ทำไมหน้าร้อนทีไรสิวถึงเห่อ (ลองเข้ามาอ่านนะ)

จุดประสงค์ของการตั้งกระทู้นี้คืออยากช่วยให้คนที่เป็นสิวมีอาการที่ดีขึ้น ไม่ได้รับการจ้างหรือได้รับผลประโยชน์จากการตั้งกระทู้นี้ อาจจะยาวและไม่ได้กล่าวถึงแค่หัวข้อกระทู้อย่างเดียว

ต้องออกตัวก่อนว่าไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญหรือเรียนมาทางด้านนี้ สิ่งที่นำมาเขียนมาจากประสบการณ์ อย่าเชื่อและควรค้นหาข้อมูลที่มีแหล่งที่มาที่เชื่อถือได้หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

ส่วนตัวเชื่อว่าวินัยจำเป็นกับการรักษาสิว แต่ถ้าขาดความรู้ที่ถูกต้องอาจจะทำให้ใช้วิธีที่ผิดทำให้อาการแย่ลงหรือไม่หายสักที

ทำไมหน้าร้อนทีไรสิวถึงเห่อ ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าสิวเกิดจากอะไร หลักๆเลยคือเชื้อโรค(แบคทีเรีย เชื้อรา) รวมกับน้ำมันที่ร่างกายผลิตออกมาเพื่อให้ผิวชุ่มชื่นและภูมิคุ้มกันร่างกายที่อ่อนแอ ปัจจัยอื่นผมมองว่าเป็นปัจจัยเสริมให้อาการแย่ลงซึ่งจะกล่าวในภายหลัง

ก่อนอื่นถ้าคุณเพิ่งเป็นสิวอย่าเอามือไปเค้นหรือบีบ โดยเฉพาะการเอาเล็บจิกลงไป ไม่งั้นจะเกิดหลุมสิวที่รักษายากและกลับมาเรียบเนียนเหมือนเดิม แต่ถ้ามีประสบการณ์แล้วการสกิดและเอาหัวออกก็สามารถทำได้

ทีนี้พอเข้าใจว่าปัจจัยหลักของสิวเกิดจากอะไรก็มาดูวิธีรักษาและป้องกันการเกิดสิวใหม่กัน ขอแยกเป็นหัวข้อเพื่อง่ายต่อการทำความเข้าใจ
เชื้อโรค(แบคทีเรีย เชื้อรา)
ลักษณะสิวที่เกิดจากแบคทีเรียหรือเชื้อราหน้าตาเป็นอย่างไรต้องแยกให้ออกก่อน แพทย์ผิวหนังเองบางทีก็ต้องนำเชื้อบนผิวไปส่องกล้องเพื่อตรวจเชื้อเพื่อรักษาและจ่ายยาทาหรือยากินที่ตรงกับเชื้อหากลักษณะสิวแยกยากว่าเกิดจากเชื้ออะไร
โดยปกติแล้วยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียก็จะฆ่าแต่แบคทีเรีย แกรมบวกหรือลบก็แล้วแต่ชนิดของยา ยาฆ่าเชื้อราก็เหมือนกัน ซึ่งบางทีเราอาจจะเป็นทั้งคู่ถ้าไม่ค่อยรักษาความสะอาด แต่ก็มีสารบางตัวที่ฆ่าได้ทั้งแบคทีเรียและเชื้อราซึ่งอาจจะไม่เหมาะกับผิวหน้าเท่าไหร่นัก
ขึ้นชื่อว่ายาใช้มากเกินไป ใช้ไม่ถูกวิธีก็จะเกิดผลเสียในระยะยาว และถึงใช้ถูกวิธีก็ยังมีผลข้างเคียงที่ต้องระวัง จะกินยาหรือทายาก็ควรรู้ว่ายาตัวนั้นช่วยอะไร หรือคาดหวังอะไรก็ไปหาครีมที่มีสารที่ช่วยเรื่องนั้น เช่น เป็นสิวอักเสบจากเชื้อ P.acne ก็ทายาที่มี Benzoyl Peroxide ความเข้มข้น 2.5% ก็เพียงพอ ทิ้งไว้แค่5นาทีและรีบอาบน้ำล้างหน้า ผลข้างเคียงทำให้หน้าระคายเคือง ไวต่อแสงแดด สิวผดเกิดจากเชื้อราก็ใช้ยาทาที่ฆ่าเชื้อราหรือยากินสำหรับฆ่าเชื้อยา

เกือบลืมหัวข้อกระทู้ ธรรมชาติของหน้าร้อนแล้วเหมาะแก่การเจริญเติบโตของเชื้อโรค ด้วยอุณหภูมิและความชื้น ยกตัวอย่างให้เห็นภาพก็คือหน้าร้อนอาหารจะบูดง่ายเพราะเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราเติบโตได้ง่าย แมลงวันมาตอมก็เอาเชื้อโรคมาใส่ การวางอาหารในที่ที่ไม่สะอาดก็จะทำให้บูดไวขึ้น
จากตัวอย่างก็คิดต่อเองได้เลยว่าเชื้อต่างๆรอบตัวเราก็ต้องมากตามไปด้วยหากดูแลได้ไม่เหมาะสมและสุดท้ายก็แพร่มาสู่ผิวหน้าและเกิดสิว ขอยกตัวอย่างเพิ่มเติมเพื่อให้เห็นภาพมากขึ้นว่าเชื้อโรคต่างมาอยู่บนผิวได้อย่างไร
คำถาม ให้คะแนนตามจำนวนเชื้อโรคของสิ่งเหล่านี้ คะแนนตั้งแต่ 1-10 โดย 1 คือน้อยสุด 10 คือมากสุด 1.ผ้าเช็ดตัวที่ใช้แล้ว1วัน 2.ผ้าเช็ดตัวที่ใช้แล้ว7วัน 3.ผ้าเช็ดตัวที่ใช้แล้ว15วัน 4.ผ้าเช็ดตัวที่ใช้แล้ว30วัน 5.ผ้าที่นอนใหม่แล้วไปนอนโดยที่ไม่อาบน้ำได้คะแนนเท่าไหร่ 6.ผ้าที่นอนใหม่แล้วไปนอนโดยที่อาบน้ำได้คะแนนเท่าไหร่ ขอบคุณคำตอบจาก เจมินาย ซึ่งมีชื่อเดิมว่า บาร์ด เป็นกลุ่มโมเดลภาษาขนาดใหญ่ ที่พัฒนาโดย Google AI
คะแนนความสกปรก (1 น้อยสุด 10 มากสุด)
1. ผ้าเช็ดตัวที่ใช้แล้ว 1 วัน: 4/10
แม้จะดูสะอาด แต่มีแบคทีเรียสะสมอยู่บ้าง ควรซักทุก 2-3 วัน
2. ผ้าเช็ดตัวที่ใช้แล้ว 7 วัน: 6/10
แบคทีเรียสะสมเยอะขึ้น มีกลิ่นอับ ควรซักโดยไม่ต้องรอ
3. ผ้าเช็ดตัวที่ใช้แล้ว 15 วัน: 8/10
เต็มไปด้วยแบคทีเรีย เชื้อรา และสิ่งสกปรก มีกลิ่นเหม็นอับ ไม่ควรใช้ต่อ
4. ผ้าเช็ดตัวที่ใช้แล้ว 30 วัน ที่ตากแดดทุกครั้งหลังใช้: 7/10
แสงแดดช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้บ้าง แต่ยังมีแบคทีเรียและสิ่งสกปรกสะสมอยู่ ควรซักโดยไม่ต้องรอ
5. ผ้าปูที่นอนใหม่แล้วไปนอนโดยที่ไม่อาบน้ำ: 6/10
ผิวหนังที่ตายแล้ว เหงื่อ และน้ำมันจากร่างกายจะเปื้อนที่นอน เป็นแหล่งสะสมของไรฝุ่น ควรอาบน้ำก่อนนอนเสมอ
6. ผ้าปูที่นอนใหม่แล้วไปนอนโดยที่อาบน้ำ: 3/10
สะอาดกว่าการไม่อาบน้ำ แต่ยังมีเหงื่อและน้ำมันจากร่างกาย ควรซักผ้าปูที่นอนเป็นประจำ
หมายเหตุ:คะแนนเหล่านี้เป็นเพียงการประมาณคร่าวๆ ปริมาณเชื้อโรคที่แท้จริงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ 

เสริมอีกนิด สิ่งของสาธารณะถ้าดูแลไม่ดีก็คงสกปรกกว่าตัวอย่างข้างบน ของใช้ส่วนตัวเช่นแปรงแต่งหน้า โทรศัพท์ แว่นตา คอมพิวเตอร์ เชื้อโรคที่หน้าส่วนใหญ่มาจากการเอามือมาจับหน้า แต่ก่อนหน้าไปจับมาอะไรมานี่สิ ล้างมือบ่อยๆก็ช่วยได้ ถ้าอยากจับใช้หลังมือแทนจะดีกว่าหน่อยให้หายอยาก

น้ำมัน
ร่างกายผลิตน้ำมันเพื่อประโยชน์หลายอย่าง แต่การผลิตมากหรือน้อยเกินไปก็ไม่ดี เช่นเป็นสิว หริอผิวแห้ง มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการผลิตน้ำมันบนผิวเช่น พันธุกรรม ฮอร์โมน ยาบางชนิด อาหาร สภาพอากาศ
ทำความสะอาดผิวหน้าและผิวหายเช้าเย็นโดยใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยนต่อผิว ไม่งั้นคราบเหงื่อและขี้ไคลจะเป็นอาหารของเชื้อโรคบนผิวทำให้สิวอักเสบได้ การทานยาที่ลดการผลิตน้ำมันมีผลข้างเคียงเยอะและไม่ใช่แก้ที่ต้นเหตุ เป็นยาควบคุมโดยแพทย์ผิวหนัง

ภูมิคุ้มกันร่างกาย
ร่างกายของเราฉลาด มีเม็ดเลือดขาวคอยกำจัดสิ่งแปลกปลอมเช่นเชื้อโรคหรือสิ่งที่เราแพ้ เช่นไรฝุ่น เกสรดอกไม้ การคอยดูแลเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงสิวก็จะหายไวขึ้นและเป็นสิวยากขึ้น ภูมิคุ้มกันร่างกายมีจำกัด ให้นึกว่ามีอยู่ก้อนนึง ถ้าเราเป็นโดนสารก่อภูมิแพ้ก็แบ่งไปแล้วส่วนหนึ่ง เชื้อสิวก็อีกส่วนหนึ่ง บางคนร่างกายไม่แข็งแรงก็จะมีภูมิคุ้มกันน้อย นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ทาครีมบำรุง
ถ้าพูดถึงผิวก็คงมองข้ามเกราะป้องกันผิวไม่ได้ สำคัญไม่แพ้กัน ถ้าเกราะป้องกันผิวแข็งแรงเชื้อโรค สิ่งแปลกปลอม สารอนุมูลอิสระก็จะมาทำร้ายผิวเราได้ยากขึ้น สิ่งที่ทำร้ายเกราะป้องกันผิวมากที่สุดก็คือการล้างหน้า ย้ำนะครับเลือกโฟมล้างหน้าดีดี การใช้ยารักษาสิว แสงแดด ฝุ่นpm2.5(ค่าฝุ่นตอนนี้สยองจริง) ที่ลงไปในชั้นผิวกระตุ้นการอักเสบ แนะนำใส่หน้ากากก็ดีนะ ทำได้แค่ลดผลข้างเคียง ลดการอยู่ข้างนอก
การดูแลเกราะป้องกันผิวทำได้โดย ล้างด้วยโฟมที่pHเหมาะกับผิว ไม่แห้งเกินไปแต่ก็ทำความสะอาดได้ดี ทาครีมบำรุงไม่ต้องมาก1-2ตัว โดยการเลือกครีมควรจะรู้ด้วยว่าครีมช่วยอะไรดูจากส่วนผสม ไม่จำเป็นต้องทาหลายตัว ทาครีมกันแดดให้เพื่อป้องกันแสงแดดและลดอนุมูลอิสระที่มาจากฝุ่นpm2.5

จะยกตัวอย่างroutineส่วนตัวที่เป็นคนผิวมันแต่ขาดน้ำ สามารถลองใช้ตามได้หรือจะเลือกเองก็ได้ให้เหมาะกับสภาพผิว จะเลือกมาแค่ที่ใช้ปัจจุบัน ที่เคยใช้ในอดีตแล้วไม่ชอบก็มีแต่ตัวครีมอาจจะดีแต่เพราะดูแลปัจจัยที่กล่าวมาด้านบนได้ไม่ดีทำให้ไม่เห็นผล การเลือกซื้อครีมออนไลน์ต้องดูร้านที่น่าเชื่อถือจริงๆ ปลอมเยอะมาก นี่จะไม่ดูเลยว่า5ดาวเยอะแค่ไหน ถ้ารีวิว1ดาวแล้วบอกปลอมจะเปลี่ยนร้านเลย หาราคากลางแล้วไปดูในแอพ ถ้าถูกกว่า20-30%แล้วแท้ก็ดีแล้ว 50%ขึ้นไปมีเยอะเหมือนมาทำให้เสียเวลาดู

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ยกตัวอย่างสิ่งที่ทำในชีวิตประจำวัน
แต่งตัวเสร็จก็จะล้างแว่น ใช้กระดาษเปียกที่มีสารฆ่าเชื้อเช็ดโทรศัพท์ เคสเกือบทุกวัน แล้วก็เช็ดโซฟาด้วย ใช้โซฟาหนังแท้เพราะเคยใช้โซฟาผ้าแล้วอมฝุ่น ทำความสะอาดยาก สะสมเชื้อโรคมาก หน้าติดเชื้อไปหลายรอบต้องหาหมอกินยา ซกมกเองด้วย เลยเปลี่ยนโซฟาหนังทำความสะอาดง่ายก็จริงแต่ดูดซับความร้อนดีมาก ชื้นอีก เชื้อโรคก็โตง่ายถ้าไม่สะอาดแล้วมานอน อยู่บ้านเป็นคนชอบใส่กางเกงในด้วย เข้าห้องน้ำก็มาเลอะโซฟา เหงื่อครีมที่ทาก็เพาะเชื้อไป เลยต้องเปิดแอร์บ่อยมาก ปกติคนที่บ้านต้องบอกให้เปิด บางปีแทบไม่เคยเปิดแอร์เลยแต่ไม่ไหวกับประเทศไทยละ

ปัจจัยเสริมที่ทำให้สิวแย่ลง *ไม่ใช่ปัจจัยหลักแต่ทำให้สิวแย่ลงได้
1.อาหาร เช่นนมวัว งานวิจัยรองรับเยอะมากว่าควรเลี่ยงถ้าเป็นสิว อาหารหวาน ทำให้ร่างกายอักเสบและเป็นอาหารเชื้อโรค ขนมถุงทอด อยากกินซื้อมาทอดเองจะดีกว่า แต่ถ้าดูแลตัวเองดีก็มีผลแต่ไม่มาก แต่ถ้ารักษาสิวแรกๆเลี่ยงไปก่อน ดีขึ้นแล้วลองกินแล้วสังเกตตัวเอง
2.อาหารเสริม ทำให้สิวขึ้นได้เช่นกัน เช่น ไบโอตินเพียวๆ เยอะเกิน งานวิจัยรองรับว่าทำให้สิวเห่อ สังเกตตัวเองว่ากินอะไรเข้าไปแล้วมีผลยังไง
3.ไม่กล้าไปหาหมอผิวหนัง หรือหาแล้วมีประสบการณ์ที่ไม่ดี คำเตือนหาหมอคลินิกเวชกรรมทั่วไปแล้วหมอจ่ายครีมฝาเล็กๆมา นี่ไม่กล้าใช้ ไม่รู้ใส่อะไรมา การรักษาครั้งแรกอาจจำเป็นต้องกินยาหรือคำแนะนำเฉพาะบุคคล ถ้าลองปรับตามคำแนะนำแล้วแย่ลงก็ควรไปพบแพทย์ผิวหนัง
4.มีอีกเยอะแต่ลองหาเพิ่มอ่านนะ ถามAIก็ได้แต่ตรวจเช็คความถูกต้องด้วย ไม่อยากไปต่อในความคิดเห็นเพราะยาวเกิน

ปัจจัยเสริมที่ช่วยให้สิวดีขึ้น
กินอาหารที่ดี หิวก็กินข้าวจะได้กินขนมน้อยๆ เลี่ยงนม คาเฟอีน แอล หวาน รสจัด พวกภูมิแพ้อาหารแฝงไม่ได้มีผลอะไรเลย ลองอ่านกระทู้ที่เคยเขียนได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ให้ใส่ใจการขับถ่ายมากๆแทน* กินไฟเบอร์มะขามช่วย ลองอ่านประโยชน์ของน้ำผึ้ง น้ำมะเขือเทศ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่