จะพูดว่าอกหักก็ยังไม่คบ ควรเรียกว่าอะไรดี

ประมาณปี 2563 ช่วงที่ผมกำลังก้าวเข้าสู่ม.4 ซึ่งผมเรียนต่อที่โรงเรียนเดิม ด้วยความที่บ้านอยู่ไกลจากโรงเรียน60กิโล ทุกวันผมต้องตื่นตี4เพื่อแต่งเนื้อแต่งตัว รอรถตู้มารับตอนตี5(เป็นรถตู้ที่รับเฉพาะเด็กในอำเภอเดียวกันเท่านั้น) พอไปถึงด้วยความที่เป็นเจ้าถิ่น(เด็กเก่าๆ5555) วันแรกที่เปิดเรียนผมกับเพื่อนไก็พากันทำสิ่งๆนึงที่ผู้ชายส่วนใหญ่ทำกัน นั่นก็คือออ ส่องสาวครับ55555 และใช่ เด็กใหม่นั่นเองง(ออกตัวไว้ก่อนผมไม่เคยมีแฟนมาก่อนหน้านี้ ไม่ค่อยปิ๊งใครด้วย ค่อนข้างพูดน้อยไปถึงไม่ค่อยพูด5555) วันแรกที่เปิดเรียน ด้วยความที่เป็นเด็กเก่าเลยทำให้รู้ทุกซอกทุกมุมของโรงเรียน วันแรกที่เปิดเรียน ผอ.ได้ทำการเรียกทุกคนไปรวมกันที่หน้าเสาธง เผื่อที่จะแนะนำเด็กใหม่(แน่นอนเด็กเก่าอย่างเราๆ ก็หรอยไปอยู่กับอาจารย์ที่รู้จัก แล้วส่องสาวอย่างสบายใจ) วันแรกๆก็ไม่มีอะไรหรอกครับส่องๆแซวๆกับเพื่อนตามภาษาเด็กผู้ชาย แต่พอวันที่3 ผมก็เจอเข้ากับคนนึงขณะที่กำลังจะเข้าแถวแว็บแรกที่เห็นนี่แบบว่า เธอเป๊ะมากสำหรับผม เข้าใจคำว่ารักแรกพบก็ตอนนั้นแหละครับแต่ด้วยความที่มีนิสัยขี้อายเจียมเนื้อเจียมตัว(ชอบคิดว่าตัวเองไม่หล่อ ใช้ไม่ได้ หน้าตาไม่ดี แต่จริงๆหล่อนะครับบ😎5555) เลยไม่กล้าเข้าไปจีบแต่แรกแล้วก็ไม่กล้าบอกเพื่อนตรงๆด้วยเพราะสมัยนั้นกลัวโดนแซว(ผู้ชายแซวกันแรงครับ) มาแจ็คพอตตรงนี้พอตกเย็นมาผมก็รอรถตู้ประจำตรงที่เดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือ คนคนนั้นที่ผมชอบ เธอมาขึ้นรถคันเดียวกับผมม ซึ่งงง รถตู้คันนี้ผมพึ่งย้ายมาขึ้นตอนที่เปิดเทอมนี้เอง(รถตู้คันเก่าที่เคยนั่งแกเลิกขับเลยย้ายมา) ด้วยความที่ผมทำตัวไม่ถูกเพราะแอบชอบเธออยู่ผมเลยกระซิบถามเพื่อนต่างห้องที่นั่งด้วยกันว่า “เพื่อนคนที่มาหใม่นั่นใครหรอแล้วทำไมมาขึ้นคันนี้ เมื่อวานยังๆม่เห็นเลย” เพื่อนตอบ ”อ๋ออ ชื่อ…. อยู่อำเภอเดียวกับเรา แต่คนละตำบล วันก่อนๆที่ไม่มาขึ้นเพราะจำรถผิดไปนั่งรถป้านี(ชื่อสมมุตินะครับ)”(รถตู้จากอำเภอผมมีหลายคัน แต่คันที่ผมนั่งเป็นคู่สามีภรรยา ผมนั่งของสามี) ผมเองที่ได้ยินอย่างนั้นรีบถามเพื่อนกลับไปด้วยความเร็วแสง”มีวาปไหม” เพื่อนที่ได้ยินอย่างนั้นก็ตอบกลับมาด้วยความเร็วแสงเหมือนกัน”มีก็เห*ละ พึ่งมาไม่ถึงอาทิตย์ จะเอามาได้ไง” ผมก็คิดในใจ”เออก็จริงของมัน” พอกลับถึงบ้านผมก็พยายามหา จากเพื่อนๆรอบตัวที่รู้จักในอำเภอนี้ แต่ก็ไม่เจอ จนท้อและหยุดหาไป เลยไปเลื่อนดูรูปในโทรศัพท์เล่นๆ ไปเจอรูปหมู่สมัยม.3 แล้วเห็นเพื่อนคนนึงเลยนึกขึ้นมาได้ว่า อ่าววว คนนี้อยู่ห้องเดียวกับผู้หญิงคนนั้นนิ ในใจคิด”ยังไงกูก็ต้องได้ละวะ” เลยทักไปหาเพื่อนว่า “เพื่อนๆ รู้จักคนนี้ไหม” เพื่อนตอบ”รู้จักๆ คนนี้มาใหม่ได้ข่าวว่าอยู่อำเภอเดียวกับนี่” ผมก็ตอบกลับว่า”ใช่ๆ มีวาปไหมอ่ะ” เพื่อนถามผมกลับ”ทำไมม ชอบหรอ” ซึ้งผมที่กลัวโดนแซวเลยตอบกลับไปว่า”เปล่าๆๆ แค่อยากรู้จักเฉยๆ อยู่อำเภอเดียวกันแต่ไม่เคยเจอเลย” เพื่อนก็ส่งวาปของเธอคนนั้นมา พอผมเข้าไปส่งก็ได้ตรัสรู้ว่าเธออยู่อำเภอเดียวกลับผมจริงๆ แต่คนละฟากกันเลย(ไม่แปลกที่จะไม่รู้จัก55555) พอเช้าอีกวันมาผมก็ตื่นมาทำกิจวัตรประจำเช้าตามปกติของผม อาบน้ำ ล้างหน้าบลาๆ แต่อยู่ดีๆก็มีแจ้งเตือนเด้งขึ้นมาในโทรศัพท์ผม ซึ่งเป็นเวลาตี4(ปกติเวลานี้ไม่มีใครตื่นนอกจากไปเรียนหรือลุกมาเข้าห้องน้ำ) ผมก็เลยแปลกใจเลยกดเข้าไปดู แจ้งเตือนขึ้นว่า “….. ได้ติดตามคุณ”
จังหวะนั้นขนลุกซู่เลย หนาวไปทั้งตัวทั้งๆที่พึ่งพ้นฤดูร้อนไปหมาดๆ และใช่ครับ เมื่อคืนก่อนนอนผมได้ทำสิ่งที่เหนือความคาดหมายไป ด้วยความที่ชอบมากถึงขั้นส่องรูปแล้วเขิน มันเลยทำให้เกิดอารมณ์ชั่ววูบเผลอกดฟอลไป แบบไม่ได้ตั้งใจ (แล้วก็จำไม่ได้ด้วย5555) จังหวะนั้นนาฬิกาที่ผมตั้งไว้ก็เตือนว่าตี5แล้ว ผมเลยรีบอาบน้ำ กินข้าวแล้วไปรอรถ ระหว่างรอ คิดในใจ จังหวะขึ้นรถ ผมนั่งข้างหลัง แล้วเธอนั่งข้างหน้า จะทำไงดี พอรถตู้มาจอดหน้าบ้านปุ๊บผมก็เปิดประตูรถตู้ใบหน้าแรกที่เจอเลยก็คือเธอคนนั้น(ตอนนั้นเขิลแบบรุนแรงมากแรงจนบิด)
ทำเอาขาอ่อนเลย จังหวะนั้นค่อยๆกระดึ๊บๆไปเบาะตัวเอง55555 วันนั้นก็ผ่านไปไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมก็แอบชอบอย่างนั้นมาประมาณ 1 เดือน พอเริ่มคุ้นหน้ากัน เธอก็เริ่มมาทักทายผม แซวผมเล่นๆ ส่วนผมจะเหลือหรอ55555 ไม่กล้าตอบตามสไตล์ พอผ่านไปสักระยะก็เริ่มพูดคุยกัน ผมก็คุยตามปกติพยายามไม่ออกอาการ ส่วนเธอคนนั้นก็คุยเล่นกับผมตามปกติ ทำให้ผมรู้สึกถึงมิตรภาพระหว่างเรา แต่!!!!!! ตามนั้นครับคล้ายพล็อตหนังไทย เธอมาบอกกับผมว่ามีคนเข้ามาจีบเป็นรุ่นน้อง ปล.เป็นมือกลองที่โดนใจสาวหลายคนๆ ซึ่งผมก็ออกแซวๆ ถามเธอเนียนๆว่าชอบไหม เธอตอบกลับมาว่า ก็ชอบนะ หล่อดี ตีกลองด้วย(รู้สึกเหมือนอกหัก แต่ก็ไม่แน่ใจใช่อกหักรึป่าว) ผมเลยตอบเธอไปว่า อ๋อ ชอบก็ลองคุยดู เธอก็ตอบกลับมาว่า เดี๋ยวลองเอาไปคิดดูก่อน ทีนี้ก็ต่างคนต่างกลับบ้าน ผมเองตอนนั้นก็มีเพื่อนสนิทที่รับรู้เรื่องนี้อยู่ผมเลย ปรึกษากับเพื่อนว่าเอาไงดี เพื่อนก็เชียร์ให้จีบเลย ซึ่งผมไม่เคยจีบหญิงมาก่อน แล้วก็ไม่กล้าจีบด้วย(ตอนนั้นมีความคิดที่ว่าถ้าเราหล่ออยู่เฉยๆเดี๋ยวก็มีคนมาจีบเอง) แต่ก็กลั้นใจกะว่าพรุ่งนี้เช้าจะบอกเลยตรงๆว่าผมชอบเธอ พอเช้าวันรุ่นขึ้นมาถึง ผมอาบน้ำแต่งตัวปกติ วันนี้ใส่น้ำหอมขวดทำมาหากินเลย สเปรย์ดับกินปากอย่าให้ขาด เซตผมเท่ๆ กะว่าเอาหล่อเลย ขึ้นรถไปนั่งข้างๆเธอ กำลังจะเปิดปากกลิ่นปากยัฃไม่ทันออกเลย เธอก็พูดขึ้นมาว่า “ กูคุยกับน้องคนนั้นละ เมื่อคืนน้องมันโทรมาด้วย” ผมที่ได้ยินอย่างนั้นก็เงิบเลย น้ำตาจะไหลแต่ไหลไม่ออก ทำอะไรไม่ถูกทำได้แค่ตอบว่า(อ๋อ ดีละ) หลังจากนั้นผมก็แกล้งหลับตลอดทางจนถึงโรงเรียนเลย พอถึงโรงเรียนผมก็เอาเรื่องนี้ไปปรึกษากับเหล่าเพื่อนๆเลยบอกความจริงกับเพื่อนในกลุ่มว่าชอบคนนี้นะ พยายามจีบมาเป็นปีละ แต่เด็กนี้จีบไม่กี่วันติดเลย เพื่อนผมก็ปลอบว่า(อย่าดราม่านะครับ เพื่อนกันพูดกันเล่นๆตลกๆเฉยๆ)”เชี่ยเพื่อนกูจีบมาเป็นปีๆ หมาไหนคาบไปแดกวะะ” ผมก็บอกช่างมันเถอะเป็นแบบนี้ก็โอเคละ พอตกเย็นมาขึ้นรถผมก็พยายามทำตัวปกติที่สุดแต่แค่ไม่คุยกับเธอคนนั้น พอกลับถึงบ้านผมก็รีเซ็ตตัวเองใหม่ว่า จะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เป็นเพื่อนสนิท มีอะไรปรึกษากันได้ ผมอยู่แบบนี้มาเป็นปีๆ จนถึงช่วงม.5 เทอม2 ผมได้รับงบจากเบื้องบน(แม่) ให้มาหาหออยู่ในตัวเมืองเพราะว่าจะสอบเข้ามหาลัยแล้วจะได้ติวได้ ผมก็หาหอในเมืองได้ เลยเลิกขึ้นรถตู้ไป แต่ผมก็ยังติดต่อกับเธอคนนั้นอยู่ ความสัมพันธ์ในตอนนี้ สนิทกันมากถึงขนาดตอนผมอยู่บ้านเธอจะไปวิ่งด้วยกันกับผมทุกเย็น เวลาเธอทะเลากับแฟนผมก็เป็นคนปลอบ มีเรื่องอะไรปรึกษาผมหมด 
เล่นเกมด้วยกันกับเพื่อนผม จนจบม.5เทอม2 จะขึ้นม.6 ช่วงนี้เธอมีปัญหากับแฟนหนักมากเธอเลยมาปรึกษาผม(ผมไม่ได้ยุหรือสนุบสนุนให้เลิกกันนะครับ) คือแฟนเธอแอบไปมีสัมติงกับรุ่นน้องในวงดนตรีด้วยกันแล้วคนในวงก็เอาเรื่องนี้มาบอกเธอ ผมเลยแนะนำเธอไปว่าถ้าขนาดนี้ก็ปล่อยเด็กนั้นไปเถอะ มันเกินไป เธอก็คิดอยู่สักพัก ก่อนไปปรึกษาเพื่อนอีกคน เพื่อนอีกคนก็ให้คำตอบแนวๆเดียวกันกับผม เธอจึงกลั้นใจบอกเลิกไป ซึ่งตอนช่วงแรกที่เธอบอกเลิก ก็เผ็นผมนี่แหละที่คอยปลอบ คุยโทรศัพท์เป็นเพื่อน ทักมาทีไรผมตอบตลอด จนถึงช่วงนึงที่ผมได้ไปฝึกงานโรงพยาบาลในอำเภอของผม ผมได้เจอกับผู้หญิงคนนึงที่ทำให้ผมใจเต้นได้อีกครั้ง ผมได้เอาเรื่องที่ผมเจอผู้หญิงคนนั้นไปเล่าให้เธอฟัง (ตอนนี้ผมคิดกับเธอแค่เพื่อนสนิทเท่านั้นไม่ได้คิดเกินเลย แต่ก็มีแอบชอบอยู่ แต่พยายามข่มไว้) เธอที่ได้ยินเรื่องที่ผมเล่าก็เลยถามผมว่า ผมชอบผู้หญิงคนนั้นไหม ผมเลยตอบไปแค่ว่า ใจเต้นเฉยๆ เธอที่ได้ยินอย่างนั้นก็บอกกับผมว่า “กูชอบนะ” จังหวะนั้นผมสตั๊นไป 10นาทีได้ ผมเลยถามเธอไปว่า “แน่ใจนะ ไม่ใช่ว่าชั่ววูบเพราะหันมาทีไรก็เจอกูหรอกนะ ลองกลับเอาไปคิดใหม่แล้วค่อยมาบอก” แล้วผมก็วางสายไป จังหวะนั้นช็อคมาก ไม่คิดไม่ฝันมาก่อน คืนนั้นผมนอนไม่หลับทั้งคืนจนกระทั่งช่วงเย็นของอีกวันเธอโทรมาหาผม แล้วบอกว่า”กูคิดดีแล้ว กูชอบจริงๆนะ” 
ผมเลยถาม”ทำไม เพราอะไร” เธอบอก “ที่ผ่านมาเทคแคร์ดูแลกูดีมาก เป็นห่วงกู อยู่กับกูตลอด และหลายๆอย่าง แต่ที่แน่ๆ กูชอบ” ผมที่ได้ยินอย่างนั้นก็เลยตอบกลับไปว่า” กูก็ชอบเหมือนกัน “ แล้วเธอก็พูดว่า “งั้นเราลองคุยกันดูไหม(จังหวะนี้ในใจผมที่พยายามข่มความชอบเธอเอาไว้มันระเบิดออกหมดเลย) “ ผมเลยตอบว่า “ก็ได้ลองดูไม่เสียหาย” (เรื่องราวทั้งหมดนี้เกิดขึ้นหลัฃจากที่เธอเลิกกับแฟนเก่าได้ประมาณ3เดือน) เปิดเทอมช่วงม.6เทอม1 วันแรกมาผมก็ไปเซอร์วิชถึงที่เลย ซื้ออาหารเช้าไปให้ ขนม น้ำสารพัด ผ่านไปได้สักประมาณ3อาทิตย์ ทุกอย่างดีมาก  ผมบอกเพื่อนว่าคุยกับคนนี้อยู่เพื่อนก็ ยินดี เธอก็พาผมไปแนะนำกับเพื่อนเธอ(ช่วงนี้ผมหลงรักมาๆจริงๆโงหัวไม่ขึ้น เป็นครั้งแรกที่มีความรัก ไม่อยากมีคนอื่นแล้ว) แต่แล้วมันก็มีเหตุการที่ช็อคมากสำหรับผมเกิดขึ้น เป็นเหตุการที่ทำให้ผมจำฝังใจไม่เคยลืมเลย เป็นเหตุการที่ไม่คิดว่าจะเจอกับตัวเอง วันนั้นผมก็ไปเล่นกับเธอกับเพื่อนเธอปกติ เป็นเกมการ์ดเล่นกัน8-10คน แต่ผมไม่ได้เล่นด้วยเพราะไม่ชอบ เธอเลยให้โทรศัพท์ผมมาเล่นเกม ผมเล่นไปได้สักระยะเบื่อ อยากดูยูทูปเลยเลื่อนจอขึ้นมา(เป็นIPhone นะครับ) มันขึ้นหน้าต่างแอพพลิเคชันขึ้นมาผมก็ไล่ปัดไปทีละอัน แต่ไปสะดุดกับอันที่เป็นmessenger มันขึ้นเป็นรูปแฟนเก่าของเธอ(จังหวะนี้เริ่มใจไม่ดีแล้ว) แต่มาขนาดนี้แล้ว เลยกดเข้าไปดูสิ่งผมเห็นคือเป็นแชทของเธอกับแฟนเก่าที่เธอพิมพ์ส่งไปว่า “เป็นยังไงบ้างช่วงนี้ เห็นแสดงบ่อย” เด็กคนนั้นตอบ “ก็เรื่อยๆปกตินะพี่” เธอตอบ”พี่มีเรื่องจะปรึกษาหน่อยว่างไหม” เด็กนั้นตอบ” ได้ครับ” เธอพิมพ์ไปว่า”พี่มีเพื่อนคนนึง(เพื่อนคนนั้นหมายถึงตัวเธอเอง) มีคนคุย(หมายถึงผมเอง)รุ่นเดียวกัน แต่เพื่อนพี่รู้สึกยังไม่อยากมีใครควรทำยังไงดี” น้องนั้นตอบ “ก็บอกเพื่อนพี่ปล่อยเขาไปเถอะ ไม่สบายใจก็อย่าอยู่เลย” เธอตอบว่า”เพื่อนพี่บอกกลัวคนนั้นจะเสียใจนะสิ” น้องนั้นบอก”ไม่เป็นไรหรอก สนใจตัวเองดีกว่า” จริงๆยังไม่จบนะครับ แต่ผมอ่านต่อไม่ไหวผมรับวิ่งไปห้องน้ำเลย ไปปล่อยโฮ 1รอบ แล้วกลับมาที่เดิน เธอถามผมว่า เป็นอะไรรึป่าว ผมก็บอกว่าไม่ จังหวะนั้นเพื่อนผมมารับพอดี(ผมไม่มีรถมอไซต์เลยไปกลับกับเพื่อน)เพื่อนผมมาประมาณ5คน รถ3คัน ผมก็เลยบอกเธอว่าผมกลับก่อนนะ พอผมขึ้นซ้อนเพื่อนปุ๊บน้ำตาไหลหลอกเลยครับ เต็มหลังเพื่อนเลย เพื่อนถามว่าเป็นอะไร ผมพูดอะไรไม่ออกเลยบอกมันไปว่ากลับหอก่อนเดี๋ยวเล่า พอถึงห้อง ผมลงไปนอนที่พื้นแล้วดึงผ้าห่มมาปิดหน้าเลยครับ เพื่อนผมก็เป็ยห่วงเลยถามว่าเป็นอะไรผมเลยเล่าให้เพื่อนฟัง ทีนี้เป็นเรื่องใหญ่เลยเพื่อน ตามเืพ่อนคนที่เหลือมารวมๆกันประมาณ 10-12คนได้(จังหวะนั้นผมไม่ได้นับร้องไห้อยู่5555)
เพื่อนผมพอรู้เรื่องเข้าก็พากันปลอบ ผมหมกตังอยู่ในห้องประมาณ3อาทิตย์ ก่อนที่จะเริ่มออกไปข้างนอก
ใน3อาทิตย์ที่ผมอยู่ในห้องนั้นคือเอาแต่คิดว่าทำไมเรื่องนี่ต้องเกิดขึ้นกับเรา โทษตัวเองว่าเราไม่ดีพอ คิดทุกอย่าง จนผมได้ทักไปหาเพื่อนคนที่เป็นคนให้วาปเธอคนนั้นกับผม เพื่อนผมได้ส่งpodcast ตัวนึงมาให้ผมฟัง เป็นเกี่ยวกับหนังสือชื่อ reason to stay alive
ผมฟังรอบแรก น้ำตาไหลหนักเลยรู้สึกปรงมาก หลังจากฟังครั้งแรก ผมก็ฟังมาตลอดเป็นเวลา2เดือนเต็มๆ
พอเริ่มดีขึ้นผมก็ออกไปเที่ยวคาเฟ่บ้าง ไปออกกำลังกายบ้า จนวันนึงผมไปเที่ยวคอนเสิร์ตแห่งหนึ่งกับเพื่อนๆ แล้วได้เจอกับเธอคนนั้นอีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้ติดต่อกันเลย2เดือน ตอนนั้นเพื่อนผมไม่รู้ว่าเธอก็มางานนี้ซึ่งเพื่อนผมมีคนที่ชอบอยู่ในกลุ่มเดียวกันกับเธอคนนั้น ต่อในคอมเม้นนะครับบ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่