ช่วงนี้หนังเรื่องหลานม่ากำลังเป็นกระแสค่ะ เราพาแม่ไป รพ เจอคนรุ่นใหม่พาคนแก่ที่บ้านไปหาหมอเยอะเลยค่ะ
(เราพาแม่ไป รพ รัฐนะคะ) เลยอยากสอบถามคนที่เป็น care giver เหมือนกันค่ะ
แม่เราป่วยเป็นหัวใจ ความดัน เบาหวาน เส้นเลือดในสมองตีบ และตัดขาเบาหวาน เดินไม่ได้ค่ะ เบาหวานขึ้นตาก็แย่ไปแล้ว
(เป็น package ของโรค NCDs ทั้วไปเลยค่ะ มาเป็นชุด)
เราเป็นลูกสาวที่รักแม่ไม่ได้ต่างจากลูกสาวของอาม่าในหนังเรื่องหลานม่า เพียงแต่เราไม่มีลูกมาช่วยดูแลค่ะ
แม่ไม่ให้สมบัติ ห่วงลูกไม่เท่ากัน แต่แม่บอกอยากอยู่กับเราที่สุด
เราดูแลแม่มา 8 ปีแล้วค่ะ (แม่อายุ 69 ค่ะ เราอยู่กับแม่ 2คน และพี่แม่บ้านคอยช่วยค่ะ)
พาไปหาหมอ เดือนละ 1-2 ครั้งเพราะหลายโรค มีบางช่วงนอน รพ นานๆบ้าง
ช่วงไหนแม่ไหวเราก็จะพาแม่เที่ยวค่ะ ไปห้างบ้าง ไปวัดบ้าง ต่างจังหวัดบ้าง ต่างประเทศบ้าง (ไปทั้งวีลแชร์ค่ะ เราเข็นแม่เอง)
อาการของแม่เริ่มแย่มาพักใหญ่ๆ ทั้งนำตาลสะสมก็เหวี่ยง ค่าไตก็ไม่ดี หัวใจก็ทรงๆ คุณหมอบอกให้ระวังเรื่องอาหารให้มากกว่าเดิม
(แม่เราได้ทานยาแพงๆ พวก jardiance, Januvia, Entresto มาสักพักใหญ่ๆแล้วค่ะ ก่อนหน้านี้ใช้ยาถูกกว่านี้)
แต่พอระวังมากๆ แม่ก็ไม่ทานค่ะ ท่านไม่มีความสุขเลย น้ำหนักก็ลงไปเยอะ (ท่านเคยน้ำหนักเหลือ 33 กก ค่ะ สูง 152 ซม) และเราก็รู้สึกผิด
แต่พอไม่ปล่อยจอย ให้แม่ได้ทานอะไรที่อยากทาน ผลเลือดก็แย่ หมอก็ดุ ส่วนเราก็รู้สึกผิด
เนื่องจากเราพาแม่ไปหาหมอ รพ รัฐ และเป็น รร แพทย์ คุณหมอที่ดูแลก็จะเปลี่ยนหน้าไปเรื่อยๆ (เป็นคุณหมอแพทย์ประจำบ้าน fellow บ้าง บางโรค อ.แพทย์ก็ดูแลเองค่ะ) คุณหมอบางคนก็อยากให้แม่ปล่อยจอย แล้วทานยาประคองเอา แต่คุณหมอบางคนก็อยากให้แม่ดีขึ้นเวลาผลเลือดแม่แย่ ก็จะโดนดุ
เราเคยคิดไว้ตลอดค่ะ ว่าถ้ามันไม่ไหวจริงๆ ก็ต้องปล่อยแม่ไป
(ตอนนี้แม่ยังขำกับมุกแป้กๆ ของเราอยู่ และเวลาเราดุแม่เรื่องโอนเงินให้พี่เยอะๆ แม่ก็ยังเสียใจค่ะ)
แต่พอแม่เป็นอะไร เราก็อดรู้สึกผิดไม่ได้ค่ะ
เคยคิดว่าจะเอาความสุขแม่เป็นที่ตั้ง อยากให้ทำอะไรก็ทำ
พอมาเจอหมอ ผลเลือดแย่ หมอดุ เราก็เกรงใจหมอ และอดรู้สึกผิดกับหมอไม่ได้
แต่พอบังคับแม่เรื่องอาหาร แม่ไม่มีความสุข เราก็รู้สึกผิดกับแม่อีกค่ะ
เราไม่รู้จะปรับสมดูลตรงนี้ยังไงค่ะ
บางคนอาจจะมองว่าเราเหมือนคนเห็นแก่ตัวนะคะ เหมือนดูแลแม่แบบที่ไม่ให้ตัวเองรู้สึกผิด
มองในมุมนั้นก็ใช่ค่ะ แต่เราไม่ได้อะไรจากแม่เลย ค่าใช้จ่ายทุกอย่างเราออกเองทั้งหมด
เรายังเป็น พนง เงินเดือนค่ะ ต้องไปทำงานและกว่า 90% เราพาแม่ไปหาหมอเองค่ะ ถ้าประชุมไหนขาดเราไม่ได้จริงๆ เราจะให้แม่บ้านช่วยค่ะ
รบกวนแนะนำเราทีค่ะ
ขอบคุณค่ะ
คำแนะนำหมอ ความสุขคนไข้ กับคนดูแล ... เราจะปรับสมดุลยังไงดีคะ
(เราพาแม่ไป รพ รัฐนะคะ) เลยอยากสอบถามคนที่เป็น care giver เหมือนกันค่ะ
แม่เราป่วยเป็นหัวใจ ความดัน เบาหวาน เส้นเลือดในสมองตีบ และตัดขาเบาหวาน เดินไม่ได้ค่ะ เบาหวานขึ้นตาก็แย่ไปแล้ว
(เป็น package ของโรค NCDs ทั้วไปเลยค่ะ มาเป็นชุด)
เราเป็นลูกสาวที่รักแม่ไม่ได้ต่างจากลูกสาวของอาม่าในหนังเรื่องหลานม่า เพียงแต่เราไม่มีลูกมาช่วยดูแลค่ะ
แม่ไม่ให้สมบัติ ห่วงลูกไม่เท่ากัน แต่แม่บอกอยากอยู่กับเราที่สุด
เราดูแลแม่มา 8 ปีแล้วค่ะ (แม่อายุ 69 ค่ะ เราอยู่กับแม่ 2คน และพี่แม่บ้านคอยช่วยค่ะ)
พาไปหาหมอ เดือนละ 1-2 ครั้งเพราะหลายโรค มีบางช่วงนอน รพ นานๆบ้าง
ช่วงไหนแม่ไหวเราก็จะพาแม่เที่ยวค่ะ ไปห้างบ้าง ไปวัดบ้าง ต่างจังหวัดบ้าง ต่างประเทศบ้าง (ไปทั้งวีลแชร์ค่ะ เราเข็นแม่เอง)
อาการของแม่เริ่มแย่มาพักใหญ่ๆ ทั้งนำตาลสะสมก็เหวี่ยง ค่าไตก็ไม่ดี หัวใจก็ทรงๆ คุณหมอบอกให้ระวังเรื่องอาหารให้มากกว่าเดิม
(แม่เราได้ทานยาแพงๆ พวก jardiance, Januvia, Entresto มาสักพักใหญ่ๆแล้วค่ะ ก่อนหน้านี้ใช้ยาถูกกว่านี้)
แต่พอระวังมากๆ แม่ก็ไม่ทานค่ะ ท่านไม่มีความสุขเลย น้ำหนักก็ลงไปเยอะ (ท่านเคยน้ำหนักเหลือ 33 กก ค่ะ สูง 152 ซม) และเราก็รู้สึกผิด
แต่พอไม่ปล่อยจอย ให้แม่ได้ทานอะไรที่อยากทาน ผลเลือดก็แย่ หมอก็ดุ ส่วนเราก็รู้สึกผิด
เนื่องจากเราพาแม่ไปหาหมอ รพ รัฐ และเป็น รร แพทย์ คุณหมอที่ดูแลก็จะเปลี่ยนหน้าไปเรื่อยๆ (เป็นคุณหมอแพทย์ประจำบ้าน fellow บ้าง บางโรค อ.แพทย์ก็ดูแลเองค่ะ) คุณหมอบางคนก็อยากให้แม่ปล่อยจอย แล้วทานยาประคองเอา แต่คุณหมอบางคนก็อยากให้แม่ดีขึ้นเวลาผลเลือดแม่แย่ ก็จะโดนดุ
เราเคยคิดไว้ตลอดค่ะ ว่าถ้ามันไม่ไหวจริงๆ ก็ต้องปล่อยแม่ไป
(ตอนนี้แม่ยังขำกับมุกแป้กๆ ของเราอยู่ และเวลาเราดุแม่เรื่องโอนเงินให้พี่เยอะๆ แม่ก็ยังเสียใจค่ะ)
แต่พอแม่เป็นอะไร เราก็อดรู้สึกผิดไม่ได้ค่ะ
เคยคิดว่าจะเอาความสุขแม่เป็นที่ตั้ง อยากให้ทำอะไรก็ทำ
พอมาเจอหมอ ผลเลือดแย่ หมอดุ เราก็เกรงใจหมอ และอดรู้สึกผิดกับหมอไม่ได้
แต่พอบังคับแม่เรื่องอาหาร แม่ไม่มีความสุข เราก็รู้สึกผิดกับแม่อีกค่ะ
เราไม่รู้จะปรับสมดูลตรงนี้ยังไงค่ะ
บางคนอาจจะมองว่าเราเหมือนคนเห็นแก่ตัวนะคะ เหมือนดูแลแม่แบบที่ไม่ให้ตัวเองรู้สึกผิด
มองในมุมนั้นก็ใช่ค่ะ แต่เราไม่ได้อะไรจากแม่เลย ค่าใช้จ่ายทุกอย่างเราออกเองทั้งหมด
เรายังเป็น พนง เงินเดือนค่ะ ต้องไปทำงานและกว่า 90% เราพาแม่ไปหาหมอเองค่ะ ถ้าประชุมไหนขาดเราไม่ได้จริงๆ เราจะให้แม่บ้านช่วยค่ะ
รบกวนแนะนำเราทีค่ะ
ขอบคุณค่ะ