หลายคนมักบอกว่า เพื่อนมัธยมเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดแต่ จขกท. สมัยเรียนมัธยม 1-3 นั้น เพื่อนๆแทบทุกคนในชั้นเรียนต่างบูลลี่ ดูถูกรังแกผมสารพัด บางก็ว่าไอ้เอ๋อไอ้ไม่เต็มบาทบ้าง โดนดูถูกกลั่นแกล้ง ด้วยความที่ผมนั่นเป็นคนเรียนไม่เก่งด้านวิชาสามัญด้วย จึงเกือบไม่จบเพราะไม่มีใครให้ลอกการบ้าน เลย ตลอดเวลาที่เรียนมัธยมผมรู้สึกผมอยู่ตัวคนเดียว โดดเดี่ยว ไม่มีใครช่วยเหลือผมเลย และเก็บกดมากๆ
จนกระทั่งผมเรียนจบชั้น ม.3 ไปต่อ ปวช. ที่วิลัยอาชีวะแห่งหนึ่ง ตอนแรกๆนึกว่าจะยิ่งโดนแกล้งมากกว่าตอนมัธยม แต่ผิดคาดมากๆ เพื่อนๆของผมนั้นดีกับผมมากๆเลยครับ อันไหนที่ผมทำไม่ได้ เพื่อนๆก็ต่างช่วยกันทำ ช่วยกันสนับสนุนผม บางทีวิชาหลักของสายอาชีพสาขาที่ผมเรียน ผมทำได้เยอะ ผมก็จะช่วยเหลือเพื่อนๆด้วยเช่นกัน สิ่งที่ผมช็อคมากที่สุดคือ เพื่อนๆ ช่วยผมไปเที่ยวที่นั่นทีนี่ ไปร้องคาราโอเกะอยู่ห้าง ไปเล่นเกมร้านเกม ไปกินหมูกระทะ ไปกินเหล้าตอนกลางคืน ซึ่งด้วยความที่ผมเก็บกดมาตั้งแต่ ม.ต้น ตอนนั้นผมจึงมองเพื่อนในแง่ร้ายมากๆ กลัวว่าเขาจะหลอกไปเล่นยา กินเหล้า อะไรพวกนี้
จนสุดท้ายเพื่อนเห็นพฤติกรรมของผมไม่ไหว ดูขวางโลก ดูคิดลบกับเพื่อนๆมากๆ เพื่อนทั้งห้องเลยเรียกผมไปคุยปรับทัศนคติซะใหม่ ว่าเพราะอะไรทำไม่คิดลบแบบนี้ สุดท้ายก็เคลียร์ใจกันได้ด้วยดีครับ ตลอดเวลาผมกลัวเพื่อนในชั้นทิ้งผมมากๆ เช่น ตอนเวลากินข้าว สมัย ม.ต้น ต้องรีบกินให้ทันเพื่อน ไม่งั้นจะโดนทิ้งให้ผมนั่งอยู่คนเดียว พอมาเรียน ปวช. จึงติดนิสัยนี่ เพื่อนเลยตำหนิผมว่า จะกินข้าวมุงค่อยๆกิน เวลากินข้าวควรเอาปากรูดข้าวให้หมดช้อน เวลาเคี้ยวควรเคี้ยวให้หมดก่อนค่อยยัดคำใหม่เข้าไป พวกกรูรอเมิงจนกินเสร็จอยู่นี่แหละไม่หนีไปไหนหรอก พวกกรูไม่เหมือนเพื่อนร้ายๆ ที่โรงเรียนเก่าเมิง
เนื่องจากความที่ตัวผมเองนั่น อยู่ตัวคนเดียวมาตลอด เพื่อนๆจึงช่วยๆสั่งสอนการปฏิบัติตัวต่อการเข้าสังคมใหม่ตลอด 3 ปี ทีเรียน ปวช.ที่วิลัยมา แม้กระทั่งการแต่งตัวของผมที่ดูเชย เพื่อนของผมก็ด่าว่า เมิงจะแต่งเสื้อตัวใหญ่ๆมาเผื่อโตหรือไงวะ นี่ต้องแต่งแบบสลิมๆ เข้ารูปหน่อย มันจะได้ดูสมส่วน ที่ผมประทับใจมากๆก็คือเวลาที่ผมจะจบนั่น ทั้งห้องช่วยกันทำโครงการจบจนเสร็จ ผมคือตัวทอปในห้องเพราะผมเก่งคอม และอยู่สาขาคอมพิวเตอร์ จึงช่วยกันกับเพื่อนอีกคนที่เก่ง ผลักดันเพื่อนจนจบ ผมมีนิสัยชอบเบิ้ลรถเรียกร้องความสนใจ เจอเพื่อน ปวช. ดุเข้าไปถึงกับต้องเลิกบิด 5555
ตอนแรกก็แอบโกรธเพื่อนๆนะครับ เหมือนโดนดูถูกยิ่งกว่าตอน ม.ต้น แต่ตอนนี้กลับขอบคุณเพื่อน เพราะคำสอนต่างๆที่เพื่อนได้สอนผม มันกลับทำให้ผมเข้าสังคมได้จนถึงทุกวันนี้
จนตอนนี้ผมมีงานการดีๆทำแล้ว รับราชการ ล่าสุดได้นัดเจอเพื่อนๆกันตอนปีที่แล้ว รู้สึกว่าเพื่อนๆยังรักกันมากๆ และต่างคนก็ต่างแสดงความรักต่อผม เห็นใจผม และผลักดันผมมาจนถึงตอนนี้ ส่วนเพื่อนมัธยมก็ต่างดูถูกผมมาจนตอนนี้ ซึ่งผมเลิกคบและไม่ติดต่อกับพวกอัปปรีย์พวกนี้อีกต่อไป
เพื่อน สมัย ปวช. สำหรับผม คือเพื่อนแท้ๆ ที่ไม่เคยทิ้งผมไปเลย มีแค่กลุ่มเดียวเท่านั้นที่เป็นเพื่อนผม จนปานนี้ก็ยังติดต่อกันอยู่ และชอบคำพูดของเพื่อนมากๆคือ มีไรโทรหากรูได้เสมอนะ
มีใครเจอเพื่อนแท้ที่ไม่ใช่เพื่อนสมัยมัธยมบ้างไหมครับ หรือมีใครเป็นแบบผมหรือเปล่า ผมรู้สึกว่าชีวิตผมเปลียนไปเลยนะ ตั้งแต่เข้าเรียนวิลัยเทคนิค
ทำไมผมรู้สึกว่าเพื่อสมัยมัธยมแย่ และไม่ดีเท่ากับเพื่อน สมัยเรียน ปวช. เลย มีใครเป็นแบบผมหรือเปล่า
จนกระทั่งผมเรียนจบชั้น ม.3 ไปต่อ ปวช. ที่วิลัยอาชีวะแห่งหนึ่ง ตอนแรกๆนึกว่าจะยิ่งโดนแกล้งมากกว่าตอนมัธยม แต่ผิดคาดมากๆ เพื่อนๆของผมนั้นดีกับผมมากๆเลยครับ อันไหนที่ผมทำไม่ได้ เพื่อนๆก็ต่างช่วยกันทำ ช่วยกันสนับสนุนผม บางทีวิชาหลักของสายอาชีพสาขาที่ผมเรียน ผมทำได้เยอะ ผมก็จะช่วยเหลือเพื่อนๆด้วยเช่นกัน สิ่งที่ผมช็อคมากที่สุดคือ เพื่อนๆ ช่วยผมไปเที่ยวที่นั่นทีนี่ ไปร้องคาราโอเกะอยู่ห้าง ไปเล่นเกมร้านเกม ไปกินหมูกระทะ ไปกินเหล้าตอนกลางคืน ซึ่งด้วยความที่ผมเก็บกดมาตั้งแต่ ม.ต้น ตอนนั้นผมจึงมองเพื่อนในแง่ร้ายมากๆ กลัวว่าเขาจะหลอกไปเล่นยา กินเหล้า อะไรพวกนี้
จนสุดท้ายเพื่อนเห็นพฤติกรรมของผมไม่ไหว ดูขวางโลก ดูคิดลบกับเพื่อนๆมากๆ เพื่อนทั้งห้องเลยเรียกผมไปคุยปรับทัศนคติซะใหม่ ว่าเพราะอะไรทำไม่คิดลบแบบนี้ สุดท้ายก็เคลียร์ใจกันได้ด้วยดีครับ ตลอดเวลาผมกลัวเพื่อนในชั้นทิ้งผมมากๆ เช่น ตอนเวลากินข้าว สมัย ม.ต้น ต้องรีบกินให้ทันเพื่อน ไม่งั้นจะโดนทิ้งให้ผมนั่งอยู่คนเดียว พอมาเรียน ปวช. จึงติดนิสัยนี่ เพื่อนเลยตำหนิผมว่า จะกินข้าวมุงค่อยๆกิน เวลากินข้าวควรเอาปากรูดข้าวให้หมดช้อน เวลาเคี้ยวควรเคี้ยวให้หมดก่อนค่อยยัดคำใหม่เข้าไป พวกกรูรอเมิงจนกินเสร็จอยู่นี่แหละไม่หนีไปไหนหรอก พวกกรูไม่เหมือนเพื่อนร้ายๆ ที่โรงเรียนเก่าเมิง
เนื่องจากความที่ตัวผมเองนั่น อยู่ตัวคนเดียวมาตลอด เพื่อนๆจึงช่วยๆสั่งสอนการปฏิบัติตัวต่อการเข้าสังคมใหม่ตลอด 3 ปี ทีเรียน ปวช.ที่วิลัยมา แม้กระทั่งการแต่งตัวของผมที่ดูเชย เพื่อนของผมก็ด่าว่า เมิงจะแต่งเสื้อตัวใหญ่ๆมาเผื่อโตหรือไงวะ นี่ต้องแต่งแบบสลิมๆ เข้ารูปหน่อย มันจะได้ดูสมส่วน ที่ผมประทับใจมากๆก็คือเวลาที่ผมจะจบนั่น ทั้งห้องช่วยกันทำโครงการจบจนเสร็จ ผมคือตัวทอปในห้องเพราะผมเก่งคอม และอยู่สาขาคอมพิวเตอร์ จึงช่วยกันกับเพื่อนอีกคนที่เก่ง ผลักดันเพื่อนจนจบ ผมมีนิสัยชอบเบิ้ลรถเรียกร้องความสนใจ เจอเพื่อน ปวช. ดุเข้าไปถึงกับต้องเลิกบิด 5555
ตอนแรกก็แอบโกรธเพื่อนๆนะครับ เหมือนโดนดูถูกยิ่งกว่าตอน ม.ต้น แต่ตอนนี้กลับขอบคุณเพื่อน เพราะคำสอนต่างๆที่เพื่อนได้สอนผม มันกลับทำให้ผมเข้าสังคมได้จนถึงทุกวันนี้
จนตอนนี้ผมมีงานการดีๆทำแล้ว รับราชการ ล่าสุดได้นัดเจอเพื่อนๆกันตอนปีที่แล้ว รู้สึกว่าเพื่อนๆยังรักกันมากๆ และต่างคนก็ต่างแสดงความรักต่อผม เห็นใจผม และผลักดันผมมาจนถึงตอนนี้ ส่วนเพื่อนมัธยมก็ต่างดูถูกผมมาจนตอนนี้ ซึ่งผมเลิกคบและไม่ติดต่อกับพวกอัปปรีย์พวกนี้อีกต่อไป
เพื่อน สมัย ปวช. สำหรับผม คือเพื่อนแท้ๆ ที่ไม่เคยทิ้งผมไปเลย มีแค่กลุ่มเดียวเท่านั้นที่เป็นเพื่อนผม จนปานนี้ก็ยังติดต่อกันอยู่ และชอบคำพูดของเพื่อนมากๆคือ มีไรโทรหากรูได้เสมอนะ
มีใครเจอเพื่อนแท้ที่ไม่ใช่เพื่อนสมัยมัธยมบ้างไหมครับ หรือมีใครเป็นแบบผมหรือเปล่า ผมรู้สึกว่าชีวิตผมเปลียนไปเลยนะ ตั้งแต่เข้าเรียนวิลัยเทคนิค