JJNY : ‘ณัฐวุฒิ’ ผันตัวเป็นแร็ปเปอร์│สุรเชษฐ์โวยบ้านเมืองไม่ยุติธรรม│สุรเชษฐ์ถามสุริยะ มีผลงานอะไร│“ภูเขาไฟรูอัง” ปะทุ

‘ณัฐวุฒิ’ ผันตัวเป็นแร็ปเปอร์ ปล่อยเพลงฮิปฮอปเรียกร้องประชาธิปไตย
https://ch3plus.com/news/political/ch3onlinenews/396043

 
“ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” ผันตัวเป็นแร็ปเปอร์ ปล่อยเพลงฮิปฮอป ร้องเพลงเรียกร้องประชาธิปไตย ขอยืนหยัดต่อสู้เพื่อเสรีภาพ
 
ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นักเคลื่อนไหวทางการเมืองและอดีตผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ได้โพสต์คลิปวิดีโอลงในช่องยูทูบณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ได้เล่าชีวิตตัวเอง ถ่ายทอดออกมาเป็นเพลงสไตล์ฮิปฮอปกับ PAE, HI และกลุ่มแร็ปเปอร์ #THUGLIFE ซึ่งในเพลงดังกล่าวได้เล่าถึงชีวิตของตัวเองตั้งแต่เด็ก ก่อนผันตัวมาเป็นนักการเมือง ต่อสู้บนเส้นทางเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย

โดยมีบางช่วงบางตอนว่า “ต่อสู้มายาวนานเวลากว่า 20 ปี อยากให้บ้านเมืองดี เป็นประชาธิปไตย ใครจะว่าไงก็ช่าง จะเลือกเส้นทางนี้ จะเด็กแว้นหรืออีกี้ ต้องเท่าเทียมทั่วไทย  ถึงแม้มงคลไม่เปิดประตูให้เปี๊ยก เราก็จะร้องเรียกหาเสรีภาพต่อไป ขอให้ยืนหยัดสู้ ขอให้จงอย่าอ่อนแอ ถ้าเราไม่ยอมแพ้เขาก็ชนะไม่ได้

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

 
สุรเชษฐ์โวยบ้านเมืองไม่ยุติธรรม ไม่ควรมีพ่อรู้ดีมาสั่งยุบพรรค สมาชิกขวัญกำลังใจยังดี.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4529675

สุรเชษฐ์โวยบ้านเมืองไม่ยุติธรรม ไม่ควรมีพ่อรู้ดีมาสั่งยุบพรรค สมาชิกขวัญกำลังใจยังดี
 
เมื่อวันที่ 17 เมษายน ที่อาคารอนาคตใหม่ นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงความเคลื่อนไหวภายในพรรคก้าวไกล ต่อกระแสยุบพรรคว่า อย่างที่เป็นข่าวเป็นประเด็น ตนคิดว่าปากกาอยู่ที่เขา ตนในฐานะผู้แทนราษฎรก็ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ในทุกวัน ตนและเพื่อน สส.ต้องทำให้ดีที่สุด ส่วนอะไรที่ควบคุมไม่ได้ก็คงจะต้องให้พี่น้องประชาชนได้เห็น และในอนาคตถ้ามันเกิดยุบพรรคจริงๆ ก็คงจะให้การสนับสนุนพรรคที่พวกเราจะไปอยู่หรือพวกเราสนับสนุน โดยในเชิงกฎหมาย เราก็พยายามสู้อย่างเต็มที่ มองว่าไม่น่ามีเหตุผลเพียงพอที่จะยุบพรรค
 
เมื่อถามว่า นายสุรเชษฐ์อยู่กับพรรคมาตั้งแต่สมัยพรรคอนาคตใหม่ ภายในพรรคพูดคุยกันว่าอย่างไรบ้าง นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในพรรคเราก็มีการแบ่งงานกันทำอย่างเป็นระบบ ส่วนเรื่องกฎหมายก็จะมีคนดู ต่างคนต่างทำหน้าที่ และทำทุกวันให้ดีที่สุดเต็มความสามารถของพวกเรา
 
ส่วนขวัญกำลังใจในพรรคนั้น ยังดีเยี่ยม ทุกคนเข้าใจในบริบทของการต่อสู้แบบพรรคก้าวไกลที่เราเอาพี่น้องประชาชนเป็นตัวตั้ง และเราก็คิดว่าน่าจะมีคนได้เห็น ได้สัมผัส ว่าเรามีประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนจะตัวตั้งจริงๆ เรื่องของกำลังใจทุกคนอย่างมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนในทุกๆวันที่เรายังอยู่
 
บ้านเมืองมันไม่ยุติธรรม มันเป็นแบบนี้ แต่เราก็ยังทำทุกวันให้ดีที่สุด เรายังไม่อยากให้พรรคก้าวไกลโดนยุบ และเราก็เชื่อว่าถ้าตัดสินกันด้วยเหตุด้วยผลอะไรจริงๆ มันไม่ควรจะยุบพรรค ส่วนตัวมองว่ามันเป็นเรื่องสิทธิเสรีภาพของประชาชน เหมือนเราจะคบกันเป็นเพื่อน ไม่ควรมีพ่อรู้ดีที่ไหนมาบอกว่าไม่ควรคบกัน ดังนั้นไม่ควรจะถูกยุบพรรค ถ้าอุดมการณ์ไม่ดี ประชาชนลดความนิยมต้องเกิดขึ้นตามธรรมชาติ ไม่ใช่ใช่มีพ่อรู้ดีไม่กี่คนสั่งว่าห้ามคน 14 ล้านคนนี้มาคบกันเป็นเพื่อน มันไม่ควร” นายสุรเชษฐ์กล่าว



สุรเชษฐ์ถามสุริยะ มีผลงานอะไรใหม่บ้าง เห็นโฆษณา รฟฟ. 20 บาท แต่ก็ไม่ทุกสาย
https://www.matichon.co.th/politics/news_4529697
 
สุรเชษฐ์ถามสุริยะ มีผลงานอะไรใหม่บ้าง เห็นโฆษณา รฟฟ. 20 บาท แต่ก็ไม่ทุกสาย
 
เมื่อวันที่ 17 เมษายน ที่อาคารอนาคตใหม่ นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสปรับ ครม.เศรษฐา 2 ว่า ได้ยินตามข่าว ซึ่งมีความเป็นไปได้สูง อย่างเรื่องอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 พรรคก้าวไกลก็ตั้งคำถามกันในหลายๆ เรื่องว่า จริงๆ แล้ว อำนาจการตัดสินใจอยู่ที่ใครและทำเพื่อใครอยู่
 
เมื่อถามว่า ในฐานะที่ดูเรื่องคมนาคม ของพรรคก้าวไกล ประเมินการทำงานของกระทรวงคมนาคมว่าอย่างไร นายสุเชษฐ์ ระบุว่า ควรมีการปรับโครงสร้างของกระทรวงคมนาคม แต่ด้วยระบบปัจจุบัน มีคลังแสงจากค่าประมูล ค่าจัดฮั้ว ต่างๆ อาจจะไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงในส่วนนั้น นี่คือสิ่งที่เราเรียกร้องว่า คนที่มาดูแลคมนาคมไม่ควรหากินไปวันๆ แต่ต้องคิดแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง
 
ผู้สื่อข่าวถามถึงการทำหน้าที่ของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสุรเชษฐ์ ถามกลับว่า มีอะไรใหม่ๆ มาหรือไม่ ที่เคยโฆษณา 20 บาทตลอดสาย ก็ไม่ใช่ แค่ 2 สาย คือ สายสีแดงและสายสีม่วง ซึ่งเคยทำมาแล้ว และไม่ใช่เรื่องใหม่ เพียงแต่ทำแก้เก้อ เพราะ 20 บาทตลอดสาย คือ ต้องทำทุกสายแบบเชื่อมโยงกัน เช่น ขึ้นสายสีเขียวต่อสายสีน้ำเงินเก็บแค่ 20 บาท แต่นายสุริยะ ได้กำหนดแล้วจะทำให้ได้ภายใน 2 ปี เราก็จะติดตามและตรวจสอบต่อไปว่าทำได้จริงหรือไม่ ตนเคยอภิปรายตอนนโยบายว่า ทำไม่ได้และไม่ควรทำ ขณะนี้ก็ยังยืนยันคำพูดเดิมทุกคำ
 
นายสุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ตัวชี้วัดจริงและสำคัญที่กำลังจะเกิดขึ้น คือ รถไฟฟ้าสายสีส้ม อยากให้ประชาชนจับตาดู เพราะกำลังอยู่ในช่วงเด้งกลับมาผ่านการพิจารณาจากศาล แต่มีส่วนต่างจากประมูล 2 ครั้ง ประมาณ 68,000 ล้านบาท จะปล่อยไปหรือไม่ ค่าผ่านทางจะเป็นอย่างไร หากจะดำเนินการ 20 บาทตลอดสายในสายสีส้มด้วย มองว่าเรื่องนี้ต้องลากกันใหม่และใช้ระยะเวลายาว
 
เมื่อถามว่า เหมาะสมหรือไม่ในการปรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า สำหรับตนคิดว่าผลงานไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอัน อย่างที่บอก เหตุผลในการปรับ ครม.จริงๆ อาจจะไม่ได้วัดกันที่ผลงาน
 
เมื่อถามว่า หากพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาลจะเห็นการปรับ ครม. เกิดขึ้นหรือไม่ นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า ปัจจุบันพรรคก้าวไกลไม่ได้เป็นรัฐบาล ฉะนั้น ถ้าจะปรับก็คงไม่ใช่ชุดนี้ คงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลชุดนี้ไปก้าวก่ายยาก อีกทั้งพรรคก้าวไกลก็ไม่มีแผนที่จะไปร่วมรัฐบาลด้วย แต่เราจะตรวจสอบการทำหน้าที่ของทุกกระทรวง แต่ไม่ได้คิดถึงขั้นใครจะได้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงไหนเพราะเป็นหน้าที่ของรัฐบาลชุดนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่