[CR] Osaka - Kyoto รีวิวเที่ยวโอซาก้า เกียวโต เดือนเมษา ซากุระสวยมาก 🌸

Day 1 เริ่มต้นทริป โอซาก้า เกียวโต 2024 ไปดูซากุระกัน 
ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ 20.00 วันที่ 2/04/2024 รอบนี้เราบิน Japan Airlines นะคะ เป็นสายการบิน Full Service เป็นครั้งแรกเลยที่นั่ง JAL ประทับใจเลย เวลาบินดี บินตรง ได้นํ้าหนักกระเป๋า 23 กิโล 2 ใบ / คน ไม่รวมถือขึ้นเครื่องอีกคนละ 7 กิโล จุใจมาก อาหารเช้าก็ตามสไตส์ญี่ปุ่น โจ๊กเบา ๆ อร่อยดีค่ะ จอไม่ได้ดูเลย หลับตั้งแต่เครื่องยังไม่ออก ยันเครื่องลง ที่นั่งสบาย แถวเชคอินก็ไม่ยาวทั้งไปและกลับ
ถึงสนามบินคันไซเช้าวันที่ 03/04/2024 ประมาณ 07.30 รับกระเป๋า ตม ไปจนถึงศุลกากร น่าจะใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที ทุกอย่างเร็วมาก ตอนนี้การลง Visit Japan ก็ยังสะดวกสบายกว่าไม่ลงนะคะ การเดินทางจากสนามบินคันไซ ไปในเมืองโอซาก้า เราจองเป็น JR Haruka ที่เป็นรถไฟ Kitty จาก App Trip ที่จองอันนี้เพราะอยากนั่งรถไฟคิตตี้แค่นี้เลย: ) 
พอจองแล้วเราจะได้ QR Code มา ก็มาออกตั๋วที่ตู้ตรงนี้นะคะ Scan QR code ของเราที่ตู้ ขึ้นมาชั้น 2F หลังผ่านทุกอย่างมาแล้ว และเดินตามป้ายรถไฟได้เลยค่ะ สนามบินคันไซไม่ใหญ่เท่านาริตะ หาไม่ยากค่ะ 
จากสนามบินคันไซ เราลงที่สถานี Tennoji Station นะคะ แล้วก็เปลี่ยนสายไป Midosuji Line ไปลงสถานี Yodoyabashi Station เพื่อไปโรงแรม Sotetsu Fresa Inn Yodoyabashi การเดินทางในโอซาก้าเราไม่ได้ซื้อพาสใดๆ ใช้บัตร Pasmo ที่มีอยู่แล้ว มาครั้งนี้ก็เติมเงินเอาค่ะ
ที่เราเลือกโรงแรมนี้ สาขานี้ เพราะ พอขยับย่านมาหน่อยราคา รร ก็จะไม่แพงมาก เพราะช่วงที่ไปเป็นไฮซีซันด้วยและก็ไม่ไกลจากนัมบะ แถมย่านนี้ก็มีความสงบไม่พลุกพล่าน เหมาะกับพักผ่อน บรรยากาศดี คาเฟ่ย่านนี้เยอะ รร เชื่อมกับสถานีใต้ดินเลย ไปไหนสะดวก ไปเกียวโตต่อก็ง่าย ที่นี่เช็คอินด้วยตัวเอง ผ่านตู้อัตโนมัติได้เลยค่ะ 
เริ่มต้นเที่ยววันแรก ฝนก็ตกฉํ่า มาญี่ปุ่นทุกครั้งฝนตกทุกครั้ง พยากรณ์บอกว่าตกทั้งวัน เลยเปลี่ยนแผนเที่ยวในร่มแทน เราไปที่ห้าง Parco นั่งมาลงที่สถานี Shinsaibashi Station ค่ะ ในห้างนี้ที่ชั้น 6 ก็จะมีพวก Pop mart , Ghibli 
แต่ Pop mart สาขานี้เราว่ามันไม่อลังการเท่าตอนไป Pop mart ที่เกาหลีเท่าไหร่
 
ส่วนตัวไม่ได้อะไรจากที่นี่เพราะไม่ได้เป็นคนสะสม พาแฟนมาซื้อให้หลาน จากนั้นเราก็ลงไปชั้นล่างค่ะ ไปหาข้าวกินก็สุ่ม ๆ ร้านเอา ก็เลือกร้านนี้ ข้าวผัดเนื้ออร่อยมาก หอมเนยสุดๆ เนื้อนุ่มฉํ่า
ไหน ๆ ก็อยู่ย่าน Shinsaibashi แล้ว เราก็ไปเดินไปตรงที่มันเป็นแหล่งช้อปปิ้ง โชคดีที่ญี่ปุ่นถึงแม้ฝนตก แต่ย่านต่าง ๆ ในโอซาก้า หรือทั่วญี่ปุ่น ก็จะมีหลังคา หลบฝนหลบแดดได้ มันเลยเดินได้ในหลาย ๆ จุด
เดินมาเรื่อย ๆ ก็จะมาเจอกับป้ายกูลิโกะ ที่ใครมาโอซาก้าก็ต้องมาถ่าย มาตอนนี้และวันที่ฝนตก ก็คนน้อยไปเลย ถ่ายรูปไม่ติดคนเลย
มาโอซาก้าก็ต้องมาเดินหาของกิน เราก็กินจุ๊บจิ๊บไปเรื่อยนะคะ สโลแกนเราคือแบบพี่จองกับคัลแลน คือหิวไหนกินนั้น ไม่ชอบต่อคิวยาวๆด้วย รอเป็นชั่วโมงไม่ไหว ก็เน้นอันที่ไม่ต้องต่อคิว หรือคิวไม่เยอะ หลายคนอาจจะรีวิวว่าถ้าร้านไหนญี่ปุ่นต่อคิวเยอะคืออร่อย ถ้าไม่มีคิวคือไม่อร่อย เราว่าไม่เสมอไป บางร้านคนไม่เยอะแต่ก็อร่อยดี แต่ส่วนตัวเรากินอะไรก็อร่อย เลยไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้นค่ะ
จบวันแรกด้วยการคีบตุ๊กตา เราว่าที่คีบตุ๊กตาที่โอซาก้าไม่เยอะเท่าโตเกียว ที่โอซาก้าร้านจะอยู่เป็นจุด ๆ วันแรกได้น้องโดเรม่อนกลับมา เย้ๆๆ

Day 2
วันที่สอง เดินทางจากโอซาก้า ไปเที่ยวเกียวโต ที่แรกที่จะไปคือ Arashiyama หรือที่คนไทยเรียกว่าป่าไผ่ เราไปลงที่สถานี Arashiyama Station นะคะ แต่จุดหมายเราไม่ใช่ป่าไผ่ จุดหมายเราคือมาดูซากุระ และก็มากินกาแฟร้าน % Arabica Kyoto Arashiyama
ในส่วนของซากุระ ก็ถือว่าวันที่มา 04/04/2024 บานเยอะพอสมควร ท้องฟ้าครึ้มมากแต่ซากุระทำให้ใจฟู คือเราก็เลือกช่วงเวลาที่เราสะดวกที่มาเที่ยวเป็นหลัก เพราะก็ไม่กล้าคาดหวังกับซากุระ แต่ในใจก็คิดว่าถ้าเจอก็คงดี ยิ่งปีนี้อากาศแปรปรวนมาก แต่พอได้มาเห็นก็รู้สึกว่าโชคดีมากๆ ครั้งแรกในการมาช่วงซากุระก็ได้เจอเลย
เดินตามทางมาเรื่อย ๆ ก็มาถึงร้าน % Arabica เกียวโต แล้ว ตอนที่ไปรอคิวไม่เยอะนะคะ บรรยากาศดีมาก ร้านเล็ก ๆ แต่น่ารัก ใครมาเกียวโตอยากให้แวะมาเลย
เราเคยกินที่สาขาเซนเวิลมาแล้วแต่รอบนี้มาถึงเกียวโต แฟนบอกว่าจำรสชาติไม่ได้ว่าต่างกันมั้ย แต่บรรยากาศที่นี้มันดีมาก ก็เลยดีกว่า ยิ้ม ส่วนเรากินชาเขียวอร่อยดีค่ะ
จากร้านกาแฟเราไม่ได้ไปป่าไผ่นะคะ แต่เดินไปตามทางที่มีของขาย แถมมีซากุระให้ดูตลอดทาง วันที่ไปคนเยอะเหมือนกัน ขนาดเป็นวันธรรมดา แนะนำให้มาเช้าหน่อย เพราะสายๆทัวร์ลง ทั้งคน ทั้งรถก็จะแน่นไปอีก
เดินมาตามทางก็จะผ่านร้าน Arashiyama Miffy Sakura Kitchen กับ Arashiyama Rilakkuma Tea House น่ารักมาก เดินเพลินเลย ใครสาวกก็คือล้มละลาย แต่คาเฟ่ไม่ได้กินนะคะ เพราะว่าคนเยอะเลยไม่ได้ต่อ
ใช้เวลาอยู่ Arashiyama สักพักก็นั่ง JR ไปที่ Uji Station ต่อค่ะ ที่นี่เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องชาเขียว อีกหนึ่งเมืองเล็ก ๆ ในเกียวโต บรรยากาศดี
ตอนที่ไปซากุระตรงนี้ไม่ได้เยอะมากแต่บรรยากาศดีมากกว่า วิวแม่นํ้าสวย ที่นี่มีวัดดังด้วยนะคะ แต่เราไม่ได้เข้า ก็มาเดินชมบรรยากาศเฉยๆ ค่ะ 
และก็มาเจอร้านนี้โดยบังเอิญ อยู่ทางเข้าวัด ไม่รู้ชื่อร้านอะไร ก็สุ่มเอาเหมือนเดิม เมนูมีหลากหลาย อร่อยมาก แถมราคาไม่แพงเลย เจ้าของร้านก็น่ารัก เป็นมื้ออาหารที่แฮปปี้มาก ๆ ค่ะ ร้านนี้รับแค่เงินสดนะคะ และก็หลายๆ ร้านในเกียวโตก็รับเงินสด ยังไงก็อย่าลืมแลกเงินสดกันมาเผื่อไว้ด้วยนะคะ
จากนั้นเราก็ไปกินชาเขียวที่ร้าน Matcha Republic ร้านดังในเมืองอูจิ เกียวโต โชคดีที่ตอนไปคนไม่เยอะ สั่งมา 1 ขวด ทั้งขวดทั้งถุงน่ารักมาก ที่สำคัญอร่อยละมุนสุดๆ
จริงๆ มันยังมีอีกหลายร้านนะคะที่อูจิ เกียวโต อย่างทาโกยากิที่เป็นชาเขียวอะไรแบบนี้แต่คนเยอะเลยไม่ได้ต่อ ก็เลยได้กินชาเขียว 1 ขวดถ้วนแค่นั้น ส่วนไอติมชาเขียวเพิ่งนึกได้ว่าลืมกิน ฮ่าๆๆ
จาก Uji เรากลับมาที่ Kamo River ค่ะ แม่น้ำคาโมะชื่อดังของเมืองเกียวโต มาเดินเล่นริมแม่นํ้าตอนเย็น ชิว ๆ ที่นี่ซากุระสวยมากกกกกกกก ใช้คำว่าสวยได้เปลืองจริง ๆ ถ่ายรูปยังไงก็ไม่สวยเท่าตาเห็นเลย และบรรยากาศสองข้างทางคือดีมาก
อ่านต่อได้ที่ Comment นะคะ : ) 
ชื่อสินค้า:   Osaka & Kyoto
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่