“ธรากร” คว้าแชมป์พล็อตนวนิยายยอดเยี่ยม “ดอกหญ้า” เผยความรู้สึก ครั้งแรกกับรางวัลชนะเลิศ หลังเดินบนเส้นทางนักเขียนมานานกว่า 22 ปี
การประกวดโครงการ “ดอกหญ้าท้าให้เขียน” ยกที่ 1 ประกาศผลพล็อตนวนิยายโดดเด่นที่สุดของเวที “ธรากร” คว้ารางวัลยอดเยี่ยม ด้าน “ทอม สิริ-กิตติศักดิ์ คงคา” ซิวรองอันดับ 1 และรองอันดับ 2 บรรยากศสุดอบอุ่น นักเขียนร่วมส่งกำลังใจให้กัน กรรมการชี้ ภาพรวมพล็อตมีความสดใหม่ หลากหลาย นักเขียนกล้านำเสนอเรื่องตามแนวทางของตัวเอง
หลังจากที่ผ่านด่านการคัดเลือกเป็นรอบๆ จากผลงานเกือบ 300 พล็อต คัดเหลือ 50 และ 23 พล็อต ในที่สุดก็มาถึงการประกาศรางวัลพล็อตนวนิยาย “ดอกหญ้า ท้าให้เขียน” ยกที่ 1 เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2567 ณ อาคารฤทธิ์รัตน ย่านรามคำแหง หัวหมาก ท่ามกลางนักเขียนทั้งหน้าใหม่และเก๋าเวทีร่วมลุ้นรางวัล พร้อมผู้สนใจร่วมงาน
สำหรับผลรางวัล โครงการดอกหญ้าท้าให้เขียน ยกที่ 1 ได้แก่ รางวัลชนะเลิศ, รองอันดับ 1 และรองอันดับ 2 พร้อมรางวัลชมเชยอีก 19 พล็อต (สละสิทธิ์ 1 ท่าน) รวม 22 รางวัล ดังนี้
รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ พล็อตนวนิยายเรื่อง “Save as... My Life สำเนาชีวิต ลิขิตมรณะ” โดย ธรากร ได้รับเกียรติบัตรและเงินรางวัล 10,000 บาท
รางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 1 ได้แก่ พล็อตนวนิยายเรื่อง “๒๕๐๑ เงื่อนเวลาเงาอดีต” โดย ทอม สิริ ได้รับเกียรติบัตรและเงินรางวัล 5,000 บาท
รางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 2 ได้แก่ พล็อตนวนิยายเรื่อง “เรียกข้าว่าเสาหลักของทุนนิยม” โดย กิตติศักดิ์ คงคา ได้รับเกียรติบัตรและเงินรางวัล 3,000 บาท
ธรากร เจ้าของรางวัลชนะเลิศ
ทอม สิริ รองชนะเลิศอันดับ 1
สำหรับรางวัลชมเชย มี 19 รางวัล ได้รับเกียรติบัตรและเงินรางวัล รางวัลละ 1,000 บาท เรียงลำดับตามตัวอักษรชื่อพล็อต ดังนี้
1.พล็อตนวนิยายเรื่อง กลิ่นอาญา โดย นิศากาล
2. พล็อตนวนิยายเรื่อง คำสาปหมู่บ้านลับแล โดย Fuurin Nova
3. พล็อตนวนิยายเรื่อง ฉันจะฆ่าเธอให้ตายในนิยายทุกเรื่องของฉัน โดย สีพรำ
4. พล็อตนวนิยายเรื่อง ดยุกผิวเผือก โดย ไปรษณีย์
5. พล็อตนวนิยายเรื่อง นพนิรันดร์ โดย Vanดาเรีย
6. พล็อตนวนิยายเรื่อง นักเดินทางระหว่างโลกต่างมิติ โดย จุ๊บจอย
7. พล็อตนวนิยายเรื่อง แฝง โดย กัลย์ณิศา
8. พล็อตนวนิยายเรื่อง พันธะรักซ่อนบาป โดย กนิษฐรินทร์
9. พล็อตนวนิยายเรื่อง เพรงปริศนา โดย สุกรม
10. พล็อตนวนิยายเรื่อง ม่านสายหมอก โดย พันภพ
11. พล็อตนวนิยายเรื่อง เรือนอารมณ์ โดย ณัฐพงศ์
12. พล็อตนวนิยายเรื่อง อคาทัส นครใต้อนธการ โดย รตินธร์
13. พล็อตนวนิยายเรื่อง Detective me ! ฉันนี่แหละนักสืบตัวจริง โดย เมฆคราม
14. พล็อตนวนิยายเรื่อง Entangled Destiny คุณผี หยุดสิงผมทีเถอะ! โดย ทิวลิปสีน้ำเงิน
15. พล็อตนวนิยายเรื่อง Honorable Memories โดย BBB-Butterfly
16. พล็อตนวนิยายเรื่อง Lean by Heart รักสุดลีน ปีนบันไดฝัน โดย Meenacreator
17. พล็อตนวนิยายเรื่อง The Color of Sound เพียงจันทร์พบตะวัน โดย เจ้าจันทร์
18. พล็อตนวนิยายเรื่อง The Parkinhaunt โดย ยาหยี นารีลักษณ์
19. พล็อตนวนิยายเรื่อง Venus on the Shore โดย Hermann O’Brien
ทั้งนี้ คณะกรรมการ ได้แก่ นายจรูญพร ปรปักษ์ประลัย นักวิจารณ์, นักเขียน, อาจารย์พิเศษด้านวรรณกรรม เป็นประธานการตัดสิน ร่วมกับ กรรมการอีก 2 ท่าน นายนิพนธ์ เที่ยงธรรม นักเขียนนวนิยาย นามปากกา จุฬามณี, เฟื่องนคร, ชอนตะวัน และนางสาวนันทพร ไวศยะสุวรรณ์ บรรณาธิการและผู้อำนวยการโครงการประกวดดอกหญ้าเฉพาะกิจ ได้ลงมติร่วมกัน พร้อมทั้งประกาศยกย่องผลงานทั้ง 3 เรื่อง ดังนี้
พล็อตนวนิยายรางวัลชนะเลิศ “Save As…My Life สำเนาชีวิต ลิขิตมรณะ” โดยนักเขียน “ธรากร” ว่า เป็นพล็อตนวนิยาย แฟนตาซีแนวตั้งคำถามกับชีวิต และเทคโนโลยีสมัยใหม่ ถ้าเราย้อนกลับไปแก้ไขความผิดพลาดในอดีตได้ เราจะทำหรือไม่ และโลกนี้จะเป็นอย่างไร หากใคร ๆ ก็สามารถ Save As ชีวิตใหม่ได้
‘ธรากร’ นำเสนอพล็อตที่มีความร่วมสมัย มีแก่นของเรื่อง (theme) ที่ชัดเจนให้ผู้อ่านได้ขบคิดตาม ผ่านการดำเนินเรื่องในแบบสืบสวนสอบสวนที่สร้างความอยากรู้ กระตุ้นให้ผู้อ่านติดตามหาคำตอบของปริศนาในเรื่อง ด้วยภาษาในการเขียนพล็อตที่สละสลวย กระชับ ให้รายละเอียดได้อย่างครบถ้วนและแจ่มชัด
ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เรื่อง ๒๕๐๑ เงื่อนเวลาเงาอดีต โดย ทอม สิริ คณะกรรมการมีความเห็นว่า “๒๕๐๑ เงื่อนเวลาเงาอดีต” นวนิยายสืบสวนสอบสวน ซึ่งผูกโยงเรื่องราวเข้ากับประวัติศาสตร์บางหน้าของวงการบันเทิง ในยุคที่ มิตร ชัยบัญชา ยังเป็นพระเอกอันดับ 1 ของเมืองไทย การสืบหาความจริงของคดีฆาตกรรม โดยปราศจากเทคโนโลยีตามหาตัวผู้ก่อเหตุแบบในปัจจุบัน ทุกขณะมีอันตรายให้ต้องระวัง และมีเหตุการณ์ชวนลุ้นระทึกตลอดทั้งเรื่อง
‘ทอม สิริ’ นำเสนอพล็อตได้อย่างน่าติดตาม เต็มไปด้วยสีสันของตัวละคร ฉาก และพฤติกรรมอันสะท้อนธาตุแท้แห่งความเป็นคน กิเลส และการห้ำหั่นเฉือดเฉือน ท่ามกลางบรรยากาศของโลกมายา
สำหรับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 เรื่อง “เรียกข้าว่าเสาหลักของทุนนิยม” โดย กิตติศักดิ์ คงคา คณะกรรมการมีความเห็นว่า เป็นนวนิยายไซไฟที่พาผู้อ่านเดินทางสู่พหุจักรวาล (Multiverse) ซึ่งผู้คน สถานที่ และ เหตุการณ์ต่าง ๆ ผิดแผกไปจากโลกที่เราอยู่ เรื่องราวของการซ้อนทับ และผลเกี่ยวเนื่องจากการกระทำต่าง ๆ ซึ่งสะท้อนว่า ทุกสิ่งที่เราทำอาจส่งผลกระทบมากกว่าที่เราคิด
กิตติศักดิ์ คงคา นำเสนอพล็อตที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนและเงื่อนไขมากมาย หากด้วยการลำดับเรื่องอย่างสอดคล้อง เป็นเหตุเป็นผล เรื่องราวจึงไม่ยากเกินความเข้าใจ อีกทั้งยังมีจุดเปลี่ยนของเรื่องที่เหนือความคาดหมาย สนุก และน่าติดตามอย่างยิ่ง
นอกจากนี้ นายจรูญพร ปรปักษ์ประลัย ประธานการตัดสิน ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงภาพรวมการประกวดครั้งนี้ว่า
“ถ้าพูดถึงพล็อต ผมว่าพล็อตเป็นเหมือนต้นกล้า ไอเดียเริ่มต้นเป็นเมล็ดพันธุ์ จากเมล็ดพันธุ์บ่มเพาะขึ้นมาเป็นต้นกล้า ต้นไม้จะเติบใหญ่งดงามหรือไม่ สำคัญที่จุดนี้ ทางดอกหญ้าจึงได้เปิดเวทีให้นักเขียนทั้งเก่าและใหม่มาประชันพล็อตกัน
“แรก ๆ ก็ลุ้นกันว่า งานที่ส่งเข้ามาจะเป็นอย่างไร จนเมื่อได้เห็นงาน ต้องบอกเลยว่า ใจเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น ทั้งกับปริมาณและคุณภาพ
“พล็อตจำนวนมากมีความสดใหม่ ไม่วนเวียนอยู่กับเรื่องเดิม ๆ อีกต่อไป อาจเพราะทุกวันนี้โลกเปิดกว้าง มีสื่อจากทั่วโลกให้คนไทยได้เสพ ได้อ่าน ได้ดูกัน เราจึงมีโอกาสได้ศึกษาเรียนรู้ จนคิดอะไรไปไกลชนิดไม่น้อยหน้าชาติใดในโลก
“นอกจากความสดใหม่ พล็อตยังเต็มไปด้วยความหลากหลาย มีทั้งไซไฟ แฟนตาซี อิงประวัติศาสตร์ เรื่องแนววาย ฆาตกรรม สืบสวนสอบสวน ตลก รัก เสียดสี แอ๊คชันมีหมด สะท้อนว่านักเขียนเรามีความสนใจที่กว้างมากขึ้น แต่ละคนยังมีความมั่นใจ กล้านำเสนอเรื่องราวตามแนวทางของตัวเองอย่างชัดเจน
“สุดท้ายคงเป็นเรื่องของศิลปะการเล่าเรื่อง ที่ต้องบอกว่า ชั้นเชิงของหลายคนนี่สุดยอดจริง ๆ เขียนได้น่าติดตาม หักมุมแล้วหักมุมอีก มีอะไรแปลก ๆ ให้เซอร์ไพรซ์ได้ตลอด”
นายจรูญพร ยังกล่าวด้วยว่า การประกวดพล็อตในครั้งนี้จึงถือเป็นอีกก้าวที่สำคัญ ทำให้เชื่อมั่นว่า วรรณกรรมไทยจะไม่มีวันตาย ตรงกันข้าม จะยิ่งเติบโตด้วยพัฒนาการที่รุดหน้าไปอย่างไม่หยุดยั้ง ด้วยพลังอันเต็มเปี่ยมของนักเขียนรุ่นใหม่
ด้านนักเขียนเจ้าของรางวัลชนะเลิศ “ธรากร” ผู้เขียน Save As... My Life สำเนาชีวิต ลิขิตมรณะ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว หลังรับรางวัลด้วยความรู้สึกปลื้มใจที่สุด เพราะที่ผ่านมาต้องเจอกับอุปสรรคมากมาย แต่ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจเดินบนเส้นทางนักเขียนที่ตัวเองรัก
“ขอขอบพระคุณ สำนักพิมพ์ DOKYA 2024 ผู้จัดโครงการ คุณจิตติ หนูสุข
คณะกรรมการ คุณจรูญพร ปรปักษ์ประลัย, คุณนิพนธ์ เที่ยงธรรม (จุฬามณี), คุณนันทพร ไวศยะสุวรรณ์ โค้ชพี่เลี้ยง คุณจเด็จ กำจรเดช และเพื่อน ๆ นักเขียนผู้ร่วมโครงการทุกคนนะครับ ที่มอบรางวัลให้กับพล็อตนวนิยายเรื่องนี้
“นี่นับเป็นการประกวดรางวัลแรกที่ผมได้รับ "รางวัลชนะเลิศ" หลังจากที่เขียนนวนิยายมาตั้งแต่อายุ 16 ปี และปัจจุบัน ก็เป็นนักเขียนมาเกือบ 22 ปีแล้ว ที่ผ่านมามีทั้งเข้ารอบสุดท้าย ไม่เข้ารอบเลย จนหลายครั้งก็รู้สึกไม่อยากส่งงานประกวดเวทีไหนอีกแล้ว
“ตลอด 22 ปีที่อยู่ในแวดวงนักเขียน แม้จะมีผลงานตีพิมพ์ รวมทั้งได้รับการนำไปสร้างเป็นละครโทรทัศน์มาแล้วหลายเรื่อง แต่มีช่วงเวลาที่ท้อแท้ หันหลังให้กับวงการนี้อยู่หลายครั้ง บางความผิดหวัง ทำให้หมดไฟ (Burnout) จนป่วยหนัก
จ้องหน้าจอโปรแกรมเอกสาร แต่เขียนอะไรไม่ออกเลยอยู่เป็นปี ๆ
“สุดท้าย ในวันที่ชีวิตรอดพ้นจากความตายอย่างฉิวเฉียด ทำให้เกิดคำถามกับตัวเองว่า ถ้าเราเหลือเวลาอีกไม่มาก เราเกิดมาเพื่ออะไร และสิ่งที่ต้องการจะทำคืออะไร คำตอบแรกที่ผุดขึ้นมาในใจ คือ เราเกิดมาเพื่อเป็นนักเขียน เราจะเขียนงานที่คิดค้างไว้ทั้งหมด และต้องเขียนให้ดีด้วย เพราะถ้าวันหนึ่งเราต้องจากโลกนี้ไป งานที่ดีจะอยู่ต่อแทนเรา โครงการประกวดนี้ เข้ามาในช่วงที่กำลังรวบรวมพลกำลังกลับมา เพื่อเขียนงานอีกครั้ง
“พล็อตเรื่องนี้ ก็เกิดขึ้นจากห้วงความคิดที่รู้สึกกับตัวเองว่า เราไม่พอใจชีวิตหลาย ๆ ช่วงของตนเอง อยากกลับไปแก้ไขให้ได้ดั่งใจ ทำไมชีวิตจริงไม่มีจุดเซฟเหมือนเวลาเล่นเกม ให้เราคอยกดเซฟบ้าง เจอเรื่องร้าย ๆ จะได้กลับไปโหลดเซฟใหม่ แล้วเลือกเดินทางเลือกใหม่ แต่จริง ๆ เราจำเป็นต้องมีชีวิตที่ได้ดั่งใจในทุก ๆ เรื่องหรือ ?
“ซึ่งคำถามนี้ เป็นสิ่งที่ เด๊ะ กับ เฮเวล ตัวละครเอกของเรื่อง รวมทั้งตัวผู้เขียนเองกำลังหาคำตอบ และรอให้ผู้อ่านร่วมหาคำตอบไปด้วยกัน รอติดตามนวนิยายฉบับสมบูรณ์กันด้วยนะครับ”


“ธรากร” คว้าแชมป์พล็อตนวนิยายยอดเยี่ยม “ดอกหญ้า” กับรางวัลชนะเลิศ หลังเดินบนเส้นทางนักเขียนมานานกว่า 22 ปี
หลังจากที่ผ่านด่านการคัดเลือกเป็นรอบๆ จากผลงานเกือบ 300 พล็อต คัดเหลือ 50 และ 23 พล็อต ในที่สุดก็มาถึงการประกาศรางวัลพล็อตนวนิยาย “ดอกหญ้า ท้าให้เขียน” ยกที่ 1 เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2567 ณ อาคารฤทธิ์รัตน ย่านรามคำแหง หัวหมาก ท่ามกลางนักเขียนทั้งหน้าใหม่และเก๋าเวทีร่วมลุ้นรางวัล พร้อมผู้สนใจร่วมงาน
สำหรับผลรางวัล โครงการดอกหญ้าท้าให้เขียน ยกที่ 1 ได้แก่ รางวัลชนะเลิศ, รองอันดับ 1 และรองอันดับ 2 พร้อมรางวัลชมเชยอีก 19 พล็อต (สละสิทธิ์ 1 ท่าน) รวม 22 รางวัล ดังนี้
รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ พล็อตนวนิยายเรื่อง “Save as... My Life สำเนาชีวิต ลิขิตมรณะ” โดย ธรากร ได้รับเกียรติบัตรและเงินรางวัล 10,000 บาท
รางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 1 ได้แก่ พล็อตนวนิยายเรื่อง “๒๕๐๑ เงื่อนเวลาเงาอดีต” โดย ทอม สิริ ได้รับเกียรติบัตรและเงินรางวัล 5,000 บาท
รางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 2 ได้แก่ พล็อตนวนิยายเรื่อง “เรียกข้าว่าเสาหลักของทุนนิยม” โดย กิตติศักดิ์ คงคา ได้รับเกียรติบัตรและเงินรางวัล 3,000 บาท
1.พล็อตนวนิยายเรื่อง กลิ่นอาญา โดย นิศากาล
2. พล็อตนวนิยายเรื่อง คำสาปหมู่บ้านลับแล โดย Fuurin Nova
3. พล็อตนวนิยายเรื่อง ฉันจะฆ่าเธอให้ตายในนิยายทุกเรื่องของฉัน โดย สีพรำ
4. พล็อตนวนิยายเรื่อง ดยุกผิวเผือก โดย ไปรษณีย์
5. พล็อตนวนิยายเรื่อง นพนิรันดร์ โดย Vanดาเรีย
6. พล็อตนวนิยายเรื่อง นักเดินทางระหว่างโลกต่างมิติ โดย จุ๊บจอย
7. พล็อตนวนิยายเรื่อง แฝง โดย กัลย์ณิศา
8. พล็อตนวนิยายเรื่อง พันธะรักซ่อนบาป โดย กนิษฐรินทร์
9. พล็อตนวนิยายเรื่อง เพรงปริศนา โดย สุกรม
10. พล็อตนวนิยายเรื่อง ม่านสายหมอก โดย พันภพ
11. พล็อตนวนิยายเรื่อง เรือนอารมณ์ โดย ณัฐพงศ์
12. พล็อตนวนิยายเรื่อง อคาทัส นครใต้อนธการ โดย รตินธร์
13. พล็อตนวนิยายเรื่อง Detective me ! ฉันนี่แหละนักสืบตัวจริง โดย เมฆคราม
14. พล็อตนวนิยายเรื่อง Entangled Destiny คุณผี หยุดสิงผมทีเถอะ! โดย ทิวลิปสีน้ำเงิน
15. พล็อตนวนิยายเรื่อง Honorable Memories โดย BBB-Butterfly
16. พล็อตนวนิยายเรื่อง Lean by Heart รักสุดลีน ปีนบันไดฝัน โดย Meenacreator
17. พล็อตนวนิยายเรื่อง The Color of Sound เพียงจันทร์พบตะวัน โดย เจ้าจันทร์
18. พล็อตนวนิยายเรื่อง The Parkinhaunt โดย ยาหยี นารีลักษณ์
19. พล็อตนวนิยายเรื่อง Venus on the Shore โดย Hermann O’Brien
พล็อตนวนิยายรางวัลชนะเลิศ “Save As…My Life สำเนาชีวิต ลิขิตมรณะ” โดยนักเขียน “ธรากร” ว่า เป็นพล็อตนวนิยาย แฟนตาซีแนวตั้งคำถามกับชีวิต และเทคโนโลยีสมัยใหม่ ถ้าเราย้อนกลับไปแก้ไขความผิดพลาดในอดีตได้ เราจะทำหรือไม่ และโลกนี้จะเป็นอย่างไร หากใคร ๆ ก็สามารถ Save As ชีวิตใหม่ได้
‘ธรากร’ นำเสนอพล็อตที่มีความร่วมสมัย มีแก่นของเรื่อง (theme) ที่ชัดเจนให้ผู้อ่านได้ขบคิดตาม ผ่านการดำเนินเรื่องในแบบสืบสวนสอบสวนที่สร้างความอยากรู้ กระตุ้นให้ผู้อ่านติดตามหาคำตอบของปริศนาในเรื่อง ด้วยภาษาในการเขียนพล็อตที่สละสลวย กระชับ ให้รายละเอียดได้อย่างครบถ้วนและแจ่มชัด
ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เรื่อง ๒๕๐๑ เงื่อนเวลาเงาอดีต โดย ทอม สิริ คณะกรรมการมีความเห็นว่า “๒๕๐๑ เงื่อนเวลาเงาอดีต” นวนิยายสืบสวนสอบสวน ซึ่งผูกโยงเรื่องราวเข้ากับประวัติศาสตร์บางหน้าของวงการบันเทิง ในยุคที่ มิตร ชัยบัญชา ยังเป็นพระเอกอันดับ 1 ของเมืองไทย การสืบหาความจริงของคดีฆาตกรรม โดยปราศจากเทคโนโลยีตามหาตัวผู้ก่อเหตุแบบในปัจจุบัน ทุกขณะมีอันตรายให้ต้องระวัง และมีเหตุการณ์ชวนลุ้นระทึกตลอดทั้งเรื่อง
‘ทอม สิริ’ นำเสนอพล็อตได้อย่างน่าติดตาม เต็มไปด้วยสีสันของตัวละคร ฉาก และพฤติกรรมอันสะท้อนธาตุแท้แห่งความเป็นคน กิเลส และการห้ำหั่นเฉือดเฉือน ท่ามกลางบรรยากาศของโลกมายา
สำหรับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 เรื่อง “เรียกข้าว่าเสาหลักของทุนนิยม” โดย กิตติศักดิ์ คงคา คณะกรรมการมีความเห็นว่า เป็นนวนิยายไซไฟที่พาผู้อ่านเดินทางสู่พหุจักรวาล (Multiverse) ซึ่งผู้คน สถานที่ และ เหตุการณ์ต่าง ๆ ผิดแผกไปจากโลกที่เราอยู่ เรื่องราวของการซ้อนทับ และผลเกี่ยวเนื่องจากการกระทำต่าง ๆ ซึ่งสะท้อนว่า ทุกสิ่งที่เราทำอาจส่งผลกระทบมากกว่าที่เราคิด
กิตติศักดิ์ คงคา นำเสนอพล็อตที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนและเงื่อนไขมากมาย หากด้วยการลำดับเรื่องอย่างสอดคล้อง เป็นเหตุเป็นผล เรื่องราวจึงไม่ยากเกินความเข้าใจ อีกทั้งยังมีจุดเปลี่ยนของเรื่องที่เหนือความคาดหมาย สนุก และน่าติดตามอย่างยิ่ง
นอกจากนี้ นายจรูญพร ปรปักษ์ประลัย ประธานการตัดสิน ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงภาพรวมการประกวดครั้งนี้ว่า
“ถ้าพูดถึงพล็อต ผมว่าพล็อตเป็นเหมือนต้นกล้า ไอเดียเริ่มต้นเป็นเมล็ดพันธุ์ จากเมล็ดพันธุ์บ่มเพาะขึ้นมาเป็นต้นกล้า ต้นไม้จะเติบใหญ่งดงามหรือไม่ สำคัญที่จุดนี้ ทางดอกหญ้าจึงได้เปิดเวทีให้นักเขียนทั้งเก่าและใหม่มาประชันพล็อตกัน
“แรก ๆ ก็ลุ้นกันว่า งานที่ส่งเข้ามาจะเป็นอย่างไร จนเมื่อได้เห็นงาน ต้องบอกเลยว่า ใจเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น ทั้งกับปริมาณและคุณภาพ
“พล็อตจำนวนมากมีความสดใหม่ ไม่วนเวียนอยู่กับเรื่องเดิม ๆ อีกต่อไป อาจเพราะทุกวันนี้โลกเปิดกว้าง มีสื่อจากทั่วโลกให้คนไทยได้เสพ ได้อ่าน ได้ดูกัน เราจึงมีโอกาสได้ศึกษาเรียนรู้ จนคิดอะไรไปไกลชนิดไม่น้อยหน้าชาติใดในโลก
“นอกจากความสดใหม่ พล็อตยังเต็มไปด้วยความหลากหลาย มีทั้งไซไฟ แฟนตาซี อิงประวัติศาสตร์ เรื่องแนววาย ฆาตกรรม สืบสวนสอบสวน ตลก รัก เสียดสี แอ๊คชันมีหมด สะท้อนว่านักเขียนเรามีความสนใจที่กว้างมากขึ้น แต่ละคนยังมีความมั่นใจ กล้านำเสนอเรื่องราวตามแนวทางของตัวเองอย่างชัดเจน
“สุดท้ายคงเป็นเรื่องของศิลปะการเล่าเรื่อง ที่ต้องบอกว่า ชั้นเชิงของหลายคนนี่สุดยอดจริง ๆ เขียนได้น่าติดตาม หักมุมแล้วหักมุมอีก มีอะไรแปลก ๆ ให้เซอร์ไพรซ์ได้ตลอด”
นายจรูญพร ยังกล่าวด้วยว่า การประกวดพล็อตในครั้งนี้จึงถือเป็นอีกก้าวที่สำคัญ ทำให้เชื่อมั่นว่า วรรณกรรมไทยจะไม่มีวันตาย ตรงกันข้าม จะยิ่งเติบโตด้วยพัฒนาการที่รุดหน้าไปอย่างไม่หยุดยั้ง ด้วยพลังอันเต็มเปี่ยมของนักเขียนรุ่นใหม่
ด้านนักเขียนเจ้าของรางวัลชนะเลิศ “ธรากร” ผู้เขียน Save As... My Life สำเนาชีวิต ลิขิตมรณะ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว หลังรับรางวัลด้วยความรู้สึกปลื้มใจที่สุด เพราะที่ผ่านมาต้องเจอกับอุปสรรคมากมาย แต่ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจเดินบนเส้นทางนักเขียนที่ตัวเองรัก
“ขอขอบพระคุณ สำนักพิมพ์ DOKYA 2024 ผู้จัดโครงการ คุณจิตติ หนูสุข
คณะกรรมการ คุณจรูญพร ปรปักษ์ประลัย, คุณนิพนธ์ เที่ยงธรรม (จุฬามณี), คุณนันทพร ไวศยะสุวรรณ์ โค้ชพี่เลี้ยง คุณจเด็จ กำจรเดช และเพื่อน ๆ นักเขียนผู้ร่วมโครงการทุกคนนะครับ ที่มอบรางวัลให้กับพล็อตนวนิยายเรื่องนี้
“นี่นับเป็นการประกวดรางวัลแรกที่ผมได้รับ "รางวัลชนะเลิศ" หลังจากที่เขียนนวนิยายมาตั้งแต่อายุ 16 ปี และปัจจุบัน ก็เป็นนักเขียนมาเกือบ 22 ปีแล้ว ที่ผ่านมามีทั้งเข้ารอบสุดท้าย ไม่เข้ารอบเลย จนหลายครั้งก็รู้สึกไม่อยากส่งงานประกวดเวทีไหนอีกแล้ว
“ตลอด 22 ปีที่อยู่ในแวดวงนักเขียน แม้จะมีผลงานตีพิมพ์ รวมทั้งได้รับการนำไปสร้างเป็นละครโทรทัศน์มาแล้วหลายเรื่อง แต่มีช่วงเวลาที่ท้อแท้ หันหลังให้กับวงการนี้อยู่หลายครั้ง บางความผิดหวัง ทำให้หมดไฟ (Burnout) จนป่วยหนัก
จ้องหน้าจอโปรแกรมเอกสาร แต่เขียนอะไรไม่ออกเลยอยู่เป็นปี ๆ
“สุดท้าย ในวันที่ชีวิตรอดพ้นจากความตายอย่างฉิวเฉียด ทำให้เกิดคำถามกับตัวเองว่า ถ้าเราเหลือเวลาอีกไม่มาก เราเกิดมาเพื่ออะไร และสิ่งที่ต้องการจะทำคืออะไร คำตอบแรกที่ผุดขึ้นมาในใจ คือ เราเกิดมาเพื่อเป็นนักเขียน เราจะเขียนงานที่คิดค้างไว้ทั้งหมด และต้องเขียนให้ดีด้วย เพราะถ้าวันหนึ่งเราต้องจากโลกนี้ไป งานที่ดีจะอยู่ต่อแทนเรา โครงการประกวดนี้ เข้ามาในช่วงที่กำลังรวบรวมพลกำลังกลับมา เพื่อเขียนงานอีกครั้ง
“พล็อตเรื่องนี้ ก็เกิดขึ้นจากห้วงความคิดที่รู้สึกกับตัวเองว่า เราไม่พอใจชีวิตหลาย ๆ ช่วงของตนเอง อยากกลับไปแก้ไขให้ได้ดั่งใจ ทำไมชีวิตจริงไม่มีจุดเซฟเหมือนเวลาเล่นเกม ให้เราคอยกดเซฟบ้าง เจอเรื่องร้าย ๆ จะได้กลับไปโหลดเซฟใหม่ แล้วเลือกเดินทางเลือกใหม่ แต่จริง ๆ เราจำเป็นต้องมีชีวิตที่ได้ดั่งใจในทุก ๆ เรื่องหรือ ?
“ซึ่งคำถามนี้ เป็นสิ่งที่ เด๊ะ กับ เฮเวล ตัวละครเอกของเรื่อง รวมทั้งตัวผู้เขียนเองกำลังหาคำตอบ และรอให้ผู้อ่านร่วมหาคำตอบไปด้วยกัน รอติดตามนวนิยายฉบับสมบูรณ์กันด้วยนะครับ”