เป็นประจำทุกปีเมื่อมีการประกาศผลงานที่ผ่านเข้าสู่รอบตัดสินของรางวัลนาฏราช ที่ดิฉันจะมาเขียนวิเคราะห์ในมุมของคนดูที่พิจารณาจากความเหมาะสม และคาดคะเนถึงความเป็นไปได้ของทิศทางผลรางวัลที่จะเกิดขึ้น
โดยในปีนี้ เป็นปีที่ 15 ของนาฏราช กลับมาอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการจัดงานที่มีการเชิญทัพดาราและบุคคลในวงการมาร่วมลุ้นผลรางวัลกันแบบสด ๆ อีกครั้ง หลังจากห่างหายจัดแบบออนไลน์มา 3 ปี ถ่ายทอดสดจากศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ทางช่องวัน 31 โดยคาดเดาจากรายชื่อที่ผลงานที่เผยมาแล้ว รูปแบบงานน่าจะคล้ายคลึงกับนาฏราช ครั้งที่ 10 ที่ทางช่องวันเป็นเจ้าภาพจัดงาน และมีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ด้วยการเสริมทัพประเภทของละครถึง 4 ประเภท คือ
- Long Form ละครยาวที่มีจำนวน 13 ตอนขึ้นไป
- Short Form ละครสั้นที่มีจำนวนน้อยกว่า 13 ตอน
- ละครเย็น
- ซีรีส์ทางแพล็ตฟอร์มออนไลน์
โดยในกระทู้นี้จะมาวิเคราะห์ผลรางวัลเฉพาะในสาขา Long Form หรือละครยาวที่มีจำนวนตอน 13 ตอนขึ้นไป ที่มีการแข่งขันอย่างดุเดือดและมีการแจกรางวัลเป็นประจำทุกปี
สถิติจากปีก่อนที่มาวิเคราะห์ผลรางวัล ทายถูกไป 10 รางวัล จากทั้งหมด 13 รางวัล ก็ถือว่าเยอะอยู่ ทิศทางของผลรางวัลนาฏปีก่อนค่อนข้างที่จะลบคำสบประมาทเก่า ๆ ได้เป็นอย่างดี และเน้นไปทางสายอินดี้ ซึ่งสวนทางจากปีก่อน ๆ ที่เน้นกระแส ถือเป็นก้าวใหม่ที่ถูกจับตามองสำหรับรางวัลนาฏราช
เริ่มที่รางวัล ละครยอดเยี่ยม ที่เข้าชิงไป 5 เรื่องตามมาตรฐาน ได้แก่ เกมรักทรยศ / มาตาลดา / พรหมลิขิต / พนมนาคา และบุษบาลุยไฟ จากช้อยส์ ขอตัดพนมนาคาออกไปเป็นอันดับแรก เป็นละครที่กระแสค่อนข้างดี แต่ถ้ามองในเรื่องของบทยังมีจุดบกพร่องที่เยอะมาก ๆ เช่นเดียวกับพรหมลิขิต ที่ต้องขออนุญาตตัดไปเหมือนกัน คือเรื่องนี้โปรดักชั่นดี ทีมนักแสดงดี แต่ปัญหาใหญ่ของเรื่องนี้เลยคือ บทละคร ที่ค่อนข้างจะผิดมาตรฐานจากภาคก่อน ที่เน้นจุดขายจากบุพเพสันนิวาส แล้วมัดรวมใส่ในพรหมลิขิตจนดูเฝือ ไม่ว่าจะเป็นความจิ้นระหว่างพระนาง หรืออาหารที่ประโคมมาประหนึ่งมาสเตอร์เชฟ และจุดอื่น ๆ ที่บทอาจจะข้ามประเด็นสำคัญไป ไม่ได้ขยี้ หรือคลาย ทำให้บางอย่างยังคงค้างคา และขณะที่ละครเรื่องนี้ออกอากาศ ก็ยังโดนติเตียนเยอะพอสมควร สำหรับสาขานี้ ที่แข่งกันก็คงมีแค่ 3 เรื่อง คือ มาตาลดา / เกมรักทรยศ และบุษบาลุยไฟ สำหรับดิฉันถ้าให้เคาะ คงเลือก มาตาลดา ด้วยเหตุผลที่ว่า เป็นละครที่หน้าปกอาจจะดูง่าย ๆ แต่กลับซ่อนด้วยปมที่คนดูจะต้องตามเสาะหาหรือคลายปมไปเรื่อยจนจบ ตลอดเวลาที่ดูละครเรื่องนี้ ไม่ได้รู้สึกว่า ละครยัดเหยียดให้เราดูจนจบเลย แต่ละครกลับเป็นแรงผลักดันให้เราสนุกและติดตามไปด้วยตัวเอง อีกทั้งยังสอดแทรกเนื้อหาสาระและคติคุณธรรมมากมาย ทั้งประเด็นเรื่อง LGBT เรื่องการมองคนเพียงแค่ภายนอก และอีกหลายอย่าง นั่นแหละค่ะ หน้าปกอาจจะดูเหมือนไม่มีอะไร แต่พอดูแล้วมันมีอะไรมากกว่าที่คิดซะอีก ช้อยส์ถัดมาที่ถ้าได้ก็ไม่รู้สึกผิดหวัง คือ บุษบาลุยไฟ เรื่องนี้ถ้าได้คือทรงคุณค่า เพราะเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทยสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นที่แฝงด้วยกลิ่นรสละครไทย ผสานกันอย่างกลมกล่อม ด้วยบทโทรทัศน์จากปลายปากกาของครูแอ๊น ปราณประมูล คือเนี้ยบและละเมียดละไม ทั้งละครยังสะท้อนถึงมุมมองวัฒนธรรมในสมัยก่อนได้เป็นอย่างดี ทั้งเรื่องของสิทธิผู้หญิง ที่แม้กระทั่งการเลือกคู่ครอง ก็ไม่สามารถที่จะสนองตามความรู้สึกของตัวเองได้ด้วยกรอบนิยมผ่านม่านประเพณีไทย จนตัวเอกอย่างลำจวนต้องหนีและปลอมตัวเพื่อเอาตัวรอด จุดเด่นของเรื่องนี้คือแนวคิดสตรีนิยมที่ค่อนข้างจะชูโรงด้วยตัวละครของคุณพุ่ม เป็นการหยิบเกร็ดประวัติศาสตร์มาขยายต่อและเล่าสู่ฉบับละครได้อย่างทรงคุณค่า น่าจะเกร็งคะแนนโหวตได้ส่วนหนึ่ง อิทธิพลจากนาฏราชครั้งก่อน ที่ละครจากเจ้าพระยาสู่อิรวดีคว้าละครยอดเยี่ยมไปครอง จึงหวังว่าเรื่องนี้น่าจะพอมีลุ้น และอีกเรื่องหนึ่งคือ เกมรักทรยศ คิดว่าถ้าเรื่องนี้ได้ไป ก็ไม่ผิดหวัง แต่คาดคะเนดูแล้ว ไม่น่าจะได้ ด้วยเป็นการรีเมคจากต่างประเทศ และแนวละครก็เป็นแนวผัวเมีย แต่มันมากกว่าที่เราเห็นอยู่ดาษดื่นทั่วไปในละครไทย เกมรักทรยศ ใช้จิตวิทยาในการเล่าเรื่องผ่านมุมมองความรักของหมอเจน สะท้อนปัญหาความสัมพันธ์ในครอบครัว ชีวิตคู่ หรือการเลี้ยงดูลูก ค่อนข้างที่จะทำได้สนุกและไม่ผิดหวังจากเวอร์ชั่นต่างประเทศ แต่ความรู้สึกมันบอกว่า ไม่น่าจะได้รางวัลไปครอง คือทั้งสามเรื่องเหมาะสม และคิดว่าน่าจะได้เลยคือ มาตาลดา
ต่อกันที่รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม จากช้อยส์ น่าจะได้ พ่ออี๊ด สุประวัติ จาก บุษบาลุยไฟ ด้วยความเป็นพีเรียดที่ค่อนข้างจะควบคุมได้ยาก รวมถึงเนื้องานของละครก็ดีเยี่ยมด้วย ประกอบกับพ่ออี๊ดเป็นนักแสดงอาวุโส น่าจะเกร็งคะแนนโหวตจากคนในวงการไปได้เยอะพอสมควร อย่างที่บอกมันเป็นพีเรียด แต่ในช้อยส์มันยังมีพีเรียดอีกเรื่องหนึ่ง คือ พี่ชุ ชุดาภา จากหมอหลวง ละครเรื่องนี้ยังมีจุดพลาดหลาย ๆ อย่างเช่นเดียวกับพรหมลิขิต อยู่ในแนวทางเดียวกันกับพรหมลิขิตที่ละครเหมือนหาทางลงไม่เจอ เพราะจับนู่นผสมนี่เข้าใส่ในละคร แล้วลงอ่าวลงทะเลไปเรื่อยเปื่อย น่าจะไม่ได้ และหมอหลวงก็ไม่ได้เป็นละครเต็งรางวัลของปีที่แล้วขนาดนั้น อีกคนคือ พี่เหมี่ยว ปวันรัตน์ จาก มาตาลดา คือถ้ามองในแง่มุมของการกำกับ มาตาลดามันเป็นละครแนวปัจจุบัน บุษบาลุยไฟเป็นพีเรียด พีเรียดย่อมกำกับยากกว่าอยู่แล้ว ด้วยข้อมูลในด้านต่าง ๆ ที่ต้องละเอียดรอบคอบ และบุษบาลุยไฟก็ทำได้ดี แต่การกำกับของมาตาลดามันยากตรงที่ จะกำกับยังไงให้ออกมาเรียลที่สุด สมจริงที่สุด เราจะเห็นได้เลยว่าแก๊งค์ของพ่อเกรซนี่เหมือนเพื่อนพ้องกันจริง ๆ เลย แล้วการแสดงของเต้ยมันเหมือนไม่ใช่เต้ย แต่คือมาตาคนจริง ๆ มันก็ขึ้นอยู่กับการกำกับเหมือนกัน ถ้าได้ก็โอเค ไม่เสียดาย อีกเรื่องคือ ผู้กำกับจากเกมรักทรยศ เรื่องนี้มันเด่นตรงที่มันดราม่า ดราม่ามาก ๆ การกำกับอารมณ์ดราม่าคือโจทย์หินมาก ๆ ของละครเรื่องนี้ และด้วยละครมันรีเมค เลยตั้งอยู่บนความคาดหวังมาก ๆ ผลลัพธ์ก็ออกมาดีมาก ๆ สร้างมาตรฐานให้กับละครแนวนี้ของไทย ส่วนหนึ่งก็มาจากการกำกับที่เล่าเรื่องมุมมองปัญหาต่าง ๆ ได้ดีมาก ๆ ปรับเข้ากับความเป็นไทยได้เป็นอย่างดี ส่วนตัวถ้าได้ก็โอเค ท่านสุดท้ายคือ คุณผอูน จันทรศิริ จาก รักร้าย พี่ปุ๊ยเคยได้รับรางวัลนี้แล้วตอนนาฏราช ครั้งที่ 2 เมื่อ 13 ปีที่แล้ว เนื้องานของรักร้าย ยังมีจุดหลุดในบางส่วนซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของเรื่อง อันนี้จึงเป็นช้อยส์แรกเลยที่จะตัดออกไป สรุปคือถ้าให้เดา พ่ออี๊ด สุประวัติ จาก บุษบาลุยไฟ มงลงค่ะ
รางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ปีนี้น่าจะมง แอน ทองประสม จาก เกมรักทรยศ ด้วยตัวบทที่ยาก และซับซ้อน ซีนดราม่าที่พี่แอนทำได้ดีมาก ๆ โดยเฉพาะฉากที่รู้ความจริงว่าสามีตัวเองมีเมียน้อย เป็นการร้องไห้ที่เค้นอารมณ์คนดูมาก ๆ หรือฉากที่ทะเลาะกันที่สวนยาง ดราม่าจ๋า ๆ สื่อทั้งความเจ็บปวด ความรู้สึกของภรรยา น่าจะหนักสุดในแคนดิเดตนำหญิงทั้งหมดทีเข้าชิง แล้วอีกอย่างพี่แอนก็เคยได้รับนำหญิงจากนาฏราชมาแล้วถึง 2 ครั้ง คิดว่าครั้งนี้คนในวงการน่าจะโหวตพี่แอนอีกแน่ ๆ ด้วยชื่อเสียงบารมี และตัวบทในคุณภาพการแสดงเอง อีกคนก็เต้ย จากมาตาลดา ก็พอมีหวังอยู่เหมือนกัน เป็นบทที่เหมือนไม่ใช่เต้ยแสดง แต่เต้ยเป็นมาตาลดาแบบเชื่อจริง ๆ ว่าเป็นชีวิตจริง ๆ มันก็ขึ้นอยู่ที่กรรมการว่าจะเลือกใคร เพราะเหมาะสมทั้งคู่ แต่แอนน่าจะมีสิทธิ์สูง ส่วนใหม่ ดาวิกา จากรักร้าย ก็แสดงได้ดีตามมาตรฐาน แต่ด้วยบทและองค์ประกอบของละครมันไม่ได้ส่งให้ได้รางวัลมาก เบลล่า ราณี ใน 2 บทคือ พุดตาล กับคุณหญิงการะเกดก็เห็นถึงความแตกต่าง แต่ด้วยครั้งนี้มันไม่เหมือนปีบุพเพ ที่เบลล่ามาเต็งจ๋า ด้วยปีนี้คู่แข่งโหดมาก และยังมีคนเหมาะสมกว่า แพทริเซีย จากเกมรักทรยศ ก็งงกับช่องว่าทำไมถึงส่งนำหญิงตัดกับแอน ซึ่งตรงกันข้ามกับครั้งที่ 11 เลย ที่ไม่เลือกส่งใหม่ กับเบลล่า จากเรื่องกรงกรรม กลัวจะตัดคะแนนกัน แต่มาครั้งนี้เลือกส่งจากเรื่องเดียวกัน รางวัลเดียวกันถึง 2 บท งงกับช่อง บทแพทริเซียออกน้อยเรื่องนี้ และไม่ใช่นำหญิงจ๋า ถ้าลงสมทบมีสิทธิ์มากกว่า แต่พอมาอยู่ในสาขานี้เลยดร็อปไปเลย ส่วนคนสุดท้าย เฌอปราง จาก บุษบาลุยไฟ เฌอดูดร็อปสุดจากรายชื่อทั้งหมด ด้วยอาจจะเป็นรุ่นใหม่สุด น่าจะหยุดแค่การเข้าชิงนี่แหละ ไม่ได้รับรางวัลหรอก แต่เชื่อว่าครั้งต่อ ๆ ไป สะสมบารมีอีกนิด ได้เข้าชิงอีกครั้งแน่นอน แต่ครั้งนี้เข้าร่วมกับบรรดานางเอกแถวหน้า ซึ่งโหดทุกคน คนในวงการน่าจะไปโหวตคนอื่นซะมากกว่าเฌอ แต่ก็ถือว่าเป็นอีกคนที่น่าจับตามอง
รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ถ้าให้เลือกคนจับมือ 2 คน คงต้องเป็นโป๊ป จากพรหมลิขิต จับกับอนันดา จาก เกมรักทรยศ ส่วนใครจะมง ขอเดาเป็นอนันดา จากเกมรัก ฯ เราคิดว่าบทของอนันดามันมีอิมแพ็คเพียงพอที่จะส่งให้ได้รับรางวัล แต่ด้วยอนันดาไม่ค่อยเล่นละครเท่าไหร่ จึงไม่แน่ใจว่าคนในวงการจะโหวตให้มั้ย ส่วนบทของโป๊ป จากพรหมลิขิต เล่น 3 บท พ่อ เรือง และริด ทั้งสามบทเป็นคนดีหมดเลย ซึ่งถ้าเราจะเห็นบ่อย ๆ ในละครไทยเรื่องอื่น ๆ มันอาจจะเป็นดีและร้าย ตรงข้ามกัน แต่กับอันนี้ไม่ใช่ มันจึงเป็นความยากที่หินมาก ๆ เจาะลึกในบทของเรือง และริด โป๊ปแสดงออกมาให้เห็นถึงความแตกต่างของทั้งสองคน เรืองที่มีลุคของความพี่ชายคนโต เงียบขรึม สุขุมลุ่มลึก กลับกันที่ริดมีความซน ความน่ารำคาญในตัวบท ในวงการคนดูที่เรียกกันง่าย ๆ ว่า ตีบทแตก ทั้งสองคนข้างต้นได้ไปก็ไม่ขัดเลย ส่วนเจษ จากรักร้าย ก็สลัดลุคความเป็นพระเอกได้ดี การแสดงที่ซ่อนความร้ายกาจเอาไว้ได้ และทำให้คนดูเอะใจว่า ตกลงบทนี้ดีหรือร้าย ก็ถือว่าโอเค แต่คิดว่าตอนนี้น่าจะยังไม่ใช่เวลาที่สมควรได้รางวัล คนในวงการน่าจะไม่ได้โหวตให้ก่อน ส่วนป้อง จาก VIP ก็แสดงดีตามมาตรฐาน แสดงแบบเดิม ๆ ตัดออกไปเลย โทนี่ รากแก่น จาก บุษบาลุยไฟ ดูดร็อปสุดจากรายชื่อทั้งหมด ไม่ได้มาสายพระเอกจ๋า ๆ แบบคนอื่น แสดงดีแต่ยังไม่อิมแพ็คพอสำหรับรางวัล
มาแล้วค่าา วิเคราะห์ผลนาฏราช ครั้งที่ 15 ประจำปีนี้
เป็นประจำทุกปีเมื่อมีการประกาศผลงานที่ผ่านเข้าสู่รอบตัดสินของรางวัลนาฏราช ที่ดิฉันจะมาเขียนวิเคราะห์ในมุมของคนดูที่พิจารณาจากความเหมาะสม และคาดคะเนถึงความเป็นไปได้ของทิศทางผลรางวัลที่จะเกิดขึ้น
โดยในปีนี้ เป็นปีที่ 15 ของนาฏราช กลับมาอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการจัดงานที่มีการเชิญทัพดาราและบุคคลในวงการมาร่วมลุ้นผลรางวัลกันแบบสด ๆ อีกครั้ง หลังจากห่างหายจัดแบบออนไลน์มา 3 ปี ถ่ายทอดสดจากศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ทางช่องวัน 31 โดยคาดเดาจากรายชื่อที่ผลงานที่เผยมาแล้ว รูปแบบงานน่าจะคล้ายคลึงกับนาฏราช ครั้งที่ 10 ที่ทางช่องวันเป็นเจ้าภาพจัดงาน และมีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ด้วยการเสริมทัพประเภทของละครถึง 4 ประเภท คือ
- Long Form ละครยาวที่มีจำนวน 13 ตอนขึ้นไป
- Short Form ละครสั้นที่มีจำนวนน้อยกว่า 13 ตอน
- ละครเย็น
- ซีรีส์ทางแพล็ตฟอร์มออนไลน์
โดยในกระทู้นี้จะมาวิเคราะห์ผลรางวัลเฉพาะในสาขา Long Form หรือละครยาวที่มีจำนวนตอน 13 ตอนขึ้นไป ที่มีการแข่งขันอย่างดุเดือดและมีการแจกรางวัลเป็นประจำทุกปี
สถิติจากปีก่อนที่มาวิเคราะห์ผลรางวัล ทายถูกไป 10 รางวัล จากทั้งหมด 13 รางวัล ก็ถือว่าเยอะอยู่ ทิศทางของผลรางวัลนาฏปีก่อนค่อนข้างที่จะลบคำสบประมาทเก่า ๆ ได้เป็นอย่างดี และเน้นไปทางสายอินดี้ ซึ่งสวนทางจากปีก่อน ๆ ที่เน้นกระแส ถือเป็นก้าวใหม่ที่ถูกจับตามองสำหรับรางวัลนาฏราช
เริ่มที่รางวัล ละครยอดเยี่ยม ที่เข้าชิงไป 5 เรื่องตามมาตรฐาน ได้แก่ เกมรักทรยศ / มาตาลดา / พรหมลิขิต / พนมนาคา และบุษบาลุยไฟ จากช้อยส์ ขอตัดพนมนาคาออกไปเป็นอันดับแรก เป็นละครที่กระแสค่อนข้างดี แต่ถ้ามองในเรื่องของบทยังมีจุดบกพร่องที่เยอะมาก ๆ เช่นเดียวกับพรหมลิขิต ที่ต้องขออนุญาตตัดไปเหมือนกัน คือเรื่องนี้โปรดักชั่นดี ทีมนักแสดงดี แต่ปัญหาใหญ่ของเรื่องนี้เลยคือ บทละคร ที่ค่อนข้างจะผิดมาตรฐานจากภาคก่อน ที่เน้นจุดขายจากบุพเพสันนิวาส แล้วมัดรวมใส่ในพรหมลิขิตจนดูเฝือ ไม่ว่าจะเป็นความจิ้นระหว่างพระนาง หรืออาหารที่ประโคมมาประหนึ่งมาสเตอร์เชฟ และจุดอื่น ๆ ที่บทอาจจะข้ามประเด็นสำคัญไป ไม่ได้ขยี้ หรือคลาย ทำให้บางอย่างยังคงค้างคา และขณะที่ละครเรื่องนี้ออกอากาศ ก็ยังโดนติเตียนเยอะพอสมควร สำหรับสาขานี้ ที่แข่งกันก็คงมีแค่ 3 เรื่อง คือ มาตาลดา / เกมรักทรยศ และบุษบาลุยไฟ สำหรับดิฉันถ้าให้เคาะ คงเลือก มาตาลดา ด้วยเหตุผลที่ว่า เป็นละครที่หน้าปกอาจจะดูง่าย ๆ แต่กลับซ่อนด้วยปมที่คนดูจะต้องตามเสาะหาหรือคลายปมไปเรื่อยจนจบ ตลอดเวลาที่ดูละครเรื่องนี้ ไม่ได้รู้สึกว่า ละครยัดเหยียดให้เราดูจนจบเลย แต่ละครกลับเป็นแรงผลักดันให้เราสนุกและติดตามไปด้วยตัวเอง อีกทั้งยังสอดแทรกเนื้อหาสาระและคติคุณธรรมมากมาย ทั้งประเด็นเรื่อง LGBT เรื่องการมองคนเพียงแค่ภายนอก และอีกหลายอย่าง นั่นแหละค่ะ หน้าปกอาจจะดูเหมือนไม่มีอะไร แต่พอดูแล้วมันมีอะไรมากกว่าที่คิดซะอีก ช้อยส์ถัดมาที่ถ้าได้ก็ไม่รู้สึกผิดหวัง คือ บุษบาลุยไฟ เรื่องนี้ถ้าได้คือทรงคุณค่า เพราะเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทยสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นที่แฝงด้วยกลิ่นรสละครไทย ผสานกันอย่างกลมกล่อม ด้วยบทโทรทัศน์จากปลายปากกาของครูแอ๊น ปราณประมูล คือเนี้ยบและละเมียดละไม ทั้งละครยังสะท้อนถึงมุมมองวัฒนธรรมในสมัยก่อนได้เป็นอย่างดี ทั้งเรื่องของสิทธิผู้หญิง ที่แม้กระทั่งการเลือกคู่ครอง ก็ไม่สามารถที่จะสนองตามความรู้สึกของตัวเองได้ด้วยกรอบนิยมผ่านม่านประเพณีไทย จนตัวเอกอย่างลำจวนต้องหนีและปลอมตัวเพื่อเอาตัวรอด จุดเด่นของเรื่องนี้คือแนวคิดสตรีนิยมที่ค่อนข้างจะชูโรงด้วยตัวละครของคุณพุ่ม เป็นการหยิบเกร็ดประวัติศาสตร์มาขยายต่อและเล่าสู่ฉบับละครได้อย่างทรงคุณค่า น่าจะเกร็งคะแนนโหวตได้ส่วนหนึ่ง อิทธิพลจากนาฏราชครั้งก่อน ที่ละครจากเจ้าพระยาสู่อิรวดีคว้าละครยอดเยี่ยมไปครอง จึงหวังว่าเรื่องนี้น่าจะพอมีลุ้น และอีกเรื่องหนึ่งคือ เกมรักทรยศ คิดว่าถ้าเรื่องนี้ได้ไป ก็ไม่ผิดหวัง แต่คาดคะเนดูแล้ว ไม่น่าจะได้ ด้วยเป็นการรีเมคจากต่างประเทศ และแนวละครก็เป็นแนวผัวเมีย แต่มันมากกว่าที่เราเห็นอยู่ดาษดื่นทั่วไปในละครไทย เกมรักทรยศ ใช้จิตวิทยาในการเล่าเรื่องผ่านมุมมองความรักของหมอเจน สะท้อนปัญหาความสัมพันธ์ในครอบครัว ชีวิตคู่ หรือการเลี้ยงดูลูก ค่อนข้างที่จะทำได้สนุกและไม่ผิดหวังจากเวอร์ชั่นต่างประเทศ แต่ความรู้สึกมันบอกว่า ไม่น่าจะได้รางวัลไปครอง คือทั้งสามเรื่องเหมาะสม และคิดว่าน่าจะได้เลยคือ มาตาลดา
ต่อกันที่รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม จากช้อยส์ น่าจะได้ พ่ออี๊ด สุประวัติ จาก บุษบาลุยไฟ ด้วยความเป็นพีเรียดที่ค่อนข้างจะควบคุมได้ยาก รวมถึงเนื้องานของละครก็ดีเยี่ยมด้วย ประกอบกับพ่ออี๊ดเป็นนักแสดงอาวุโส น่าจะเกร็งคะแนนโหวตจากคนในวงการไปได้เยอะพอสมควร อย่างที่บอกมันเป็นพีเรียด แต่ในช้อยส์มันยังมีพีเรียดอีกเรื่องหนึ่ง คือ พี่ชุ ชุดาภา จากหมอหลวง ละครเรื่องนี้ยังมีจุดพลาดหลาย ๆ อย่างเช่นเดียวกับพรหมลิขิต อยู่ในแนวทางเดียวกันกับพรหมลิขิตที่ละครเหมือนหาทางลงไม่เจอ เพราะจับนู่นผสมนี่เข้าใส่ในละคร แล้วลงอ่าวลงทะเลไปเรื่อยเปื่อย น่าจะไม่ได้ และหมอหลวงก็ไม่ได้เป็นละครเต็งรางวัลของปีที่แล้วขนาดนั้น อีกคนคือ พี่เหมี่ยว ปวันรัตน์ จาก มาตาลดา คือถ้ามองในแง่มุมของการกำกับ มาตาลดามันเป็นละครแนวปัจจุบัน บุษบาลุยไฟเป็นพีเรียด พีเรียดย่อมกำกับยากกว่าอยู่แล้ว ด้วยข้อมูลในด้านต่าง ๆ ที่ต้องละเอียดรอบคอบ และบุษบาลุยไฟก็ทำได้ดี แต่การกำกับของมาตาลดามันยากตรงที่ จะกำกับยังไงให้ออกมาเรียลที่สุด สมจริงที่สุด เราจะเห็นได้เลยว่าแก๊งค์ของพ่อเกรซนี่เหมือนเพื่อนพ้องกันจริง ๆ เลย แล้วการแสดงของเต้ยมันเหมือนไม่ใช่เต้ย แต่คือมาตาคนจริง ๆ มันก็ขึ้นอยู่กับการกำกับเหมือนกัน ถ้าได้ก็โอเค ไม่เสียดาย อีกเรื่องคือ ผู้กำกับจากเกมรักทรยศ เรื่องนี้มันเด่นตรงที่มันดราม่า ดราม่ามาก ๆ การกำกับอารมณ์ดราม่าคือโจทย์หินมาก ๆ ของละครเรื่องนี้ และด้วยละครมันรีเมค เลยตั้งอยู่บนความคาดหวังมาก ๆ ผลลัพธ์ก็ออกมาดีมาก ๆ สร้างมาตรฐานให้กับละครแนวนี้ของไทย ส่วนหนึ่งก็มาจากการกำกับที่เล่าเรื่องมุมมองปัญหาต่าง ๆ ได้ดีมาก ๆ ปรับเข้ากับความเป็นไทยได้เป็นอย่างดี ส่วนตัวถ้าได้ก็โอเค ท่านสุดท้ายคือ คุณผอูน จันทรศิริ จาก รักร้าย พี่ปุ๊ยเคยได้รับรางวัลนี้แล้วตอนนาฏราช ครั้งที่ 2 เมื่อ 13 ปีที่แล้ว เนื้องานของรักร้าย ยังมีจุดหลุดในบางส่วนซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของเรื่อง อันนี้จึงเป็นช้อยส์แรกเลยที่จะตัดออกไป สรุปคือถ้าให้เดา พ่ออี๊ด สุประวัติ จาก บุษบาลุยไฟ มงลงค่ะ
รางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ปีนี้น่าจะมง แอน ทองประสม จาก เกมรักทรยศ ด้วยตัวบทที่ยาก และซับซ้อน ซีนดราม่าที่พี่แอนทำได้ดีมาก ๆ โดยเฉพาะฉากที่รู้ความจริงว่าสามีตัวเองมีเมียน้อย เป็นการร้องไห้ที่เค้นอารมณ์คนดูมาก ๆ หรือฉากที่ทะเลาะกันที่สวนยาง ดราม่าจ๋า ๆ สื่อทั้งความเจ็บปวด ความรู้สึกของภรรยา น่าจะหนักสุดในแคนดิเดตนำหญิงทั้งหมดทีเข้าชิง แล้วอีกอย่างพี่แอนก็เคยได้รับนำหญิงจากนาฏราชมาแล้วถึง 2 ครั้ง คิดว่าครั้งนี้คนในวงการน่าจะโหวตพี่แอนอีกแน่ ๆ ด้วยชื่อเสียงบารมี และตัวบทในคุณภาพการแสดงเอง อีกคนก็เต้ย จากมาตาลดา ก็พอมีหวังอยู่เหมือนกัน เป็นบทที่เหมือนไม่ใช่เต้ยแสดง แต่เต้ยเป็นมาตาลดาแบบเชื่อจริง ๆ ว่าเป็นชีวิตจริง ๆ มันก็ขึ้นอยู่ที่กรรมการว่าจะเลือกใคร เพราะเหมาะสมทั้งคู่ แต่แอนน่าจะมีสิทธิ์สูง ส่วนใหม่ ดาวิกา จากรักร้าย ก็แสดงได้ดีตามมาตรฐาน แต่ด้วยบทและองค์ประกอบของละครมันไม่ได้ส่งให้ได้รางวัลมาก เบลล่า ราณี ใน 2 บทคือ พุดตาล กับคุณหญิงการะเกดก็เห็นถึงความแตกต่าง แต่ด้วยครั้งนี้มันไม่เหมือนปีบุพเพ ที่เบลล่ามาเต็งจ๋า ด้วยปีนี้คู่แข่งโหดมาก และยังมีคนเหมาะสมกว่า แพทริเซีย จากเกมรักทรยศ ก็งงกับช่องว่าทำไมถึงส่งนำหญิงตัดกับแอน ซึ่งตรงกันข้ามกับครั้งที่ 11 เลย ที่ไม่เลือกส่งใหม่ กับเบลล่า จากเรื่องกรงกรรม กลัวจะตัดคะแนนกัน แต่มาครั้งนี้เลือกส่งจากเรื่องเดียวกัน รางวัลเดียวกันถึง 2 บท งงกับช่อง บทแพทริเซียออกน้อยเรื่องนี้ และไม่ใช่นำหญิงจ๋า ถ้าลงสมทบมีสิทธิ์มากกว่า แต่พอมาอยู่ในสาขานี้เลยดร็อปไปเลย ส่วนคนสุดท้าย เฌอปราง จาก บุษบาลุยไฟ เฌอดูดร็อปสุดจากรายชื่อทั้งหมด ด้วยอาจจะเป็นรุ่นใหม่สุด น่าจะหยุดแค่การเข้าชิงนี่แหละ ไม่ได้รับรางวัลหรอก แต่เชื่อว่าครั้งต่อ ๆ ไป สะสมบารมีอีกนิด ได้เข้าชิงอีกครั้งแน่นอน แต่ครั้งนี้เข้าร่วมกับบรรดานางเอกแถวหน้า ซึ่งโหดทุกคน คนในวงการน่าจะไปโหวตคนอื่นซะมากกว่าเฌอ แต่ก็ถือว่าเป็นอีกคนที่น่าจับตามอง
รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ถ้าให้เลือกคนจับมือ 2 คน คงต้องเป็นโป๊ป จากพรหมลิขิต จับกับอนันดา จาก เกมรักทรยศ ส่วนใครจะมง ขอเดาเป็นอนันดา จากเกมรัก ฯ เราคิดว่าบทของอนันดามันมีอิมแพ็คเพียงพอที่จะส่งให้ได้รับรางวัล แต่ด้วยอนันดาไม่ค่อยเล่นละครเท่าไหร่ จึงไม่แน่ใจว่าคนในวงการจะโหวตให้มั้ย ส่วนบทของโป๊ป จากพรหมลิขิต เล่น 3 บท พ่อ เรือง และริด ทั้งสามบทเป็นคนดีหมดเลย ซึ่งถ้าเราจะเห็นบ่อย ๆ ในละครไทยเรื่องอื่น ๆ มันอาจจะเป็นดีและร้าย ตรงข้ามกัน แต่กับอันนี้ไม่ใช่ มันจึงเป็นความยากที่หินมาก ๆ เจาะลึกในบทของเรือง และริด โป๊ปแสดงออกมาให้เห็นถึงความแตกต่างของทั้งสองคน เรืองที่มีลุคของความพี่ชายคนโต เงียบขรึม สุขุมลุ่มลึก กลับกันที่ริดมีความซน ความน่ารำคาญในตัวบท ในวงการคนดูที่เรียกกันง่าย ๆ ว่า ตีบทแตก ทั้งสองคนข้างต้นได้ไปก็ไม่ขัดเลย ส่วนเจษ จากรักร้าย ก็สลัดลุคความเป็นพระเอกได้ดี การแสดงที่ซ่อนความร้ายกาจเอาไว้ได้ และทำให้คนดูเอะใจว่า ตกลงบทนี้ดีหรือร้าย ก็ถือว่าโอเค แต่คิดว่าตอนนี้น่าจะยังไม่ใช่เวลาที่สมควรได้รางวัล คนในวงการน่าจะไม่ได้โหวตให้ก่อน ส่วนป้อง จาก VIP ก็แสดงดีตามมาตรฐาน แสดงแบบเดิม ๆ ตัดออกไปเลย โทนี่ รากแก่น จาก บุษบาลุยไฟ ดูดร็อปสุดจากรายชื่อทั้งหมด ไม่ได้มาสายพระเอกจ๋า ๆ แบบคนอื่น แสดงดีแต่ยังไม่อิมแพ็คพอสำหรับรางวัล