จุดประสงค์ของการตั้งกระทู้นี้คืออยากช่วยให้คนที่เป็นสิวมีอาการที่ดีขึ้น ไม่ได้รับการจ้างหรือได้รับผลประโยชน์จากการตั้งกระทู้นี้ อาจจะยาวและไม่ได้กล่าวถึงแค่หัวข้อกระทู้อย่างเดียว
ต้องออกตัวก่อนว่าไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญหรือเรียนมาทางด้านนี้ สิ่งที่นำมาเขียนมาจากประสบการณ์ อย่าเชื่อและควรค้นหาข้อมูลที่มีแหล่งที่มาที่เชื่อถือได้หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ส่วนตัวเชื่อว่าวินัยจำเป็นกับการรักษาสิว แต่ถ้าขาดความรู้ที่ถูกต้องอาจจะทำให้ใช้วิธีที่ผิดทำให้อาการแย่ลงหรือไม่หายสักที
ทำไมหน้าร้อนทีไรสิวถึงเห่อ ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าสิวเกิดจากอะไร หลักๆเลยคือเชื้อโรค(แบคทีเรีย เชื้อรา) รวมกับน้ำมันที่ร่างกายผลิตออกมาเพื่อให้ผิวชุ่มชื่นและภูมิคุ้มกันร่างกายที่อ่อนแอ ปัจจัยอื่นผมมองว่าเป็นปัจจัยเสริมให้อาการแย่ลงซึ่งจะกล่าวในภายหลัง
ก่อนอื่นถ้าคุณเพิ่งเป็นสิวอย่าเอามือไปเค้นหรือบีบ โดยเฉพาะการเอาเล็บจิกลงไป ไม่งั้นจะเกิดหลุมสิวที่รักษายากและกลับมาเรียบเนียนเหมือนเดิม แต่ถ้ามีประสบการณ์แล้วการสกิดและเอาหัวออกก็สามารถทำได้
ทีนี้พอเข้าใจว่าปัจจัยหลักของสิวเกิดจากอะไรก็มาดูวิธีรักษาและป้องกันการเกิดสิวใหม่กัน ขอแยกเป็นหัวข้อเพื่อง่ายต่อการทำความเข้าใจ
เชื้อโรค(แบคทีเรีย เชื้อรา)
ลักษณะสิวที่เกิดจากแบคทีเรียหรือเชื้อราหน้าตาเป็นอย่างไรต้องแยกให้ออกก่อน แพทย์ผิวหนังเองบางทีก็ต้องนำเชื้อบนผิวไปส่องกล้องเพื่อตรวจเชื้อเพื่อรักษาและจ่ายยาทาหรือยากินที่ตรงกับเชื้อหากลักษณะสิวแยกยากว่าเกิดจากเชื้ออะไร
โดยปกติแล้วยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียก็จะฆ่าแต่แบคทีเรีย แกรมบวกหรือลบก็แล้วแต่ชนิดของยา ยาฆ่าเชื้อราก็เหมือนกัน ซึ่งบางทีเราอาจจะเป็นทั้งคู่ถ้าไม่ค่อยรักษาความสะอาด แต่ก็มีสารบางตัวที่ฆ่าได้ทั้งแบคทีเรียและเชื้อราซึ่งอาจจะไม่เหมาะกับผิวหน้าเท่าไหร่นัก
ขึ้นชื่อว่ายาใช้มากเกินไป ใช้ไม่ถูกวิธีก็จะเกิดผลเสียในระยะยาว และถึงใช้ถูกวิธีก็ยังมีผลข้างเคียงที่ต้องระวัง จะกินยาหรือทายาก็ควรรู้ว่ายาตัวนั้นช่วยอะไร หรือคาดหวังอะไรก็ไปหาครีมที่มีสารที่ช่วยเรื่องนั้น เช่น เป็นสิวอักเสบจากเชื้อ P.acne ก็ทายาที่มี Benzoyl Peroxide ความเข้มข้น 2.5% ก็เพียงพอ ทิ้งไว้แค่5นาทีและรีบอาบน้ำล้างหน้า ผลข้างเคียงทำให้หน้าระคายเคือง ไวต่อแสงแดด สิวผดเกิดจากเชื้อราก็ใช้ยาทาที่ฆ่าเชื้อราหรือยากินสำหรับฆ่าเชื้อยา
เกือบลืมหัวข้อกระทู้ ธรรมชาติของหน้าร้อนแล้วเหมาะแก่การเจริญเติบโตของเชื้อโรค ด้วยอุณหภูมิและความชื้น ยกตัวอย่างให้เห็นภาพก็คือหน้าร้อนอาหารจะบูดง่ายเพราะเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราเติบโตได้ง่าย แมลงวันมาตอมก็เอาเชื้อโรคมาใส่ การวางอาหารในที่ที่ไม่สะอาดก็จะทำให้บูดไวขึ้น
จากตัวอย่างก็คิดต่อเองได้เลยว่าเชื้อต่างๆรอบตัวเราก็ต้องมากตามไปด้วยหากดูแลได้ไม่เหมาะสมและสุดท้ายก็แพร่มาสู่ผิวหน้าและเกิดสิว ขอยกตัวอย่างเพิ่มเติมเพื่อให้เห็นภาพมากขึ้นว่าเชื้อโรคต่างมาอยู่บนผิวได้อย่างไร
คำถาม ให้คะแนนตามจำนวนเชื้อโรคของสิ่งเหล่านี้ คะแนนตั้งแต่ 1-10 โดย 1 คือน้อยสุด 10 คือมากสุด 1.ผ้าเช็ดตัวที่ใช้แล้ว1วัน 2.ผ้าเช็ดตัวที่ใช้แล้ว7วัน 3.ผ้าเช็ดตัวที่ใช้แล้ว15วัน 4.ผ้าเช็ดตัวที่ใช้แล้ว30วัน 5.ผ้าที่นอนใหม่แล้วไปนอนโดยที่ไม่อาบน้ำได้คะแนนเท่าไหร่ 6.ผ้าที่นอนใหม่แล้วไปนอนโดยที่อาบน้ำได้คะแนนเท่าไหร่
ขอบคุณคำตอบจาก เจมินาย ซึ่งมีชื่อเดิมว่า บาร์ด เป็นกลุ่มโมเดลภาษาขนาดใหญ่ ที่พัฒนาโดย Google AI
คะแนนความสกปรก (1 น้อยสุด 10 มากสุด)
1. ผ้าเช็ดตัวที่ใช้แล้ว 1 วัน: 4/10
แม้จะดูสะอาด แต่มีแบคทีเรียสะสมอยู่บ้าง ควรซักทุก 2-3 วัน
2. ผ้าเช็ดตัวที่ใช้แล้ว 7 วัน: 6/10
แบคทีเรียสะสมเยอะขึ้น มีกลิ่นอับ ควรซักโดยไม่ต้องรอ
3. ผ้าเช็ดตัวที่ใช้แล้ว 15 วัน: 8/10
เต็มไปด้วยแบคทีเรีย เชื้อรา และสิ่งสกปรก มีกลิ่นเหม็นอับ ไม่ควรใช้ต่อ
4. ผ้าเช็ดตัวที่ใช้แล้ว 30 วัน ที่ตากแดดทุกครั้งหลังใช้: 7/10
แสงแดดช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้บ้าง แต่ยังมีแบคทีเรียและสิ่งสกปรกสะสมอยู่ ควรซักโดยไม่ต้องรอ
5. ผ้าปูที่นอนใหม่แล้วไปนอนโดยที่ไม่อาบน้ำ: 6/10
ผิวหนังที่ตายแล้ว เหงื่อ และน้ำมันจากร่างกายจะเปื้อนที่นอน เป็นแหล่งสะสมของไรฝุ่น ควรอาบน้ำก่อนนอนเสมอ
6. ผ้าปูที่นอนใหม่แล้วไปนอนโดยที่อาบน้ำ: 3/10
สะอาดกว่าการไม่อาบน้ำ แต่ยังมีเหงื่อและน้ำมันจากร่างกาย ควรซักผ้าปูที่นอนเป็นประจำ
หมายเหตุ:คะแนนเหล่านี้เป็นเพียงการประมาณคร่าวๆ ปริมาณเชื้อโรคที่แท้จริงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ
เสริมอีกนิด สิ่งของสาธารณะถ้าดูแลไม่ดีก็คงสกปรกกว่าตัวอย่างข้างบน ของใช้ส่วนตัวเช่นแปรงแต่งหน้า โทรศัพท์ แว่นตา คอมพิวเตอร์ เชื้อโรคที่หน้าส่วนใหญ่มาจากการเอามือมาจับหน้า แต่ก่อนหน้าไปจับมาอะไรมานี่สิ ล้างมือบ่อยๆก็ช่วยได้ ถ้าอยากจับใช้หลังมือแทนจะดีกว่าหน่อยให้หายอยาก
น้ำมัน
ร่างกายผลิตน้ำมันเพื่อประโยชน์หลายอย่าง แต่การผลิตมากหรือน้อยเกินไปก็ไม่ดี เช่นเป็นสิว หริอผิวแห้ง มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการผลิตน้ำมันบนผิวเช่น พันธุกรรม ฮอร์โมน ยาบางชนิด อาหาร สภาพอากาศ
ทำความสะอาดผิวหน้าและผิวหายเช้าเย็นโดยใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยนต่อผิว ไม่งั้นคราบเหงื่อและขี้ไคลจะเป็นอาหารของเชื้อโรคบนผิวทำให้สิวอักเสบได้ การทานยาที่ลดการผลิตน้ำมันมีผลข้างเคียงเยอะและไม่ใช่แก้ที่ต้นเหตุ เป็นยาควบคุมโดยแพทย์ผิวหนัง
ภูมิคุ้มกันร่างกาย
ร่างกายของเราฉลาด มีเม็ดเลือดขาวคอยกำจัดสิ่งแปลกปลอมเช่นเชื้อโรคหรือสิ่งที่เราแพ้ เช่นไรฝุ่น เกสรดอกไม้ การคอยดูแลเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงสิวก็จะหายไวขึ้นและเป็นสิวยากขึ้น ภูมิคุ้มกันร่างกายมีจำกัด ให้นึกว่ามีอยู่ก้อนนึง ถ้าเราเป็นโดนสารก่อภูมิแพ้ก็แบ่งไปแล้วส่วนหนึ่ง เชื้อสิวก็อีกส่วนหนึ่ง บางคนร่างกายไม่แข็งแรงก็จะมีภูมิคุ้มกันน้อย นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ทาครีมบำรุง
ถ้าพูดถึงผิวก็คงมองข้าม
เกราะป้องกันผิวไม่ได้ สำคัญไม่แพ้กัน ถ้าเกราะป้องกันผิวแข็งแรงเชื้อโรค สิ่งแปลกปลอม สารอนุมูลอิสระก็จะมาทำร้ายผิวเราได้ยากขึ้น สิ่งที่ทำร้ายเกราะป้องกันผิวมากที่สุดก็คือการล้างหน้า
ย้ำนะครับเลือกโฟมล้างหน้าดีดี การใช้ยารักษาสิว แสงแดด ฝุ่นpm2.5(ค่าฝุ่นตอนนี้สยองจริง) ที่ลงไปในชั้นผิวกระตุ้นการอักเสบ แนะนำใส่หน้ากากก็ดีนะ ทำได้แค่ลดผลข้างเคียง ลดการอยู่ข้างนอก
การดูแลเกราะป้องกันผิวทำได้โดย ล้างด้วยโฟมที่pHเหมาะกับผิว ไม่แห้งเกินไปแต่ก็ทำความสะอาดได้ดี ทาครีมบำรุงไม่ต้องมาก1-2ตัว โดยการเลือกครีมควรจะรู้ด้วยว่าครีมช่วยอะไรดูจากส่วนผสม ไม่จำเป็นต้องทาหลายตัว ทาครีมกันแดดให้เพื่อป้องกันแสงแดดและลดอนุมูลอิสระที่มาจากฝุ่นpm2.5
จะยกตัวอย่างroutineส่วนตัวที่เป็นคน
ผิวมันแต่ขาดน้ำ สามารถลองใช้ตามได้หรือจะเลือกเองก็ได้ให้เหมาะกับสภาพผิว จะเลือกมาแค่ที่ใช้ปัจจุบัน ที่เคยใช้ในอดีตแล้วไม่ชอบก็มีแต่ตัวครีมอาจจะดีแต่เพราะดูแลปัจจัยที่กล่าวมาด้านบนได้ไม่ดีทำให้ไม่เห็นผล การเลือกซื้อครีมออนไลน์ต้องดูร้านที่น่าเชื่อถือจริงๆ ปลอมเยอะมาก นี่จะไม่ดูเลยว่า5ดาวเยอะแค่ไหน ถ้ารีวิว1ดาวแล้วบอกปลอมจะเปลี่ยนร้านเลย หาราคากลางแล้วไปดูในแอพ ถ้าถูกกว่า20-30%แล้วแท้ก็ดีแล้ว 50%ขึ้นไปมีเยอะเหมือนมาทำให้เสียเวลาดู
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เริ่มอาบน้ำ เช้า ทำความสะอาดจากบนลงล่าง
สระผมก่อน ใช้ clear ice cool menthol ใช้แล้วไม่มีรังแค ผมไม่ได้นุ่มแต่ก็รับได้ ดีเปล่าไม่รู้ ไม่ได้สนใจเรื่องยาสระผมเท่าไหร่
ตามด้วยล้างหน้าถ้าตอนเช้าใช้ krave matcha hemp hydrating cleanser ใช้แล้วหน้าไม่แห้งเลย นุ่มๆ ลองให้พี่สาวที่รู้จักใช้ครั้งนึงซื้อมาใช้ตามเลย ชอบกลิ่นมาก ล้างแล้วลื่นผิวดี ที่ใช้ตอนเช้าเพราะจะได้ไม่ทำลายเกราะป้องกันผิว ให้สารต่างๆในสกินแคร์หลงเหลือในผิวบ้าง ข้อเสียคือราคาสูง หา dupe มาแทนได้
ต่อไปก็แคะขี้มูก ไม่แคะตอนอาบน้ำแต่แคะตอนอื่นมือสกปรก แคะแล้วไม่ล้างมือ บี้ขี้มูกเล่น ใครกันนะ
ขั้นตอนสุดท้าย อาบน้ำ ถูหูด้วย ก็อยากให้ใช้หลักเดียวกับผิวหน้า ตอนเช้าไม่ได้สกปรกมาก ใช้ eucerin pH5 wash lotion หอมดี ใช้แล้วผิวไม่แห้งแต่ก็สะอาด มีฟองนิดหน่อย แต่ราคาสูง
อาบน้ำเสร็จ เช็ดตัว (เปลี่ยนทุก1-2วัน)
เช็ดหน้าโดยใช้ทิชชู ถ้ามีผ้าเช็ดหน้าแยกก็ดีจะประหยัดกว่า
แปรงฟัน
ล้างมืออีกรอบ ทาครีมกันแดด ใช้ของ eucerin sun dry touch sebum control dp60 สูตรโรงพยาบาล แต่ซื้อจากแอพถูกกว่า เหมาะสำหรับผิวมัน เป็นสิว คุมมันดีมาก ใช้หน้าร้อน หน้าฝนคิดว่าได้อยู่ กันน้ำด้วย หน้าหนาวจะใช้ตัวอื่น
เป็นอันเสร็จ เอาผ้าเช็ดตัวไปตาก
ตอนเย็น
ล้างกันแดดที่กันน้ำ ผู้หญิงถ้าแต่งหน้าก็ใช้ได้ corine de farme micellar gel refreshing บีบแล้วลูบหน้า สบายผิวมาก หอม ไม่ต้องใช้สำลีเพราะเป็นเจล
ถ้าโดนฝุ่นควันมากสระผมก็ดีแต่ไม่สระตอนเช้าได้ถ้าหัวไม่ฟู
ทาbenzac 2.5% 5นาทีแล้วอาบน้ำ ทิ้งไว้นานกว่านั้นจะได้แค่ผลข้างเคียงที่มากขึ้น หาสมดุลเอาว่าใช้บ่อยแค่ไหน ดีขึ้นแล้วค่อยๆลดการใช้ลง
ถ้าวันไหนหน้าสกปรกมากก็จะใช้ cerave sa cleanser ช่วยผลัดเซลล์ผิว อาจจะใช้วันเว้นวัน ถูวนๆสักนาทีแล้วล้างออก
อาบน้ำจะใช้ dettol hydrating มี salicylic acid ช่วยผลัดผิว ฆ่าเชื้อได้ กำจัดขี้ไคล แต่ผิวชุ่มชิ่น ถ้าวันไหรู้สึกเหงื่อออกเยอะจะใช้ dettol original สบู่ก้อน อันนี้มีสารฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อราได้ แต่ไม่ต้องใช้บ่อย เคยเอามาใช้ถูหน้า ฆ่าเชื้อได้จริงแต่เกราะป้องกันผิวไปหมด อาจจะได้ผลเสียมากกว่าผลดี
เช็ดตัว ทาครีม ทา2ตัว ลง cosrx oil free ultra moisturizing lotion มีน้ำจาก birch sap ใช้ดีซึมไว แต่ชุ่มชื่นไม่พอ ลง cerave pm lotion ทับ ก็เอาอยู่
ไม่ทาโลชั่นเพราะไม่ชอบ ทาแล้วรู้สึกว่าสิ่งสกปรกมาเกาะร่างกายง่ายแล้วชอบเอามือมาจับหน้า สิวขึ้น แต่ถ้าระวังจะทาก็ได้ นานๆทีจะทา cerave lotion
*ส่วนตัวจะแยกขั้นตอนรักษาสิวให้จบตั้งแต่อาบน้ำ เสร็จแล้วบำรุง
ยกตัวอย่างสิ่งที่ทำในชีวิตประจำวัน
แต่งตัวเสร็จก็จะล้างแว่น ใช้กระดาษเปียกที่มีสารฆ่าเชื้อเช็ดโทรศัพท์ เคสเกือบทุกวัน แล้วก็เช็ดโซฟาด้วย ใช้โซฟาหนังแท้เพราะเคยใช้โซฟาผ้าแล้วอมฝุ่น ทำความสะอาดยาก สะสมเชื้อโรคมาก หน้าติดเชื้อไปหลายรอบต้องหาหมอกินยา ซกมกเองด้วย เลยเปลี่ยนโซฟาหนังทำความสะอาดง่ายก็จริงแต่ดูดซับความร้อนดีมาก ชื้นอีก เชื้อโรคก็โตง่ายถ้าไม่สะอาดแล้วมานอน อยู่บ้านเป็นคนชอบใส่กางเกงในด้วย เข้าห้องน้ำก็มาเลอะโซฟา เหงื่อครีมที่ทาก็เพาะเชื้อไป เลยต้องเปิดแอร์บ่อยมาก ปกติคนที่บ้านต้องบอกให้เปิด บางปีแทบไม่เคยเปิดแอร์เลยแต่ไม่ไหวกับประเทศไทยละ
ปัจจัยเสริมที่ทำให้สิวแย่ลง *ไม่ใช่ปัจจัยหลักแต่ทำให้สิวแย่ลงได้
1.อาหาร เช่นนมวัว งานวิจัยรองรับเยอะมากว่าควรเลี่ยงถ้าเป็นสิว อาหารหวาน ทำให้ร่างกายอักเสบและเป็นอาหารเชื้อโรค ขนมถุงทอด อยากกินซื้อมาทอดเองจะดีกว่า แต่ถ้าดูแลตัวเองดีก็มีผลแต่ไม่มาก แต่ถ้ารักษาสิวแรกๆเลี่ยงไปก่อน ดีขึ้นแล้วลองกินแล้วสังเกตตัวเอง
2.อาหารเสริม ทำให้สิวขึ้นได้เช่นกัน เช่น ไบโอตินเพียวๆ เยอะเกิน งานวิจัยรองรับว่าทำให้สิวเห่อ สังเกตตัวเองว่ากินอะไรเข้าไปแล้วมีผลยังไง
3.ไม่กล้าไปหาหมอผิวหนัง หรือหาแล้วมีประสบการณ์ที่ไม่ดี คำเตือนหาหมอคลินิกเวชกรรมทั่วไปแล้วหมอจ่ายครีมฝาเล็กๆมา นี่ไม่กล้าใช้ ไม่รู้ใส่อะไรมา การรักษาครั้งแรกอาจจำเป็นต้องกินยาหรือคำแนะนำเฉพาะบุคคล ถ้าลองปรับตามคำแนะนำแล้วแย่ลงก็ควรไปพบแพทย์ผิวหนัง
4.มีอีกเยอะแต่ลองหาเพิ่มอ่านนะ ถามAIก็ได้แต่ตรวจเช็คความถูกต้องด้วย ไม่อยากไปต่อในความคิดเห็นเพราะยาวเกิน
ปัจจัยเสริมที่ช่วยให้สิวดีขึ้น
กินอาหารที่ดี หิวก็กินข้าวจะได้กินขนมน้อยๆ เลี่ยงนม คาเฟอีน แอล หวาน รสจัด พวกภูมิแพ้อาหารแฝงไม่ได้มีผลอะไรเลย ลองอ่านกระทู้ที่เคยเขียนได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://pantip.com/topic/42042133
ให้ใส่ใจการขับถ่ายมากๆแทน* กินไฟเบอร์มะขามช่วย ลองอ่านประโยชน์ของน้ำผึ้ง น้ำมะเขือเทศ
ทำไมหน้าร้อนทีไรสิวถึงเห่อ (ลองเข้ามาอ่านนะ)
ต้องออกตัวก่อนว่าไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญหรือเรียนมาทางด้านนี้ สิ่งที่นำมาเขียนมาจากประสบการณ์ อย่าเชื่อและควรค้นหาข้อมูลที่มีแหล่งที่มาที่เชื่อถือได้หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ส่วนตัวเชื่อว่าวินัยจำเป็นกับการรักษาสิว แต่ถ้าขาดความรู้ที่ถูกต้องอาจจะทำให้ใช้วิธีที่ผิดทำให้อาการแย่ลงหรือไม่หายสักที
ทำไมหน้าร้อนทีไรสิวถึงเห่อ ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าสิวเกิดจากอะไร หลักๆเลยคือเชื้อโรค(แบคทีเรีย เชื้อรา) รวมกับน้ำมันที่ร่างกายผลิตออกมาเพื่อให้ผิวชุ่มชื่นและภูมิคุ้มกันร่างกายที่อ่อนแอ ปัจจัยอื่นผมมองว่าเป็นปัจจัยเสริมให้อาการแย่ลงซึ่งจะกล่าวในภายหลัง
ก่อนอื่นถ้าคุณเพิ่งเป็นสิวอย่าเอามือไปเค้นหรือบีบ โดยเฉพาะการเอาเล็บจิกลงไป ไม่งั้นจะเกิดหลุมสิวที่รักษายากและกลับมาเรียบเนียนเหมือนเดิม แต่ถ้ามีประสบการณ์แล้วการสกิดและเอาหัวออกก็สามารถทำได้
ทีนี้พอเข้าใจว่าปัจจัยหลักของสิวเกิดจากอะไรก็มาดูวิธีรักษาและป้องกันการเกิดสิวใหม่กัน ขอแยกเป็นหัวข้อเพื่อง่ายต่อการทำความเข้าใจ
เชื้อโรค(แบคทีเรีย เชื้อรา)
ลักษณะสิวที่เกิดจากแบคทีเรียหรือเชื้อราหน้าตาเป็นอย่างไรต้องแยกให้ออกก่อน แพทย์ผิวหนังเองบางทีก็ต้องนำเชื้อบนผิวไปส่องกล้องเพื่อตรวจเชื้อเพื่อรักษาและจ่ายยาทาหรือยากินที่ตรงกับเชื้อหากลักษณะสิวแยกยากว่าเกิดจากเชื้ออะไร
โดยปกติแล้วยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียก็จะฆ่าแต่แบคทีเรีย แกรมบวกหรือลบก็แล้วแต่ชนิดของยา ยาฆ่าเชื้อราก็เหมือนกัน ซึ่งบางทีเราอาจจะเป็นทั้งคู่ถ้าไม่ค่อยรักษาความสะอาด แต่ก็มีสารบางตัวที่ฆ่าได้ทั้งแบคทีเรียและเชื้อราซึ่งอาจจะไม่เหมาะกับผิวหน้าเท่าไหร่นัก
ขึ้นชื่อว่ายาใช้มากเกินไป ใช้ไม่ถูกวิธีก็จะเกิดผลเสียในระยะยาว และถึงใช้ถูกวิธีก็ยังมีผลข้างเคียงที่ต้องระวัง จะกินยาหรือทายาก็ควรรู้ว่ายาตัวนั้นช่วยอะไร หรือคาดหวังอะไรก็ไปหาครีมที่มีสารที่ช่วยเรื่องนั้น เช่น เป็นสิวอักเสบจากเชื้อ P.acne ก็ทายาที่มี Benzoyl Peroxide ความเข้มข้น 2.5% ก็เพียงพอ ทิ้งไว้แค่5นาทีและรีบอาบน้ำล้างหน้า ผลข้างเคียงทำให้หน้าระคายเคือง ไวต่อแสงแดด สิวผดเกิดจากเชื้อราก็ใช้ยาทาที่ฆ่าเชื้อราหรือยากินสำหรับฆ่าเชื้อยา
เกือบลืมหัวข้อกระทู้ ธรรมชาติของหน้าร้อนแล้วเหมาะแก่การเจริญเติบโตของเชื้อโรค ด้วยอุณหภูมิและความชื้น ยกตัวอย่างให้เห็นภาพก็คือหน้าร้อนอาหารจะบูดง่ายเพราะเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราเติบโตได้ง่าย แมลงวันมาตอมก็เอาเชื้อโรคมาใส่ การวางอาหารในที่ที่ไม่สะอาดก็จะทำให้บูดไวขึ้น
จากตัวอย่างก็คิดต่อเองได้เลยว่าเชื้อต่างๆรอบตัวเราก็ต้องมากตามไปด้วยหากดูแลได้ไม่เหมาะสมและสุดท้ายก็แพร่มาสู่ผิวหน้าและเกิดสิว ขอยกตัวอย่างเพิ่มเติมเพื่อให้เห็นภาพมากขึ้นว่าเชื้อโรคต่างมาอยู่บนผิวได้อย่างไร
คำถาม ให้คะแนนตามจำนวนเชื้อโรคของสิ่งเหล่านี้ คะแนนตั้งแต่ 1-10 โดย 1 คือน้อยสุด 10 คือมากสุด 1.ผ้าเช็ดตัวที่ใช้แล้ว1วัน 2.ผ้าเช็ดตัวที่ใช้แล้ว7วัน 3.ผ้าเช็ดตัวที่ใช้แล้ว15วัน 4.ผ้าเช็ดตัวที่ใช้แล้ว30วัน 5.ผ้าที่นอนใหม่แล้วไปนอนโดยที่ไม่อาบน้ำได้คะแนนเท่าไหร่ 6.ผ้าที่นอนใหม่แล้วไปนอนโดยที่อาบน้ำได้คะแนนเท่าไหร่ ขอบคุณคำตอบจาก เจมินาย ซึ่งมีชื่อเดิมว่า บาร์ด เป็นกลุ่มโมเดลภาษาขนาดใหญ่ ที่พัฒนาโดย Google AI
คะแนนความสกปรก (1 น้อยสุด 10 มากสุด)
1. ผ้าเช็ดตัวที่ใช้แล้ว 1 วัน: 4/10
แม้จะดูสะอาด แต่มีแบคทีเรียสะสมอยู่บ้าง ควรซักทุก 2-3 วัน
2. ผ้าเช็ดตัวที่ใช้แล้ว 7 วัน: 6/10
แบคทีเรียสะสมเยอะขึ้น มีกลิ่นอับ ควรซักโดยไม่ต้องรอ
3. ผ้าเช็ดตัวที่ใช้แล้ว 15 วัน: 8/10
เต็มไปด้วยแบคทีเรีย เชื้อรา และสิ่งสกปรก มีกลิ่นเหม็นอับ ไม่ควรใช้ต่อ
4. ผ้าเช็ดตัวที่ใช้แล้ว 30 วัน ที่ตากแดดทุกครั้งหลังใช้: 7/10
แสงแดดช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้บ้าง แต่ยังมีแบคทีเรียและสิ่งสกปรกสะสมอยู่ ควรซักโดยไม่ต้องรอ
5. ผ้าปูที่นอนใหม่แล้วไปนอนโดยที่ไม่อาบน้ำ: 6/10
ผิวหนังที่ตายแล้ว เหงื่อ และน้ำมันจากร่างกายจะเปื้อนที่นอน เป็นแหล่งสะสมของไรฝุ่น ควรอาบน้ำก่อนนอนเสมอ
6. ผ้าปูที่นอนใหม่แล้วไปนอนโดยที่อาบน้ำ: 3/10
สะอาดกว่าการไม่อาบน้ำ แต่ยังมีเหงื่อและน้ำมันจากร่างกาย ควรซักผ้าปูที่นอนเป็นประจำ
หมายเหตุ:คะแนนเหล่านี้เป็นเพียงการประมาณคร่าวๆ ปริมาณเชื้อโรคที่แท้จริงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ
เสริมอีกนิด สิ่งของสาธารณะถ้าดูแลไม่ดีก็คงสกปรกกว่าตัวอย่างข้างบน ของใช้ส่วนตัวเช่นแปรงแต่งหน้า โทรศัพท์ แว่นตา คอมพิวเตอร์ เชื้อโรคที่หน้าส่วนใหญ่มาจากการเอามือมาจับหน้า แต่ก่อนหน้าไปจับมาอะไรมานี่สิ ล้างมือบ่อยๆก็ช่วยได้ ถ้าอยากจับใช้หลังมือแทนจะดีกว่าหน่อยให้หายอยาก
น้ำมัน
ร่างกายผลิตน้ำมันเพื่อประโยชน์หลายอย่าง แต่การผลิตมากหรือน้อยเกินไปก็ไม่ดี เช่นเป็นสิว หริอผิวแห้ง มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการผลิตน้ำมันบนผิวเช่น พันธุกรรม ฮอร์โมน ยาบางชนิด อาหาร สภาพอากาศ
ทำความสะอาดผิวหน้าและผิวหายเช้าเย็นโดยใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยนต่อผิว ไม่งั้นคราบเหงื่อและขี้ไคลจะเป็นอาหารของเชื้อโรคบนผิวทำให้สิวอักเสบได้ การทานยาที่ลดการผลิตน้ำมันมีผลข้างเคียงเยอะและไม่ใช่แก้ที่ต้นเหตุ เป็นยาควบคุมโดยแพทย์ผิวหนัง
ภูมิคุ้มกันร่างกาย
ร่างกายของเราฉลาด มีเม็ดเลือดขาวคอยกำจัดสิ่งแปลกปลอมเช่นเชื้อโรคหรือสิ่งที่เราแพ้ เช่นไรฝุ่น เกสรดอกไม้ การคอยดูแลเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงสิวก็จะหายไวขึ้นและเป็นสิวยากขึ้น ภูมิคุ้มกันร่างกายมีจำกัด ให้นึกว่ามีอยู่ก้อนนึง ถ้าเราเป็นโดนสารก่อภูมิแพ้ก็แบ่งไปแล้วส่วนหนึ่ง เชื้อสิวก็อีกส่วนหนึ่ง บางคนร่างกายไม่แข็งแรงก็จะมีภูมิคุ้มกันน้อย นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ทาครีมบำรุง
ถ้าพูดถึงผิวก็คงมองข้ามเกราะป้องกันผิวไม่ได้ สำคัญไม่แพ้กัน ถ้าเกราะป้องกันผิวแข็งแรงเชื้อโรค สิ่งแปลกปลอม สารอนุมูลอิสระก็จะมาทำร้ายผิวเราได้ยากขึ้น สิ่งที่ทำร้ายเกราะป้องกันผิวมากที่สุดก็คือการล้างหน้า ย้ำนะครับเลือกโฟมล้างหน้าดีดี การใช้ยารักษาสิว แสงแดด ฝุ่นpm2.5(ค่าฝุ่นตอนนี้สยองจริง) ที่ลงไปในชั้นผิวกระตุ้นการอักเสบ แนะนำใส่หน้ากากก็ดีนะ ทำได้แค่ลดผลข้างเคียง ลดการอยู่ข้างนอก
การดูแลเกราะป้องกันผิวทำได้โดย ล้างด้วยโฟมที่pHเหมาะกับผิว ไม่แห้งเกินไปแต่ก็ทำความสะอาดได้ดี ทาครีมบำรุงไม่ต้องมาก1-2ตัว โดยการเลือกครีมควรจะรู้ด้วยว่าครีมช่วยอะไรดูจากส่วนผสม ไม่จำเป็นต้องทาหลายตัว ทาครีมกันแดดให้เพื่อป้องกันแสงแดดและลดอนุมูลอิสระที่มาจากฝุ่นpm2.5
จะยกตัวอย่างroutineส่วนตัวที่เป็นคนผิวมันแต่ขาดน้ำ สามารถลองใช้ตามได้หรือจะเลือกเองก็ได้ให้เหมาะกับสภาพผิว จะเลือกมาแค่ที่ใช้ปัจจุบัน ที่เคยใช้ในอดีตแล้วไม่ชอบก็มีแต่ตัวครีมอาจจะดีแต่เพราะดูแลปัจจัยที่กล่าวมาด้านบนได้ไม่ดีทำให้ไม่เห็นผล การเลือกซื้อครีมออนไลน์ต้องดูร้านที่น่าเชื่อถือจริงๆ ปลอมเยอะมาก นี่จะไม่ดูเลยว่า5ดาวเยอะแค่ไหน ถ้ารีวิว1ดาวแล้วบอกปลอมจะเปลี่ยนร้านเลย หาราคากลางแล้วไปดูในแอพ ถ้าถูกกว่า20-30%แล้วแท้ก็ดีแล้ว 50%ขึ้นไปมีเยอะเหมือนมาทำให้เสียเวลาดู
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ยกตัวอย่างสิ่งที่ทำในชีวิตประจำวัน
แต่งตัวเสร็จก็จะล้างแว่น ใช้กระดาษเปียกที่มีสารฆ่าเชื้อเช็ดโทรศัพท์ เคสเกือบทุกวัน แล้วก็เช็ดโซฟาด้วย ใช้โซฟาหนังแท้เพราะเคยใช้โซฟาผ้าแล้วอมฝุ่น ทำความสะอาดยาก สะสมเชื้อโรคมาก หน้าติดเชื้อไปหลายรอบต้องหาหมอกินยา ซกมกเองด้วย เลยเปลี่ยนโซฟาหนังทำความสะอาดง่ายก็จริงแต่ดูดซับความร้อนดีมาก ชื้นอีก เชื้อโรคก็โตง่ายถ้าไม่สะอาดแล้วมานอน อยู่บ้านเป็นคนชอบใส่กางเกงในด้วย เข้าห้องน้ำก็มาเลอะโซฟา เหงื่อครีมที่ทาก็เพาะเชื้อไป เลยต้องเปิดแอร์บ่อยมาก ปกติคนที่บ้านต้องบอกให้เปิด บางปีแทบไม่เคยเปิดแอร์เลยแต่ไม่ไหวกับประเทศไทยละ
ปัจจัยเสริมที่ทำให้สิวแย่ลง *ไม่ใช่ปัจจัยหลักแต่ทำให้สิวแย่ลงได้
1.อาหาร เช่นนมวัว งานวิจัยรองรับเยอะมากว่าควรเลี่ยงถ้าเป็นสิว อาหารหวาน ทำให้ร่างกายอักเสบและเป็นอาหารเชื้อโรค ขนมถุงทอด อยากกินซื้อมาทอดเองจะดีกว่า แต่ถ้าดูแลตัวเองดีก็มีผลแต่ไม่มาก แต่ถ้ารักษาสิวแรกๆเลี่ยงไปก่อน ดีขึ้นแล้วลองกินแล้วสังเกตตัวเอง
2.อาหารเสริม ทำให้สิวขึ้นได้เช่นกัน เช่น ไบโอตินเพียวๆ เยอะเกิน งานวิจัยรองรับว่าทำให้สิวเห่อ สังเกตตัวเองว่ากินอะไรเข้าไปแล้วมีผลยังไง
3.ไม่กล้าไปหาหมอผิวหนัง หรือหาแล้วมีประสบการณ์ที่ไม่ดี คำเตือนหาหมอคลินิกเวชกรรมทั่วไปแล้วหมอจ่ายครีมฝาเล็กๆมา นี่ไม่กล้าใช้ ไม่รู้ใส่อะไรมา การรักษาครั้งแรกอาจจำเป็นต้องกินยาหรือคำแนะนำเฉพาะบุคคล ถ้าลองปรับตามคำแนะนำแล้วแย่ลงก็ควรไปพบแพทย์ผิวหนัง
4.มีอีกเยอะแต่ลองหาเพิ่มอ่านนะ ถามAIก็ได้แต่ตรวจเช็คความถูกต้องด้วย ไม่อยากไปต่อในความคิดเห็นเพราะยาวเกิน
ปัจจัยเสริมที่ช่วยให้สิวดีขึ้น
กินอาหารที่ดี หิวก็กินข้าวจะได้กินขนมน้อยๆ เลี่ยงนม คาเฟอีน แอล หวาน รสจัด พวกภูมิแพ้อาหารแฝงไม่ได้มีผลอะไรเลย ลองอ่านกระทู้ที่เคยเขียนได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ให้ใส่ใจการขับถ่ายมากๆแทน* กินไฟเบอร์มะขามช่วย ลองอ่านประโยชน์ของน้ำผึ้ง น้ำมะเขือเทศ