โดนรถชนแล้วหนี ดำเนินการอย่างไรได้บ้างครับ

เนื่องจากวันที่ 24 เม.ย.67 ผมจอดรถติดไฟแดงอยู่
จู่ๆก็มีรถยนต์คันหนึ่งวิ่งเข้สมาชนท้ายรถผม
เซ็นเซอร์ถอยหลังเสียหาย  ฝากระโปรงบุบเล็กน้อย
กันชนมีรอย และไม่แนบสนิทกับตัวรถ

จากนั้นผมจึงเดินลงไปเคาะกระจกเพื่อพูดคุยกับคู่กรณ๊
ปรากฏว่าคู่กรณีมีอาการเมา ได้กลิ่นเหล้าแรงมาก  มีอาการพูดลิ้นพันกัน
ผมจึงถามไปว่าพี่ดื่มมารึเปล่าครับ
คู่กรณีอ้ำอึ้ง  บอกแต่เพียงว่าเพิ่งกลับมาจากงานเลี้ยง
จึงบอกให้ขับรถไปจอดที่ปลอดภัยเพื่อเจรจากัน

เมื่อลงมาแล้วจึงเริ่มเจรจากัน
โดยทั้งรถผมและรถคู่กรณีไม่ได้ทำประกันภัย มีเพียงแต่ พรบ. ครับ
คู่กรณีมีอาการมึนเมา โงนเงน กลิ่นเหล้าแรงมาก
ขอจ่ายค่าเสียหาย 1 พันบาท แต่ผมปฏิเสธ เนื่องจากดูแล้วต้องติดเซนเซอร์ถอยหลังใหม่ +ทำสีทั้งกันชนและฝากระโปรง 1000 ไม่ cover แน่นอน
ผมจึงเสนอไปว่าโทรแจ้ง จนท.ตำรวรให้มาไกล่เกลี่ยดีกว่า
คู่กรณีก็ยืนนิ่งสักพักแล้วกลับไปนั่งที่รถ แล้วกวักมือเรียกผมไปคุยข้างประตู  บอกว่าให้พันนึงพอ จะเอามั้ย
ผมเลยบอกว่าไม่เอาครับ  งั้นผมโทรแจ้ง จนท.ตำรวจให้มาเคลียร์แล้วกัน

จากนั้นคู่กรณีก็ปิดกระจกแล้วเหยียบคันเร่งหนีไปเลย
ผมจึงจำทะเบียนรถไว้แล้วจึงไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

วันนี้เลยโทรสอบถามความคืบหน้ากับร้อยเวร
ร้อยเวรแจ้งมาว่า เรียกคู่กรณีมาปรับแล้ว 400-1000  บาท ส่วนรถคุณทั้งสองฝ่ายไม่มีประกัน ก็ไปฟ้องแพ่งเอาเองน่ะ   เด๋วผมขอทำงานต่อก่อน
หากอยากได้บันทึกประจำวันก็มาเอาที่ผมได้

ตามจริงรถผมก็ไม่ได้เสียหายอะไรมากถึงขนาดจะขับต่อไม่ได้
แต่วันนี้ในรถมีทั้งลูกและภรรยานอนอยู่ในรถ
อีกทั้งคู่กรณีเมาแล้วขับมาชนท้าย แล้วก็ยังกล้าขับรถหนีไปอีก
ผมไม่อยากปล่อยผ่านเลยตามเลย

บ้านผมกับท้องที่เกิดเหตุอยู่ห่างกันประมาณ 80 กม.ครับ

อยากสอบถามว่ากรณีเช่นนี้ผมควรดำเนินการต่ออย่างไรดีครับ

ขอคำแนะนำด้วยครับ

ขอบคุณครับ


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่