มีปัญหาผิดใจกับเพื่อน ผมควรไปต่อหรือพอแค่นี้ครับ

ปัญหาของผมมีอยู่ว่า ผมมีปัญหาด้านความรุนแรงในครอบครัวและขาดความรักจากครอบครัวในวัยเด็ก ทำให้ผมเป็นคนด้านชาทางความรู้สึกและยังไม่รู้ความหมายของชีวิตและด้วยความด้านชาของผมทำมีเพื่อนน้อยจนแถบไม่มีและไม่เข้าใจว่าเพื่อนคืออะไร วันนี้ผมได้โอกาสออกจากชนบทมาอยู่ที่ชานเมืองผมเลยตั้งปฏิภาณกับตัวเองว่าอยากจะเริ่มต้นใหม่และมีเพื่อนเยอะ ผมได้มาเรียนม.ต้นโดยได้อยู่ห้องคิงผมเลยจะพยายามจะเป็นคนเฟรนลี่แต่มันมากเกินไปและเพื่อนในห้องค่อนข้างจริงจังกันมากเลยถูกเพื่อนในห้องผมเมินแต่ก็มีไม่กี่คนที่ยังคุยด้วยอยู่วันนึงเพื่อนเค้าคนนึงที่เค้าเคยสนิทด้วยจากผมขอเรียกเพื่อนนี่ว่า"C"นะครับและเค้าเป็นผู้ชาย หลังจากนั้นผมต้องใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยมาตลอด2ปี ช่วงม.3ผมกับCอยู่ๆก็เริ่มคุยและสนิทกันตลอด1เดือนนี่ผมมีความสุขมากที่เหมือนได้มีเพื่อนครั้งแรกและอยู่ดีๆCก็ตีตัวออกไปทำให้ช่วงนั้นผมเศร้ามากแต่รู้เหตุผลจากCว่าเพื่อนที่พาไปคุยกับCเห็นว่าช่วงนั้นผมการเรียนตกไปมากเลยอยากให้แยกกันกัน หลังจากรู้เหตุผลแล้วผมก็เข้าใจและรู้ตัวว่าผมชอบCขึ้นมา แล้วก็รู้สึกเสียใจที่ต้องจากกันเพราะCจะไปต่อสายอาชีพ หลังจากจบม.3ผมได้เริ่มพูดคุยกับตัวเองว่าทำอะไรไปบ้างมีปัญหาตรงไหนต้องแก้ไขตัวเองยังไง ตอนนี้ผมรู้สึกขอบคุณCมากที่ทำให้ผมได้เปลี่ยนแปลงตัวเอง และเป็นคนแรกให้ผมได้รู้ความหมายจริงของเพื่อนและหลังจากจบม.3ครอบครัวเริ่มเลิกคาดหวังและเข้าใจผมมากขึ้น
จากนี้จะเป็นเหตุการม.ปลายนะครับ ผมยังอยู่โรงเรียนเดิมและพร้อมจะเรื่มต้นใหม่แต่ช่วงนั้นโควิดระบายพอดีจึงต้องเรียนที่บ้าน ถึงช่วงม.5ผมกลับมาเรียนที่โรงเรียนด้วยความที่เรียนที่บ้านมาทั้งปีจึงทำให้ผมขาดความมั่นใจในหน้าตาของตังเองจึงใส่แมสตลอดเวลาจนเสียบุคลิกแต่ด้วยประสบการณ์จากCทำให้ผมได้เพื่อนสนิทคนใหม่ในห้อง(จากนี้จะคนเข้าเพิ่มผมจะชื่อย่อตามนี้นะครับโดย"ผมจะชื่อP"เพื่อนสนิทในห้องเดียวกันชื่อ"J"เพื่อนสนิทของJชื่อ"O"โดยจะเปลี่ยนภายหลังจะย้ายห้อง"เพื่อนสนิทตั้งแต่ม.ต้นของCและจะเป็นเพื่อนร่วมห้องจะOในภายหลังชื่อ"K")หลังจากเป็นเพื่อนสนิทของJแล้วJได้พาผมไปรู้จักกับOตลอดที่เรา3คนเริ่มสนิทกัน ผมไม่เคยเห็นCเลย ช่วงม.6 Oได้ย้ายห้องไปอยู่กับK และวันนี้ได้เจอCอีกครั้งผมรู้ดีใจมากที่ได้เจอกันอีกครั้งแต่ผมรู้สึกว่าCอาจจะลืมผมไปแล้ว จึงเก็บความดีใจไว้และอยู่กับOและJต่อไป จากนั้นOและKก็เริ่มคุยกันและพากันมารู้จักกันทีหลัง เรา5คนได้มาเจอกันผมดีใจมากที่ได้เจอCอีกครั้งแต่ความรู้สึกผิดที่ชอบCยังคงอยู่เลยยังไม่กล้าคุยด้วยมาก โดยผมกับKเคยคุยกันบ้างบางครั้ง เราอยู่ด้วยกันมาเรื่อยจนถึงเดือนพฤศจิกายนของปี66เราเริ่มความฝันที่อยากเป็นที่สิ่งที่อยากทำหลังเรียนจบOได้ชวนผมไปทำงานร้านอาหารเพื่อให้ผมหยุดไปเตรียมสอบแพทยห์และเก็บเงินสำรองไว้ใส่ตอนขึ้นมหาลัย โดยเราคุยกับว่าผมจะเข้าแพทย์ Jจะเข้าเชฟโดยOจะตามไปทีหลัง CและKจะเข้านักเรียนเตรียมจ่า เดือนธันวาที่ผมเริ่มไปสอบความถนัดแพทย์Cได้ส่งข้อความมาอวดพรนั้นเป็นครั้งแรกในชีวิตที่มีคนอวดพรให้ผม ผมรู้สึกดีใจจนลืมตัวและเริ่มคิดว่าอยากทำอะไรที่ทำให้Cดีใจและสบายใจบ้าง ช่วงนั้นผมรู้สึกว่าผมเอาใจCมากเป็นพิเศษจนในกลุ่มเริ่มแซวบ้างบางครั้งและช่วงนั้นCได้ชวนผมไปรอเป็นเพื่อนระหว่างรอเวลาติวข้อสอบจ่าพอดีด้วยความที่ผมรู้สึกอยากทำอะไรสักให้เลยตกลงแบบไม่คิดอะไรและช่วงนี้มีงานวัดพอดีเราเลยไปเดินงานวันด้วยกันผมมีความสุขจนเริ่มรู้สึกว่าผมเริ่มกลับมาชอบCอีกครั้งแต่วันนึงที่เราเดินงานวัดกันอยู่Cได้พูดว่า"เค้าดีใจมาที่ได้มาเดินงานวัดกับผมแต่เค้าจะดีใจมากกว่าถ้าเค้าได้มีช่วงเวลาแบบนี้กับแฟน"ผมได้ฉุดคิดไว้ว่าผมกำลังทำอะไร และทำให้ผมรู้สึกว่าผมไม่อยากจะล้ำเส้นและคิดเกินเลยและอยากจะเพื่อนกันต่อไป  ผมจึงพยายามจะทำตัวตามปกติอยู่กับกลุ่มเพื่อนไปเรื่อยๆแต่เริ่มรู้สึกหวงCจนอยากจะอยู่ด้วยยาวไปจนแก่และไม่อยากให้Cสอบติดจ่าจนถึงช่วงกลับมาลืมตัวอีกจนไม่มีสติมา3เดือน จากที่ผมสนิทจนตัวติดกับJก็เริ่มมาอยู่กับCจนเริ่มปล่อยให้ตัวเองตามใจจากที่เริ่มเป็นเด็กกิจกรรมเริ่มโดดเรียนเพื่อแค่ได้มาอยู่กับCจนบางทีก็คิดว่าJอาจจะเสียใจเพราะช่วงนั้นผมเห็นJอยู่กับตัวเองมากกว่าปกติแต่ก็ไม่เคยได้เปิดใจคุยกันจนผมเริ่มคิดว่าJกลับไปสนิทกับOแล้ว แล้วทำให้ผมน้อยใจ ถึงช่วงที่CและKได้ไปสอบจ่ารอบข้อสอบ ผมได้อวดพรให้Cคนเดียวแล้วใช้ชีวิตด้วยกันปกติแต่ที่เปลี่ยนไปคือความรู้ที่ผมกับJเปลี่ยนไป เป็นแบบนี้มาเรื่อยจนถึงกลางเดือนกุมภา66วันปัจฉิมCขอแยกกลับไปก่อนผมจึงกับJและOแล้วก็รู้สึกด้อยและอิจฉาที่ทั้งมพร้อมทั้งครอบครัวแต่ผมเลือกเองที่จะไม่ให้ครอบครัวมาจึงไม่รู้สึกอิจฉาอีก ก่อนวันปัจฉิมผมได้คุยกับCว่าจะไปหากันที่บ้านและจะค้างที่บ้านC3วัน วันที่ผมไปบ้านCหลังผมได้รู้ว่าCสอบผ่านรอบแรกต้องไปสอบรอบ2 2วันนั้นผมได้คุยกันว่าจะทำอะไรกันต่อCบอกว่าที่ผ่านมาเค้าทำให้พ่อผิดหวังมาเค้าอยากให้พ่อแม่ภูมิใจในตัวเค้าบ้างจึงเริ่มเตรียมตัววอร์มร่างกายทั้งวิ่งและว่ายน้ำผมจึงไปไหนมาได้ด้วยบ่อยๆจนแถบจะไปหาที่บ้านทุกวันหลังจากผมเห็นความพยายามของCแล้วผมเริ่มกลับมาคุยกับตังเองอีกครั้งว่าควรทำยังไงต่อจนผมเลือกจะปล่อยให้Cได้ไปใช้ชีวิตของตัวเองและถอดใจที่จะอยู่กับCต่อแต่เราเองก็กลับมาคุยหลังเรียนจบ และช่วงนั่นก่อนสอบจ่ารอบ2ผมต้องไปทำธุระต่างจังหวัดพอดีเลยต้องแยกกัน1อาทิตย์เพื่อให้ผมได้คุยกับตัวเองอีกครั้งและให้Cเตรียมตัวโดยที่ผมโทรพูดคุยให้กำลังใจและหยอกล้อไม่ให้เครียดก่อนสอบ ระหว่างนั่นผมได้คิดว่าผมจะเลิกหยุดไปทำงานและไปเรียนต่อและอยากจะอยู่กับCตลอดทั้งอาทิตย์จนกว่าผลจ่ารอบ2จะติดหลังจากกลับจากต่างจังหวัดผมก็ได้ตรงไปหาCทั้งบ้านก่อนกลับบ้านตัวเองทุกอย่างเป็นไปอย่างปกติและปัญหาก็เริ่มเกิดขึ้นตกเย็นวันนั้นผมวิ่งแล้วหกล้มจนตามร่างกายทะลอกและหน้ามืดจนต้องเข้าโรงพยาบาลหลังจากกลับจากโรงบาลเราแซวกันเล็กน้อยและอยู่ถึงวันถัดมาเราไปกินข้าวเช้าแล้วกลับบ้านด้วยความที่ผมต้องกินยาจึงทำให้ง่วงซึมและหลับไปแล้วตื่นมาพร้อมอาการกล้ามเนื้อรัดแน่นCจึงอยากให้ผมกลับบ้านมาพักผ่อนและCต้องไปซ้อมว่ายน้ำต่อแล้วขอแยกตัวกลับบ้านอีกหลังไปผมเข้าใจถึงความหวังดีในผมแล้วเค้าต้องทำเพื่อฝันของตัวเอง แต่ผมไม่ใจว่าทำไมเค้าถึงขอแยกตัวกลับบ้านไปทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองทำอะไรผิดไปจึงทำให้ผมคิดลบและเขียนจดหมายระบายความในใจและอำลา โดยเนื้อความจะเขียนว่าผมเคยชอบเค้าและชอบที่เค้าใส่ใจผมมาตลอดและเคยคิดว่าไม่อยากให้เค้าติดจ่าและอยู่กับผมไปจนแก่และสุดท้ายได้เขียนว่าไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไรให้เค้ารู้ไว้ว่าผมรักในตัวเค้าและเข้าใจเค้าเสมอ หลังจากเขียนเสร็จผมจึงกลับมาบ้านมาเลยและยังเสียใจอยู่ หลังจากกลับมาผมได้หลับผลของยาอีกครั้ง เมื่อตื่นแล้วผมได้กลับไปหาเค้าอีกครั้งเพราะลืมของและถามเค้าว่าได้อ่านจดหมายหรือยังและกลับไปโดยไม่ได้พูดอะไรออกไปเลยพร้อมความเสียใจ และได้ไปขอคำปรึกษาจากK Kเองก็ได้อ่านจดหมายของผมแล้วเค้าจึงเตือนสติผมว่าผมอยู่กับCมากเกินไปและคิดว่าผมทำเกินไปที่เขียนว่าผมอยากอยู่กับCมันมากเกินไป ผมเข้าใจถึงความผิดที่ผมทำและหลังจากที่ผมรู้ว่าCอยู่บ้านKจนผลสอบออกผมจึงพยายามจะขอไปอยู่ด้วยเพราะผมรู้สึกว่าผมยังมีโอกาสได้อยู่กับCต่อและจะได้ปรับความเข้ากันKจึงได้เตือนสติผมอีกครั้งให้มีพื้นที่ให้Cบ้าง และถามว่าผมชอบCมั้ยผมจึงปฏิเสธไปแต่ยังไม่ได้พูดเพิ่มเติมKจึงให้ผมอยู่เฉยและให้Cมีพื้นส่วนตัวผมจึงยอมทำตามจนถึงวันที่เรามาโรงเรียนวันสุดท้ายผมได้เจอCอีกครั้ง Cได้บอกว่าเค้าไม่ได้เกลียดผมแต่กลัวผมและบอกว่าวันที่เค้าแยกตัวกลับไปเพราะป่วยและบอกว่าผมพอใจหรือยังไม่เค้าสอบไม่ติดจ่า ผมรู้สึกผิดต่อเรื่องนี้มากจนไม่ได้ชวนกันมาปรับความเข้าใจและบอกว่าผมจะไปเรียนต่อแต่เค้าพูดมาก่อนว่าเค้าจะต่อเหมือนและเป็นมหาลัยเดียวกับผม ผมจึงดีใจและสับสนว่าจะชวนปรับความเข้ายังไงแต่Cรีบกลับไปก่อนจึงไม่ได้ชวนออกไป ตกเย็นวันนั้นผมทักไปหาKเลื่อนนัดให้ไปเร็วขึ้นเพราะผมอยากให้เค้าผ่อนคายก่อนจะถูกเรียกเพราะเค้าได้เป็นตัวสำรองนักเรียนจ่าและผมกังวลว่าเค้าจะไม่ถูกเรียก จากKก็รำคาญผมที่กังวลมากไปและได้ตัดเพื่อนไป และผมได้ทักCไปเพราะอยากปรับความเข้าใจให้ได้และอยากเรื่องเรียกต่อ แต่เหตุการณ์ที่ผมทำไว้กับKจึงทำให้Cต่อว่าผมและบอกผมว่าผมทำโอกาสที่เค้าให้พังและเงียบไป และไม่ได้คุยกันอีกเลย สุดท้ายผมก็ได้อยู่ตัวเดียวอีกครั้งแต่มันเป็นความผิดของผมเองไม่กล้าจะปรับความเข้าใจกับพวกเค้าและผมก็อยากบอกความกับพวกเค้าว่าผมอยากขอโทษพวก ขอโทษJที่ปล่อยให้อยู่คนเดียวและไม่ได้ปรับความเข้าใจด้วยเมื่อมีปัญหา ขอโทษOที่ไม่ได้ทำแผนที่วางไว้ด้วยกับ ขอโทษKที่ความกังวลความคิดมากของผมทำให้ผมต้องไม่ได้เป็นเพื่อนกันอีก และขอโทษCสำหรับทุกอย่างที่ ผมอยากอยากขอบคุณพวกเค้าที่มาเป็นเพื่อนผม โดยเฉพาะCที่เป็นเพื่อนคนแรกของผมและทำให้ผมได้เรียนรู้หลายๆเรื่อง ตอนนี้ผมเลยอยากจะเข้าวงการบันเทิงเพื่อให้พวกเค้าเห็นว่าผมจะเปลี่ยนตัวเองมากกว่าเดิมให้เป็นคนที่ดีขึ้นและผมยังอยู่ในสายตาพวกเค้าเหมือนเด็กคนนึงที่ได้เติบโตขึ้นเพราะพวกเข้า และหวังว่าเราจะได้กลับมาเป็นเพื่อนกันอีกครั้งไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนหรือในใจพวกเค้าก็ตาม

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่