล้วว นั่นคือการเป็นศิลปิน555 แต่ความรู้สึกยังต้องการมีแฟน ยังไม่หายไปนะครับ ยังอยากรู้สึกอยากมีความรักอยู่ เทอมแรก ผมก็เอาเลยเข้าม.4 เจอเพื่อนใหม่ใครที่แบบน่ารักๆ ผมก็เก็บเข้าสต็อคใจล่ะ เตรียมรอคุยแต่สุดท้ายผลลลัพธ์ออกมาเหมือนเดิมนะครับบบ ก็กลับมานั่งเศร้าเหมือนเดิม ฟังเพลงเศร้าวนๆไป เข้าเทอม2 เป็นเทอมที่ผมพุดได้เต็มปากเลยว่าเป็นเทอมที่รู้สึกทุกข์ใจกับตัวเองมากที่สุด เรื่องความรักไม่ใช่นะครับ แต่เป็นเรื่องต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ทั้งเรื่องเพื่อนที่ผมรู้สึกว่าเราเริ่มมีความสัมพันธ์ที่เราเริ่ม Toxic กัน หนักสุดคือผมได้เลือกที่จะลงสมัครการเป็นประธานนักเรียนนี่แหละครับ พอเรามาเป็นผู้นำแล้ว ความทุกข์ถาโถมมาทันที การรับมือกับการเจอผู้คนหลายคน 
ยิ่งเจอยิ่งทุกข์ครับ และเป้าหมายการเป็นศิลปินของตนเองอีก ที่ผมยังต้องฝึกฝนไรต่างๆ แต่บางครั้งมันผิดพลาดครับและนั่นยิ่งทำให้เราแบบนอยไปใหญ่เลย เป็นเทอมนึงที่เรื่องความรักแทบไม่ได้คิดเลย และท่ามกลางความทุกข์ที่เข้ามานั่นแหละครับบ ผมก็เริ่มที่จะสงสัยกับตัวเองว่านี่มันเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองง ผมพยายามฟังพอสต์แคสต์อะไรต่างๆเพื่อที่จะอยากได้วิธีที่ทำให้ตัวเองรู้สึกทุกข์น้อยลง และจบม.4ไป เข้าสู่ช่วงปิดเทอมที่ผมพยายามจะค้นหาตัวเองว่าสรุปแล้ววที่ผ่านมามันคืออะไรกันแน่วะ ทุกอย่างนี่คืออะไร จนผมได้ไปเจอต้นตอจริงๆล่ะ คือการที่ผมนั่นได้ทิ้งใครบางคนไว้ในแต่ละเรื่องที่ผ่านมา ใครบางคน คนๆนั้นนั่นก็คือตัวผมนี่แหละครับ ผมลืมกลับมาถามตัวเองจริงๆว่าตัวเองเป็นคนยังไง ผมลืมและยังไม่เคยเห็นค่าของคนๆนี้มานานมากก ผมพึ่งรู้ว่าจริงๆแล้วเราเองก็เป็นคนๆนีงนะที่มีคุณค่าในตัวเองเหมือนกัน มีสิ่งที่ผมทำได้ดี และก็มีสิ่งที่ผมทำได้ไม่ดีเช่นกันน วันที่ผมเห็นและกลับมาดูตัวเองจริงๆ ผมเริ่มจากลองอยู่กับตัวเอง ผมไปไหนมาไหนคนเดียว พยายามออกไปเที่ยวคนเดียว แรกๆบอกเลยครับ โคตรแบบเหมือนใจมันประทะกันอยู่555 ใจที่ไม่เคยได้รับความรักก็ผุดขึ้นมา “ทำอย่างงี้คนนั้นจะคิดยังไงนะะ” แต่ผมได้เพิ่มอีกใจนึงเข้ามาครับนั่นคือใจตัวเองมา “ ช่างยิ้ม ”  ผมก็เริ่มทำในสิ่งที่ผมชอบและอยากทำมันจริงๆ โดยที่พยายามใช้คำว่าช่างยิ้มมา ผมเริ่มกลับมาคิดกับตัวเองเรื่องความรัก ว่าเราต้องการอะไร ทุกวันนี้เรายังได้ไม่พออีกหรอ เราได้ครอบครัวที่รักเรา  ได้เพื่อนที่ยิ้มปรึกษาได้ คุยเล่นๆยิ้มก็คุยสนุก ได้คนที่คอยสนับสนุนในสิ่งที่เราอยากทำ ที่สำคัญเราก็มีตัวเราเองนี่แหละ ต่อให้ใครจะรู้สึกยังไงกับเรา ณ วันนี้เรารู้สึกยังไงกับตัวเองอ่ะ แล้วนั่นแหละครับที่ผมตรัสรู้คำว่า “ รักตัวเอง ” จากนั้นผมก็เริ่มคิดใหม่ เริ่มกลับมาเห็นคุณค่าของตัวเองมากขึ้น แต่จิตเดิมๆก็ยังไม่หายนะครับแต่เราก็พยายามที่จะค่อยๆลบมันออกไป มาวันหนึ่งผมได้รู้จักกับเว็บไซต์ผู้ระบาย ผู้รับฟัง ที่ไม่เปิดเผยตัวตนกัน ผมได้เลือกที่จะมาเป็นผู้รับฟัง และผมได้เจอผู้ระบายคนหนึ่งครับบ เราคุยกันเรื่องสุขภาพจิต จนคุยไปคุยมา เราถามอายุกันและรู้ว่าอายุตรงกัน เขาเลยอยากจะชวนผมไปแข่งการประกวด HACKATON เกี่ยวกับเรื่องปัญหาสุขภาพจิตในปัจจุบัน ผมรู้สีกว่าดีผมเลยตอบตกลงกับเธอว่าจะไปแข่งด้วย  ทีนี้การแข่งจะต้องมีการรวมทีม ประมาณ3-5 คน เธอเองก็บอกว่าจะเป็นคนที่หาสมาชิกมาเพิ่มให้เอง จนวันต่อมาเธอก็หามาได้ ผมก็เริ่มเข้าไปส่องสมาชิกในทีมแต่ละคน ผมดันไปสะดุดคนหนึ่งเป็นคนที่อายุเยอะกว่าผมหนึ่งปี เป็นผญ และที่สำคัญเป็น ผู้หญิงที่โคตรน่ารักกกกกก เท่านั้นแหละครับบบ จิตดั้งเดิมเราก็สวบเข้ามาทันที รู้สึกกระปรี่กระเปร่า จนผมลืมตัวเองไปพักนึงเลยย และพอเราได้เริ่มโทรคุยกลุ่มกันเพื่อที่จะเริ่มวางแผนงานกันที่จะต้องเริ่มงานกัน  ผมก็ได้ยินเสียงของเขา แม่งงแบบยิ่งหลงหนักเลยยย พอคุยกันแล้วรู้สึกแบบอ๊ากก ยิ่งเสียงเป็นคนขี้อ้อนอีกกกกก แต่พอเราได้เริ่มคุยไปคุยมาแล้วเราพบว่าเขามีMindset บางอย่างที่อาจจะไม่เข้ากับตัวเรา ผมก็รู้สึกเอ๊ะๆ ขึ้นมาแล้วแหละ แต่ปล่อยไป ความน่ารักมันบาดไปแล้ว ผมก็เริ่มล่ะที่จะหาวิธีการจีบ จนงานมันก็ดำเนินเรื่อยๆไปของมันครับ วันหนึ่งผมก็ได้ไปรู้จักกับครูเงาะ เราได้เห็นสิ่งที่เขาพูดที่เกี่ยวกับความรักอะไรต่างๆ ที่มันบาดใจสุดคือเขาให้เราลองถามตัวเองว่าวันนี้ เรามีความรักไปเพื่ออะไร มีแฟนเพื่ออะไร ผมก็ได้กลับมาลองคิดกับตัวเอง ว่าจริงๆแล้วกูมีเพื่ออออ คำตอบที่ได้คือมีเพื่อเพิ่มคุณค่าของตนเองง ทั้งที่จริงแล้ววใครกันล่ะที่ควรจะเพิ่มคุณค่าของตนเอง เราเองนี่แหละะะ มันเลยทำให้ผมกลับมาถามตัวเองกับพี่คนนี้จริงๆว่าใช่หรออ ผมก็ได้คำตอบว่าไม่ใช่ ผมอยากได้เขามาเป็นแฟนลึกๆผมแค่อยากได้แฟนสวยๆน่ารักๆ อวดคนอื่น ซึ่งพอคิดได้แล้วผมรู้สึกมันแบบแย่เหมือนกันนะเนี่ย และผมก็ได้ไปซื้อหนังสือมาอ่านของครูเงาะที่ชื่อว่า “ ค้นพบสิ่งมีค่าที่ชื่อว่าตัวเอง ” แต่ก็ยังไม่ได้อ่านนะครับ เพราะเราก็เอาเวลาไปโฟกัสกับการแข่งขันล่ะ ทีนี้ระหว่างที่เรากำลังอยู่ในขั้นตอนวางแผนงานกันอยู่ดันมีคนๆนึงในทีมออกขึ้นมา แบบกระทันหัน มันทำให้คนในทีมแบบต้องอ่ะงั้นวางแผนกันใหม่ ในเวลานั้นเองพี่ในทีมที่ผมบอกว่าน่ารักก ก็ได้ไปเจอน้องผู้หญิงคนนึงของเขาที่อยู่โรงเรียนเดียวกันน และได้ชวนมาร่วมทีมด้วยกัน และพี่เขาก็ทักมาหาผมว่าเอาน้องคนนี้เขามาในการทำงานนะ ผมก็โอเคเลยย เขาบอกว่าคนนี้เก่งแบบเก่งมากกกกๆ ผมก็เลยบอกโอเคเลยย ลองมาได้เลยย และเราก็มาโทรคุยกัน  ในครั้งนี้คือโทรคุยต้อนรับน้องใหม่ในทีมม ผมก็เลยจะคุยเน้นไปที่งั้นเรามาแลกเปลี่ยน Mindset เหมือนตอนที่โทรคุยกันแรกๆเพื่อที่จะได้ไอเดียในการแก้ไขปัญหาสุขภาพจิตให้ออกมาได้ พอเข้ามาโทรคุยกันได้สักพัก ผมก็ให้น้องใหม่แนะนำตัวว่าชื่ออะไร ขออนุญาติใช้ชื่อสมมุติว่า เจ เธอชื่อเจ อายุเราเท่ากัน ผมก็พยายามชวนคุย+แทรกมุข คุยในทีมจะได้ไม่ดูอึดอัดไป จนคุยกลุ่มไปได้5นาทีสมาชิกที่เหลือบอกว่าถ้าไม่มีไรแล้วงั้นขอออกนะ แล้วเดี๋ยวมาประชุมงานกันพรุ่งนี้ ผมก็โอเคและผมก็กำลังจะกดออก แต่มันยังเหลือคนที่ยังไม่ออกนั่นคือ เจ น้องใหม่ในทีมนั่นเองง เหลือเราในสายแค่2คน ผมก็เลยลองชวนคุยต่อที่คุยต่อจากที่คุยในทีม คุยไปคุยมาเราเริ่มทำความรู้จักกันมากขึ้นเริ่มใส่ความสนุกในการคุยมากขึ้นได้เเลกเปลี่ยนอะไรกันมากขึ้น และที่สำคัญเสียงของเจ นี่ทำให้ผมแบบหลงอีกแล้ววว คือแบบโคตรน่ารักกกกกกก แต่น่ารักครั้งนี้ไม่ธรรมดานะ ครั้งนี้มันมาพร้อมกับความรู้สึกนึงคือโลกมันหยุดหมุนไปเลยตอนได้คุยกับเจ ไอที่เขาบอกว่าผีเสื้อบินในท้อง ผมนี่แบบอ่อออ มันเป็นอย่างนี้นี่เองงงง เราคุยกัน ผมนี่แบบแก้มนี่แบบแดงงจี๋เลยย555 ถึงขนาดที่ว่าผมหยิบไม้เกาหลังมาและคุยไปคุยมาผมทำไม้เกาหลังพลาสติกหักคามือเลย ผมคุยกับเจ ตั้งแต่1ทุ่มยัน4ทุ่ม ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะคุยกับผู้หญิงคนนึงได้นานขนาดนี้ ปกติ2-3ทุ่มผมก็นอนแล้วว แต่เขาทำให้ผมนอนไม่หลับบบ หลังจากคุยจบบผมติดอยู่ในภวังค์ที่แบบว่า มันเกินจะบรรยาย คืนที่ผมคุยกับเจผมไม่ได้หลับทั้งคืนเลยถึงจะคุยกับเธอจบแล้วก็ตาม   วันรุ่งขึ้นมาผมก็ยังติดอยู่ในภวังค์ อยู่ในขั้นที่เรียกว่ากินอะไรไม่ได้เลย มันมวนท้องไปหมด มองไปทางไหนก็มีแต่เรื่องที่คุยกับเจ ไปทางไหนก็มีแต่เสียงเจ  ผมเริ่มปฎิบัติการทักแชทไอจีเจ ทันที ทักไปชวนคุยต่อในแชทต่อ ซึ่งแน่นอนครับบบว่านี่ก็เป็นครั้งแรกกที่ไม่ใช่แชทหนักขวาาาโว้ยยยย เราคุยกันแบบผมนี่แบบแก้มมแดงแบบบบบอกม่ายได้อ่ะะะ และใช่ครับภาพในหัวคือแบบบ แฟนคนแรกของเราเราจะอ้อนยังไงดีน้า ยิ่งนานวันเข้าผมกับเจเราก็ได้คุยกันแบบมากขึ้นน เราทักมาฝันดีกันก่อนนอนทุกคืนนๆ แต่งานที่แข่งก็ยังดำเนินต่อนะครับบ เจเป็นคนที่เก่งสมคำร่ำลืมจริงง เป็นคนนึงสามารถทำให้งานออกมาสวยงามได้มากกกกก และในขณะที่ผมก็รู้สึกกับตัวเองได้แล้วว่า นี่มันแบบไม่ปกติล่ะ เพราะผมนอนไม่หลับกินไม่ได้3วันติด มันตกอยู่ในจิตอะไรสักอย่างของคนๆนึงครับบ จนมันกลายเป็นทุกข์ไปแล้วเพราะร่างกายมันมวนๆแบบบอกไม่ถูก ( ต่อในเม้น )
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่