ราคาน้ำมันปรับลดในวันจันทร์(22เม.ย.) นักลงทุนมองว่ามีความเสี่ยงในระยะใกล้เพียงเล็กน้อยที่ความขัดแย้งตะวันออกกลางจะส่งผลกระทบกับตลาด ปัจจัยดังกล่าวฉุดทองคำขยับลงมากกว่า 2% ขณะที่วอลล์สตรีทปิดบวก จับตารายงานผลประกอบการหลายบริษัทในสัปดาห์นี้
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 29 เซนต์ ปิดที่ 82.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 29 เซนต์ ปิดที่ 87.00 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
จิโอวานนี สเตราโนโว นักยุทธศาสตร์จากยูบีเอส ให้ความเห็นว่า แนวโน้มความเสี่ยงระดับสูงทางภูมิรัฐศาสตร์จะอยู่ไม่นานนัก หากความขัดแย้งในตะวันออกกลางไม่ก่อความวุ่นวายต่ออุปทานอย่างแท้จริง โดยชี้ว่ามีโอกาสสูงมากที่บรรดาผู้ผลิตน้ำมันบางชาติจะสามารถชดเชยปัญหาความปั่นป่วนทางอุปทานใดๆ
ทามาส วาร์กา จากพีวีเอ็ม โบรคเกอร์น้ำมัน ชี้ว่าแนวโน้มราคาน้ำมันดีดตัวระดับสูงเป็นเวลานาน จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อช่องแคบฮอร์มุซ เส้นเลือดน้ำมันที่สำคัญที่สุดของโลก ก่อความวุ่นวายหรือซาอุดีอาระเบียถูกลากเข้าสู่ความขัดแย้งโดยตรง ซึ่งปัจจุบันยังไม่เป็นเช่นนั้น
ความกังวลที่ลดลงต่อสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ผลักนักลงทุนเมินสินทรัพย์เสี่ยงต่ำและฉุดราคาทองคำปรับลดมากกว่า 2% ในวันจันทร์(22เม.ย.) โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 67.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 2,346.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดบวกในวันจันทร์(22เม.ย.) นักลงทุนจับตาในสัปดาห์แห่งการรายงานผลประกอบการรายไตรมาสของบริษัทสำคัญๆหลายแห่ง ที่จะมอบเค้าลางแห่งสถานะทางเศรษฐกิจของอเมริกา
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 253.58 จุด (0.67 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 38,239.98 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 43.37 จุด (0.87 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,010.60 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 169.29 จุด (1.11 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,451.30 จุด
แอสแอนด์พี500 และแนสแดค ฟื้นตัวจากการแกว่งตัวลงตลอดการซื้อขายช่วง 6 วันที่ผ่านมา ซึ่งมีต้นตอจากการที่นักลงทุนทบทวนใหม่เกี่ยวกับความคาดหมายของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐฯ ตามหลังข้อมูลเศรษฐกิจแข็งแกร่ง ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ เงินเฟ้อเรื้อรังและความเห็นจากบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางอเมริกา
นักลงทุนในตลาดพุ่งเป้าความสนใจไปที่รายงานผลประกอบการรายไตรมาสของบรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งในสัปดาห์นี้ ในนั้นรวมถึงหุ้นกลุ่มที่เรียกว่า Magnificent Seven ที่ประกอบด้วยบริษัทชื่อดังต่างๆ อาทิ เทสลา, เมตา แฟลตฟอร์มส์, อัลฟาเบ็ท บริษัทแม่ของกูเกิล และ ไมโครซอฟต์
(ที่มา:รอยเตอร์)
Cr.
https://mgronline.com/around/detail/9670000034970
น้ำมันลง-ทองร่วง$67คลายกังวลวิกฤตตอ.กลาง หุ้นสหรัฐฯบวกจับตาผลประกอบการ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 29 เซนต์ ปิดที่ 82.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 29 เซนต์ ปิดที่ 87.00 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
จิโอวานนี สเตราโนโว นักยุทธศาสตร์จากยูบีเอส ให้ความเห็นว่า แนวโน้มความเสี่ยงระดับสูงทางภูมิรัฐศาสตร์จะอยู่ไม่นานนัก หากความขัดแย้งในตะวันออกกลางไม่ก่อความวุ่นวายต่ออุปทานอย่างแท้จริง โดยชี้ว่ามีโอกาสสูงมากที่บรรดาผู้ผลิตน้ำมันบางชาติจะสามารถชดเชยปัญหาความปั่นป่วนทางอุปทานใดๆ
ทามาส วาร์กา จากพีวีเอ็ม โบรคเกอร์น้ำมัน ชี้ว่าแนวโน้มราคาน้ำมันดีดตัวระดับสูงเป็นเวลานาน จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อช่องแคบฮอร์มุซ เส้นเลือดน้ำมันที่สำคัญที่สุดของโลก ก่อความวุ่นวายหรือซาอุดีอาระเบียถูกลากเข้าสู่ความขัดแย้งโดยตรง ซึ่งปัจจุบันยังไม่เป็นเช่นนั้น
ความกังวลที่ลดลงต่อสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ผลักนักลงทุนเมินสินทรัพย์เสี่ยงต่ำและฉุดราคาทองคำปรับลดมากกว่า 2% ในวันจันทร์(22เม.ย.) โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 67.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 2,346.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดบวกในวันจันทร์(22เม.ย.) นักลงทุนจับตาในสัปดาห์แห่งการรายงานผลประกอบการรายไตรมาสของบริษัทสำคัญๆหลายแห่ง ที่จะมอบเค้าลางแห่งสถานะทางเศรษฐกิจของอเมริกา
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 253.58 จุด (0.67 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 38,239.98 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 43.37 จุด (0.87 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,010.60 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 169.29 จุด (1.11 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,451.30 จุด
แอสแอนด์พี500 และแนสแดค ฟื้นตัวจากการแกว่งตัวลงตลอดการซื้อขายช่วง 6 วันที่ผ่านมา ซึ่งมีต้นตอจากการที่นักลงทุนทบทวนใหม่เกี่ยวกับความคาดหมายของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐฯ ตามหลังข้อมูลเศรษฐกิจแข็งแกร่ง ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ เงินเฟ้อเรื้อรังและความเห็นจากบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางอเมริกา
นักลงทุนในตลาดพุ่งเป้าความสนใจไปที่รายงานผลประกอบการรายไตรมาสของบรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งในสัปดาห์นี้ ในนั้นรวมถึงหุ้นกลุ่มที่เรียกว่า Magnificent Seven ที่ประกอบด้วยบริษัทชื่อดังต่างๆ อาทิ เทสลา, เมตา แฟลตฟอร์มส์, อัลฟาเบ็ท บริษัทแม่ของกูเกิล และ ไมโครซอฟต์
(ที่มา:รอยเตอร์)
Cr. https://mgronline.com/around/detail/9670000034970